ตอนที่ 77 เขาทำให้ความพยายามของเธอไร้ประโยชน์!
หลินเยียนพยายามอย่างเต็มที่แม้ว่าเธอจะเป็นหญิงสาวที่ไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับความรัก แต่ถึงกระนั้น เซี่ยเจิงกลับไม่ให้ความร่วมมือกับเธอเลย!
เดชะบุญที่หลินเยียนเล่นใหญ่อย่างไม่ย่อท้อจนสามารถพาเซี่ยเจิงเข้าบ้านมาได้ในที่สุด
ภายในบ้านดูสะอาดและเป็นระเบียบเรียบร้อยดีแม้ว่าจะแน่นขนัดไปด้วยข้าวของของเฮ่อมู่อวิ๋น
เซี่ยเจิงนั่งลงบนเก้าอี้ไม้พลางจ้องมองภาพวาดที่ประดับประดาบนผนังบ้าน เขาทำท่าทางราวกับกำลังรำลึกถึงอดีต
ชายวัยกลางคนจ้องมองเฮ่อมู่อวิ๋นอยู่นานจนกระทั่งเธอหายเข้าไปในห้องเพื่อหยิบยานวด เขาจึงละสายตาอย่างไม่เต็มใจนัก
หลินเยียนนั่งลงบนเก้าอี้ข้างๆ เซี่ยเจิง เธอดื่มชาในถ้วยอึกใหญ่ก่อนกัดฟันด้วยความโกรธ “คุณน้าเซี่ย หนูพยายามช่วยสร้างเรื่องแล้วนะ ทำไมไม่ให้ความร่วมมือกันเลย”
เซี่ยเจิงตอบอย่างเสียไม่ได้ “เสี่ยวเยียน น้าหายดีแล้ว ถ้าแม่เราดูขาแล้วรู้ว่าน้าโกหกก็จะยิ่งเกลียดขี้หน้าน้ามากกว่าเดิมอีก อีกอย่าง น้าไม่อยากโกหกเขา น้าควรพูดความจริง…”
หลินเยียนกลอกตาไปมา “ก็ได้ งั้นหนูจะช่วยน้าไปจนถึงที่สุดเอง…”
หญิงสาวกระทุ้งขาของเซี่ยเจิงอย่างแรงโดยไม่รอให้เขาพูดจนจบประโยค
“โอ๊ย!” ชายวัยกลางคนร้องเสียงหลงด้วยความเจ็บปวด
หลินเยียนเอ่ย “ทีนี้ คุณน้าก็เจ็บขาแล้ว”
เฮ่อมู่อวิ๋นเร่งรุดลงบันไดมาอย่างรวดเร็ว “เกิดอะไรขึ้น?”
หลินเยียนแสร้งตีหน้าตาย “คุณน้าเซี่ยเขาเจ็บขาค่ะ”
หลังจากที่หลินเยียนต้องรับมือกับเผยอวี้เฉิงมาหลายครั้งหลายหน ทักษะการแสดงของเธอในตอนนี้เรียกได้ว่าไร้เทียมทาน
เซี่ยเจิงพูดไม่ออก…
เฮ่อมู่อวิ๋นรีบเดินมาข้างๆ เซี่ยเจิงก่อนสังเกตเห็นรอยช้ำบนข้อเท้าของเขาในทันที
“หมอเจ้าของยาตัวนี้เก่งมาก และยาของเขาก็ใช้ได้ผลดีมากด้วย ลองดูสิ” เฮ่อมู่อวิ๋นยื่นขวดยาให้เขา
เซี่ยเจิงมีความสุขมาก เขาประคองขวดยาราวกับกำลังสัมผัสอัญมณีล้ำค่า “ขอบคุณ…”
หลินเยียนลอบถอนหายใจอย่างโล่งอกก่อนเหลือบมองโทรศัพท์มือถือ เธอรีบพูดอย่างรวดเร็วว่า “แม่ พรุ่งนี้หนูต้องตื่นแต่เช้า หนูไปก่อนนะ ถ้าทายาเสร็จแล้วอย่าลืมไปส่งคุณน้าที่ชั้นล่างด้วยล่ะ!”
พอพูดจบ หลินเยียนก็รีบผละออกจากบ้านในพริบตาเพื่อไม่ให้แม่ของเธอมีโอกาสขัด
เธอหวังว่าเซี่ยเจิงจะใช้โอกาสนี้เป็นช่วงเวลาดีๆ ในการพูดคุยกับแม่ และความรู้สึกระหว่างทั้งคู่ก็น่าจะพัฒนาขึ้นมาบ้าง
หลินเยียนมองขึ้นไปด้านบนพลางยืดอกอย่างภาคภูมิใจในตัวเอง
หญิงสาวกำลังจะเดินออกจากบ้าน แต่ในทันใดนั้นเองก็มีแสงสว่างสาดส่องมาจากด้านหลังของเธอ
หลินเยียนหันหลังกลับไปมองตามสัญชาตญาณ…แสงไฟจากรถของเซี่ยเจิงนั่นเอง
เกิดอะไรขึ้น?
เขาเพิ่งได้เข้าบ้านไปเมื่อครู่นี้ ทำไมถึงรีบออกมา?
เซี่ยเจิงลดกระจกรถลงแล้วเรียกหลินเยียน “เสี่ยวเยียน! เดี๋ยวน้าไปส่งที่บ้านนะ”
หลินเยียนรีบถามกลับ “คุณน้าเซี่ย ทำไมรีบออกมาล่ะ โดนแม่ไล่มาเหรอ…”
เซี่ยเจิงทำหน้ากระอักกระอ่วน “เปล่า แต่น้ากลัวแม่เขาจะอึดอัดถ้าอยู่กับน้าสองต่อสอง”
หลินเยียนอึ้ง…
เธออึ้งจนพูดอะไรไม่ออกจริงๆ…เธอจึงเปิดประตูแล้วขึ้นไปนั่งบนรถ
เซี่ยเจิงพูดขึ้นมาเพื่อทำลายความเงียบหลังจากที่เวลาผ่านไปพักหนึ่ง “เสี่ยวเยียน ขอบใจนะ…”
หลินเยียนยังคงอารมณ์บูดอยู่ “ขอบคุณหนูเรื่องอะไรคะ”
เซี่ยเจิงตอบ “ขอบคุณที่…”
“ที่ฟาดขาคุณน้าน่ะเหรอ” หลินเยียนเดา
คำตอบของหลินเยียนทำเอาเซี่ยเจิงสำลัก…
หญิงสาวหงุดหงิดเพราะเธอทุ่มเทเต็มที่จนเกือบหมดแรง แต่เซี่ยเจิงกลับทำให้ความพยายามของเธอไร้ประโยชน์ซะนี่!
ตอนที่ 78 ขอให้มีความสุขในชีวิตคู่
“คุณน้าเซี่ยไม่ต้องขอบใจหนูหรอกค่ะ ที่หนูอยากช่วยก็เพราะหนูเห็นแล้วว่าคุณน้าทำเพื่อแม่มากแค่ไหนตลอดหลายปีที่ผ่านมา หนูรู้ว่าคุณน้ารักแม่มากจริงๆ…”
เซี่ยเจิงรีบพูดเสริม “ใช่ น้ารักเขา ให้น้าสาบานเลยก็ได้ น้าจริงจังนะ!”
หลินเยียนถอนหายใจแรงๆ “แต่คุณน้าก็รู้จักแม่ดีนี่คะ ถ้าไม่มีใครตั้งใจยื่นมือเข้าช่วยเหลือแม่จริงๆ แม่ก็คงลืมอดีตไม่ได้แน่ๆ ค่ะ”
หลินเยียนพยายามใช้ชั้นเชิง “คุณน้าน่ะพยายามช่วยแม่แต่ไม่เคยบอกให้เขารู้ ถ้าขืนยังเป็นยังงี้ต่อไปก็คงไม่มีอะไรคืบหน้าหรอกค่ะ”
เซี่ยเจิงมองหญิงสาวอย่างหมดหวัง “เสี่ยวเยียน น้าขอบอกตรงๆ เลยนะว่าพอเห็นแม่เราแล้วน้าก็รู้สึกตื่นเต้นแล้วก็ลืมตัวไปหมดทุกที น้าไม่รู้จะคุยกับเขายังไง”
“คุณน้าถึงต้องร่วมมือกับหนูคราวหน้าเหมือนอย่างวันนี้ไงคะ หนูพยายามหาช่องให้คุณน้าได้อยู่กับแม่สองต่อสองแล้วแท้ๆ คุณน้าน่าจะถือโอกาสนี้คุยกับแม่นะคะ”
เซี่ยเจิงทำท่าทางจริงจังขึ้นมา “เสี่ยวเยียน น้าเข้าใจแล้ว น้าจะฟังคำแนะนำของเธอ”
หลินเยียนไม่ได้ตอบอะไร
ในหัวของเธอยังคงเต็มไปด้วยข้อกังขาหลังจากเห็นการตอบสนองของเซี่ยเจิงในคืนนี้
แต่สิ่งที่เธอพอจะทำได้ ก็คือภาวนาให้ทุกอย่างจบลงด้วยดีที่สุด…
…
ในไม่ช้า เซี่ยเจิงก็มาส่งหลินเยียนถึงที่อพาร์ตเมนต์ หญิงสาวจึงขึ้นไปที่ห้องของตัวเอง
โชคดีจริงๆ ที่เธอย้ายบ้านมาได้ถูกเวลาพอดี บรรดาแฟนคลับของบรรดานักแสดงหนุ่มยังไม่สะกดรอยตามหลินเยียนเพราะไม่มีใครรู้ที่อยู่ของเธอ อันที่จริงมันออกจะสงบสุขเกินไปด้วยซ้ำ
แม้ว่าพวกแฟนๆ จะตามราวีหลินเยียนทางออนไลน์ราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ แต่ในชีวิตจริงแล้วแทบไม่มีใครจำเธอได้ เป็นเพราะหลินเยียนลาจอมาเป็นเวลานานแล้ว แถมยังแต่งเนื้อแต่งตัวไม่เหมือนดาราอีกต่างหาก
เสียงแจ้งเตือนจากวีแชทดังขึ้นขณะที่หลินเยียนเพิ่งเปิดประตูเข้าบ้าน
หญิงสาวถอนหายใจพลางนึกสงสัยว่าเป็นใคร
เธอปลดล็อกหน้าจอและพบว่าตัวเองคิดถูก เผยอวี่ถังนั่นเอง
‘รถคันนี้ไม่ใช่รถรับส่งเด็กอนุบาล’ : [พี่เยียน! หูย ทั้งรูปทั้งชื่อเลยนะ! โอ๊ย! ตาผมบอดแล้วเนี่ย!]
‘รถคันนี้ไม่ใช่รถรับส่งเด็กอนุบาล’ : [พี่เยียน! ทำไมเปลี่ยนจากรูปพี่รองเป็นพี่ใหญ่แล้วอะ! เกิดอะไรขึ้น? นี่พี่เปลี่ยนเป้าจากสะใภ้รองเป็นสะใภ้ใหญ่แล้วเหรอ?]
‘รถคันนี้ไม่ใช่รถรับส่งเด็กอนุบาล’ : [พี่เยียน! เรื่องด่วน! ผมจะโทรหาพี่นะ!]
‘รถคันนี้ไม่ใช่รถรับส่งเด็กอนุบาล’ : [พี่เยียน! ตอบหน่อย!]
‘รถคันนี้ไม่ใช่รถรับส่งเด็กอนุบาล’ : [พี่เยียน! ไม่สิ พี่สะใภ้ใหญ่! พี่กำลังคบกับพี่ชายผม!]
‘รถคันนี้ไม่ใช่รถรับส่งเด็กอนุบาล’ : [พี่สะใภ้ใหญ่ ผมขอควรพรให้พี่และพี่ใหญ่ครองรักยั่งยืน จนถือไม้เท้ายอดทอง กระบองยอดเพชร มีลูกเต็มบ้านหลานเต็มเมือง! ผมเชื่อว่าพี่ใหญ่และพี่สะใภ้เหมาะสมกันอย่างกับกิ่งทองใบหยก เป็นคู่สวรรค์สรรสร้าง เป็นเนื้อคู่กันโดยแท้! ผมจะไม่ขัดขวางความรักของพี่กับพี่ใหญ่อีกต่อไปแล้วครับ! นับตั้งแต่วันนี้ พี่เยียนคือพี่สะใภ้ของผม!]
หลินเยียนลืมเรื่องระเบิดเวลาที่เชื่อเผยอวี้เฉิงไปเสียสนิท เธอรู้สึกเศร้าโศกขึ้นมาทันใดเมื่อได้เผยอวี่ถังเตือนสติ และหลังจากที่อ่านข้อความจำนวนมหาศาลจากเด็กหนุ่มแล้ว เธอก็ตอบกลับสั้นๆ ว่า “ไสหัวไป๊!”
หญิงสาวกำลังจะพิมพ์ข้อความต่อ…แต่ทันทีที่นิ้วมือของเธอสัมผัสกับแป้นพิมพ์บนหน้าจอ โทรศัพท์ของเธอก็สั่นระรัว
‘รถคันนี้ไม่ใช่รถรับส่งเด็กอนุบาล’ : [ซองอั่งเปานี้เพื่อพี่ใหญ่กับพี่สะใภ้ใหญ่ ขอให้พี่มีความสุขด้วยกันไปจนแก่เฒ่า!]
‘รถคันนี้ไม่ใช่รถรับส่งเด็กอนุบาล’ : [ซองอั่งเปานี้เพื่อพี่ใหญ่กับพี่สะใภ้ใหญ่ ขอให้ทั้งคู่อายุมั่นขวัญยืนและมีความสุข!]
‘รถคันนี้ไม่ใช่รถรับส่งเด็กอนุบาล’ : [ซองอั่งเปานี้เพื่อพี่ใหญ่กับพี่สะใภ้ใหญ่ ขอให้ทั้งคู่มีลูกเต็มบ้านหลานเต็มเมือง!]
หลินเยียนกะพริบตาถี่ๆ…
‘นครในสายหมอกยามอาทิตย์อัสดง’ : [ขอบใจนะ น้องเล็กที่รักของพี่]