ตอนที่ 125 ประสานงา
หลินเยียนสะดุ้งเฮือกใหญ่เมื่อเห็นเผยอวี่ถังปรากฏตัวอย่างกะทันหัน “อ้าว…คุณชายสาม…ทำไมมาอยู่นี่ล่ะ?”
“ก็วันนี้วันหยุด ผมเลยไม่มีเรียน! ผมมาทำหน้าที่เป็นสารถีให้พี่ๆ แบบไม่คิดค่าตัว!” เผยอวี่ถังยิ้มปากฉีกถึงหู เผยให้เห็นฟันหน้าที่น่าเอ็นดู
ดูเหมือนว่าเขาจะพยายามกลับเนื้อกลับตัวและต่อสู้เพื่อโอกาสที่จะแสดงให้พี่ๆ เห็นด้านดีของเขา นับตั้งแต่ครั้งล่าสุดที่ทำผิดพลาดไป
“อวี่ถัง อย่ามัวอ้อยอิ่งอยู่เลย ออกจากที่นี่ก่อนเถอะ” เผยหนานซวี่เตือนเขา
“คร้าบ!” เผยอวี่ถังสตาร์ตรถแล้วขับออกไปในทันที
หลินเยียนนั่งเข่าชิดอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยราวกับนักเรียนหญิง
และในไม่ช้า เผยอวี่ถังก็พาพวกเขาออกมาจากลานจอดรถ
ทันทีที่รถเคลื่อนตัวมาสู่ภายนอกอาคาร ภาพที่น่าตื่นตาของกองทัพแฟนคลับจำนวนมหาศาลก็ปรากฏขึ้นเบื้องหน้าของทุกคน
แฟนๆ บางคนกำลังถือโปสเตอร์ขนาดมหึมา ในขณะที่บางคนถือป้ายข้อความเชียร์
หลินเยียนได้ดูข่าวมาก่อนหน้านี้จึงรู้ว่าเรื่องราวระหว่างเธอและหลินซูหย่าได้แพร่ออกไปแล้ว ตอนนี้ คำวิพากษ์วิจารณ์ต่างหลั่งไหลมาจากทุกทิศทางในจำนวนที่มากกว่าเดิมอย่างน้อยก็สิบเท่าได้
ส่วนใหญ่ของฝูงชนที่อยู่ด้านนอกกองถ่ายคือแฟนคลับของหลินซูหย่าที่ตั้งตนเป็นผู้พิทักษ์ความชอบธรรมให้แก่เธอ ที่เหลือเป็นแฟนคลับของหันอี้เซวียน และกลุ่มแฟนคลับของดาราชายคนอื่นๆ อีกจำนวนหนึ่ง มองดูแล้วเป็นภาพที่น่าทึ่งอยู่ไม่น้อย
ในตอนนั้นเอง หลินเยียนสังเกตเห็นป้ายขนาดใหญ่ที่เขียนว่า ‘หลินเยียน ออกจากวงการบันเทิงไปซะ!’ ข้างๆ ข้อความมีรูปภาพกังหันลมที่เป็นสัญลักษณ์ของกลุ่มแฟนคลับของเว่ยสวีเฟิง
ใกล้ๆ กันนั้นมีอีกป้ายหนึ่งที่มีข้อความ ‘หลินเยียนยัยหมาโง่ ห้ามเข้าใกล้พี่ถังจยาเยี่ยของเรา!’ ซึ่งมาพร้อมกับรูปลูกอมรสมะพร้าว สัญลักษณ์ของถังจยาเยี่ย
ส่วนแฟนๆ ของหันอี้เซวียนถือป้ายที่เขียนว่า ‘หลินเยียน นังหน้าด้าน ขอให้โดนฟ้าผ่าตาย’
เผยอวี่ถังที่กำลังขับรถเอ่ยปากชมป้ายเหล่านี้ด้วยอาการตื่นเต้น “สุดยอดเลยฮะ พี่สะใภ้ใหญ่ แฟนคลับของพวกแฟนหนุ่มทั้งหลายแหล่ของพี่นี่มาเป็นกองทัพเลยนะครับ น่าจะเยอะจนล้นสนามฟุตบอลได้เลย”
หลินเยียนตีหน้ายักษ์เมื่อได้ยินเช่นนั้น
เธอกำลังนั่งอยู่ข้างๆ แฟนหนุ่มที่เป็นพี่ใหญ่ของเขาแท้ๆ แต่เจ้าเด็กบ้องตื้นนี่กลับโพล่งเรื่องพวกแฟนหนุ่มในข่าวอื้อฉาวขึ้นมาซะได้
เขาอยากให้เธอตายเหมือนกันหรือไงเนี่ย
เผยอวี่ถังเพิ่งนึกออกว่าพูดเรื่องที่ไม่เหมาะสมออกไป เขาจึงเปิดวิทยุพลางกระแอมไอเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศมาคุให้ดีขึ้น “อะแฮ่ม มาฟังเพลงกันดีกว่าเนอะ…เดี๋ยวผมเปิดวิทยุก่อน…”
เพลงในวิทยุเพิ่งเล่นจบพอดี และดีเจก็กำลังเริ่มอ่านข่าว
เธอเอ่ยว่า “วันนี้เราจะมาคุยกันเรื่องดาราสาวผู้ขึ้นชื่อเรื่องมีข่าวอื้อฉาวกับหนุ่มๆ ในวงการมากที่สุด…”
หลินเยียนเงียบกริบ
เธอมีลางสังหรณ์แปลกพิกล
ดีเจสาวพูดต่อว่า “รู้กันแล้วใช่ไหมคะว่าคือใคร! ดาราสาวที่เพิ่งมีข่าวใหญ่โตล่าสุดว่าเป็นพี่สาวของหลินซูหย่า หลินเยียนนั่นเองค่ะ! จากข่าวเนี่ยบอกว่าเธอมีแฟนหนุ่มเยอะแยะมากมาย ทั้งหันอี้เซวียน เฉินเจามู่ ถังจยาเยี่ย เว่ยสวีเฟิง…”
เผยอวี่ถัง เผยอวี้เฉิง และหลินเยียนพูดอะไรไม่ออก…
หลินเยียนรู้สึกเหมือนบทแฟนสาวของเธอถูกระเบิดตูมทุกครั้งที่ดีเจสาวอ่านชื่อแฟนหนุ่มในข่าวของเธอ อีกนิดเดียวเธอก็จะเหลือแค่เศษขี้เถ้าแล้ว
เจอแบบนี้ขอโดนรถชนซะยังดีกว่า!
หลินเยียนตัวแข็งทื่อ เธอแอบมองว่าเผยอวี้เฉิงจะมีปฏิกิริยาอย่างไร
เขายังคงนั่งท่าเดิมแต่หันศีรษะออกไปทางหน้าต่างขณะมองดูกลุ่มแฟนคลับที่ด้านนอกอย่างเงียบๆ ไม่มีใครสามารถคาดเดาอารมณ์จากแววตาของเขาได้
แต่ยิ่งเผยอวี้เฉิงดูสงบและเพิกเฉยมากเท่าไร หลินเยียนก็ยิ่งกลัวมากเท่านั้น
เผยอวี่ถังเองก็ถูกลุกลี้ลุกลน เขาไม่รู้มาก่อนว่าข่าวของพี่สะใภ้ใหญ่จะถูกประกาศออกมาอย่างพอเหมาะพอดีกับตอนที่เขาเปิดวิทยุเช่นนี้
เด็กหนุ่มคลำหาปุ่มเพื่อเปลี่ยนสถานี
พวกเขาได้ยินเสียงประกาศข่าวดังจากอีกสถานีหนึ่ง
“เมื่อเร็วๆ นี้ หลินเยียนเพิ่งตกเป็นข่าวฉาวครั้งใหม่กับดาราชายเจ้าของรางวัลนักแสดงยอดเยี่ยมอย่างเผยหนานซวี่…”
เผยหนานซวี่เงียบกริบ…
ส่วนหลินเยียนเองก็อึ้งจนพูดอะไรไม่ออก
เจ้าเด็กนี่พยายามจะฆ่ากันหรือยังไง
ตอนที่ 126 คุณหลินก็ชมกันเกินไป
สถานีดันมาประโคมข่าวฉาวของพี่รองกับพี่สะใภ้ใหญ่ตอนนี้ซะงั้น!
เผยอวี่ถังรู้สึกขนลุกขนพองขึ้นมาเมื่อทั้งหลินเยียนและเผยหนานซวี่ต่างก็จ้องมองเขาด้วยสายตาอาฆาตโดยพร้อมเพรียงกัน
เผยอวี่ถังที่ตัวแข็งทื่อไปแล้วสบตากับทั้งคู่เข้าพอดีจึงรีบปิดวิทยุทันที
เมื่อไร้เสียงวิทยุแล้ว ความเงียบที่น่าอึดอัดก็เข้าครอบคลุมทั้งคันรถ
พี่ใหญ่ของเขาสามารถดึงแฟนคลับของดาราคนอื่นมาเป็นของตัวเองได้แท้ๆ แต่คราวนี้เขากลับถูกนอกใจงั้นเหรอ
เผยอวี่ถังตัวสั่นหงึกหงักพลางย่นคอ เขาเงียบกริบจนแทบจะไม่ส่งเสียงหายใจด้วยซ้ำ
ทำไมเขาต้องมาอยู่ในรถคันนี้ด้วย ขออยู่ในฝากระโปรงท้ายรถแทนได้ไหม!
แต่คนที่น่าสงสารที่สุดในสถานการณ์นี้คือหลินเยียนที่กำลังคิดว่าอยากจะตายไปเสียให้พ้นๆ ในตอนนี้เลย
แต่แล้วจู่ๆ เธอก็มีสุดยอดความคิดแล่นเข้ามาในหัวทันทีทันใด
หรือว่า…นี่จะเป็นโอกาสทองในการขอเลิกกับเผยอวี้เฉิง
หลินเยียนทิ้งน้ำหนักตัวเองเพื่อพิงกับด้านข้างของรถโดยห่างจากเบาะด้านหน้าเพียงเล็กน้อย เธอเรียกเผยอวี่ถังเบาๆ “คุณชายสาม ถ้าพี่ใหญ่ของนายรู้ว่าถูกแฟนนอกใจ เขาจะทำยังไง”
เด็กหนุ่มกระซิบกระซาบกลับมา “จะรู้ได้ไงละ ผมไม่เคยเห็นใครนอกใจพี่มาก่อน ก็พี่ใหญ่นั่นแหละเป็นคนที่ทำให้พวกสาวๆ ยอมทิ้งทั้งดาราขวัญใจทั้งแฟนหนุ่มมาตกเป็นทาสรักของเขาเอง!”
หลินเยียนลองหยั่งเชิง “ลองเดาหน่อยซี่…”
เผยอวี่ถังตอบ “ให้ผมเดาเหรอ ผมว่าคงถึงขั้นโลกแตกแหงๆ”
หลินเยียนอึ้ง “เขาน่ากลัวขนาดนั้นเลยเหรอ”
เผยอวี่ถังตอบกลับ “ผมถึงบอกไงว่าพี่ยังไม่รู้จักพี่ใหญ่ดีพอ! ถ้าพี่รู้ว่าแต่ก่อนเขาเป็นยังไงนะ ผมรับประกันเลยว่าพี่ต้องอยากหนีเขาไปจนสุดขอบโลกเลยละ!”
หลินเยียนพูดไม่ออก
เมื่อได้ยินอย่างนั้นแล้ว หลินเยียนจึงล้มเลิกความคิดที่จะขอเลิกรากับเผยอวี้เฉิง
เธอจำต้องเลือกทางอื่นที่ปลอดภัยกว่านั้น เพราะนี่มันเป็นการหาเรื่องใส่ตัวชัดๆ
นอกจากนี้ เธอยังไม่แน่ใจเกี่ยวกับอาการประหลาดที่เกิดขึ้นกับร่างกายของเธอ หลินเยียนอาจสูญเสียการควบคุมตัวเองแล้วทำเรื่องเสียๆ หายๆ กับเผยอวี้เฉิงอีกเมื่อไรก็ได้ เธอจึงต้องคง ‘บทแฟนสาว’ เอาไว้
หลินเยียนพยายามกระตุ้นจิตวิญญาณของตัวเองให้รุนแรงราวลมพายุอีกครั้ง เธอเหลือบมองเผยอวี้เฉิงอย่างระแวดระวังแล้วเริ่มอธิบายอย่างรวดเร็ว “คุณเผย คุณอาจจะไม่ค่อยรู้อะไรมากเกี่ยวกับวงการบันเทิง แต่ข่าวลือพวกนี้ไม่เป็นความจริงนะคะ! ฉันแน่ใจว่าคุณก็รู้จักน้องชายของตัวเองดี ฉันคงไม่ต้องอธิบายเรื่องระหว่างเราสองคนมาก ยังไงคุณทั้งคู่ก็มีสายเลือดเดียวกัน ทั้งคุณทั้งน้องชายก็มีรสนิยมดีเหมือนกัน และยังมีน้ำใจช่วยเหลือคนอื่นที่เดือดร้อนอีกด้วย ข่าวลือของฉันกับเผยหนานซวี่ถูกพวกคนใจแคบเห็นแก่ได้เอาไปใส่สีตีไข่จนกลายเป็นเรื่องบ้าๆ บอๆ ขึ้นมา…”
“ส่วนพวกผู้ชายที่เหลือนั่น พวกนั้นก็เป็นแค่ข่าวลือมั่วๆ ซั่วๆ เหมือนกันค่ะ! อย่าไปฟังนะคะ!”
หลินเยียนนั่งตัวตรงอย่างเคร่งขรึมและแสดงท่าทีจริงใจ เสียงของเธอกังวานฉะฉาน “นอกจากนี้ ฉันไม่ใช่คนตาบอดนะคะ ทำไมฉันถึงต้องไปสนใจผู้ชายพวกนั้นด้วยในเมื่อรสนิยมของฉันน่ะดีกว่านั้นเยอะ คุณก็รู้!”
“จริงอยู่ที่หันอี้เซวียนเป็นแฟนเก่าฉัน แต่หมอนั่นมันเป็นผู้ชายเฮงซวย! ไม่มีทางที่ฉันจะกลับไปวุ่นวายกับเขาอีกครั้งหรอกค่ะ! ใครๆ เขาก็มักจะพูดกันว่าถ้าลืมแฟนเก่าไม่ได้ก็เป็นเพราะแฟนคนปัจจุบันไม่ดีพอ แต่นั่นไม่ใช่ฉันนะคะ! คนอย่างหันอี้เซวียนเทียบคุณไม่ติดหรอกค่ะ!”
เผยหนานซวี่และเผยอวี่ถังเงียบกริบ
‘พูดได้ดีนี่ ป๊ะป๋า’ เผยอวี่ถังคิดในใจ
นอกจากจะอธิบายเรื่องข่าวลือแล้ว หลินเยียนยังเยินยอพี่ใหญ่ของเขาหลายครั้งหลายหนด้วย
เผยอวี่ถังรู้สึกประทับใจพอสมควรเลยทีเดียว
“พี่สะใภ้ใหญ่ไปเรียนวิธีอ้อนคนอื่นมาจากไหนเนี่ย สอนผมมั่งสิ” เผยอวี่ถังถามด้วยน้ำเสียงจริงจัง
หลินเยียนจ้องเด็กหนุ่มตาเขียว “ไร้สาระ ฉันไม่ได้อ้อนใครทั้งนั้นแหละ ทุกคำพูดมาจากก้นบึ้งในหัวใจฉัน!”
เผยอวี่ถังตอบกลับอย่างร่าเริง “คร้าบ คร้าบ…”
พ่อพูดถูกเสมอแหละ!
เผยอวี้เฉิงไม่ได้ตอบอะไรสักคำ และท่าทีของเขาก็ยังเดาไม่ออกเหมือนเคย
หลินเยียนไม่รู้ว่าเผยอวี้เฉิงคิดอะไรอยู่ เธอจึงกลืนน้ำลายอึกใหญ่ก่อนพยายามพูดต่อ “คุณเผย ข่าวลือพวกนั้น…ฉันไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับผู้ชายพวกนั้นจริงๆ นะคะ…
ท่านประธานเผย ฉันรู้ว่าคุณงานยุ่งมากและต้องรับผิดชอบธุรกิจมากมาย คุณคงไม่ได้ใส่ใจกับเรื่องไร้สาระพวกนี้…
แต่…ฉันแค่ไม่อยากให้คุณเข้าใจผิด…ฉันเลยต้องอธิบาย…”
เผยอวี้เฉิงวางเอกสารลงข้างๆ ก่อนยกมือขึ้นเพื่อคลายเนคไทออก ท่าทีเข้มงวดและกดดันในตอนแรกของเขาดูผ่อนคลายลงในทันที
ชายหนุ่มยกมือขึ้นแนบหน้าผากแล้วชำเลืองมองหญิงสาว “คุณหลินก็ชมกันเกินไป ฉันไม่คู่ควรกับคำเยินยอพวกนั้นหรอกนะ”
หลินเยียนโพล่งออกมา “หือ?”
เธอไม่ค่อยเข้าใจที่เผยอวี้เฉิงพูดเท่าไร
เผยอวี้เฉิงจ้องมองหญิงสาวที่ดูกระวนกระวายใจก่อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงทุ้มนุ่มลึก “ฉันหึงน่ะ”
เขาจะสื่อว่า เขาไม่คู่ควรกับการสรรเสริญเยินยอจากหลินเยียน เพราะเขาเองก็กลุ้มใจกับข่าวลือพวกนี้ และยังรู้สึกหึงหลินเยียนอีกด้วย