ลืมรักเลือนใจ – ตอนที่ 113 การให้อภัยที่มาจากการบีบบังคับ / ตอนที่ 114 ข่าวใหญ่บันลือโลก

ตอนที่ 113 การให้อภัยที่มาจากการบีบบังคับ / ตอนที่ 114 ข่าวใหญ่บันลือโลก

ลืมรักเลือนใจ – ตอนที่ 113 การให้อภัยที่มาจากการบีบบังคับ / ตอนที่ 114 ข่าวใหญ่บันลือโลก
ตอนที่ 113 การให้อภัยที่มาจากการบีบบังคับ

หลินซูหย่าทักทายพวกเขาอย่างสุภาพอ่อนหวาน “โปรดิวเซอร์เฝิง ผู้กำกับเจียง ขอโทษด้วยนะคะที่จู่ๆ ก็ถือวิสาสะมา ฉันคิดว่าฉันคงไม่ได้มารบกวนกองถ่ายใช่ไหมคะ ฉันแค่มาเยี่ยมเฉยๆ น่ะค่ะ”

มาเยี่ยม?

เธอมาเยี่ยมใครกัน?

ทุกคนดูสับสนงงงวย

เฝิงอันหวาตอบกลับอย่างสงสัย “เยี่ยม? แต่หันอี้เซวียนไม่ได้มานะครับ…”

หลินซูหย่ายิ้มหวานหยดย้อยขณะจ้องมองเฝิงอันหวา เธอกวาดตามองเหล่านักข่าวแล้วอธิบายอย่างใจเย็น “เมื่อไม่นานมานี้ ฉันเพิ่งได้รับตำแหน่งระดับผู้บริหารต่อจากคุณพ่อค่ะ ฉันจะเป็นผู้ดูแลสังกัดเฮาส์ออฟมิลเลี่ยนมีเดียในอนาคตค่ะ ตอนนี้ น้องเจี่ยงซือเฟยเป็นดาราใหม่ในสังกัดที่เรากำลังจะโปรโมทอย่างเต็มที่ และบทแรกที่เรามอบให้ก็คือบทนำใน ‘พานพบคนที่ใช่’ ค่ะ ขอแรงสนับสนุนจากพี่ๆ นักข่าวทุกคนให้น้องด้วยนะคะ!”

ทุกคนเข้าใจแจ่มแจ้งในทันที

หลินซูหย่ามาหาเจี่ยงซือเฟยนั่นเอง!

แม้ว่าการหักหลังสังกัดเก่าของเจี่ยงซือเฟยจะถือเป็นการกระทำที่ค่อนข้างน่ารังเกียจ แต่เฮาส์ออฟมิลเลี่ยนมีเดียได้รับการหนุนหลังจากบริษัทใหญ่อย่างไทรอัมพ์ เอนเตอร์เทนเมนต์ และแน่นอนว่าเป็นสังกัดที่ดีกว่าสตาร์เอนเตอร์เทนเมนต์หลายร้อยเท่า จึงไม่แปลกใจเลยที่เจี่ยงซือเฟยจะเลือกอดทนต่อคำครหาและโบกมือลาต้นสังกัดเดิม

เหล่าผู้สื่อข่าวสบโอกาสถามคำถาม “คุณหลินซูหย่าคะ ก่อนหน้านี้มีเรื่องถกเถียงกันเล็กน้อยที่นี่ ผู้จัดการจากบริษัทของคุณพูดจาว่าร้ายรางวัลโกลเดนคราวน์อวอร์ดและคณะกรรมการ คุณมีความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ยังไงบ้างคะ”

หลินซูหย่าไม่เปลี่ยนท่าทีแต่อย่างใดขณะที่เธอกวาดสายตามองไปรอบๆ บรรดาผู้สื่อข่าวก่อนตอบอย่างสุภาพและฉะฉานว่า “ฉันได้ยินเรื่องที่เกิดขึ้นจากผู้ช่วยเมื่อครู่นี้แล้วค่ะ

ก่อนอื่นเลยนะคะ เป้าหมายของเฮาส์ออฟมิลเลี่ยนมีเดียคือการรวบรวมศิลปินทุกคนที่มีศักยภาพและพรสวรรค์ที่แท้จริง โดยส่วนตัวแล้ว ฉันเคารพรักศิลปินทุกท่านจากก้นบึ้งของหัวใจค่ะ

ดังนั้น เราจึงได้เชิญน้องเจี่ยงซือเฟยมาร่วมกับเราด้วยความบริสุทธิ์ใจ พร้อมสัญญาว่าเราจะช่วยเหลือน้องให้ดีที่สุดเท่าที่เราสามารถทำได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเงินทุนหรือเรื่องการสนับสนุนค่ะ”

หลินซูหย่าให้สัมภาษณ์อย่างมีชั้นเชิงโดยพูดเป็นนัยว่าสังกัดเฮาส์ออฟมิลเลี่ยนมีเดียนั้นฉกเอาดาราจากสังกัดและเอเจนซี่อื่นๆ จริง หากแต่แก้ตัวว่าทางสังกัดนั้นเน้นดาราที่มีพรสวรรค์และศักยภาพ

จากนั้น หลินซูหย่ายังเสริมต่อว่า “ต้องขออภัยด้วยนะคะที่ผู้จัดการของฉันพลั้งปากพูดจาต่างๆ นานาออกไป นอกจากจะทำให้เข้าใจผิดกันไปยกใหญ่แล้ว ยังทำให้คุณจ้าวหงหลิงรู้สึกไม่ดีอีกต่างหาก”

หลินซูหย่าพูดพลางเดินมาทางจ้าวหงหลิง “ฉันอยากจะขอโทษแทนผู้จัดการของฉันค่ะ คุณจ้าวหงหลิง ฉันหวังว่าคุณคงจะให้อภัยเธอได้”

ตัวตัวตกตะลึง หลินซูหย่าสามารถพลิกสถานการณ์ได้เพียงแค่การเอ่ยปากขอโทษเท่านั้น ผู้ช่วยสาวพูดด้วยน้ำเสียงร้อนรนว่า “เธอฉกเอาดาราเราไปจนเราต้องตกอยู่ในสภาพแบบนี้! ซ้ำร้ายยังใส่ร้ายป้ายสีแถมเหน็บแนมเราอีก แค่ขอโทษจะไปพออะไร?”

หลินเยียนมองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างเงียบๆ โดยไม่เปลี่ยนท่าที

เรื่องนี้คงไม่จบลงง่ายๆ แม้ว่าจะมีใครสักคนเอ่ยปากขอโทษแล้วก็ตาม

แต่ถึงกระนั้น ภาพลักษณ์ที่แสนสมบูรณ์แบบของหลินซูหย่าและความสัมพันธ์อันดีระหว่างเธอกับสื่อมวลชนก็สามารถเอาชนะใจนักข่าวที่นี่ได้กว่าครึ่งหนึ่งแล้วเมื่อเธอปรากฏตัวโดยยังไม่ได้ปริปากพูดอะไรเลยก็ตาม

นอกจากนี้ เธอยังเอ่ยคำขอโทษอย่างถ่อมตัวและสุภาพให้ทุกคนเห็น จ้าวหงหลิงจึงต้องรับคำขอโทษนั้นอย่างไม่มีทางเลือก

และถ้าจ้าวหงหลิงยินดีรับคำขอโทษจากเธอจริงๆ ปัญหาวุ่นวายทั้งหมดนี้จะถูกลดระดับลงไปเป็นเพียงความบาดหมางระหว่างบุคคลเท่านั้น

หลินเยียนมองหลินซูหย่าเงียบๆ ราวกับเป็นครั้งแรกที่ได้พบหน้า

อะไรเนี่ย? พอเป็นเรื่องทางโลก เธอก็จำแลงตัวเองเป็นนางฟ้าแสนบริสุทธิ์และไร้เดียงสาได้ถึงขนาดนี้เลยเหรอ?

คำพูดของหลินซูหย่าเป็นที่ยอมรับจากบรรดานักข่าว และทุกคนก็ดูอารมณ์ดีขึ้น

“หลินซูหย่ายังเด็กมาก แต่เธอก็ถ่อมตัวจริงๆ!”

“ใช่เลย! จริงๆ แล้วสังกัดเฮาส์ออฟมิลเลี่ยนมีเดียก็มีเจตนาดีนี่นา…”

ตอนที่ 114 ข่าวใหญ่บันลือโลก

จ้าวหงหลิงตอบอย่างสุภาพตามประสาคนที่มองสถานการณ์ออกอย่างทะลุปรุโปร่ง “คุณหลิน ไม่ต้องสุภาพขนาดนั้นก็ได้ค่ะ”

เจี่ยงซือเฟยกลับมามีทีท่าเย่อหยิ่งและมั่นอกมั่นใจได้ในทันทีที่หลินซูหย่าปรากฏตัว

จ้าวหงหลิงก็เป็นได้แค่ผู้จัดการของสังกัดโนเนมกระจอกๆ ถ้าไม่ได้เจี่ยงซือเฟย เธอก็คงไม่ได้เลื่อนขั้นเป็นถึงระดับผู้อำนวยการ นอกจากนี้ หลินเยียนก็เป็นแค่ดาราปลายแถวที่ทำตัวติดหนึบน่ารำคาญอย่างกับกาว

ไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่ถึงได้กล้าตั้งตัวเป็นศัตรูกับเธอ

ขอแค่หลินซูหย่าพูดแก้ตัวให้ เธอก็สามารถฝ่าฟันไปได้ทุกปัญหาแน่นอน

ด้านจูมั่นเชี่ยนเองก็ยืดตัวตรงหลังจากที่หายกังวลใจแล้ว เธอเดินตามหลินซูหย่าไปก่อนจะพึมพำคำขอโทษอย่างไม่มีความสำนึกผิดเลยแม้แต่น้อย “ผู้อำนวยการจ้าวคะ ฉันต้องขอโทษเกี่ยวกับเรื่องเมื่อครู่นี้ด้วย ฉันอธิบายไปแล้วว่าฉันแค่ปากพล่อยเท่านั้น ไม่น่าเชื่อว่าหลินเยียนจะหยิบเรื่องนั้นมากัดไม่ปล่อย…เฮ้อ”

นักข่าวหันไปมองหลินเยียนเมื่อจูมั่นเชี่ยนพูดจบ

และจู่ๆ ความคิดหนึ่งก็แวบเขามาในหัวทุกคนอย่างกะทันหัน

หลินเยียน!

หลินซูหย่าและหลินเยียน!

พวกเขาลืมข่าวฉาวระดับสะท้านโลกขนาดนี้ไปได้ยังไงกัน?

ผู้สื่อข่าวคนหนึ่งรีบพุ่งไปด้านหน้าในทันทีทันใด

“ซูหย่าคะ วันนี้หลินเยียนก็มาด้วย เธอแพร่ข่าวลือเกี่ยวกับคุณและหันอี้เซวียนหลายครั้งมากเลยค่ะ มีความเห็นยังไงบ้างคะ”

“คุณหลินซูหย่า! เมื่อไม่นานมานี้คุณเพิ่งถูกหลินเยียนกล่าวหาว่าเป็นมือที่สาม คุณคิดว่ายังไงคะ”

“ใช่ค่ะ ซูหย่า หลินเยียนกุข่าวลือต่างๆ นานาเพื่อจะให้ร้ายคุณนะคะ จะไม่ฟ้องให้หลาบจำบ้างเหรอคะ”

เพียงอึดใจเดียว นักข่าวก็พากันสาดคำถามที่เป็นเชื้อเพลิงเพื่อสุมไฟให้ความสอดรู้สอดเห็นในตัวยิ่งโหมกระหน่ำ พวกเขาต่างสนอกสนใจกันแต่เรื่องข่าวฉาวระหว่างหลินซูหย่าและหลินเยียน

ข่าวซุบซิบนินทาตามติดหลินเยียนอย่างกับเงาตามตัวไม่ว่าเธอจะไปที่ไหน เหล่านักข่าวน่าจะกวาดเรื่องอื้อฉาวกลับบ้านได้เป็นกระบุงโกยเลยทีเดียว!

ไม่มีใครคาดคิดว่าหลินซูหย่าจะปรากฏตัวที่นี่ เหตุการณ์ในวันนี้เหมือนกับคำกล่าวที่ว่า “ศัตรูประจันหน้ากันบนถนนแคบ” เรื่องสนุกๆ กำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่ช้า!

หลินซูหย่าดูสง่างามและบริสุทธิ์ในชุดเดรสสุดหรู ดูเหมือนว่าไฟทุกดวงบนโลกนี้กำลังส่องสว่างโดยบรรจบกันบนตัวเธอ

หลินซูหย่าตวัดสายตาข้ามฝูงชนไปมองที่หลินเยียน รอยยิ้มเย้ยหยันจางๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเธอก่อนจะหายวับไปในทันที

หลินเยียนสังเกตเห็นรอยยิ้มนั้น แต่หลินซูหย่ากลับมาแสดงท่าทีสงบเงียบและสง่างามเช่นเดิมโดยไม่ทิ้งร่องรอยใดๆ ไว้เลย

หลินซูหย่าทำท่าเหมือนพูดอะไรไม่ออกขณะที่ถูกเหล่านักข่าวกดดันด้วยการรุมยิงคำถามชุดใหญ่ หญิงสาวแสดงสีหน้ากลุ้มใจและสับสนก่อนจะส่ายศีรษะไปมาแล้วละล่ำละลัก “แต่ถึงยังไง พี่ก็ยังเป็นพี่สาวของฉัน…”

พี่สาว?

เกิดความโกลาหลในทันที่ที่หลินซูหย่าหลุดปากคำนั้นออกมา ทุกคนตะลึงด้วยความตกใจ

“คุณหลินซูหย่าคะ คุณบอกว่าหลินเยียนเป็น…พี่สาวของคุณ?”

“คุณหลินซูหย่าหมายความว่ายังไงคะ? คุณสองคนมีความสัมพันธ์ยังไงกันแน่?”

หลินซูหย่าหันหน้ากลับมาแล้วกวาดตามองสีหน้าตื่นตระหนกของทุกคน เธอโค้งคำนับแล้วเอ่ยว่า “ความจริงแล้ว หลินเยียนเป็นพี่สาวแท้ๆ ของฉันค่ะ เกิดเรื่องบางอย่างขึ้นในครอบครัวตอนที่ฉันยังเด็ก เราเลยถูกจับแยกกัน พี่สาวของฉันออกจะเป็นคนมุทะลุไปสักหน่อยแต่ฉันก็ไม่เคยลังเลที่จะทำตามคำขอทุกอย่างของพี่ แต่มีอยู่อย่างเดียวที่ฉันให้ไม่ได้จริงๆ เพราะฉันเป็นคนยึดมั่นในหลักการข้อหนึ่งมากค่ะ”

พระเจ้าช่วย!

นี่มันข่าวใหญ่ที่จะสั่นสะเทือนไปทั้งจักรวาล

หลินซูหย่ากับหลินเยียนเป็นพี่น้องกัน!

และสองสาวพี่น้องทะเลาะกันเพราะแย่งผู้ชายงั้นเหรอ

หลินซูหย่าพยายามกลั้นน้ำตาขณะพึมพำ “พี่สาวของฉันได้รับบทสมทบในหนังเรื่องนี้ ฉันหวังว่าทุกคนจะเอ็นดูพี่นะคะ ฉันเชื่อว่าพี่ฉันเป็นคนดีค่ะ ขอบคุณค่ะ!”

พระเจ้า! เธอเป็นนางฟ้าจุติลงมาเกิดจริงๆ!

แม้ว่าพี่สาวของหลินซูหย่าจะก่อเรื่องเลวร้ายไว้มากมายแต่เธอก็ยังออกตัวปกป้องเพราะสายสัมพันธ์ในครอบครัว!

ลืมรักเลือนใจ

ลืมรักเลือนใจ

Status: Ongoing

หลินเยียน นักกีฬาแข่งรถแนวหน้าของวงการต้องถึงคราวตกต่ำเพราะข่าวฉาวที่ถูกจัดฉากขึ้น มิหนำซ้ำแฟนหนุ่มที่ทำให้เธอต้องก้าวเข้าสู่วงการบันเทิงเพื่อสนับสนุนเขายังหักหลังนอกใจไปคบกับน้องสาวของเธอเองอีกด้วย!

แต่แล้วโชคชะตาก็ดลบันดาลให้เธอก็ได้พบกับ เผยอวี้เฉิง ประธานเครือบริษัทข้ามชาติเจเอ็ม คอร์เปอเรชัน ที่ทั้งเดาอารมณ์ยาก เย็นชาและไม่ชอบข้องเกี่ยวกับใคร วันดีคืนดีจู่ๆ เขาก็เกิดสูญเสียการควบคุมตัวเองไปดื้อๆ และมีเพียงเธอเท่านั้นที่จะพาเขากลับมายังโลกแห่งความเป็นจริงได้

การพบกันครั้งแรกของเธอและเขาทำให้เธอรู้สึกหวาดกลัวไปถึงขั้วหัวใจ ทว่าเธอกลับไม่รู้เลยว่าแท้จริงแล้วเธอและเขาเคยพบกันมาก่อนหน้านี้เมื่อเนิ่นนานมาแล้ว และเธอก็เป็นฝ่ายเลือกที่จะ ‘ลืมเลือน’ เขาไปด้วยตัวเอง…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท