ลืมรักเลือนใจ – ตอนที่ 121 เผยหนานซวี่ตาบอดหรือเปล่า / ตอนที่ 122 ญาติ
ตอนที่ 121 เผยหนานซวี่ตาบอดหรือเปล่า
หลินเยียนเพิ่งมีข่าวฉาวกับเผยหนานซวี่ไปหมาดๆ แล้วตอนนี้เธอกลับต้องประจันหน้าเขาอย่างจัง
นี่มันกระอักกระอ่วนสุดๆ ไปเลย
ตัวตัวทำท่าเหมือนกำลังร้องไห้ ‘แฟนหนุ่ม’ ของหลินเยียนมีอยู่ทุกที่จริงๆ จึงไม่แปลกใจอะไรที่ต่างฝ่ายอาจจะบังเอิญมาเจอกันได้ทุกเมื่อ
แต่นี่ดันเป็น ‘แฟนหนุ่ม’ คนที่ดังที่สุดเสียด้วยสิ!
“คุณเผย” จ้าวหงหลิงเอ่ยพลางค้อมตัวให้อย่างสุภาพเพื่อทักทาย
คงไม่มีใครอยากเจอหน้าหลินเยียนหลังจากที่ตกเป็นข่าวฉาวกับเธอแน่ๆ
โชคยังเข้าข้างที่เผยหนานซวี่เป็นคนดังซึ่งใครๆ ก็เคารพนับถือ เขาอาจจะไม่ใส่ใจกับเรื่องเล็กน้อยเช่นนี้มากเท่าไรนัก
ในตอนที่จ้าวหงหลิงเดินทางไปเคลียร์เรื่องราววุ่นวายถึงที่ต้นสังกัดของเผยหนานซวี่ เธอพบว่าทุกคนดูสุภาพและมีเหตุผลมาก
ผู้จัดการสาวจับมือตัวตัวและหลินเยียนที่ยืนอยู่ข้างๆ ไว้แน่น
ตัวตัวเกาะหลินเยียนเมื่อเห็นเผยหนานซวี่เดินรี่มาทางพวกเธอจนทำให้สามสาวถอยกรูด
จู่ๆ เผยหนานซวี่ก็หยุดกึกแล้วถอยหลัง ยืนตระหง่านอยู่ตรงหน้าพวกหลินเยียนที่ผงกหัวหงึกหงักอย่างไม่หยุดหย่อน
แล้วตัวตัวก็ได้ยินเสียงทุ้มนุ่มลึกบาดใจที่อาจทำให้คนฟังเขินตัวบิดตัวม้วนได้
“คุณหลิน”
เสียงของเผยหนานซวี่นั่นเอง!
เผยหนานซวี่…ดาราดังเจ้าของรางวัลนักแสดงยอดเยี่ยม…กำลังคุยกับหลินเยียน…
ตัวตัวเงยหน้าขึ้นด้วยความประหลาดใจตามสัญชาตญาณ
ถึงแม้ว่านี่จะไม่ใช่ครั้งแรกที่หลินเยียนได้พูดคุยกับเผยหนานซวี่แต่เธอก็เป็นแฟนคลับของเขามานานหลายปี หลินเยียนตัวสั่นจากอาการตื่นเต้นและตื้นตันใจอย่างควบคุมตัวเองไม่ได้เมื่อยืนอยู่ต่อหน้าดาราที่เคารพรัก
เธอสะดุ้งโหยงหนักกว่าเดิมเมื่อเผยหนานซวี่เป็นฝ่ายเริ่มการสนทนา หลินเยียนละล่ำละลักตอบกลับไปอย่างกังวลใจว่า “สวัสดีค่ะ…รุ่นพี่…”
เผยหนานซวี่หัวเราะก่อนพูดด้วยน้ำเสียงเห็นใจ “คุณหลิน ถ้าไม่รบกวนเกินไป ช่วยเปลี่ยนวิธีเรียกผมได้ไหมครับ ผมว่าผมไม่เหมาะที่จะเป็นรุ่นพี่ของคุณสักเท่าไหร่…”
ดูเหมือนว่าหลินเยียนจะเข้าใจผิดเรื่องระดับความอาวุโสระหว่างทั้งคู่
หลินเยียนลังเล “อ่า…”
“เรียกแค่ หนานซวี่ ก็พอครับ” เผยหนานซวี่ยิ้มให้เธอ
หลินเยียนส่ายหัวปฏิเสธในทันควัน “นั่น…นั่นมันไม่ค่อยเหมาะสมเลยนะคะ…”
หลินเยียนคิดว่าเธอไม่คู่ควรพอที่จะเรียกชื่อเขาห้วนๆ ได้
ถ้าเกิดมีคนได้ยินเข้าจะทำยังไงล่ะ
เผยหนานซวี่ไม่ได้ยืนกรานให้เธอเรียกชื่อแต่อย่างใด เขาเพียงแค่หยิบกระเป๋าจากผู้ช่วยแล้วส่งให้หลินเยียนก่อนเอ่ยว่า “คุณหลิน ข้างนอกนั่นมีแฟนๆ อยู่เพียบเลย ออกไปตอนนี้คงลำบากแย่ สวมชุดนี้ไว้ก่อนเถอะครับ เดี๋ยวผมจะพาคุณออกไปจากที่นี่เอง”
หลินเยียนอึ้ง
ด้านตัวตัวเองก็ตะลึงเช่นกันเมื่อได้ยินการสนทนาของทั้งคู่ พูดให้ถูกคือ เธอรู้สึกตกใจกับท่าทีที่เผยหนานซวี่แสดงออกต่อหลินเยียนมากกว่า
ในตอนแรก ตัวตัวคิดว่าเผยหนานซวี่จะต่อว่าและซักถามหลินเยียน แต่สถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริงๆ นั้นแตกต่างจากที่คิดอย่างหน้ามือเป็นหลังมือ
เผยหนานซวี่ขอให้หลินเยียนเรียกชื่อ หนำซ้ำยังหาวิธีช่วยเหลือเธออีกต่างหาก ถึงขนาดที่เตรียมชุดมาเผื่อให้หลินเยียนใช้โดยเฉพาะ
หรือว่า…ดาราที่ทุกคนรักนักรักหนาอย่างเผยหนานซวี่จะ…
เป็นไปไม่ได้!
โลกของตัวตัวเหมือนพังทลายลงในทันตาเมื่อเธอสันนิษฐานเช่นนั้น เพราะเธอเองก็เป็นหนึ่งในแฟนคลับผู้ภักดีของเผยหนานซวี่มานานเช่นกัน
ตัวตัวอดใจไม่ไหวอีกต่อไป เธอจึงถามด้วยเสียงกระซิบกระซาบว่า “พี่เยียน! ทำไมเขาใจดีกับพี่ขนาดนี้ล่ะ นี่ถึงขนาดช่วยหนีจากพวกแฟนคลับรุมทึ้งเลยนะ พี่อย่าบอกนะว่าคบกันอยู่จริงๆ น่ะ”
หลินเยียนเองก็รู้สึกปลาบปลื้มใจในสิ่งที่เผยหนานซวี่ทำเพื่อเธอเช่นกัน “ไม่ใช่ความสัมพันธ์อย่างที่เธอคิดหรอกน่า…”
ตัวตัวแหวกลับ “แล้วจะเป็นแบบไหนได้อีก ดูพวกพี่ทำเข้าสิ!”
แม้ว่าตัวตัวจะไม่อยากให้ข้อสงสัยของเธอเป็นจริง แต่ท่าทีของเผยหนานซวี่ทำให้เธอคิดมาก
หลินเยียนพูดอย่างเหนื่อยใจ “เธอคิดอะไรอยู่หา คิดว่าคนอย่างเผยหนานซวี่จะสายตาแย่ขนาดมาชอบฉันเหรอ”
ตัวตัวส่ายหัวไปมาก่อนตอบว่า “ไม่อะ”
หลินเยียนตอบกลับ “นั่นแหละ ตามนั้น”
เผยหนานซวี่ไม่ได้ตาบอด
แต่เป็นพี่ชายของเขาต่างหากละ…
ตอนที่ 122 ญาติ
ตัวตัวและจ้าวหงหลิงปฏิเสธไม่ได้ว่าหลินเยียนพูดถูก
เพราะไม่ว่าจะคิดอย่างไร ก็ไม่มีทางที่เผยหนานซวี่จะตกหลุมรักหลินเยียนได้อย่างแน่นอน
หากลองวิเคราะห์โดยเปรียบเทียบสถานะของทั้งคู่ในวงการบันเทิง เผยหนานซวี่แทบจะทะยานสู่ตำแหน่งดาราแถวหน้าของวงการในทันทีที่เดบิวต์ เขาเป็นที่รู้จักในฐานะนักแสดงมากฝีมือและมีพรสวรรค์เหมาะสมกับตำแหน่งดาราที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดของวงการบันเทิงทุกประการ นอกจากนี้ เขายังเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นของซัมมิท เอนเตอร์เทนเมนต์อีกด้วย
และยิ่งสังคมได้รับรู้เกี่ยวกับภูมิหลังด้านครอบครัวของเผยหนานซวี่มากเท่าไร ความเหลื่อมล้ำก็ยิ่งเผยให้เห็นเหมือนเงาตามตัว เขาเป็นคุณชายที่สองของตระกูลชนชั้นสูงผู้มีอิทธิพลและมีชื่อเสียงที่สุดในเมืองหลวงแห่งนี้ และตระกูลฝ่ายแม่ของเขาที่อยู่ต่างประเทศเองก็น่าเกรงขามไม่แพ้กัน ส่วนพี่ชายคนโตของเขา เผยอวี้เฉิง เป็นบุคคลสำคัญในวงการธุรกิจ และนั่งแท่นประธานกลุ่มบริษัทข้ามชาติอย่างเจเอ็ม คอร์เปอเรชัน
ถ้าพูดถึงเผยอวี้เฉิงที่นอกจากเขาจะเป็นชายในตำนานผู้พิชิตความสำเร็จมากมายในวงการธุรกิจแล้ว เขาก็ยังเป็นชายที่ทำให้วงการบันเทิงต้องสั่นสะเทือนด้วยความฮือฮาครั้งใหญ่อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนด้วยเช่นกัน
ถึงแม้ว่าเผยอวี้เฉิงจะไม่ได้มีเอี่ยวอะไรกับวงการบันเทิง แต่ความนิยมในตัวเขาไม่ได้น้อยหน้าไปกว่าดาราหลายๆ คนเลย
ในวงการบันเทิง เหล่าดาราชายที่ได้รับความนิยมมักจะถูกดาราหนุ่มคลื่นลูกใหม่เข้ามาแทนที่อยู่ซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่ตำแหน่งของเผยอวี้เฉิงที่อยู่บนจุดสูงสุดนั้นไม่เคยสั่นคลอนและมั่นคงดุจภูผา
ครั้งหนึ่ง ปาปารัสซีเคยสะกดรอยตามเผยหนานซวี่แล้วบังเอิญถ่ายได้ภาพของเผยอวี้เฉิงเข้าพอดี นั่นถือเป็นครั้งแรกที่ภาพของเผยอวี้เฉิงปรากฏต่อสาธารณชน
เผยอวี้เฉิงในภาพถ่ายนั้นสวมแว่นตาและกำลังยืนพิงรถสปอร์ตสีเงินของเขา แม้ว่าใบหน้าที่ปรากฏในภาพจะมีเพียงแค่ครึ่งเดียว แต่ความหล่อเพียงเสี้ยวนั้นทำให้บรรดาแฟนคลับของดาราชายทั้งวงการพากันหลงลืมไอดอลที่ตัวเองรักได้เพียงชั่วข้ามคืน
แฟนคลับสาวๆ จำนวนมหาศาลที่หลงใหลเผยอวี้เฉิงพยายามคุ้ยหาข้อมูลเกี่ยวกับเขากันยกใหญ่ บัญชีของเจเอ็ม คอร์เปอเรชันบนเว่ยป๋อเองก็ถูกถล่มด้วยผู้ติดตามจำนวนหลายล้านคน ในขณะที่ข่าวสารในวงการการเงินก็มีผู้อ่านเพิ่มขึ้นมากมาย
ด้วยเหตุนี้ เผยหนานซวี่จึงมักพูดติดตลกกับแฟนคลับอยู่เสมอว่า เหตุผลที่บรรดาแฟนๆ ยังคงติดตามเขาอยู่อาจเป็นเพราะอยากเห็นเขาโพสต์รูปของพี่ชายนั่นเอง
วงการบันเทิงมีอันต้องสั่นคลอนครั้งใหญ่เมื่อข่าวเกี่ยวกับอาการป่วยหนักของเผยอวี้เฉิงแพร่ออกไป แฟนคลับหลายพันคนร้องห่มร้องไห้และเฝ้าภาวนาให้อาการของเขาดีขึ้น ทั้งยังเก็บภาพของเผยอวี้เฉิงขณะรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลไว้อย่างดีเหมือนเป็นสมบัติล้ำค่า
ในตอนนี้ใครๆ ก็ต่างรู้แล้วว่าแม้จะเอากลุ่มแฟนคลับของเผยหนานซวี่ เฉินเจามู่ เว่ยสวีเฟิง ถังจยาเยี่ย และหันอี้เซวียนมารวมกันก็ยังต้านพลังจากกองทัพแฟนคลับของเผยอวี้เฉิงเพียงคนเดียวไม่ได้
และเขายังสามารถทำให้แฟนคลับสาวๆ ของดาราเหล่านี้ทอดทิ้งไอดอลที่เธอชอบได้ง่ายๆ
ดังนั้น ผู้ชายที่มีภูมิหลังด้านครอบครัวและสถานะทางสังคมสูงเกินเอื้อมอย่างเผยหนานซวี่จึงไม่มีทางชอบหลินเยียนที่เป็นแค่ดาราปลายแถวผู้มาพร้อมภาพลักษณ์ด่างพร้อยอย่างแน่นอน
ตัวตัวเชื่อหลินเยียนเพราะเธอมั่นใจในรสนิยมของเผยหนานซวี่ดี ผู้ช่วยสาวจึงใจเย็นลงเล็กน้อยก่อนพูดว่า “แล้วทำไมเผยหนานซวี่ถึงช่วยพี่ล่ะ”
“เอ่อ…” หลินเยียนนิ่งไปขณะที่พยายามหาคำตอบ
ทำไมเผยหนานซวี่ถึงช่วยเธอ? จะให้บอกได้ยังไงล่ะว่าเป็นเพราะเผยอวี้เฉิง
แต่เธอก็ไม่รู้จะตอบยังไงดี
หลินเยียนควรจะเปิดอกไปเลยดีไหมว่าที่เผยหนานซวี่ช่วยเธอนั้นเป็นเพราะว่าเธอกำลังคบหาอยู่กับพี่ชายของเขา?
แต่หลินเยียนรู้ดีว่าเผยอวี้เฉิงมีอิทธิพลมากขนาดไหน เธอจึงไม่กล้าแม้แต่จะจินตนาการสภาพศพของตัวเองที่น่าจะเหลือแค่เถ้ากระดูกถ้าหากบรรดาแฟนคลับสาวๆ รู้เรื่องของเธอกับเขาเข้า
ฉะนั้น เธอจะไม่บอกใครเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเธอและเผยอวี้เฉิงเป็นอันขาด
แต่ในกรณีนี้ เธอจะอธิบายเรื่องราวระหว่างเธอและเผยหนานซวี่อย่างไรดี
ถ้าจะบอกว่าเป็นแค่เพื่อนกันก็ฟังดูกำกวมและไม่น่าเชื่อเกินไปหน่อย อีกอย่าง หลินเยียนไม่อยากโกหกพี่หลิงเสียด้วย
ยากชะมัด…
โอย…นี่มันยากเกินไปสำหรับเธอ…
หลินเยียนเค้นสมองเพื่อหาคำอธิบายที่เหมาะสมที่สุด “ถ้าจะให้อธิบายความสัมพันธ์ระหว่างฉันกับเผยหนานซวี่ล่ะก็ ฉันคิดว่าเราสองคนน่าจะเป็น…ญาติกัน?”
ถ้าดูจากความสัมพันธ์และความอาวุโสแล้ว เผยหนานซวี่เป็นน้องชายของแฟนหนุ่มของเธอ ดังนั้น ก็น่าจะเรียกได้ว่าเขาเป็นน้องเขย?
ให้เรียกว่าญาติก็ถือว่าไม่ได้โกหกซะทีเดียว จริงไหม?