ตอนที่ 127 เขาคิดมาก
หลินเยียนสำลักจนไอไม่หยุด
เธอรู้สึกราวกับว่าตัวเองได้กลายร่างเป็นกาน้ำที่กำลังบรรจุน้ำเดือดปุดๆ จนร่างกายร้อนฉ่า
หลินเยียนไม่เคยจินตนาการมาก่อนเลยว่าเผยอวี้เฉิงจะเปิดเผยอย่างตรงไปตรงมาว่าเขาเกิดอารมณ์หึงหวง
เขาไม่ได้โกรธ และเขาไม่ได้ต่อว่าเธอ เขาเพียงแค่บอกให้เธอรู้ว่าเขากังวลและหึงหวงเมื่อได้ยินข่าวลือเกี่ยวกับตัวเธอและผู้ชายคนอื่น
หลินเยียนรู้สึกเหมือนกำลังจะขาดใจตาย!
‘แม่จ๋า หนูว่าหนูกำลังมีความรัก…’
‘หนูยอมทิ้งทุกอย่างเพื่อผู้ชายคนนี้ได้เลย…’
เผยอวี่ถังและเผยหนานซวี่เงียบกริบ
ทำไมหลินเยียนถึงรู้สึกราวกับตัวเธอกำลังเปล่งประกายระยิบระยับกันนะ
ในตอนแรก หลินเยียนคิดว่าชีวิตของเธอคงจะจบสิ้นตรงนี้ แต่จู่ๆ เธอก็ถูกคำพูดของเผยอวี้เฉิงกระแทกใจเข้าอย่างจัง
เผยหนานซวี่กระแอมเบาๆ เพื่อเป็นการขัดจังหวะ “พี่ใหญ่ครับ พี่รู้ใช่ไหมว่าข่าวของผมกับหลินเยียนเป็นแค่ข่าวลือเพื่อสร้างกระแสให้หนังเฉยๆ มันไม่ใช่เรื่องจริง…”
จู่ๆ หลินเยียนก็คิดอะไรบางอย่างขึ้นได้ เธอจึงเงียบไป
หลังจากนั้นครู่ใหญ่ เธอเงยหน้าขึ้นมองชายหนุ่มที่อยู่ข้างๆ ด้วยท่าทีลังเลใจ เธอคิดไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วนก่อนเอ่ยว่า “คุณเผย คุณรู้ใช่ไหมคะว่าฉันเป็นที่รังเกียจทั้งทางออนไลน์และในชีวิตจริง ฉันไม่มีทักษะการแสดง และฉันยังเป็นคนเจ้าเล่ห์จอมวางแผนถึงขนาดที่ออกอุบายหลอกน้องสาวตัวเอง ฉันมีแฟนหนุ่มในข่าวลือนับไม่ถ้วน…ทุกคนเกลียดฉัน…คุณ…ไม่คิดมากเรื่องนี้ใช่ไหมคะ”
หลินเยียนเชื่อว่าคนระดับเผยอวี้เฉิงจะสามารถขุดคุ้ยอดีตของเธอได้อย่างแน่นอน ดังนั้น เธอจึงคิดว่าการที่เผยอวี้เฉิงตกลงรับเธอเป็นแฟนสาวอย่างรวดเร็วนั้นเป็นเรื่องค่อนข้างแปลก
และเป็นไปได้ว่าถ้าเผยอวี้เฉิงไม่เคยรู้เรื่องราวพวกนั้นมาก่อนเลย เขาจะต้องสืบเสาะหาความจริงหลังจากวันนี้เป็นต้นไปอย่างแน่นอน
หลินเยียนคิดว่าทุกอย่างฟังดูไม่สมเหตุสมผลไปหมด
แม้แต่เผยอวี่ถังก็ฉุกคิดขึ้นได้และรู้สึกสงสัยเมื่อได้ยินคำถามของหลินเยียน เขาเองก็อยากจะรู้คำตอบเหมือนกัน!
เด็กหนุ่มเคยข้องใจว่าพี่ใหญ่กำลังคิดอะไรอยู่กันแน่เมื่อครั้งที่เขารู้ข่าวว่าเผยอวี้เฉิงกำลังคบหากับหลินเยียนจากปากของพี่รอง
หลินเยียนเห็นว่าแววตาของชายหนุ่มพลันเปลี่ยนเป็นลึกลับและเย็นชา
เผยอวี้เฉิงตอบกลับว่า “คิดมากสิ”
ถึงแม้หลินเยียนจะคาดคะเนไว้แล้วว่าเธอจะได้ยินคำตอบเช่นนี้ แต่เธอก็ไม่เข้าใจอยู่ดีว่าทำไมใจของเธอจึงเต้นระรัว
เธอกำลังจะตอบเขา แต่ชายหนุ่มพูดแทรกว่า “อยากให้ฉันช่วยจัดการหรือเปล่าล่ะ”
เขาเองก็คงรู้สึกรำคาญใจที่เห็นเธอถูกคนจำนวนมากวิพากษ์วิจารณ์
หลินเยียนพูดไม่ออก เธอได้แต่ตอบว่า “อ่า…”
เผยอวี่ถังและเผยหนานซวี่เองก็พูดไม่ออกเช่นกัน
หญิงสาวสำลักด้วยอารามตกใจ “แค่ก…แค่ก…อะแฮ่ม…ไม่ค่ะ…ไม่เป็นไรค่ะ”
‘ทำไมท่านประธานเผยถึงเล่นนอกบททุกครั้งเลยนะ’ หลินเยียนคิดในใจ
ทั้งร่างกายและจิตใจของเธอต่างก็อ่อนแอเกินไปจนแทบไม่สามารถรับมือกับความระทึกขวัญจากเขาได้…
คนแบบไหนกันที่เสนอตัวช่วยเหลือคนอื่นทั้งๆ ที่ยังไม่ได้สืบเสาะหาความจริงก่อน
หลินเยียนรู้สึกว่าเผยอวี้เฉิงไว้ใจเธออย่างมาก
ไม่มีใครเชื่อสิ่งที่หลินเยียนพูดมาแต่ไหนแต่ไรจนเธอคุ้นชินแล้ว แต่ชายคนนี้กลับไม่แสดงอาการคับข้องใจเลยแม้แต่น้อย
หลินเยียนโบกมือไปมาอย่างรวดเร็วเป็นเชิงปฏิเสธข้อเสนอของเขา “เรื่องเล็กน่ะค่ะ! ฉันจัดการเองได้”
เผยอวี่ถังพยายามอธิบายสิ่งที่พี่ใหญ่พูดให้หลินเยียนเข้าใจอย่างยากลำบาก “พี่สะใภ้ใหญ่อ่อนต่อโลกเกินแล้วนะ! ผมอ่านข่าวแล้วเลยรู้มาว่าหลินซูหย่ามีคนหนุนหลังและเส้นสายมากมายในวงการบันเทิง ให้ตายเหอะ! ยัยนั่นจะเอาอะไรมาชนะพี่เยียนได้ ในเมื่อพี่นั่นแหละคือคนที่มีเส้นสายที่ทรงพลังที่สุดในวงการบันเทิงแล้ว! ทำไมไม่ใช้ชื่อพี่ใหญ่ไปซะให้จบเรื่องล่ะ”
หลินเยียนพูดไม่ออก
ถ้าเธอทำอย่างนั้นจริง เธอคงถูกแฟนคลับสาวๆ รุมทึ้งจนเหลือแต่ซาก อีกทั้งยังเป็นการลากเผยอวี้เฉิงเข้าไปพัวพันอีกด้วย…
และตอนนี้ สิ่งที่หลินเยียนกังวลใจมากที่สุดคือการถูกใส่ความเสียๆ หายๆ ไม่ใช่ความจริงที่ว่าเธอถูกข่มเหงรังแกแต่อย่างใด
อีกอย่าง หลินเยียนรู้ดีว่าคงจะมีแต่คนตาบอดเท่านั้นที่ตกหลุมรักเธอ แต่เธอก็ไม่อยากให้ใครมาตั้งคำถามกับรสนิยมเรื่องผู้หญิงของเผยอวี้เฉิงอยู่ดี…
ตอนที่ 128 แฟนสาวของเขาต้องดีพร้อม
หลินเยียนส่ายหัวไปมาพลางเม้มปาก “หยุดเลย ถ้าพวกนั้นเปลี่ยนเป้ามาโจมตีพี่ชายเธอล่ะ ให้ฉันเป็นฝ่ายตั้งท่ารอรับมือจะดีกว่า!”
เมื่อเผยอวี่ถังแอบมองพี่ชาย เขาก็แน่ใจได้ทันทีว่าพี่ใหญ่ของเขาชอบหลินเยียนจริงๆ
เผยอวี่ถังเถียง “แล้วมันเป็นปัญหาตรงไหนล่ะ พี่ใหญ่ไม่ถือหรอก!”
หลินเยียนโพล่งออกมาโดยไม่ได้หยุดคิดเลยแม้แต่น้อย “แต่ฉันถือ! พี่ชายเธอน่ะเป็นผู้ชายที่สมบูรณ์แบบทุกเรื่อง แฟนของเขาก็ต้องเป็นผู้หญิงที่ดีพร้อมเหมือนกันสิ!”
ความเงียบเข้าปกคลุมทั่วทั้งรถอีกครั้งเมื่อหลินเยียนพูดจบ
แววตาของเผยอวี้เฉิงส่องประกายที่แฝงความนัยไว้มากมาย
เผยอวี่ถังขับรถไปบ่นไปด้วยความหมั่นไส้ “จ้า จ้า พี่สะใภ้ใหญ่ อย่าลืมสิว่ายังมีผู้ชายไม่สมบูรณ์แบบอยู่ในรถด้วยอีกตั้งสองคนนะ!”
เผยหนานซวี่กระแอมอย่างสุภาพขณะที่หัวเราะคิกคัก
พวงแก้มของหลินเยียนเป็นสีแดงระเรื่อเมื่อได้ยินเช่นนั้น
เธอเองก็ตกใจเช่นกันที่พูดออกไปได้โดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว!
ตายละ! นี่เธออินกับบทมากไปหรือเปล่าเนี่ย
เอาเข้าจริง หลินเยียนเองก็ตกใจไม่น้อยที่เธอไม่สามารถบอกได้ว่าจริงๆ แล้วเธอกำลังประจบประแจงเผยอวี้เฉิงหรือพูดออกมาจากใจกันแน่
หลินเยียนกระแอมอย่างนอบน้อม “ยังไงก็ต้องขอขอบคุณนะคะที่คุณเผยเชื่อใจฉัน ฉันจะหาทางจัดการเรื่องพวกนี้เองค่ะ”
ชายหนุ่มกลับมามีท่าทีนิ่งเฉยตามปกติ และไม่ได้แสดงออกว่าเขาเห็นด้วยกับการตัดสินใจของเธอหรือไม่
ในระหว่างที่พวกหลินเยียนพูดคุยกันนั้น เผยอวี่ถังก็พารถฝ่าฝูงชนออกมาได้สำเร็จ เขาขับรถต่อไปอย่างราบรื่น
หลินเยียนเหลือบมองด้านนอกหน้าต่างอย่างหวาดกลัว
เธอไม่เคยคิดเลยว่าจะมีวันที่เธอจะได้นั่งอยู่บนรถคันเดียวกับเผยหนานซวี่ เผยอวี่ถัง และเผยอวี้เฉิง
…
หลินเยียนบอกที่อยู่ของเธอให้เผยอวี่ถังรู้ และทุกคนก็มาถึงที่หน้าอพาร์ตเมนต์ของเธอในไม่ช้า
เผยอวี้เฉิงลงจากรถเพื่อเดินมาส่งหลินเยียน
ทั้งคู่ไม่พูดอะไรกันขณะที่เดินอยู่บนชั้นแรกของอพาร์ตเมนต์
หลินเยียนหยุดยืนตัวตรง หญิงสาวผู้กล้าหาญอยู่เสมอกลับรู้สึกอับจนหนทางขึ้นมาเสียดื้อๆ เมื่ออยู่ต่อหน้าชายหนุ่ม “อะแฮ่ม…ขอบคุณนะคะที่มาส่งวันนี้ คุณเผย”
“ไม่เป็นไร เป็นเรื่องที่ฉันสมควรทำอยู่แล้ว”
เผยอวี้เฉิงพูดด้วยน้ำเสียงเป็นทางการพลางจุดบุหรี่
เธอรู้สึกได้ว่าชายหนุ่มกำลังใจลอยและดูมีท่าทีกระสับกระส่าย
ท่าทางเขากำลังคิดถึงเรื่องงาน
เผยอวี้เฉิงต้องลำบากลำบนไปหาเธอถึงที่กองถ่ายด้วยตัวเอง หลินเยียนจึงคิดว่าเขาคงเสียเวลาไปกับเธอไม่น้อย…
คิดได้ดังนั้น เธอจึงรีบพูดว่า “อืม…ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ฉันขอตัวขึ้นห้องก่อนนะคะ!”
เผยอวี้เฉิงส่งเสียงในลำคอเป็นเชิงตอบรับ
หลินเยียนก้าวเท้าเพื่อจะเดินจากไป แต่ในทันใดนั้นเอง…
“คุณหลิน”
หลินเยียนเพิ่งเดินออกไปได้ไม่กี่ก้าว เธอได้ยินเสียงของชายหนุ่มตามมาด้านหลัง
“หือ?” หลินเยียนหันหลังกลับตามสัญชาตญาณ “อะไร…”
ชายหนุ่มเดินรี่เข้ามาหาเธอ เขาโยนบุหรี่ในมือทิ้งไปก่อนที่หลินเยียนจะพูดจบประโยค
เผยอวี้เฉิงประทับจูบลงบนริมฝีปากของหลินเยียนอย่างรวดเร็วและแผ่วเบา เธอได้กลิ่นลมหายใจของเขาที่มีกลิ่นยาสูบจางๆ ปนอยู่ด้วย…
หลินเยียนตัวแข็งทื่อราวกับรูปปั้นหินขณะที่จ้องมองชายหนุ่มผู้จูบเธออย่างกะทันหันด้วยสายตาว่างเปล่า เธอตกอยู่ในภวังค์เป็นเวลานาน
เผยอวี้เฉิงจ้องมองเธอตาไม่กะพริบ เงาสะท้อนของหญิงสาวปรากฏอยู่ในดวงตาของเขา
แววตาของชายหนุ่มวูบไหวด้วยอารมณ์ที่ผสมปนเปกันขณะที่เขาพินิจใบหน้าของเธอ
ในวินาทีต่อมา เขายืนตัวตรงก่อนที่จะค้อมตัวลงมาจูบเธออีกครั้ง “ราตรีสวัสดิ์”
แม้ดวงตาของเผยอวี้เฉิงจะเปี่ยมด้วยอารมณ์พลุ่งพล่านที่เจียนจะระเบิดออกมา แต่เขาก็สามารถระงับอารมณ์เหล่านั้นไว้ได้ในที่สุด