ตอนที่ 179 เจอคนมีฝีมือ
“ไม่จำเป็นหรอก” หลินเยียนตอบ
“ไม่งั้นเหรอ” ก็อดซีผงะ
“ก็คุณไม่ใช่เหรอที่พูดว่าไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเอาชนะเขา ไหนๆ ฉันก็เอาชนะเขาไม่ได้อยู่แล้ว จะหาข้อมูลเกี่ยวกับเขาไปทำไมกัน เสียเวลาเปล่าๆ” หลินเยียนยิ้มให้ก็อดซี
“กัปตัน คุณหลินพูดถูก” มู่มู่ชำเลืองมองก็อดซี
ก่อนที่ก็อดซีจะทันได้ตอบอะไร เขาก็ได้ยินเสียงกระแทกดังปัง ใครบางคนถีบประตูเปิดเข้ามา
ชายร่างใหญ่บึกบึนสองมือล้วงกางเกงเดินวางท่าเข้ามา
“ไม่เลวนี่”
ชายร่างโตกวาดสายตามองไปรอบห้องก่อนที่จะมาหยุดตรงหลินเยียน “ฉันไม่คิดเลยว่าไอ้เผยอวี่ถังจะหาคนมีฝีมือมาได้”
“ซ่งจืออี้?”
เผยอวี่ถังขมวดคิ้วเมื่อเห็นชายร่างท้วมใหญ่
ชายคนนั้นคือซ่งจืออี้ พี่ชายของซ่งเย่าหนาน ชายผู้เลื่องชื่อเรื่องความไม่เอาไหน วันๆ ดีแต่เกกมะเหรกเกเรรังควานชาวบ้านเขาไปทั่ว
หลายปีก่อน เขาพาพวกไปก่อเรื่องที่ผับเพราะเรื่องผู้หญิง เล่นเอาคู่อริเจ็บปางตายและหลบหน้าหลบตาหายไปจากสังคมตั้งแต่ตอนนั้น ไม่มีใครคิดว่าจะกลับมาปรากฏตัวอีก
“พี่ใหญ่ ช้าๆ หน่อย รอผมด้วย” ซ่งเย่าหนานเร่งฝีเท้าตามมาพร้อมลูกน้องเป็นโขยง
“ไร้ประโยชน์” ซ่งจืออี้ชายตามองซ่งเย่าหนานอย่างเหยียดหยาม “แกแพ้กับอีแค่ผู้หญิงเนี่ยนะ ฉันมีน้องชายที่ไม่ได้เรื่องขนาดนี้ได้ยังไง”
ซ่งเย่าหนานดูแค้นใจนิดๆ ขณะพึมพำ “ไม่ฉันความผิดฉันสักหน่อย”
ซ่งจืออี้เย้ยหยันอย่างเจ็บแสบก่อนที่จะหันไปทางหลินเยียนพร้อมลูบคางเบาๆ หญิงสาวคนนี้น่ารักทีเดียวและเธอดูคุ้นๆ ยังไงไม่รู้ เธอดูคลับคล้ายคลับคลาดาราคนหนึ่ง แต่สวยกว่ามาก…
เขาชี้ไปที่หลินเยียน “สาวน้อย คืนนี้ไม่ต้องไปกับน้องชายฉันหรอก เธอแค่รอไปกับฉันก็พอ”
“แกพูดอะไร” เผยอวี่ถังฉุน
หลินเยียนคว้าห้ามเผยอวี่ถังเอาไว้ก่อนที่จะยิ้มให้ซ่งจืออี้ “คุณต้องเอาชนะฉันให้ได้ก่อน”
“เธอนี่มันอวดดีจริงๆ ว่าไหม เธอคิดว่าไม่มีใครเอาชนะเธอได้งั้นเหรอ รู้สึกดีมากนักหรือไงที่เอาชนะพวกสปีดพวกนั้นได้ เธอดูถูกแอร์คอมมานเดอร์งั้นสิ” ซ่งจืออี้ยิ้มเยาะ
ลูกทีมสปีดต่างดูค่อนข้างเจ็บแค้นแต่นิ่งเงียบไม่พูดอะไร แม้พวกเขาจะอับอายที่โดนผู้หญิงเขี่ยพวกเขาทั้งสี่คนออกจากสนามก็ตาม ไม่นับว่าพวกเขาจะโกรธแค้นมากแค่ไหนอีก แต่พวกเขาก็ต้องกล้ำกลืนความโกรธนั้นไว้ เพราะพวกเขาถือว่าทำให้ทีม ยิ่งไปกว่านั้นคือกัปตันทีมของพวกเขาเสียชื่อ
“สาวน้อย แอร์คอมมานเดอร์ใช้เวลาไม่ถึงนาทีก็เอาชนะเธอได้แล้ว เธอควรจะถ่อมตัวไว้บ้างนะ เพราะยังไงเธอก็ไม่ใช่เด็กๆ แล้ว” ซ่งจืออี้ถากถางอย่างเลือดเย็น
“เขาน่าเกรงขามขนาดนั้นเลย?” หลินเยียนพยักหน้ารับรู้น้อยๆ “งั้นก็…พาแอร์คอมมานเดอร์มาที่นี่เลยสิ”
“คุณหลิน อย่าทำอะไรบุ่มบ่าม!” ก็อดซีขยับเข้าไปหาหลินเยียนพร้อมมองเธออย่างจริงจังก่อนที่จะกระซิบ
“คุณหลิน ผมเข้าใจว่าคุณรู้สึกยังไงตอนนี้ แต่คุณต้องประเมินสถานการณ์นี้ให้ดี”
“หมายความว่าไง” หลินเยียนถาม
“คู่ต่อสู้ของคุณคือแอร์คอมมานเดอร์ กัปตันทีมสปีด เขาเคยแข่งกับลั่งหมั่ง ลูกศิษย์ของเรซแทร็คส์ กริมรีปเปอร์ ในการแข่งขันระดับสองมาแล้ว” ก็อดซีท่าทางซีเรียสและจริงจัง
“เขาน่าทึ่งขนาดนั้นเชียว ฮะ? แล้วหลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้นล่ะ” หลินเยียนยิ้มกว้าง
“ตอนจบ…ไม่สำคัญหรอก สิ่งที่สำคัญก็คือแอร์คอมมานเดอร์ติดท็อปแปดของระดับสอง เริ่มแรกทีม สปีดไม่มีคุณสมบัติที่จะเข้าแข่งระดับสองด้วยซ้ำ แต่ระดับของทั้งทีมก็เพิ่มขึ้นเพราะแอร์คอมมานเดอร์…”
ตอนที่ 180 เขาเรียนรู้จากเธอในฝัน?
ก็อดซีแนะนำหลินเยียนอีกครั้งอย่างจริงจังและตรงไปตรงมา “แอร์คอมมานเดอร์ไม่เพียงแต่มีคุณสมบัติสำหรับการแข่งขันระดับสองเท่านั้น แต่เขายังไต่ไปถึงระดับท็อปแปด คุณหลิน จากทั้งหมดที่ผมพูดไปคุณพอเข้าใจสถานการณ์บ้างหรือยัง”
หลินเยียนไม่ได้โง่ เพราะงั้นเธอย่อมเข้าใจสิ่งที่ก็อดซีกำลังสื่อดี เธอรู้ว่าเขากำลังพยายามบอกว่าแอร์คอมมานเดอร์เก่งกาจมากเพียงใดและย้ำถึงทักษะและประสบการณ์ที่แอร์คอมมานเดอร์มี
“นอกจากนี้แอร์คอมมานเดอร์เคยพูดตอนให้สัมภาษณ์ว่าเขารู้จักเรซแทร็คส์ กริมรีปเปอร์ หรืออีกชื่อคือ เยวา อาจารย์ของลั่งหมัง เขาถึงขั้นเคยเรียนรู้จากเธออยู่ช่วงหนึ่ง…เขาน่ากลัวมากจริงๆ” มู่มู่กระซิบเสริมเบาๆ
“เขารู้จักเยวา?” หลินเยียนประหลาดใจที่ได้ยินเรื่องนี้
เธอเคยเจอแอร์คอมมานเดอร์ กัปตันของสปีดตอนไหนกัน เธอไม่รู้จักเขาเลย…เขาเคยเรียนรู้จากเธอ? เมื่อไหร่? ในฝัน?
“คุณหลิน เราไม่จำเป็นต้องแข่งกับเขา ซีเอ็ชวันแพ้ในการแข่งขันรอบแรก แต่คุณกลับช่วยให้เราพลิกกลับมาชนะ ตามกติกาแล้ว ถือว่าเสมอ เราเลื่อนการแข่งขันครั้งต่อไปออกไปอย่างไม่มีกำหนด วิธีนี้จะทำให้ยังไม่รู้ผลแพ้ชนะ ทั้งคุณและเผยอวี่ถังก็ไม่ต้องเอาตัวเองไปชดใช้ตามที่เดิมพัน” ก็อดซีอธิบายอย่างใจเย็น
“พูดมีเหตุผล” เผยอวี่ถังพยักหน้าเห็นด้วยหงึกๆ
ทั้งหลินเยียนและตัวเขาต่างมีเดิมพันที่ขึ้นอยู่กับการแข่งขันครั้งนี้กับซ่งเย่าหนาน อย่างไรเสียจากสถานการณ์ที่เป็นอยู่ในตอนนี้ พวกเขาก็ยังถือว่าไม่แพ้ ทั้งสองทีมเสมอกันอย่ ยังไงพวกเขาก็ยังไม่ต้องชดใช้จากการแพ้เดิมพันแน่นอน
“คุณหลิน ถ้าคุณรู้แน่ว่าต้องแพ้ คุณจะกลายเป็นคนโง่ถ้ายังขืนแข่งต่อ เราแค่ต้องใช้กติกาให้เป็นประโยชน์และเราจะปลอดภัย กฎไม่ได้บอกสักหน่อยว่าถ้าเสมอแล้วต้องทำยังไง ไม่มีการบอกด้วยซ้ำว่าต้องแข่งใหม่” ก็อดซีฝืนยิ้มน้อยๆ
อันที่จริงนี่คือผลของความสะเพร่าระหว่างซ่งเย่าหนานกับเผยอวี่ถัง
ต่างฝ่ายต่างมั่นใจเกินไปว่าจะเอาชนะอีกฝ่ายได้จนลืมคิดถึงความเป็นไปได้ที่จะเสมอ เหตุนี้จึงไม่ได้ระบุกติกาในกรณีที่ผลออกมาเสมอกันเอาไว้ เพราะความทะนงตนและอวดดีของทั้งคู่ ทำให้ก็อดซีพบช่องโหว่ของข้อตกลงนี้
มีสองเหตุผลที่ทำให้ก็อดซีคิดข้อเสนอนี้ขึ้นมา ข้อแรกถ้าหลินเยียนต้องแข่งกับแอร์คอมมานเดอร์ ไม่มีทางที่เธอจะเอาชนะเขาได้ เธอต้องเป็นฝ่ายแพ้แน่นอนซึ่งนี้จะส่งผลให้ทีมซีเอ็ชวันพลอยแพ้ไปด้วย ข้อสองพวกเขาจะยอมให้หลินเยียนไปนอนกับซ่งเย่าหนานกับซ่งจืออี้ได้ยังไงกันถ้าเธอแพ้ขึ้นมาจริงๆ
ไม่ว่าอะไรก็ตามที่เผยอวี่ถังเป็นกังวล ก็อดซีไม่ได้ใส่ใจเลยสักนิดว่าเผยอวี่ถังจะต้องคลานใต้หว่างขา ซ่งเย่าหนานหรือยุบทีมตัวเอง เรื่องพวกนี้ไม่เกี่ยวกับเขา แม้ว่าเผยอวี่ถังจะแพ้ ก็เป็นความผิดของตัวเขาเอง เผยอวี่ถังไม่ควรลากซีเอ็ชวันและหลินเยียนให้ตกต่ำไปกับเขา
“ฮ่า ฮ่า…กลัวที่จะต้องแข่งมากหรือไง ฉันหวังว่าพวกเธอจะไม่ใช่พวกขี้ขลาดตาขาวนะ” ซ่งจืออี้พูดยั่วโมโห ทำท่าลำพองน่าหมั่นไส้
ก็อดซีพูดด้วยท่าทีสงบนิ่ง “ไม่มีประโยชน์ที่จะยั่วโมโหเราหรอก อันที่จริงเราจะเลื่อนการแข่งรอบสุดท้ายนี้ออกไปอีกนานเท่าไหร่ก็ได้ตราบเท่าที่เราต้องการ อย่าฝันที่จะล้มคุณหลินและซีเอ็ชวันได้เลย ไม่ว่าเธอจะใช่พวกขี้ขลาดหรือไม่ก็ไม่สำคัญอะไร เราเป็นทีมแข่งรถที่เป็นทางการและเราทำตามกฎกติกา ”