ตอนที่ 189 เครื่องยนต์ของฉันอยู่ไหน
ชายฉกรรจ์ที่เหลือควักอาวุธออกมารวมทั้งไม้เบสบอล
“ฟาดเธอเลย!” ซ่งเย่าหนานตะโกนร้องสั่งขณะพยุงซ่งจืออี้
ชั่วอึดใจกลุ่มชายฉกรรจ์ถืออาวุธก็เดินอาดๆ ตรงเข้ามาหาหลินเยียน
ดวงตาของหลินเยียนฉายแววมุ่งร้าย
ทันใดนั้นก็เกิดเสียงดังสนั่น
กลุ่มชายที่มีอาวุธยืนตกตะลึงจ้องมองหลินเยียนราวกับเธอคือปีศาจ
เมื่อกี้พวกเขาเพิ่งเห็นอะไร
พวกเขาเห็นภาพหลอนไปเองหรือเปล่า
หลินเยียนยกกำปั้นต่อยกำแพงที่อยู่ด้านหลังของเธอ
กำแพงแตกร้าวและหลังจากนั้นก็ถล่มลงมา ส่วนที่โดนหลินเยียนต่อยแตกละเอียดเป็นเสี่ยงๆ
“หนีไปซะ”
หลินเยียนออกคำสั่งอย่างเย็นชาขณะมองไปที่กลุ่มชายฉกรรจ์เรียงตัว
พวกเขาแอบชำเลืองมองกันไปมาด้วยความหวาดกลัวก่อนที่จะสาวเท้าถอยออกมาโดยไม่รู้ตัว ทำท่าทางราวกับเห็นผี
“ผู้หญิง…ผู้หญิงคนนี้…เป็นปีศาจ” ชายฉกรรจ์ร้องตะโกนเสียงสั่น เธอทลายกำแพงด้วยหมัดๆ เดียว ถ้าเธอเขวี้ยงหมัดมาทางเขาละก็ ตัวเขาจะแตกเป็นเสี่ยงๆ เหมือนกันหรือเปล่า
อวัยวะของเขาจะต้องแตกกระจายออกมาเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย!
สมาชิกทีมซีเอ็ชวันและเผยอวี่ถังตะลึงมองหลินเยียนด้วยความตกตะลึง พวกเขาต่างรู้สึกตกใจไม่แพ้ซ่งเย่าหนานและพวก เธอช่างมีพละกำลังอันน่าทึ่งอะไรเช่นนี้!
หลินเยียนเดินตรงเข้าไปหาซ่งจืออี้และซ่งเย่าหนานด้วยท่าทีไม่แยแส
“เธอ…เธอต้องการอะไร ฉันขอเตือน…เธอ…อย่าเข้ามาใกล้ฉันเด็ดขาดนะ!”
ซ่งจืออี้และซ่งเย่าหนานหน้าซีดเป็นไก่ต้มตอนที่หลินเยียนเดินเข้ามา ผู้หญิงคนนี้จะอัดพวกเขาจนตายหรือเปล่า
“เร็วเข้า! รีบมาจัดการนังนี่สิ!” ซ่งจืออี้ตะโกนพร้อมส่งสัญญาณเรียกลูกน้อง
ครั้งนี้ไม่มีใครก้าวเข้ามาตามคำสั่งของเขา
จะเป็นพระคุณมากหากผู้หญิงคนนี้ไว้ชีวิตพวกเขา!
เมื่อเห็นว่าไม่มีลูกน้องคนไหนกล้าไหวติง ซ่งจืออี้เลยร้องบอก “โทรเรียกตำรวจ! ใช่ เรียกตำรวจมา!”
หลินเยียนก้าวเข้าไปหาเขาอีกครั้งเมื่อได้ยินซ่งจืออี้พูด
“เธอ…ฉันขอเตือน…”
ซ่งจืออี้พูดตะกุกตะกักพลางชี้หน้าหลินเยียน หลินเยียนไม่สนใจและง้างมือตบหน้าเขาอีกครั้ง
เสียงตบกระแทกสะท้อนดังสนั่นก่อนที่หลินเยียนจะลงมือฟาดหน้าซ่งจืออี้อีกครั้ง ร่างเขาสั่นเทิ้มจากแรงตบก่อนที่จะล้มหมดสติไปนอนกองลงกับพื้น
สายตาของหลินเยียนเลื่อนไปมองซ่งเย่าหนานที่ตัวสั่นระริก
“ฉัน…ฉันขอบอกเธอ…เธอไม่มี…อย่า…” ความกลัวฉายชัดเต็มสองตาของซ่งเย่าหนานขณะที่เขาพูดไม่ได้ศัพท์
หลินเยียนไม่อ้อมค้อม ตรงเข้าไปกระชากคอเสื้อซ่งเย่าหนาน
เธอฉุดเขาขึ้นตัวลอยขาห้อยต่องแต่ง ซ่งเย่าหนานแผดเสียงร้องด้วยความหวาดผวา
“ซ่งเย่าหนาน…” หลินเยียนจ้องเขาเขม็ง “เครื่องยนต์ของฉันอยู่ไหน”
“เครื่องยนต์…เครื่องยนต์อะไร…” ซ่งเย่าหนานที่กำลังตกใจไม่เข้าใจสิ่งที่หลินเยียนพูด
“พนันของเราไง! ฉันชนะต้องได้เครื่องยนต์” หลินเยียนเค้นเสียง
“โอ้ใช่…ใช่…ใช่ ฉันจำได้แล้ว เครื่องยนต์…สองเครื่อง ฉันจะให้เธอสองเครื่อง!” ซ่งเย่าหนานพูดโพล่งออกมา
“สี่!” หลินเยียนทำท่าทางดุดัน “คุณทำร้ายเผยอวี่ถัง คุณต้องชดใช้ให้เราต่อการประทุษร้ายทางร่างกายที่พวกคุณก่อขึ้น! เครื่องยนต์สี่เครื่อง!”
“ตกลง ตกลง…สี่เครื่อง ฉันจะให้เธอสี่เครื่อง” ซ่งเย่าหนานตอบอย่างลนลาน
ตอนที่ 190 อย่างไรเสียฉันก็เป็นผู้หญิงอ่อนแอและเปราะบาง
ณ สถานีตำรวจ
เผยอวี่ถังและสมาชิกทีมซีเอ็ชวันยืนเรียงแถวกันขณะที่ซ่งเย่าหนานและพวกยืนเงียบเชียบด้วยท่าทีว่านานสอนง่ายและไร้พิษสงอยู่อีกแถว
คนที่ยืนโดดเด่นท่ามกลางแถวผู้ชายคือหญิงสาวที่ยืนอยู่ข้างเผยอวี่ถัง
ผู้หญิงคนนั้นสวมหมวกและชุดสีดำทั้งชุด เธอมีใบหน้าสะอาดสะอ้านและกำลังถือกระเป๋าเสื้อผ้า ผิวของเธอไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วน เธอดูเกลี้ยงเกลาและบริสุทธิ์ผุดผ่อง แผลเดียวที่อยู่บนตัวเธอคือรอยช้ำบนหลังมือ
เจ้าหน้าที่ตำรวจวัยกลางคนเดินถือสมุดบันทึกไปยังแถวของผู้ชายขณะมองสำรวจแต่ละคนอย่างเงียบๆ
ฝั่งเขามีเผยอวี่ถังคนเดียวที่ได้รับบาดเจ็บ ส่วนที่เหลือปลอดภัยดี ฝั่งทีมซ่งเย่าหนาน เกือบทุกคนได้รับบาดเจ็บ
ในขณะที่ซ่งจืออี้ถูกหามส่งโรงพยาบาล
มองแวบแรกดูเหมือนฝั่งซ่งเย่าหนานโดนคนของฝั่งเผยอวี่ถังทำร้าย
เจ้าหน้าที่ตำรวจวิเคราะห์สถานการณ์ขณะเดินผ่านหน้าพวกเขา ท่าทีของนายตำรวจเปลี่ยนไปเมื่อเขาเห็นหลินเยียน
ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าหญิงสาวคนนี้เป็นผู้บริสุทธิ์ที่พยายามห้ามไม่ให้กลุ่มผู้ชายตีกัน
เจ้าหน้าที่ตำรวจมองเธอและพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล “สาวน้อย ก้าวมาข้างหน้า”
หลินเยียนกะพริบตาและพึมพำตอบรับอย่างว่าง่าย “ได้ค่ะ…”
เจ้าหน้าที่ตำรวจมองหญิงสาว สายตากวาดมองไปยังรอยแผลบนมือของเธอก่อนพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “คุณเป็นคนโทรเรียกตำรวจหรือเปล่า ในฐานะที่เป็นผู้หญิง คุณควรอยู่ให้ห่างเข้าไว้ไม่ว่าเจอเหตุทะเลาะวิวาทอะไรก็ตาม อย่าเข้าไปใกล้ จะเกิดอะไรขึ้นถ้าคุณได้รับบาดเจ็บขึ้นมา”
นายตำรวจเพิ่งพูดจบตอนที่ซ่งเย่าหนานและพวกส่ายหัวไปมาเป็นเชิงปฏิเสธ ท่าทางสับสน
เดี๋ยวก่อน! เข้าใจผิดอะไรรึเปล่า!
แม้แต่เผยอวี่ถังและทีมซีเอ็ชวันเองก็ดูตกใจเช่นเดียวกัน
หลินเยียนพยักหน้าแสดงท่าทางเคารพนบนอบและตอบไปด้วยความจริงใจ “ขอบคุณค่ะคุณตำรวจ! คุณพูดถูก! คุณคือผู้พิทักษ์สันติราษฎร์และผู้ที่รับใช้ประชาชนอย่างไม่มีข้อกังขา ในฐานะประชาชน ฉันอยากขอบคุณคุณตำรวจค่ะ! อย่างไรเสียฉันก็เป็นผู้หญิงอ่อนแอและเปราะบาง ในอนาคตถ้าฉันเจอเรื่องอันตรายอะไร ฉันจะรีบวิ่งหนีและหาที่ซ่อนเพื่อโทรหาคุณตำรวจค่ะ!”
ซ่งเย่าหนานและพวกอึ้งกิมกี่…
เผยอวี่ถังและคนฝั่งเขาก็อึ้งกิมกี่…
พวกลูกน้องซ่งเย่าหนานที่โดนหลินเยียนเล่นงานจนน่วมพากันงงเป็นไก่ตาแตกต่อทัศนคติที่หน้าไม่อายของเธอ
เผยอวี่ถังแอบลอบมองหลินเยียนด้วยสายตาล่อกแล่ก ก่อนจะกลืนน้ำลาย สีหน้าท่าทางของเขาดูกระอักกระอ่วนอย่างบอกไม่ถูก
นายตำรวจมีท่าทีอ่อนลงอีกครั้งเมื่อได้ฟังคำยกยอของหญิงสาว เขาชี้ไปยังเพื่อนร่วมงานและพูดว่า “ดีแล้วที่คุณจำไว้ ผู้หญิงต้องหัดเรียนรู้ที่จะปกป้องตัวเอง เอาละ สาวน้อย ตามเพื่อนร่วมงานผมไปลงบันทึกประจำวัน แล้วคุณก็กลับบ้านได้”
อะไรกัน…
เกิดอะไรขึ้น
นายตำรวจคนนี้ปล่อยเธอไป?
ซ่งเย่าหนานและพวกในที่สุดก็ประท้วงออกมาหลังจากที่เงียบอยู่นาน
ซ่งเย่าหนานยกแขนชี้ไปที่หลินเยียนอย่างกล้าๆ กลัวๆ ด้วยความโกรธ เขาแผดเสียง “คุณตำรวจ! คุณเข้าใจอะไรผิดรึเปล่า คุณปล่อยเธอไปได้ยังไง เธอเป็นคนที่ทำร้ายพวกเรา! คุณจะปล่อยใครไปก็ได้แต่ไม่ใช่เธอ!”
“ใช่แล้ว! ผู้หญิงคนนั้นทำร้ายเรา! ขาผมเกือบหักแน่ะ!”
“คุณตำรวจ แขนผมเกือบแหลกเป็นชิ้นๆ!”