ตอนที่ 225 เธอไม่มีคุณสมบัติที่จะปฏิเสธ
รวดเร็วมาก!
การเคลื่อนไหวของเด็กผู้หญิงคนนี้ช่างรวดเร็วเสียเหลือเกิน ไม่เหมือนความเร็วของมนุษย์เลยสักนิด
หลินเยียนขยับวูบหลบด้วยความทุลักทุเลยิ่งนัก ถึงอย่างนั้นก็ยังโซซัดโซเซไปหลายก้าวอยู่ดี
จี้หลานมองหลินเยียนจากเบื้องบน ราวกับกำลังมองดูมดปลวกที่ไม่ควรค่าแก่การเอ่ยถึงอย่างนั้น ภายในดวงตาเต็มไปด้วยความรู้สึกดูแคลน
ขณะนี้เอง ฉินฮวนที่อยู่ด้านข้างก็ทนดูไม่ได้ รีบออกมาไกล่เกลี่ยทันที “จี้หลาน เธอบ้าไปแล้วเหรอ! ทำอะไรน่ะ!”
จี้หลานใช้สายตาเย็นชาบีบให้ฉินฮวนถอยไปทันที “ฉันทำอะไร? นังผู้หญิงคนนี้กลับกล้าปฏิเสธพี่อวี้! มันมีคุณสมบัติอะไร! มันนึกว่าตัวเองเป็นใคร?”
เผยอวี้เฉิงเป็นปีศาจร้ายในสายตาของใครหลายๆ คน แต่ก็เป็นเทพเจ้าในสายตาของใครหลายๆ คนเช่นกัน
การกระทำของหลินเยียน สำหรับพวกเขาแล้ว ก็เหมือนขอทานสกปรกคนหนึ่งที่ลากเทพเจ้าของพวกเขาลงสู่โคลนตม ซ้ำยังเหยียบขยี้อย่างหนักหน่วงด้วยความดูแคลนเสียหลายครั้งอีกด้วย
ไม่มีทางยอมรับเด็ดขาด!
“จี้หลาน เธอสงบจิตใจหน่อยสิ! อย่าลืมว่าพี่อวี้เขา…” ฉินฮวนนวดหัวคิ้ว
เด็กสาวตัดบทฉินฮวนทันที มองไปยังหลินเยียนด้วยสายตาเต็มเปี่ยมด้วยไอสังหาร “นั่นแล้วจะทำไม? ในเมื่อสิ่งที่ต้องการก็มีแค่ร่างกายมันเท่านั้น ถ้าอย่างนั้นมันจะยอมหรือไม่ยอม ยังจะสำคัญอะไรอีก? ฉันมีเป็นพันวิธีที่จะให้มันยอมรับความจริง!”
พอหลินเยียนได้ฟังคำพูดของเด็กสาว ประกายเพลิงภายในดวงตาก็เปลี่ยนเป็นน้ำแข็งอันเย็นเฉียบทีละน้อย
พับผ่าสิ!
คนพวกนี้จะปล้นกันหรืออย่างไร?
ไม่ยอมก็บังคับให้คนเขายอม?
อีกอย่าง สิ่งที่ต้องการมีแค่ร่างกายเธอเท่านั้นมันหมายความว่าอย่างไร?
มีลูกพี่เป็นอย่างไรก็มีลูกน้องเป็นอย่างนั้นจริงๆ ด้วย!
จี้หลานมองหลินเยียนด้วยแววตาบึ้งตึง “ฉันให้โอกาสแกเป็นครั้งสุดท้าย กลับไปอยู่ข้างกายพี่อวี้โดยดี เชื่อฟังคำสั่งเขาทุกอย่าง”
หลินเยียนหัวเราะเบาๆ ครั้งหนึ่ง เอ่ยปากพูดออกมาทีละคำว่า “แล้วถ้า…ฉันปฏิเสธล่ะ?”
“ปฏิเสธ…” จี้หลานจ้องหลินเยียน หลังจากผ่านไปเนิ่นนานก็ยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย “แกยังไม่มีคุณสมบัติที่จะปฏิเสธ”
พูดยังไม่ทันจบ เงาร่างพลันรุกคืบเข้าหาหลินเยียนประหนึ่งเงาปีศาจทันที
คราวนี้หลินเยียนไม่ได้ถอยและไม่ได้หลบด้วย แต่ฝืนรับการบุกโจมตีของเด็กสาวโดยตรง
ชั่วพริบตาที่จี้หลานเข้ามาใกล้ มือของหลินเยียนก็ค่อยๆ ขยับ
ความเร็วของจี้หลานเกือบจะไม่ใช่ของคนธรรมดาแล้ว
ในช่วงเสี้ยววินาทีนี้เอง สองตาของหลินเยียนกลับจับท่าร่างของจี้หลานไม่ค่อยได้
เมื่อหลินเยียนมองเห็นจี้หลาน จี้หลานกลับมาถึงข้างตัวหลินเยียนแล้ว พลังลมรุนแรงระลอกหนึ่งกวาดผ่านใบหน้าหลินเยียน
ทันใดนั้นจี้หลานยกมือขึ้น ฟันใส่หลินเยียนด้วยฝ่ามือที่ดูเหมือนไม่ได้จงใจ
แทบจะเป็นสัญชาตญาณ หลินเยียนยกมือขึ้นขวางเอาไว้
ปัง!
เห็นเพียงหลินเยียนใช้สองมือขวางไว้ด้านหน้า ถึงกระนั้นตัวคนกลับถอยหลังโซซัดโซเซ
ดวงตาหลินเยียนฉายแววประหลาดใจขึ้นมาทันที ผู้หญิงคนนี้เป็นตัวประหลาดอะไรกัน…
ในความทรงจำของหลินเยียน นับตั้งแต่เกิดมา นี่เป็นครั้งแรกที่เจอคู่ต่อสู้ที่ทำให้ตัวเองเสียเปรียบได้
ไม่เพียงเท่านี้ หลินเยียนยังดูออกว่าจี้หลานคนนี้ไม่ได้ใช้กำลังที่มีอยู่ทั้งหมดเลย
“ฉันว่านะจี้หลาน เธอไม่เป็นอะไรนะ ถ้าเธอฟาดจนหลินเยียนตายจะทำอย่างไร?” ฉินฮวนมองไปทางจี้หลาน ภายในดวงตาผุดความไม่พอ
“ฉันรู้จักบันยะบันยัง แค่อยากจะสั่งสอนเธอ ให้เธอรู้จักสถานะของตัวเองเท่านั้น” จี้หลานพูดเรียบๆ
“ทำร้ายจนเธอบาดเจ็บก็ไม่ได้นะ” ฉินฮวนพูดต่อ
ประเดี๋ยวลูกพี่กลับมา ถ้าเห็นหลินเยียนถูกทำร้ายจนบาดเจ็บ แม้แต่เขาเกรงว่าก็ต้องซวยไปด้วย
“หุบปาก ไม่เกี่ยวกับนาย” จี้หลานพูดด้วยเสียงเย็นชา
ฉินฮวน “…”
ตอนนี้จี้หลานจ้องมองหลินเยียน รอยยิ้มบนใบหน้ากดลึกขึ้นหลายส่วน “แกจะไม่ยอมเชื่อฟังดีๆ จริงเหรอ?”
ตอนที่ 226 อย่าบังคับฉัน
“เธอก็ลองดูสิ” หลินเยียนตอบด้วยเสียงเย็นชา
“เหอะ แค่คืนเดียว คนรอบตัวแกก็ถูกแกลากเข้ามาเอี่ยวด้วยทั้งหมด… ในเมื่อเป็นแบบนี้ แกยังไม่รู้สึกรู้สาอีกหรือไง” จี้หลานหัวเราะเย้ยหยัน
“เป็นแก…” เมื่อได้ยิน หลินเยียนก็ระเบิดโทสะทันที
เด็กผู้หญิงคนนี้มองดูก็รู้ว่าเป็นลูกน้องเผยอวี้เฉิง เผยอวี้เฉิงต้องเป็นคนสั่งให้เธอทำแบบนี้แน่!
“ดูท่า ตอนนี้แกยังไม่รู้สถานะของตัวเองดีนะ”
ระหว่างที่พูด จี้หลานก็หายไปจากที่ที่เธออยู่ภายในชั่วพริบตา รวดเร็วเสียเหลือเกิน ถึงขั้นที่ว่าหลินเยียนใช้ตาเนื้อก็มองเห็นได้แค่เงาดำสายหนึ่งเท่านั้น
ความเร็วของจี้หลานตอนนี้เร็วกว่าก่อนหน้านี้เสียอีก
หลินเยียนยังไม่ทันได้สติกลับมา กลับถูกจี้หลานคว้าลำคอเอาไว้แล้ว
จี้หลานจิกลำคอหลินเยียนด้วยเรี่ยวแรงมหาศาล ทำให้หลินเยียนหายใจติดขัด
“อย่า…บังคับฉัน” หลินเยียนรู้สึกหน้ามืดตาลาย สติสัมปชัญญะเริ่มเลือนรางเล็กน้อย
“บังคับแก?” พอได้ยินจี้หลานก็จ้องมองหลินเยียน มุมปากยกขึ้นเล็กน้อย แสดงความเยาะเย้ยอย่างไร้ปราณี “อย่างแกน่ะคู่ควรด้วยเหรอ”
หลินเยียนรู้สึกต่อต้านอย่างยิ่ง เป็นความรู้สึกที่แปลกใหม่ที่เธอเหินห่างมานาน ไม่รู้นานเท่าไหร่แล้วที่เธอไม่ได้สูญเสียการควบคุมอีก… ทำไมต้องมาหาเรื่องเธอด้วย?!
ตอนนี้น้ำแข้งอันเย็นเยียบภายในดวงตาหลินเยียนราวกับมีผนึกอะไรถูกปลดออก เริ่มปรากฏรอยแตกขึ้นทีละนิด ทีละนิด จนแตกกระจายโดยไม่รู้ตัว…
ภายในบาร์อันมืดสลัว ไม่มีใครพบความเปลี่ยนแปลงภายในดวงตาหลินเยียนสักคนเดียว
เห็นเพียงหลินเยียนในตอนนี้ ดวงตาปราศจากความรู้สึกใดๆ มือขวาจับแขนจี้หลานเบาๆ
วินาทีต่อมาก็ได้ยินแค่เสียงดังปัง แขนของจี้หลานถูกสลัดออกไปภายในชั่วพริบตา ร่างกายถูกกระแทกถอยออกไปหลายก้าวเช่นกัน
ดวงตาจี้หลานฉายแววประหลาดใจ ตอนนี้เองแขนก็รู้สึกเจ็บปวดอย่างรุนแรงและค่อยๆ ชา
“ฉินฮวน นายทำอะไรน่ะ!” ทันใดนั้นจี้หลานก็มองไปยังฉินฮวนที่อยู่ด้านข้าง
เมื่อได้ยินฉินฮวนก็ทำหน้างุนงง “ฉันทำไมเหรอ?”
“เมื่อกี้นายใช้อาวุธลับลอบโจมตีฉันไม่ใช่เหรอไง” เสียงจี้หลานเจือความโมโหเล็กน้อย
ฉินฮวน “เธอเพี้ยนรึเปล่า ฉันไม่ได้ลงมือเลย”
“ไม่ใช่นาย?” จี้หลานขมวดคิ้วเล็กน้อย สายตาตกอยู่บนร่างซิงเฉินทันที
แสงไฟภายในบาร์ออกจะมืดสลัวอยู่บ้าง จี้หลานมองไม่เห็นเลยว่าเมื่อครู่หลินเยียนเป็นคนโจมตีกระแทกตนจนต้องถอยออกไป เลยนึกในใจว่าเป็นฉินฮวนหรือไม่ก็ซิงเฉินที่ใช้อาวุธลับลอบโจมตีเธอ
ซิงเฉินกำลังกินอมยิ้ม สบตาจี้หลานด้วยสีหน้าแปลกประหลาด “อย่ามองฉัน ฉันไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้น”
ไม่รอให้จี้หลานเอ่ยปากพูดต่อไป ฉินฮวนกลับใช้นิ้วชี้ไปยังหลินเยียนที่อยู่ด้านข้าง
ขณะนี้หลินเยียนซึ่งอยู่ในสภาวะสูญเสียการควบคุม แผ่ไอชั่วร้ายที่ทำให้รู้สึกตื่นตระหนกออกมาทั่วร่างกาย กำลังสาวเท้ายาวๆ เข้ามาหาจี้หลาน แรงกดดันแปลกประหลาดทำให้ฉินฮวนรู้สึกกระสับกระส่ายอยู่ในที
“ทำไมฉันถึงรู้สึกว่าจู่ๆ ผู้หญิงคนนี้ก็กลายเป็นคนที่น่ากลัวได้ขนาดนี้… ภาพหลอนหรือเปล่า” ฉินฮวนเล่นลูกเต๋าอยู่ในมือ ปากพูดพึมพำ
“ความเจ็บปวดบนตัวแกมันยังรุนแรงไม่พอใช่ไหม” เมื่อเห็นหลินเยียนมีสีหน้าท่าทางแบบนี้ ภายในดวงตาจี้หลานก็ฉายประกายเย็นเยียบ
เพียงชั่วประเดี๋ยวเดียวจี้หลานก็เปลี่ยนฝ่ามือเป็นกำปั้น ฟาดหนักๆ ไปยังหลินเยียนซึ่งกำลังสาวเท้ายาวๆ เข้ามา
พลังของกำปั้นนี้รุนแรงอย่างยิ่ง กระทั่งว่าได้ยินเสียงลมดังหวีดหวิวซึ่งมาพร้อมกับวงวิถีที่กำปั้นสะบัดมา
“เธอบ้าไปแล้วเหรอ!”
เมื่อเห็นรูปการณ์ ฉินฮวนจึงตวาดเสียงดัง
หลินเยียนในตอนนี้กลับรวดเร็วยิ่งกว่า เธอกลับเข้าประชิดเบื้องหน้าจี้หลาน ไม่รอให้จี้หลานมีปฏิกิริยาตอบสนอง จิกลำคอจี้หลานภายในชั่วพริบตา
ตำแหน่งของหลินเยียนหันหลังให้แสงไฟ ทำให้เป็นเหมือนเงาดำก้อนหนึ่ง ไม่มีใครมองเห็นชัดว่าหลินเยียนกำลังทำอะไรอยู่กันแน่ กระทั่งว่าแม้แต่ตัวของจี้หลานเองก็ยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นด้วยซ้ำ
หลินเยียนมองจี้หลานอย่างเย็นชา ขอเพียงเธอต้องการ ก็จะบีบคอของเด็กผู้หญิงคนนี้ให้แหลกละเอียดได้ภายในชั่วพริบตา