ตอนที่ 305 มีอยู่คนหนึ่งที่บดขยี้ได้
หลินเยียนฟังเจียงอีหมิงอธิบายบทอย่างตั้งใจ ฉันเข้าใจแล้วค่ะ…
แต่เข้าใจก็ส่วนเข้าใจ ช่วงเวลาสั้นๆ แบบนี้จะไปทำได้ยังไง
เผยหนานซวี่ที่อยู่ในระดับราชาแห่งวงการภาพยนตร์แบบนี้ ด้วยทักษะการแสดงของเขา ตอนที่ปลดปล่อยพลังออกมาทั้งหมด ต่อให้มองไปทั่วทั้งวงการก็ไม่มีใครมีพลังมากพอที่จะกดเขาลงไปได้
ตอนนี้มาให้เธอที่ไม่ใช่นักแสดงมืออาชีพซึ่งเพิ่งจะเร่งฝึกปรือทักษะการแสดงมาไม่นานสะกดความน่าเกรงขามของเขากลับไป มันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย
เพียงแต่เมื่อฟังจากคำพูดของเจียงอีหมิง แสดงว่าพึงพอใจต่อการแสดงหน้ากล้องของเธอมาก
ถ้าไม่มีการเปรียบเทียบกับคราวนั้น บางทีเจียงอีหมิงอาจปล่อยผ่านไปแล้ว เพียงแต่อาจเพราะมีการเปรียบเทียบ จึงทำให้เจียงอีหมิงมีความต้องการและตั้งความหวังกับเธอสูงยิ่ง…
เอาละ ไม่เป็นไร พวกเราเอาใหม่อีกรอบหนึ่ง เจียงอีหมิงพูดปลอบใจ
หลินเยียนผงกศีรษะ สูดลมหายใจลึกๆ ครั้งหนึ่ง ค่ะ
ครั้งนี้หลินเยียนพยายามตัดการรบกวนจากเผยหนานซวี่ ทำให้ตัวเองไม่ได้รับผลกระทบจากความน่าเกรงขามที่เขาส่งออกมา
ประธานหลินให้เกียรติมาเยือน เสียมารยาทที่ไม่ได้ต้อนรับแล้ว น้ำเสียงของเผยหนานซวี่ปราศจากโทสะจากการมาเยือนอย่างกะทันหันของหลินเผี่ยนรั่ว ตรงข้ามกลับสงบนิ่งอย่างยิ่ง อย่างไรก็ความหยิ่งผยองที่เกิดขึ้นเองซึ่งแฝงอยู่ในความสงบนิ่งนี้ กลับทำให้หลินเผี่ยนรั่วเป็นเหมือนคนที่ไม่สำคัญอย่างเห็นได้ชัดทันที
ประธานเฉิน เจอปัญหาเล็กน้อยแค่นี้ก็ล้มจนลุกไม่ขึ้นแล้วเหรอ? หลินเยียนพูดบทออกไปอีกครั้ง
คัท เจียงอีหมิงตะโกนสั่งให้หยุดอีกครั้ง หลินเยียน! ความน่าเกรงขามของเธอล่ะ? ยังสู้ครั้งก่อนไม่ได้เลย! จำไว้สิว่าเธอจะถูกหนานซวี่กดไม่ได้! ถูกเขากดไม่ได้ เข้าใจไหม?
หลินเยียนใกล้จะร้องไห้แล้ว ผู้กำกับเจียง ฉันก็ไม่อยากนะคะ! แต่ ขอร้องล่ะ คนนั้นคือเผยหนานซวี่! ราชาแห่งวงการภาพยนตร์เผยหนานซวี่ที่พอเพิ่งเข้าวงการก็โด่งดังถึงขีดสุด คนในวงการบันเทิงเพียงคนเดียวที่ได้รับรางวัล EGOT[1] นะคะ! ด้วยการแสดงของราชาภาพยนตร์เผย อย่าว่าแต่ทั้งวงการบันเทิงเลย ต่อให้บอสใหญ่จากวงการธุรกิจตัวจริงพวกนั้นมาเองก็ไม่มีใครกดเขาลงไปได้หรอกนะคะ…
คงได้แต่โทษว่าไอดอลของเธอเจ๋งเกินไปแล้วล่ะ…
ไม่ถูกสิ มีความน่าเกรงขามของคนคนหนึ่งที่บดขยี้ได้แน่นอน…
เผยอวี้เฉิง…
พอเผยหนานซวี่ได้ยินคำพูดของหลินเยียนก็อดหัวเราะไม่ได้ คุณหลินชมเกินไปแล้ว
เจียงอีหมิงกลับเห็นด้วยกับคำพูดของหลินเยียน หลินเยียน ฉันรู้ ฉันรู้แน่นอน ดังนั้นทีแรกตอนที่เลือกนักแสดงที่จะมารับบทหลินเผี่ยนรั่ว ฉันเลยกังวลมาตลอด แต่ว่าโชคยังดีที่ฉันเจอเธอเข้า! เธอแค่เอามาตรฐานที่เธอใช้ตอนออดิชันในวันนั้นออกมา นั่นก็พอแล้วล่ะ! เธอลองนึกหาให้ดีๆ
หลินเยียน …
ออดิชันอีกแล้ว!
พับผ่าสิ! จิตใต้สำนึกอีกคนในตัวเธอเป็นตัวอะไรกันแน่นะ? ร้ายกาจขนาดนี้เชียวเหรอ?
หลินเยียน ฉันเชื่อใจเธอ เธอต้องทำได้แน่! เอาอีกครั้ง! เจียงอีหมิงยังคงเชื่อมั่นในตัวเธออย่างเปี่ยมล้น
เอ่อ… ก็ได้
ดังนั้นหลินเยียนจึงได้แต่แสดงต่อไป
เพียงแต่อีกหลายครั้งต่อจากนั้น เจียงอีหมิงก็ยังไม่พอใจสักครั้งอยู่ดี
การถ่ายทำสั้นๆ เพียงไม่กี่ครั้ง หลินเยียนรู้สึกว่าตัวเองถูกสูบพลังจนใกล้จะหมดแล้ว แต่เจียงอีหมิงยังเอาแต่พูดว่า ยังน่าเกรงขามไม่พอ ประโยคนั้นเหมือนเดิม
ไม่ได้ ไม่ได้เลย…ช่างเถอะ พักสักครู่ก็แล้วกัน หลินเยียน เธอไปนึกหามาให้ดีๆ สีหน้าเจียงอีหมิงไม่ค่อยดีแล้ว
คงเพราะยิ่งคาดหวังมากก็ยิ่งผิดหวังมาก
สุดท้ายหลินเยียนก็นอนแผ่อยู่บนเก้าอี้พักด้วยท่าทางแทบจะหมดแรง รู้สึกเหมือนพลังถูกสูบออกไปจากร่างหมดแล้ว…
เผยหนานซวี่นั่งลงข้างหลินเยียน ค่อยเป็นค่อยไป ไม่ต้องรีบ พี่เป็นคนใหม่ แสดงได้ขนาดนี้ก็ดีมากแล้ว เพียงแต่ผู้กำกับเจียงตั้งความหวังกับพี่ค่อนข้างสูง
หลินเยียนถอนหายใจ ฉันรู้แล้ว…
พอพูดจบเธอก็มองเผยหนานซวี่ คือว่า ราชาภาพยนตร์เผย วันที่ฉันออดิชันวันนั้นแสดงดีมากจริงเหรอ?
[1] รางวัล EGOT หมายถึง 4 รางวัลใหญ่แห่งวงการบันเทิงคือรางวัล เอ็มมี แกรมมี ออสการ์ และโทนี
ตอนที่ 306 คุณหลิน คิดถึงเธอจนไม่สบาย
เผยหนานซวี่นึกย้อนกลับไป พูดยังไงดีนะ…ตอนนั้นที่พี่แสดง…แทบจะใช้คำว่าแสดงไม่ได้เลย การแสดงของพี่ในตอนนั้นไม่มีเค้าของการแสดงแม้แต่น้อย เหมือนกับว่า พี่เป็นคนที่พี่กำลังแสดงอยู่โดยสิ้นเชิง มิหนำซ้ำพี่…
หลินเยียน มิหนำซ้ำอะไร
เผยหนานซวี่ มิหนำซ้ำมีอยู่ชั่วพริบตาหนึ่งที่พี่มีความน่าเกรงขามเหมือนพี่ชายผมสุดๆ พอมีซีนที่ยอดเยี่ยมแบบนั้นอยู่ก่อนแล้ว คงโทษผู้กำกับเจียงว่าตั้งความหวังกับพี่มากขนาดนั้นไม่ได้เหมือนกัน
เป็นไปไม่ได้น่า? หลินเยียนพอได้ยินก็ตื่นตระหนกอย่างยิ่ง
ถึงเธอจะใช้คลิปเผยอวี้เฉิงเป็นต้นแบบในการฝึกซ้อมมาตลอด แต่ที่ผ่านมาก็แสดงแต่รูปลักษณ์ภายนอก ต่อให้ใช้ความสามารถในการแสดงระดับสุดยอด แต่ก็ไม่อาจแสดงความน่าเกรงขามของเผยอวี้เฉิงออกมาได้นี่นา
ขณะที่หลินเยียนกำลังตกใจ ตอนนี้เองจู่ๆ โทรศัพท์มือถือของเธอก็ดังขึ้นมา
มีข้อความวีแชทเพิ่มขึ้นมาใหม่หนึ่งข้อความ
เมื่อหลินเยียนเห็นชื่อว่าใครเป็นคนส่งมาก็เบิกตาโพลงทันที
เผยอวี้เฉิง!?
ไม่มีการติดต่อมาสัปดาห์หนึ่ง แต่เผยอวี้เฉิงกลับส่งข้อความหาเธอแล้ว!
เผยหนานซวี่ เป็นอะไรครับ ข้อความของใครเหรอ
หลินเยียนกระแอมเบาๆ ครั้งหนึ่ง พูดกดเสียงต่ำแล้วตอบกลับไปว่า พี่ชายเธอ…
เผยหนานซวี่หัวเราะเบาๆ พี่ชายผมกลับเป็นฝ่ายส่งข้อความหาพี่ก่อนเหรอเนี่ย
หลินเยียน ทำไม แปลกมากเลยเหรอ
เป็นคู่รักกัน ไม่ได้ส่งข้อความหากันนานขนาดนี้ถึงจะแปลกมากกว่ารึเปล่า
ไม่มีอะไรครับ เผยหนานซวี่กระแอมเบาๆ ไม่พูดต่อ
ถัดมาหลินเยียนก็เปิดข้อความวีแชท จากนั้นก็มองเห็นเนื้อความที่อยู่ข้างใน
เผยอวี้เฉิง [กินไม่รู้รส ยากจะข่มตาหลับ]
กินไม่รู้รส ยากจะข่มตาหลับ?
หลินเยียน …
หลินเยียนจ้องมองข้อความที่มาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยของเผยอวี้เฉิงพร้อมขมวดคิ้วเล็กน้อย
หมายความว่าอะไร
หรือว่าร่างกายเผยอวี้เฉิงมีอาการไม่ดีอีกแล้วงั้นเหรอ
เธอก็บอกแล้ว! สภาพร่างกายแบบนั้นจะเดินทางรอนแรมได้ยังไงกันเล่า!
เผยหนานซวี่ที่อยู่ด้านข้างพอเห็นสีหน้าผิดปกติของหลินเยียนจึงรีบซักถาม มีอะไรเหรอครับ พี่ชายพูดว่าอะไร
หลินเยียนเอาโทรศัพท์ให้เผยหนานซวี่อ่านทันทีด้วยความกังวลใจ เธออ่านข้อความที่พี่ชายเธอส่งมาให้ฉันสิ อาการป่วยเขาแย่ลงรึเปล่านะ
เมื่อเผยหนานซวี่ได้ยินสีหน้าก็เปลี่ยนแปลงเล็กน้อย จากนั้นก็อ่านข้อความนั้นทันที
กินไม่รู้รส ยากจะข่มตาหลับ?
หากว่ากันตามเหตุผล ด้วยนิสัยพี่ชายเขา ไม่มีทางพูดเรื่องแบบนี้กับหลินเยียนแน่…
หลินเยียนกำลังจะส่งข้อความกลับไปถามเผยอวี้เฉิง วินาทีต่อมาก็มีข้อความเข้ามาในโทรศัพท์อีกข้อความหนึ่ง
หลินเยียนรีบเปิดอ่าน จากนั้นก็เห็นว่าเผยอวี้เฉิงส่งข้อความมาอีก
[คุณหลิน คิดถึงเธอจนไม่สบาย]
หลินเยียน …
เผยหนานซวี่ …
อากาศอบอวลไปด้วยความเงียบงันอันน่ากระอักกระอ่วนใจ
อุณหภูมิที่อยู่บนแก้มหลินเยียนพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ จนเกือบจะเดือดพล่านโดยไม่อาจควบคุมได้
เผยหนานซวี่กระแอมเบาๆ ครั้งหนึ่ง จากนั้นก็เบนสายตาออกไปด้วยความรู้สึกเสียมารยาท
ก่อนหน้านี้เผยอวี่ถังบ่นกับเขาตลอดว่ากระทบกระเทือนจิตใจ แต่เขาก็ไม่ได้รู้สึกอะไร พอมาวันนี้ถือว่าได้รับรู้อย่างลึกซึ้งแล้ว
สมัยนี้ชอบหลอกคนโสดให้เข้ามาติดกับแล้วฆ่าทิ้งอย่างงั้นเหรอ
การได้เห็นคนจู๋จี๋กันแบบนี้มันช่าง…กะทันหันเสียจริงเชียว
หลินเยียนหน้าแดงก่ำทันที ผู้ชายคนนี้…ไม่ติดต่อมาหนึ่งสัปดาห์เต็มๆ พอติดต่อก็รุนแรงขนาดนี้เชียว!
ช่วยคิดถึงสมรรถภาพของหัวใจเธอได้ไหม
เพื่อไม่ให้หลินเยียนกระอักกระอ่วนใจ เผยหนานซวี่จึงเดินออกไปอยู่อีกด้านหนึ่งอย่างรู้งานยิ่งนัก
หลินเยียนมองเผยหนานซวี่ด้วยความกระอักกระอ่วนใจแวบหนึ่ง หยิบโทรศัพท์มือถือแล้วเดินหลบมุมด้วยทาทางลับๆ ล่อๆ
เธออ่านข้อความที่เผยอวี้เฉิงส่งมาซ้ำแล้วซ้ำเล่า หัวใจเต้นถี่เร็ว
พับผ่าสิ! ความงามเป็นหายนะจริงๆ ด้วย แบบนี้อีกเดี๋ยวจะให้เธอสงบจิตใจแสดงต่อไปได้ยังไงกันเล่า