เผยตัวตนลับ จับหัวใจเธอ – ตอนที่ 58 ใครบอกว่าฉินหร่านเล่นไวโอลินไม่เก่ง

ตอนที่ 58 ใครบอกว่าฉินหร่านเล่นไวโอลินไม่เก่ง

เผยตัวตนลับ จับหัวใจเธอ – ตอนที่ 58 ใครบอกว่าฉินหร่านเล่นไวโอลินไม่เก่ง

กระดาษหล่นออกมาจากหนังสือของฉินหร่าน พวกเขาจึงเหมาเอาเองว่ามันเป็นของเธอ

แต่ลายมือ…ไม่ใช่ลายของมือของฉินหร่านเลย

ลายมือนี้เป็นลายมือที่ต้องฝึกฝนมาเป็นอย่างดี

ฉินหร่านไม่คิดว่ากระดาษของเธอจะหล่นออกมา

เธอนั่งบนเก้าอี้พลางถือโทรศัพท์มือถือไว้ในมือซ้ายและวางมือขวาไว้บนโต๊ะ เธอต้องคอยระวังมือขวาที่บาดเจ็บ ดังนั้นท่าทางของเธอจึงแปลกออกไปเล็กน้อย

เธอเลิกคิ้วเมื่อเห็นกระดาษ

“ลายมือสวยมากเลย” หลินซือหรานโพล่งออกมาเป็นคนแรก เธอหยิบกระดาษขึ้นมาวางลงบนโต๊ะเพื่อดูเนื้อหาอย่างตื่นเต้น

“ฉินหร่าน เธอก็เป็นแฟนคลับเหยียนซีเหมือนกันเหรอ”

ในกระดาษนั้นเป็นเนื้อเพลงที่เพิ่งปล่อยออกมาของเหยียนซี ในฐานะแฟนคลับ หลินซือหรานจึงรู้โดยทันที

ฉินหร่านส่ายหน้าและขึ้นเสียง “เปล่าสักหน่อย”

“งั้นทำไมเธอมีเนื้อเพลงของเหยียนซีล่ะ” หลินซือหรานถือกระดาษแผ่นนั้นไว้ในมือ

เฉียวเซิงไม่รู้ว่ามันเป็นเนื้อเพลง เขาเอื้อมมือมาแย่งไป “เธอไม่ใช่คนเขียนแน่ๆ ลายมือเธอจะสวยขนาดนี้ได้ไง จริงสิ ใครเป็นคนให้เธอ”

เฉียวเซิงช่างฉลาดจริงๆ

ทันใดนั้นฉินหร่านก็ใจเย็นลง เธอกดมือถือเล่นด้วยมือซ้ายและเอนตัวหัวเราะร่า “อ๋อ เพื่อนบ้านฉันเขียนน่ะ ลายมือเขาสวยไหมล่ะ”

“สวยสิ” หลินซือหรานพยักหน้าอย่างแรงและก้มลงมองอีกครั้ง “เพื่อนบ้านเธอลายมือสวยขนาดเขียนโพสต์ได้เลยใช่ไหม”

“ทำไมเธอไม่หัดเขียนให้มันสวยๆ เองล่ะ” เฉียวเซิงฟึดฟัด

ฉินหร่านมองโทรศัทพ์มือถือของตัวเองและเมินเขา

เมื่อเริ่มเรียน เฉียวเซิงก็กลับไปนั่งที่ของตัวเอง

**

ฉินหร่านต้องเปลี่ยนผ้าพันแผลที่มืออีกครั้ง เฉิงมู่นำยาทั้งหมดไปไว้ที่ห้องพยาบาลตั้งแต่เมื่อวาน

ทั้งสองคนในห้องพยาบาลจะช่วยเธอเปลี่ยนผ้าพันแผล

เมื่อฉินหร่านมาถึงห้องพยาบาล ลู่จ้าวอิ่งที่ยืนอยู่นอกประตูก็เรียกใครบางคน น้ำเสียงของเขาดูจริงจังและเขาโบกมือให้เธอตอนที่เธอเดินผ่าน

เฉิงเจวี้ยนอยู่ในห้องพยาบาล เขานอนเอนหลังบนโซฟาอย่างเกียจคร้านโดยมือคอมพิวเตอร์วางพาดอยู่บนขา ท่าทางของเขาดูเฉื่อยก็จริง แต่เรียวคิ้วสวยกลับแสดงความไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด

“เธอมาแล้วเหรอ” เฉิงเจวี้ยนวางคอมพิวเตอร์ลงข้างๆ แล้วดึงลิ้นชักยาออกมา

เขาทำมือเรียกให้ฉินหร่านนั่งลง จากนั้นจึงนั่งลงข้างๆ เธอ

เขาค่อยๆ แกะผ้าพันแผลออกเผยให้เห็นแผลภายใน เขาเย็บแผลและดูเหมือนแผลจะไม่ดีขึ้นเลย

ในฤดูร้อนเหงื่อจะออกที่ฝ่ามือง่าย ดังนั้นจึงเลี่ยงให้น้ำสัมผัสกับบาดแผลและยาได้ยาก

เฉิงเจวี้ยนใช้นิ้วคีบสำลีมา และค่อยๆ ใช้มันทำความสะอาดแผลร่วมกับยาและแอลกอฮอล์โดยที่ระมัดระวังไม่ให้สัมผัสบาดแผลโดยตรง “เจ็บไหม”

“ไม่เป็นไรหรอก” ฉินหร่านพูดอย่างเฉื่อยชาระหว่างนั่งเท้าคางด้วยมือซ้าย “มันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรขนาดนั้น”

เฉิงเจวี้ยนครางเสียงต่ำ “อืม” และไม่ได้พูดอะไรออกมาอีก แต่การเคลื่อนไหวของเขากลับเบาลงมาก

คิ้วของเขาหลุบลง ขนตายาวๆ คลุมเปลือกตาและโครงหน้าของเขาก็ไม่ชัดเจน

หลังจากใส่ยาเสร็จแล้ว เขาเห็นฉินหร่านลุกขึ้นจะออกไป เฉิงเจวี้ยนจึงถามว่าเธอจะไปไหน

“โรงอาหารน่ะ หลินซือหรานรอกินข้าวกับฉันอยู่” ฉินหร่านก้มมองมือขวาของตัวเองและรู้สึกว่ามันไม่ค่อยเจ็บเท่าเมื่อวาน

เธอบาดเจ็บจึงไปทำงานไม่ได้

ในตอนเช้าหลังเลิกเรียน เธอได้ขอลางานพิเศษที่ร้านขายชานมไข่มุกแล้ว

เธอยังอยากไปเบียดเสียดกับคนอื่นที่โรงอาหารอีกเหรอ

เธอไม่กลัวว่าแผลจะเปิดอีกหรือไง

ริมฝีปากของเฉิงเจวี้ยนคว่ำลง

ฉินหร่านไม่ได้สังเกตจึงแค่โบกมือซ้ายให้ “งั้นฉันไปก่อนแล้วกัน”

เมื่อเธอเดินออกจากประตูไปก็พบลู่จ้าวอิ่งที่เพิ่งคุยโทรศัพท์เสร็จเข้าพอดีจึงกล่าวทักทาย

ลู่จ้าวอิ่งโยนมือถือลงบนโต๊ะก่อนเกาหัวแกรกๆ “เธอจะไปไหนของเธอเนี่ย ทำไมไม่ให้เธออยู่กินมื้อค่ำด้วย”

เฉิงเจวี้ยนเดินกลับมานั่งลงบนโซฟา

เขาเม้มปากและดูเยือกเย็น

ลู่จ้าวอิ่งไม่เข้าใจที่เขาทำท่าทางเช่นนั้น แต่ก็ไม่กล้าเอ่ยปากถาม

เขาทำได้เพียงแค่เปลี่ยนหัวข้อ “รองอธิบดีเสิ่นนั่นไปหาลุงเจียงมา”

เฉิงเจวี้ยนคาบบุหรี่ไว้ก่อนกัดและยิ้มเยาะ “ขี้ขลาดจริงๆ ไหนว่ามีเกียรตินักหนาไง”

ดวงตาของเขาดูเยือกเย็นและไม่มีรอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าแม้แต่นิดเดียว

เฉิงมู่ที่เพิ่งเดินเข้ามา: “…”

คนอื่นอาจถูกบีบให้ตายคามือด้วยนิ้วเดียวได้แบบนั้น รองอธิบดีเสิ่นจะไม่หวาดกลัวได้ยังไง

**

ตระกูลหลิน

เมื่อคุณสวี่กลับมาถึงบ้าน ทั้งหลินฉีและหลินจิ่นเซวียนยังไม่กลับมา

หนิงฉิงนั่งเอาใจเขาอยู่ในศาลาในสวน

ยังไม่มีความคืบหน้าจากทางกรมตำรวจเลย หนิงฉิงรวบรวมข้าวของสามสี่อย่าง ขายเครื่องประดับและนำเงินห้าแสนมาไว้ในบัตรเอทีเอ็ม

วันนี้หลินจิ่นเซวียนนำข่าวเรื่องสวี่เซิ่นมือหักทั้งสองข้างมาบอก

ผลลัพธ์ที่ออกมาช่างเลวร้าย

หนิงฉิงดิ้นรนสืบข่าวและทำทุกทางให้ฉินหร่านไม่ถูกฟ้องและต้องติดคุก

เมื่อคืนนี้เธอนอนไม่หลับและถึงกับต้องใช้รองพื้นมากมายเพื่อกลบรอยดำใต้ตา

เธอไม่คิดว่าคุณสวี่จะมาที่นี่

“คุณนายหลิน” คุณสวี่รู้จักหนิงฉิง

หนิงฉิงถือบัตรเอทีเอ็มไว้ในมือและไม่อยากให้คนในตระกูลหลินมาเห็นเธอตอนที่หมดสภาพ “ป้าจาง ออกไปก่อนเถอะ ฉันจะคุยกับคุณสวี่”

จางเหยียน มองดูท่าทางอึกอักของเธอ แต่ก็ยอมผละไปหลังจากวางกาน้ำชาเสร็จ

“ใครมาน่ะ” ภายในห้อง หลินหว่านถือผ้าคลุมไหล่ไว้ในมือก่อนลงมาข้างล่าง

ป้าจางเม้มปาก เธอเทชาอีกถ้วยให้หลินหว่านและพูดเสียงเบา “จะเป็นใครไปได้ล่ะคะ ก็คุณสวี่ไง ฉันเห็นคุณนายถือบัตรเอทีเอ็มด้วย”

หลินหว่านนั่งลงบนโซฟา หลังได้ยินเช่นนั้นก็ยิ้มออกมา

เธอไม่ได้พูดอะไรออกมาอีก

ด้านนอก

คุณสวี่นั่งลงบนม้านั่งอย่างร้อนใจและไม่รู้ว่าจะพูดอะไร

“คุณสวี่คะ ฉันขอโทษจริงๆ ลูกของฉันน่ะ…. เฮ้อ” เขาไม่ได้แสดงกิริยาใดๆ หนิงฉิงจึงเข้าใจเจตนาของเขาผิด เธอเทชาให้เขาและยอมพูดก่อนโดยทิ้งศักดิ์ศรีไว้ข้างหลัง

เธอไม่กล้าออกไปข้างนอกตั้งแต่เมื่อคืน

เธอไม่กล้าสบตากับคนรับใช้ โดยเฉพาะคนในตระกูลหลิน

หนิงฉิงยกชาขึ้นจิบ “คุณก็รู้ว่าฉินหร่านเป็นยังไง เธอไม่เคยเชื่อฟังตั้งแต่เด็กแล้ว ทั้งที่เธอเรียนไวโอลินก่อนอวี่เอ๋อร์แท้ๆ แต่อวี่เอ๋อร์กลับเล่นเป็นตั้งแต่เกรดเก้า ขณะที่ฝีมือการเล่นไวโอลินของเธอยังไม่เอาไหน แล้วนี่ยังจะมาทำร้ายลูกชายคุณอีก ฉันขายหน้าจริงๆ ที่ต้องพูดเรื่องนี้”

คุณสวี่มาที่นี่ด้วยใจที่สั่นระรัวและต้องคอยดื่มชาเพื่อข่มความประหม่า

เขาไม่คิดว่าหนิงฉินจะพูดอย่างนี้

เขาถือถ้วยชาไว้ในมือและดูสับสนเล็กน้อย “เดี๋ยวนะ คุณนายหลิน”

หนิงฉิงถือบัตรเอทีเอ็มในมือและมองเขา

คุณสวี่มองเธอ “ไม่ใช่แล้ว ใครบอกว่าฉินหร่านเล่นไวโอลินไม่เก่ง เธอออกจะ…”

——

ประกาศ โปรโมชันอ่านฟรี

เรื่อง ‘เผยตัวตนลับ จับหัวใจเธอ’ จะเปิดโปรอ่านฟรีตั้งแต่ตอนที่ 1-60 โดยทีมงานจะอัปเดตนิยายถึงตอนที่ 61 ในวันที่ 18 มี.ค. 64 และจะเปิดให้อ่านฟรี 60 ตอนแรก ตั้งแต่วันที่ 18-22 มี.ค. 64 (ระยะเวลา 5 วัน)

จากนั้นจะเริ่มติดเหรียญตั้งแต่ตอนที่ 51 เป็นต้นไป วันที่ 23 มี.ค. ในราคาตอนละ 300 เหรียญ ทั้งนี้ระหว่างที่มีโปรฯ อ่านฟรี ทางทีมงานจะยังอัปเดตตอนใหม่อย่างต่อเนื่องพร้อมติดเหรียญตามปกติค่ะ

เผยตัวตนลับ จับหัวใจเธอ

เผยตัวตนลับ จับหัวใจเธอ

Status: Ongoing

ด้วยว่าพ่อแม่หย่าร้างกันตั้งแต่ยังเล็ก และ ฉินหร่าน ไม่ใช่เด็กประพฤติดี นอกจากจะไม่ตั้งใจเรียนจนผลการเรียนย่ำแย่แล้ว เธอยังหัวรั้นและก่อเรื่องทะเลาะวิวาทจนโดนพักการเรียนไปเป็นปี แตกต่างจาก ฉินอวี่ น้องสาวที่เป็นนักเรียนดีเด่นผู้แสนเพียบพร้อมราวฟ้ากับเหว ด้วยเหตุนี้แม่ของเธอจึงเลือกพาน้องสาวไปอยู่ด้วยเพียงคนเดียวและทิ้งฉินหร่านเอาไว้ท่ามกลางชนบท ปล่อยให้เธอเติบโตเพียงลำพังในความดูแลของคุณยายวัยชรา

สองยายหลานร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาสิบสองปี จนกระทั่งวันหนึ่งคุณยายเกิดป่วยหนักอาการโคม่าต้องส่งตัวไปยังโรงพยาบาลในเมือง ครอบครัวฉินจึงได้กลับมาพบหน้ากันอีกครั้ง เมื่อคุณยายไม่สามารถดูแลฉินหร่านด้วยตัวเองได้ต่อไปได้อีก แม่ของเธอจึงอาสารับเลี้ยงเธอไว้แทน กระนั้นก็ยังไม่วายเหน็บแนมหญิงสาวอยู่ตลอดว่าอย่าทำตัวน่าขายหน้า ให้เอาอย่างฉินอวี่ผู้เป็นน้องบ้าง

กระนั้นกลับไม่มีใครล่วงรู้เลยว่านอกจากฉินหร่านจะมีใบหน้างดงามเกินเด็กอายุรุ่นราวคราวเดียวกันแล้ว เธอยังมีอีกหนึ่งตัวตนปริศนาที่ซุกซ่อนเอาไว้อยู่ เพราะใครกันล่ะที่ทำข้อสอบกากบาททุกข้อแล้วผลคะแนนสอบจะออกมาได้เท่ากับศูนย์ในทุกๆ วิชา เธอโง่จริงๆ หรือว่าตั้งใจกันแน่…

เช่นเดียวกับ เฉิงเจวี้ยน หมอหนุ่มประจำโรงเรียนที่แสนธรรมดาคนนั้น ทว่า…เขาเป็นแค่หมอประจำโรงเรียนจริงหรือ เมื่อโชคชะตานำพาให้คนสองคนที่ปกปิดตัวตนของตัวเองเอาไว้ได้มาพบกัน หน้ากากของใครจะถูกกระชากออกมาก่อนนะ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท