ตอนที่ 235 เยี่ยม
ฉินจานและซย่าเสี่ยวมั่วออกมาจากร้านกาแฟ แสงอาทิตย์ด้านนอกกำลังดี
“ฉันจะไปเยี่ยมเหยียนเค่อที่โรงพยาบาล เธอจะไปกับฉันไหม” ฉินจานถามขึ้นอย่าง ‘หวังดี’
ซย่าเสี่ยวมั่วกำลังจะปฏิเสธ ก็ถูกฉินจานขัดขึ้นเสียก่อน
“เหมือนเธอจะบอกว่าจะยกเวลาว่างวันนี้ให้ฉันหมดเลยนี่ ในเมื่อเป็นอย่างนี้แล้วเราก็ไปด้วยกันเถอะ”
ซย่าเสี่ยวมั่ว “…” คุณพี่ก็ตัดสินใจง่ายเกิน
เธอยังไม่ทันได้พูดอะไรก็ถูกฉินจานกำหนดกิจกรรมในตอนบ่ายของวันนี้ให้เสร็จสรรพแล้ว ทำได้เพียงถอนหายใจแล้วไปซื้อดอกไม้สองช่อที่ร้านดอกไม้ข้างกัน
“ว้าว มั่วมั่ว เธอซื้อช่อดอกไม้ให้ฉันด้วยเหรอ ขอบคุณนะ” ฉินจานรับดอกลิลลี่ในมือของซย่าเสี่ยวมั่วมาช่อหนึ่ง
ซย่าเสี่ยวมั่วกะพริบตาปริบๆ อย่างใสซื่อ “ช่อนั้นฉันจะให้หลี่หมิงฉวีน่ะ” ถึงปากจะพูดเช่นนั้นแต่ก็เอาช่อดอกไม้ให้ฉินจาน
ฉินจานถือดอกไม้ช่อนี้ในมือแล้วยิ้มอย่างสดใส เธอทำร้ายจิตใจเหยียนเค่อเข้าอีกครั้งแล้ว คราวนี้
ซย่าเสี่ยวมั่วคงไม่ไปเยี่ยมหลี่หมิงฉวีอะไรนั่นแล้วล่ะนะ
เหยียนเค่อนอนราบได้แล้ว เพียงแต่ยังขยับตัวได้ไม่คล่องแคล่วนัก
ตนอยู่กับเสิ่นจิ้งเฉินมานานแล้ว เห็นหน้าเขาแล้วก็รู้สึกรำคาญ
“นี่ นายออกไปนั่งข้างนอกได้ไหม เห็นนายแล้วฉันรำคาญ”
คนที่เพิ่งโดนเรียกกลับเข้ามาเงยหน้าขึ้นจากโน้ตบุ๊ก “นายอย่างหาเรื่องได้ไหม ฉันย้ายที่นั่งสี่รอบภายในเวลาแค่ครึ่งชั่วโมงเองนะ ทำไมนายถึงเรื่องมากแบบนี้”
เหยียนเค่อมองเขาปราดหนึ่ง รู้สึกวุ่นวายใจเป็นอย่างมาก “ไหงมีแค่นายคนเดียวล่ะ ฉันเห็นหน้านายแล้วเอียนจนจะอ้วกอยู่แล้ว ไม่เป็นผลดีต่อการสมานแผลเลย”
“แผลนายอยู่ตรงไหนเหรอฮะ” เสิ่นจิ้งเฉินกำลังวุ่นอยู่กับการเขียนรายงาน อีกสองสามวันก็ต้องกลับเมืองหลวงแล้ว “นายอย่ามากวนฉัน ต่อไปถ้าอยากเจอฉันก็คงไม่โผล่หัวมาเจอนายแล้วนะ”
เพิ่งพูดจบก็ได้ยินเสียงคนเคาะประตู
รออยู่นานก็ไม่มีคนมาเปิดประตู ฉินจานบ่นพึมพำกับซย่าเสี่ยวมั่ว “คงไม่ได้จู๋จี๋กกบน้องพยาบาลอยู่ข้างในหรอกนะ”
ซย่าเสี่ยวมั่วเกือบหลุดเสียงหัวเราะออกมา ยกนิ้วโป้งให้เธอ “จินตนาการยอดเยี่ยม”
เสิ่นจิ้งเฉินเดินมาเปิดประตู เห็นฉินจานก่อนจึงหลีกทางให้ “สวัสดีพี่สะใภ้”
“นายอยู่นี่เหรอ” ตาของฉินจานเบิกโพลง
เมื่อเหยียนเค่อที่อยู่ในห้องได้ยินเสียงฉินจานก็นั่งเล่นโทรศัพท์ต่อไปอย่างเบื่อหน่าย
เสิ่นจิ้งเฉินรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย ก่อนจะพยักหน้า “ใช่สิ ไม่ใช่ฉันแล้วจะใครล่ะ”
ซย่าเสี่ยวมั่วที่ยืนอยู่ข้างหลังหลุดหัวเราะออกมา เธอรู้ว่าฉินจานคิดไปถึงไหนต่อไหนแล้ว เอาภาพพยาบาลสาวมาแทนที่ด้วยเสิ่นจิ้งเฉิน
เสิ่นจิ้งเฉินเห็นน้องสาวตนก็ยกมือขึ้นลูบหัว “แล้วทำไมเธอถึงมาด้วยล่ะเนี่ย”
ซย่าเสี่ยวมั่วกำลังจะเรียกเขา ก็ได้ยินเสิ่นจิ้งเฉินกระซิบเสียงเบาที่ข้างหูเธอ “อย่าเรียกฉันว่าพี่”
“ก็มาหานายไง” ซย่าเสี่ยวมั่วเอาดอกยิปโซในมือยัดให้เสิ่นจิ้งเฉินแล้วว่าไปตามน้ำ
เหยียนเค่อได้ยินเสียงของซย่าเสี่ยวมั่วก็มือกระตุก โทรศัพท์กระแทกเข้าที่โหนกคิ้ว
ด้านหลังโทรศัพท์ของเขาฝังเพชรแท้ จึงหนักกว่าโทรศัพท์แบบอื่น แถมขอบโทรศัพท์ยังกระแทกเข้าที่กระดูกของเขาพอดีอีก เจ็บจนต้องครวญครางออกมา
ฉินจานที่ยืนมองเหตุการณ์ทั้งหมดเงียบๆ หัวเราะออกมาอย่างสะใจ
“เป็นอะไรอีกล่ะ” เมื่อเสิ่นจิ้งเฉินกับซย่าเสี่ยวมั่วเดินเข้ามาก็เห็นเหยียนเค่อนอนตัวแข็งอยู่บนเตียง
เหยียนเค่อเจ็บจนต้องมุดหน้า แล้วดันไปกระทบกับกล้ามเนื้อบริเวณหลังเข้าพอดี ทันใดนั้นจึงนอนตัวแข็งอยู่ในท่าทางแปลกประหลาด เก้ๆ กังๆ
“ไม่เป็นไรใช่ไหม” ฉินจานรีบกดกริ่งเรียกหมอ
เสิ่นจิ้งเฉินยังมีอารมณ์เอาดอกไม้ไปวางไว้บนโซฟา
ซย่าเสี่ยวมั่วยืนอยู่ตรงนั้น ไม่รู้ว่าตนควรจะเข้าไปปลอบใจสักหน่อยหรือไม่
หางตาของเหยียนเค่อเหลือบไปเห็นซย่าเสี่ยวมั่วยืนเหม่ออยู่ตรงนั้น ก็รู้สึกเศร้าใจเป็นอย่างมาก เขาเจ็บจะตายอยู่แล้ว เธอยังมีกะจิตกะใจมายืนเหม่ออยู่อีกเหรอ!
“นายไม่ไปดูหน่อยเหรอ” ซย่าเสี่ยวมั่วดึงปลายเสื้อของเสิ่นจิ้งเฉิน มองดูเหยียนเค่อที่เจ็บปวดทรมาน
ตอนที่ 236 เผลอทำตัวเองบาดเจ็บ
เสิ่นจิ้งเฉินโบกมือปัดอย่างไม่ใส่ใจนัก “ฉันกลัวว่าถ้าเขาเห็นฉันแล้วจะอ้วกออกมาน่ะสิ ฉันก็ไม่อยากไปทำให้อาการหนักกว่าเดิม”
ในใจของเหยียนเค่อราวกับมีพายุหิมะพัดพา เพื่อนคือคนที่เหยียบซ้ำในเวลาสำคัญเสมอ
เมื่อฉินซื่อหลานเข้ามาเห็นว่าในห้องผู้ป่วยคึกคักเช่นนี้ก็แสร้งทำเป็นเอ่ยเสียงขรึม “คนไข้ต้องการพักผ่อน เยี่ยมเสร็จแล้วก็กลับได้แล้วครับ”
ฉินจานเหลือบมองเขาหนึ่งที “นายมีปัญหาอะไรไหม”
พอฉินซื่อหลานเห็นพี่สาวตน ก็กลัวหัวหดทันที “อ้าว พี่สาวสุดสวยของผมทำไมมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะ ข้าน้อยควรจะไปต้อนรับพี่สิ”
เหยียนเค่อที่นั่งง่อยมองพวกเขาคุยกันสนุกสนานก็คำรามขึ้นอย่างเดือดดาล “ฉินซื่อหลาน!”
ฉินซื่อหลานเยินยอพี่สาวตนจนเธอพอใจแล้วจึงมาจัดการเหยียนเค่อ
“นายเอามือออก” เขามองโทรศัพท์อันเลิศหรูนั่นปราดหนึ่งก็รู้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น
เหยียนเค่อปาดน้ำตาที่ไหลออกมาตามธรรมชาติแล้วเอามือออก “ฉันรู้สึกว่ากระดูกฉันจะปูดออกมาเลย”
ฉินซื่อหลานจัดท่าทางที่ถูกต้องให้เขา ถึงแม้ว่าเหยียนเค่อจะเจ็บปวดแต่ก็ไม่ได้โอดครวญอย่างเมื่อก่อน
ฉินซื่อหลานเอ่ยหยอกล้อ “มีสาวสวยนั่งบังคับบัญชาแล้วแตกต่างออกไปเลยนะ ในที่สุดก็ทำให้โรงเชือดกลายเป็นโรงพยาบาลได้สักที”
เหยียนเค่อปวดร้าวไปทั้งตัว เบะปาก รู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก
“นั่นสิ เมื่อวานเขาโอดครวญทั้งวัน วันนี้เช้าก็หาเรื่องไม่หยุด” เสิ่นจิ้งเฉินดึงซย่าเสี่ยวมั่วให้นั่งลงบนโซฟา
ซย่าเสี่ยวมั่วมองดวงตาแดงก่ำของเขาที่ไม่กล้าแม้แต่จะลืมขึ้นมองก็ใจกระตุก ท่าทางจะเจ็บมาก
ฉินซื่อหลานหยิบถุงน้ำแข็งมาประคบให้เขาเพื่อคลายอาการบวม “อย่าขยับตัวมากเกินล่ะ ถ้าถุงน้ำแข็งกระแทกตาอีกฉันก็ช่วยไม่ได้แล้วนะ”
“ไอ้หมอไม่ได้เรื่อง!” เหยียนเค่อใช้ดวงตาที่ยังอยู่ดีเหลือบมองเขาปราดหนึ่ง
ฉินจานนั่งน้ำลายไหลอยู่ข้างๆ “เมื่อไรนายจะทายาให้เขาล่ะ ฉันอยากเห็น”
เหยียนเค่อรับไม่ได้กับการให้ผู้หญิงคนอื่นมาเห็นเนื้อหนังของตน “หยุดคิดไปเลย!”
ฉินซื่อหลานโดนพี่สาวตนคาดคั้นก็ไม่กล้าแม้แต่จะพูดคำว่า ‘ไม่’ ก็เอ่ยอย่างประจบเอาใจ “พี่อยากเห็นตอนไหนผมก็จะทาให้เขาตอนนั้น”
ซย่าเสี่ยวมั่วเห็นเหยียนเค่อเจ็บหนักขนาดนั้นแล้วยังต้องมาโดนแกล้งอีกก็ทนดูไม่ได้ ดึงเสิ่นจิ้งเฉินไว้แล้วเอ่ยเสียงเบา “เขาเจ็บหนักมากไม่ใช่เหรอ ทำไมพวกพี่ทำแบบนี้ล่ะ”
เสิ่นจิ้งเฉินมองน้องสาวตนที่ขนาดยังไม่ได้เป็นอะไรกับเหยียนเค่อแต่ก็เข้าข้างเขาเช่นนี้แล้วก็รู้สึกเจ็บปวดหัวใจ “ตอนเขาแกล้งพวกเราเธอรู้ไหม? เธอควรจะเข้าข้างพี่ชายเธออย่างฉันสิ!”
ซย่าเสี่ยวมั่วเห็นท่าทางรับไม่ได้ของเขา ทำได้เพียงพูดประจบ “ค่ะๆๆ พี่พูดถูกทุกอย่างเลย”
เหยียนเค่อเห็นซย่าเสี่ยวมั่วยิ้มให้เสิ่นจิ้งเฉินอย่างประจบเอาใจผ่านร่องประตู ก็รู้สึกเจ็บปวดในใจ หรือว่าเธอจะชอบเสิ่นจิ้งเฉินจริงๆ
ฉินจานเอาดอกลิลลี่ในมือไปวางไว้บนอกของเหยียนเค่อ “นี่ดอกไม้ที่ซื้อมาให้นาย ขอให้นายหายไวๆ นะ”
ดอกลิลลี่มีกลิ่นน้ำหอมที่แปลกประหลาดฉีดพ่นอยู่ด้านบน เหยียนเค่อได้กลิ่นแล้วก็อยากจาม หยิบขึ้นมาโบกแล้วโยนไปไว้อีกด้าน “ขอบใจนะ”
ซย่าเสี่ยวมั่วรู้สึกสงสารเขาจากใจจริง นึกเสียใจที่มาเยี่ยมเขา
เสิ่นจิ้งเฉินเห็นสีหน้าเจ็บปวดของซย่าเสี่ยวมั่วแล้วก็หมดคำจะพูด ยังไม่ได้เป็นอะไรกันเลยนะเนี่ยทำไมถึงสงสารกันขนาดนี้แล้วล่ะ ถ้าต่อไปคบกันแล้ว ไม่รู้เลยว่าน้องสาวตนจะเข้าข้างเขาขนาดไหน
“เอาล่ะๆ ไม่ต้องทำหน้าสงสารแล้ว เธอเห็นวิทยานิพนธ์ของฉันแล้วเธอควรจะสงสารฉันมากกว่านะ” เสิ่นจิ้งเฉินยกโน้ตบุ๊กของตนมาวางไว้ที่ขาของเธอ
ซย่าเสี่ยวมั่วเห็นหัวข้อแล้วก็ไม่อยากเลื่อนดูต่อไป “ฉันไม่สนใจหรอก ดูมีความรู้มากเกิน” แถมยังลอบมองเหยียนเค่อผ่านร่องประตูต่อด้วย