ตอนที่ 435 ไต่ถามต่อหน้า
ถ้าเหยียนเค่อจะช่วยสวีอันหรานจริงๆ ล่ะก็ เขาคงจะโยนตัวสวีอิ๋งอิ๋งออกไปตั้งตาแรกอย่างที่
สวีอันหรานพูดแล้ว แต่เขาก็ไม่ทำ ดังนั้นเขาคิดว่าสวีอันหรานไม่จำเป็นต้องเอ่ยคำขอบคุณออกมาเลย
เพราะว่า…เขาจงใจให้เป็นแบบนั้น
สวีรั่วชีเห็นสวีอันหรานสวมเสื้อคลุมเตรียมออกไปข้างนอก เมื่อดูเวลาแล้วก็เอ่ยถามอย่างฉงนใจ “สองทุ่มกว่าแล้วนะ พี่จะออกไปไหน”
“เมื่อกี้เหยียนเค่อโทรมาหาฉัน” สวีอันหรานกำลังจะเล่าเรื่องให้สวีรั่วชีฟังตั้งแต่ต้นจนจบ แต่เมื่อ
สวีรั่วชีได้ยินชื่อเหยียนเค่อแล้วกลับอารมณ์เสียขึ้นมา
“ดึกขนาดนี้แล้วเขาจะเรียกพี่ไปทำไม”
“ฉันจะไปหาสวีอิ๋งอิ๋ง”
“อ๋อ” สวีรั่วชีกลับไปนั่งนิ่งๆ ตามเดิม แล้วรอฟังสวีอันหรานพูดต่อ
สวีอันหรานพอจะรู้แล้ว ขอแค่เขาไม่ไปหาเหยียนเค่อ จะไปหาใครก็ได้ทั้งนั้น “วันนี้สวีอิ๋งอิ๋งทำคนของบ้านตระกูลอิ่นโมโหจนต้องเข้าโรงพยาบาล เหยียนเค่อเพิ่งบอกฉันเมื่อกี้ ตอนนี้ฉันต้องไปจัดการเรื่องนี้ก่อน”
“พาฉันไปด้วยสิ” สวีรั่วชีอยู่บ้านคนเดียวก็รู้สึกเบื่อ
สวีอันหรานลูบผมเธอ ถ้าสวีรั่วชีไปด้วยรังแต่จะทำให้จัดการอะไรได้ลำบากขึ้น “ฉันไปแป๊บเดียวเดี๋ยวก็กลับ เธออยู่รอฉันที่บ้านนี่แหละ”
“ค่ะ” สวีรั่วชีพยักหน้า เธอเองก็รู้ว่ายายสวีอิ๋งอิ๋งคิดร้ายต่อตนมากแค่ไหน ไม่อยากไปเพิ่มความลำบากให้สวีอันหรานอีก ทำได้เพียงรออยู่ที่บ้านอย่างว่านอนสอนง่าย
“งั้นพี่รีบไปรีบมานะ”
“อืม”
สวีอิ๋งอิ๋งไม่ได้บอกใครเกี่ยวกับเรื่องนี้ ในใจรู้สึกหวาดกลัวไม่น้อย แต่เมื่อได้ฟังเหยียนเฟิงพูดแล้วก็สงบลง เชื่อว่าถ้าพูดถึงบ้านตระกูลสวีแบบนั้น เหยียนเค่อเองก็คงจบไม่สวยเช่นกัน
ตอนที่สวีอันหรานเรียกพบเธอนั้น สวีอิ๋งอิ๋งยังครุ่นคิดหาวิธีแก้ไขปัญหาอยู่ เมื่อเห็นสวีอันหรานก็รู้สึกลนลานขึ้นมาอีกครั้ง
“พี่”
สวีอันหรานแสดงท่าทางเป็นเชิงให้คุณอาคนรองของตนออกไปก่อน เขามีเรื่องจะคุยกับสวีอิ๋งอิ๋งตามลำพัง “วันนี้เธอไปทำอะไรมา”
สวีอิ๋งอิ๋งนึกไม่ถึงว่าเขาจะซักถามต่อว่าตนโดยไม่พูดพร่ำทำเพลง รู้สึกงุนงงไม่น้อย ก่อนจะเยาะเย้ย “ดึกขนาดนี้แล้วทำไมไม่อยู่บ้านกับรั่วชีล่ะคะ มาหาฉันทำไม”
เธอกำมือแน่นจนเล็บจิกเข้าไปที่ฝ่ามือ
“แค่เจอฉัน ไม่ต้องเครียดขนาดนั้นก็ได้” สวีอันหรานมองมือที่กำหมัดไว้แน่นอย่างไม่ปิดบัง ก่อนจะเอ่ยเตือนด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
อย่างไรเสียเขาก็เป็นลูกพี่ลูกน้องของตน ต่อให้ไม่ชอบ แต่ทั้งคู่ก็มีความเกี่ยวพันกันทางสายเลือด ยิ่งไปกว่านั้นคุณอาคนรองก็สนิทกับพ่อของเขามาก สวีอันหรานเองก็พยายามสุดความสามารถแล้ว
“พี่…”
“เรื่องวันนี้เธอคิดจะจัดการยังไง” สวีอันหรานรู้เหตุการณ์ทั้งหมดของเรื่องนี้แล้ว ตอนแรกเขาแค่อยากจะรู้ว่าสอิ๋งอิ๋งจะพูดความจริงออกมามากน้อยเท่าไร แต่ท่าทางตอนนี้เธอคงไม่พูดอะไรออกมาแน่นอน
สวีอิ๋งอิ๋งได้ยินเขาถามเช่นนี้แล้วก็รีบโยนความผิดให้เหยียนเค่อ “เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับฉันนี่ เหยียนเค่อ
ต่างหากที่ทำให้คุณลุงอิ่นโมโหจนเป็นลมไปน่ะ”
ถ้าเหยียนเค่ออยากทำให้ใครสักคนโมโหจริงๆ คนคนนั้นก็อาจจะถึงตายได้เลย ไม่เหลือหนทางรอดให้หรอก บนใบหน้าของสวีอันหรานยังคงปรากฏรอยยิ้มบางๆ ดูเหมือนจะอ่อนโยน แต่กลับทำให้สวีอิ๋งอิ๋งรู้สึกจนลุกขนพอง
ทั้งคู่ตกอยู่ในความเงียบเนิ่นนาน สวีอันหรานจึงจะเอ่ยขึ้น “จริงสิ เหยียนเค่อให้ฉันมาขอบคุณเธอ”
สวีอิ๋งอิ๋งชะงักไป นึกย้อนไปถึงเหยียนเค่อในตอนนั้น เหมือนว่าเธอจะรู้แล้วว่าความรู้สึกที่ผุดเข้ามาในตอนนั้นคืออะไร ท่าทางเหยียนเค่อคงจะคาดหวังให้เธอทำสำเร็จอยู่แล้ว จากนั้นก็มองดูเธอทำตามแผนที่วางไว้
ถึงเธอจะไม่รู้ว่าทำไมเหยียนเค่อต้องทำเช่นนี้ แต่เธอก็เป็นคนของบ้านตระกูลสวีไม่ใช่หรือไง ทำไมเหยียนเค่อถึงทนมองดูอยู่เฉยๆ ได้
ตอนที่ 436 ปัญหาคลี่คลาย
“ฉันก็ใจกว้างกับซย่าเสี่ยวมั่วขนาดนั้นแล้วนะ เขาจะให้ฉันทำยังไงอีก ถ้าไม่พอใจก็ถอนหมั้นไปสิ” สวีอิ๋งอิ๋งรู้ว่าเรื่องนี้ย้อนกลับมาแก้ไขไม่ได้อีกแล้ว เธอคิดแผนร้ายแต่กลับกลายเป็นว่าไปช่วยเหยียนเค่อให้ทำสำเร็จเสียอย่างนั้น
สวีอันหรานนิ่งไปแล้วลูบคาง ที่แท้ก็มีเบื้องลึกเบื้องหลังอื่นอีกหรือนี่ ก่อนจะถามเสียงเรียบ “เธอคุยกับเหยียนเค่อเรื่องซย่าเสี่ยวมั่วแล้วเหรอ”
สวีอิ๋งอิ๋งพูดคำเดิมซ้ำอีกครั้งราวกับกำลังแสดงออกว่าตัวเองใจกว้างมากเพียงไหน สวีอันหราน
มองสวีอิ๋งอิ๋งปราดหนึ่งก่อนจะสายหัว เด็กนี่โง่เกินจะเยียวยาแล้ว “เธออยู่บ้าน ห้ามออกไปไหน ฉันจะปรึกษาเรื่องนี้กับคุณพ่อของเธอแน่นอน”
“พี่!” สวีอิ๋งอิ๋งไม่รู้ว่าตนพูดผิดตรงไหน ทำไมต้องกักบริเวณเธอด้วยล่ะ
“ถ้าเธอปล่อยคนนี้หลุดมือไปล่ะก็…” สวีอันหรานพูดคลุมเครือ สื่อความนัยไม่ชัดเจน
สวีอิ๋งอิ๋งพอจะเข้าใจแล้ว ไม่ว่าตนทำอะไรล้วนอยู่ภายใต้ผลประโยชน์ของบ้านตระกูลสวีอยู่ดี ขอแค่เกี่ยวกับผลประโยชน์ของบ้านตระกูลสวี คนที่ต้องเสียสละก่อนคนแรกก็คือเธอ
สวีอิ๋งอิ๋งมองสวีอันหรานเดินออกไปจากห้องของตน ก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาอย่างห่อเ**่ยว
มิน่าเหยียนเค่อถึงไม่พอใจ สวีอันหรานพอจะเข้าใจแล้ว ถ้าสวีรั่วชีถูกผู้หญิงคนอื่นเหยียดหยามแบบนี้บ้าง เขาก็คงทนไม่ได้เช่นกัน นับประสาอะไรกับคนที่ชอบปกป้องอย่างเหยียนเค่อ
ถ้าสวีอิ๋งอิ๋งไม่พูดว่าซย่าเสี่ยวมั่ว เหยียนเค่อก็คงไม่ปล่อยให้เรื่องราวบานปลายแบบนี้ แต่สวีอิ๋งอิ๋งกลับต่อว่าซย่าเสี่ยวมั่ว เหยียนเค่อก็ต้องโดยนความผิดทุกอย่างไปให้สวีอิ๋งอิ๋งแน่นอนอยู่แล้ว และทำลายสถานะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกระหว่างบ้านตระกูลสวีกับเหยียนกรุ๊ปได้โดยไม่รู้ตัว
สวีอันหรานคุยกับคุณพ่อของสวีอิ๋งอิ๋งเกือบสองชั่วโมง เขาเล่าเรื่องราวทั้งหมดตั้งแต่ต้นจนจบให้คุณอารองของตนฟัง สวีอันหรานบอกเขาอย่างใจกว้างแล้วว่า ขอแค่สวีอิ๋งอิ๋งอยู่กับบ้านเฉยๆ สักระยะหนึ่ง แล้วเขาจะออกหน้าจัดการเรื่องนี้เอง
คุณพ่อของสวีอิ๋งอิ๋งเห็นด้วยกับวิธีของสวีอันหราน ข้อแรกคือ เขาเป็นผู้สนับสนุนรายหนึ่งของสวีอันหราน อีกข้อหนึ่งคือ เขาเป็นพ่อของสวีอิ๋งอิ๋ง วิธีของสวีอันหรานเป็นการคิดเพื่อวงศ์ตระกูล เขาไม่มีเหตุผลอะไรที่จะห้าม
สวีอันหรานก็คาดเดาเอาไว้แล้วว่าต้องผ่านไปได้อย่างราบรื่น เพียงแต่คุยกันหลายเรื่องไปหน่อย ทำให้ใช้เวลามากไปโดยไม่รู้ตัว
“นี่ก็ดึกแล้ว แกกลับไปอยู่กับเมียเถอะ” คุณอารองเอ่ยเตือน ก่อนจะหัวเราะชอบใจแล้วตบบ่า
สวีอันหราน “มีเมียแล้วก็อย่าทำงานไม่ห่วงหน้าห่วงหลังอย่างเมื่อก่อนล่ะ ดูแลครอบครัวมากหน่อย ขอโทษที่เรื่องอิ๋งอิ๋งทำให้แกลำบากนะ”
“เรื่องนี้เหยียนเค่อจัดการไปบ้างแล้วครับ ผมก็ช่วยไม่มากนักหรอก” เพื่อเป็นการขอบคุณ
เหยียนเค่อ สวีอันหรานจึงแสดงภาพลักษณ์ผู้ชายสมบูรณ์แบบของเหยียนเค่อต่อหน้าพ่อตาในอนาคตของเขาอีกครั้ง
“อืม” คุณอารองพยักหน้าอย่างพึงพอใจ “ถ้าว่างก็ให้เหยียนเค่อมากินข้าวที่บ้านสักมื้อนะ ไม่ได้เจอเขาตั้งนานแล้ว”
“ครับ” สวีอันหรานลอบยิ้มในใจ มันบอกว่าไม่ต้องให้เขาขอบคุณใช่ไหม งั้นก็ให้พ่อตาของเขาขอบคุณเองก็แล้วกัน
เหยียนเค่อไม่ได้พูดคุยกับผู้ใหญ่คนอื่นในบ้านตระกูลสวีเลย ทั้งตระกูลสวีเหยียนเค่อ คนที่รู้จักและจำชื่อได้ก็มีแต่ครอบครัวของสวีอันหรานเท่านั้น กับคุณอาคนรองของสวีอันหรานนั้นก็มีเพียงการไปมาหาสู่กันทางธุรกิจเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น จึงแทบไม่เคยได้เจอกันเลย ไม่ต้องพูดถึงการคุยกันแบบต่อหน้าเลย
สวีรั่วชีรออยู่ที่บ้านจนรำคาญใจแล้วก็ตัดสินใจโทรหาสวีอันหราน
“เสี่ยวชี”
“เมื่อไหร่พี่จะกลับ!” สวีรั่วชีอยู่ดึกไม่ไหว อยากไปนอนแล้ว แต่สวีอันหรานยังไม่กลับมาเธอก็ไม่กล้านอน ทำได้เพียงฝืนทนต่อไป
“จัดการปัญหาได้หรือยัง”
สวีอันหรานก้าวเข้าไปนั่งในรถ “อืม เรียบร้อยนานแล้ว การที่สวีอิ๋งอิ๋งไม่ออกมาปรากฏตัวในที่สาธารณะ ปัญหาก็คลี่คลายไปได้ครึ่งหนึ่งแล้ว”
“ในเมื่อมันง่ายขนาดนั้น แล้วทำไมพี่ถึงยังไม่กลับอีก!” สวีรั่วชีฟังจบก็ยิ่งหงุดหงิดยิ่งกว่าเดิม จัดการปัญหาเสร็จตั้งนานแล้วแต่ยังไม่ยอมกลับบ้านอีก
“ครับๆๆ” สวีอันหรานตอบรับรัวๆ ความรู้สึกที่มีคนรออยู่ที่บ้านนี่มันดีจริงๆ เลย ไม่เหมือน
เหยียนเค่อ ตัวคนเดียวแล้วยังจะมาทำลายชีวิตคู่อันแสนสุขของเขาอีก