ตอนที่ 475 ทำใจให้สงบ
ซย่าเสี่ยวมั่ววิ่งตึงตังออกมาจากห้องครัว ปรู๊ดเดียวก็มายืนหยุดอยู่ข้างๆ สวีรั่วชี ก่อนจะถามอย่างสะอกสนใจ “เธอท้องหรือเปล่า”
“ไปไกลๆ เลย!” สวีรั่วชีผลักหน้าเธอออกไป
ซย่าเสี่ยวมั่วยืดตัวขึ้นหลบหลีกการโจมตี เธอไม่เข้าใจอาการโมโหกลบเกลื่อนความเหนียมอายของสวีรั่วชีเลยสักนิด “เธอเรียนหมอมานะ เรื่องพวกนี้มีอะไรให้อายกัน”
“เธอไม่อายหรือไง! เธอท้องหรือไง!” สวีรั่วชีหยิกท้องเธอ
จู่ๆ วิญญาณดราม่าควีนก็เข้าร่างซย่าเสี่ยวมั่ว เธอกุมท้องตัวเองแล้วทรุดตัวลงไปนั่งบนพื้น ก่อนจะร้องครวญครางอย่างเจ็บปวด “เสี่ยวชี ลูกฉัน!”
“หุบปากไป!” สวีรั่วชีทนไม่ไหวจึงหยิบหนังสือเล่มหนึ่งตีเข้าที่ศีรษะของเธอ “วันๆ หนึ่งสมองเธอคิดอะไรบ้างน่ะหา ช่วยคิดอะไรให้มันปกติหน่อยได้ไหม!”
“จ้าๆๆ ฉันจะคิดให้ปกตินะ” ซย่าเสี่ยวมั่วกลอกตา ม้วนแขนเสื้อขึ้นแล้วกลับไปล้างจานต่อ ปากก็พึมพำไม่หยุด “ถ้ารู้ว่าเธอไม่ได้ท้องจริง ให้ตายฉันก็ไม่ไปแข่งม้าแทนเธอหรอก”
สวีรั่วชีกุมขมับ ให้เธอได้รู้สึกซาบซึ้งใจนานกว่านี้สักหน่อยไม่ได้หรือไง ทว่าปัญหาที่ซย่าเสี่ยวมั่วเอ่ยถึงทำให้เธอเกิดความรู้สึกแปลกๆ ขึ้นในใจ เกิดการคาดเดาที่เธอไม่ค่อยมั่นใจเท่าไรนัก รู้สึกเหมือนสายฟ้าฟาดผ่าลงมาในยามท้องฟ้าแจ่มใส คงไม่จริงหรอกมั้ง…
ซย่าเสี่ยวมั่วกำลังล้างจานอยู่ แต่โทรศัพท์ที่วางอยู่บนเคาน์เตอร์จนเกือบจะตกลงไปในอ่าง
“ฮัลโหล สวัสดีค่ะ ซย่าเสี่ยวมั่วค่ะ”
“ซย่าเสี่ยวมั่ว เธอทำอะไรน่ะ” อันหร่านไม่เคยเห็นซย่าเสี่ยวมั่วรับโทรศัพท์อย่างจริงจังเช่นนี้มาก่อน
ซย่าเสี่ยวมั่วได้ยินว่าเสียงเธอแปลกไป จึงวางมะเขือเทศที่เพิ่งล้างเสร็จในมือลง “เธอโทรหาฉันทำไม”
“ทำไมเสียงเธอแหบต่ำจังล่ะ”
“แหบต่ำงั้นเหรอ” ซย่าเสี่ยวมั่วถามกลับ ก่อนจะตอบอย่างไม่ยี่หระ “ช่วงนี้เปลี่ยนสไตล์เป็นเซ็กซี่แล้วน่ะ”
อันหร่านนึกว่าเธอจะพูดอะไร ที่แท้ก็แค่พูดตลกเท่านั้น “ให้มันน้อยๆ หน่อยย่ะ หนังหุ้มกระดูกอย่างเธอจะเอาอะไรมาเซ็กซี่”
“เหอะๆ” ซย่าเสี่ยวมั่วไม่ได้โต้กลับ เธอเหนื่อยจะตายอยู่แล้ว อยากจะกลับห้องครัวไปเอนหลังสักหน่อย “เธอมีอะไรก็รีบพูดมา ฉันจะไปนอนแล้ว”
“เธอก็เอาแต่นอนทั้งวัน งานการก็ไม่ทำ”
“เหอะๆ แน่นอนสิจ๊ะ ฉันจะไปจู๋จี๋กับหนุ่มหล่อ มีเวลาไปทำงานที่ไหนเล่า” ซย่าเสี่ยวมั่วพลิกตัวกลิ้งลงบนเตียง เธอยังพักผ่อนไม่พอเลย เรื่องงานการก็ช่างมันไปก่อนแล้วกัน
อันหร่านไม่อยากจะบ่นเรื่องการไม่คิดจะทำการทำงานของเธอแล้ว แถมเธอยังมีเรื่องที่สำคัญกว่าที่ต้องถามความคิดเห็นจากซย่าเสี่ยวมั่วด้วย
“หัวหน้าบก.เราชวนฉันไปกินข้าวแหละ”
“อืม” ซย่าเสี่ยวมั่วยังไม่รู้สึกตัว เธอยังรอคอยคำพูดต่อจากนั้นอยู่ หลังจากเธอครุ่นคิดภายใต้ความเงียบสงัดนั้นแล้วก็อดถามขึ้นอีกครั้งไม่ได้ “เธอว่าอะไรนะ”
“ฉันบอกว่าหัวหน้าบก.เราชวนฉันไปกินข้าว ฉันจะทำยังไงดี”
“หัวหน้าบก.คนเก่าใช่ไหม” ซย่าเสี่ยวมั่วคาดไม่ถึงว่าความรักในวัยผู้ใหญ่ของอันหร่านจะมาไวขนาดนี้ ทำไมถึงไม่มีคนที่เธอชอบมาสารภาพรักกับเธอบ้างเลยล่ะ!
“ใช่” อันหร่านพยักหน้าอย่างเศร้าซึม
“ก็ไปสิ หรือว่าเธอยังกลัวว่าเขาจะอย่างนู้นอย่างนี้กับเธอ” ซย่าเสี่ยวมั่วเป็นคนคิดแบบตรงไปตรงมา เรื่องที่ไม่มีใครรู้แบบนี้มีอะไรให้ต้องกลัวกัน จะมามัวแต่กลัวแล้วหลบหน้าเพราะตัวเองชอบเขา ถ้าพลาดโอกาสดีๆ ไปจะทำอย่างไร
อันหร่านยอมรับว่าบางเรื่องที่เกิดขึ้นก็ทำให้เธอขี้ขลาดเหมือนกัน เธอเอ่ยอย่างน่าสงสาร “ฉันกลัว”
“ไม่มีอะไรน่ากลัวสักหน่อย” ก่อนที่ซย่าเสี่ยวมั่วจะขี่ม้าก็กลัวเช่นกัน ถึงแม้ว่าในภายหลังตนสามารถขี่ม้าได้เป็นเพราะเหยียนเค่อถึงแปดสิบเปอร์เซ็นก็เถอะ แต่ประเด็นสำคัญอยู่ที่เธอสามารถเอาชนะความกลัวยี่สิบเปอร์เซ็นนั้นต่างหาก จึงสามารถขึ้นขี่ม้าได้
ตอนที่ 476 เด็กสาวผู้ฉลาดหลักแหลม
“เธอก็พูดง่ายสิ” หัวใจของอันหร่านเหมือนกับลูกบอลขนที่ถูกฉีกออก รู้สึกคันยุบยิบ วุ่นวายใจ จับต้นชนปลายไม่ถูก
ของแบบนี้ต้องสัมผัสด้วยใจ แสดงออกมาเป็นคำพูดไม่ได้ ซย่าเสี่ยวมั่วก็ไม่มีปัญญาไปเพิ่มความกล้าหาญให้เธอหรอก ทำได้เพียงเอ่ยให้กำลังใจแบบขอไปทีเท่านั้น “เธอลองคิดดูว่าบก.ของเธอกำลังรอเธออยู่ท่ามกลางลมฝนพายุขนาดไหน เธอไม่สงสารเขาเหรอ”
“ทำไมเขาต้องรอฉันอยู่ท่ามกลางลมฝนพายุด้วยล่ะ” อันหร่านขยะแขยงคำที่เธอใช้
“ก็เพราะหัวใจโดนทำร้ายมานานยังไงล่ะสาวน้อย เธอนี่ไม่สนุกเลย” ซย่าเสี่ยวมั่วพลิกตัวตะแคงไปหยิบรุปภาพที่วางอยุ่บนตู้หัวเตียง ก่อนจะมองดูคนในรูปภาพอย่างพึงพอใจ “ถ้าเธอมีเขาอยู่ในใจก็รักษาเขาไว้ให้ดีล่ะ อย่าชักช้า”
“พูดได้ดี” อันหร่านหมดแรงจะเถียง เธอไม่มีความกล้าจริงๆ นั่นแหละ เมื่อก่อนก็ไม่ได้มีความรู้สึกที่เกินเลยไปกว่าเพื่อนร่วมงาน แต่เพราะว่าซย่าเสี่ยวมั่วพูดเตือนเป็นนัยๆ ทำให้ตอนนี้เธอเริ่มรู้ตัวแล้วว่าที่แท้เธอนั้นชอบหัวหน้าบก.คนเก่าของตัวเองหรือเปล่า
“รักษาไว้ให้ดี เธอลองคิดนะ ถ้าวันนี้เขาจะเอาการ์ดแต่งงานมาให้เธอล่ะ หรือเป็นการ์ดเชิญไปงานเลี้ยงฉลองลูกชายอายุครบหนึ่งเดือนล่ะ เธอไม่ต้องคิดมากขนาดนั้นได้ไหม วันดีๆ ไม่ได้มีทุกวันหรอกนะ” ซย่าเสี่ยวมั่วก็แค่พูดไปอย่างนั้นแหละ นึกไม่ถึงว่าเธอจะทายถูก
อันหร่านพยักหน้า “เธอก็พูดถูก” แต่ฟังคำที่ซย่าเสี่ยวมั่วพูดแล้วก็รู้สึกไม่สบอารมณ์
เบลล์ยืนฟังซย่าเสี่ยวมั่วพูดอยู่ข้างๆ อดหัวเราะไม่ได้
ความจริงแล้วผู้หญิงคนนี้ฉลาดหลักแหลมมาก มีแค่ตอนที่อยู่ต่อหน้าเหยียนเค่อเท่านั้นแหละ เธอถึงจะดูเอ๋อๆ บ๊องๆ ไปบ้าง พวกคนรอบข้างน่าจะโดนเหยียนเค่อล้างสมอง ถึงบอกว่าซย่าเสี่ยวมั่วเป็นเด็กโง่
“ความคิดประหลาดมากเลยใช่ไหมคะ” อันหร่านวางสายแล้วหันไปมองเบลล์ที่ยืนหัวเราะอยู่ข้างๆ
“ฉันว่าเขาก็พูดถูกนะคะ” เบลล์พูดตามตรง “ในชีวิตมีเรื่องนอกเหนือความคาดหมายมากมาย สิ่งที่คุณจินตนาการก็มีแต่สิ่งที่คุณอยากให้เกิดขึ้นหรือไม่ก็ไม่อยากให้เกิดขึ้น แต่เหตุการณ์จริงๆ ก็ไม่ได้เกิดขึ้นตามสิ่งที่คุณจินตนาการนี่คะ”
ความรู้สึกเหมือนดอกไม้บานในใจของอันหร่านโดนสองคนนี้ทำลายลงไปเสียหมด จึงกลับไปเปลี่ยนชุดที่ห้องทำงานเพื่อไปตามนัดแต่โดยดี
เบลล์นั่งบนเก้าอี้ ทอดสายตามองไกลออกไป เธอเพิ่งใช้ชีวิตอันเรียบง่ายไปเพียงไม่กี่วัน ก็ทำให้เธอลืมความเจ็บปวดเสียใจที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ไปได้ ความรู้สึกที่ว้าวุ่นใจเพราะคนที่ตัวเองชอบเหมือน
อันหร่านนั้น เธอไม่ได้สัมผัสมันมาหลายสิบปีแล้ว
ชีวิตหลังจากนี้ ทางที่ดีก็คือหาใครสักคนมาร่วมใช้ชีวิตที่แสนเรียบง่ายนี้ไปด้วยกัน
ซย่าเสี่ยวมั่วกอดรูปภาพแล้วนอนหงายลงกับเตียง เธอไม่มีจินตนาการแบบอันหร่านเลยสักนิด ผู้ชายรูปหล่อถ้าไม่เป็นของคนอื่นก็ต้องเป็นของเธอ ถ้าไม่เกี่ยวข้องกับเธอก็ต้องเป็นคนที่มีสายเลือดเดียวกัน เธอคาดเดาไว้แล้วล่ะ ว่าชีวิตต่อจากนี้ของตนคงหมดหวังกับการสารภาพรักและการแต่งงานแล้ว
ซย่าเสี่ยวมั่วยังคงล่องลอยอยู่ในความเพ้อฝันเกี่ยวกับหนุ่มหล่อรูปงาม จู่ๆ ก็มีมือหนึ่งฟาดเข้าที่ขาของเธอ เล่นเอาสะดุ้งไปทั้งตัว
“ทำอะไรเนี่ย!” ซย่าเสี่ยวมั่วเห็นสวีรั่วชีที่ยืนอยู่ตรงปลายเท้าแล้วอยากจะยกขาถีบออกไปจริงๆ
“ฉันรู้สึกถึงลางไม่ดี” สวีรั่วชีพูดกับซย่าเสี่ยวมั่วอย่างลับๆ ล่อๆ
“ลางไม่ดีอะไรเธอถึงต้องมาปลุกฉันด้วยหา!” ซย่าเสี่ยวมั่วถีบเข้าที่ขาของเธอเบาๆ
สวีรั่วชีกอดขาซย่าเสี่ยวมั่วไว้ด้วยสีหน้าโมโหปนเศร้าใจ “ทำไมฉันรู้สึกว่าฉันมีแล้วกันนะ”
“มีอะไร” ซย่าเสี่ยวมั่วกำลังจะแกะมือเธอออก ก็เพิ่งจะจับใจความได้ว่าอีกฝ่ายพูดอะไรออกมา เผลอแผดเสียงสูงโดยไม่รู้ตัว “ท้องเหรอ!”
“เบาๆ หน่อยสิ! จะทำให้ฉันหัวใจวายตายหรือไง” สวีรั่วชีถลึงตาใส่เธออย่างไม่ชอบใจ คนที่ก่อนหน้านี้บอกว่าเธอท้องก็คือซย่าเสี่ยวมั่ว แต่ตอนนี้เขากลับมีรีแอคชั่นเว่อร์ที่วังเสียอย่างนั้น ช่างประหลาดเสียจริง
“ฉันอยากให้เธอหัวใจวายตาย” ซย่าเสี่ยวมั่วขบฟันด้วยท่าทางน่าสะพรึงกลัว ถ้าทำให้เขาตายได้เธอก้จะได้นอนอย่างสงบสุขเสียที