ตอนที่ 529 รู้สึกแปลกๆ
สวีอันหรานนึกว่าเหยียนเค่อหลับไปแล้ว เขาจึงไปดูข่าวแก้เบื่อ ขณะบิดเอวแก้เมื่อยตาก็เหลือบไปเห็นหนังสือที่เหยียนเค่อวางไว้บนเตียง จึงเดินไปกะว่าจะหยิบมาอ่าน ปรากฏว่าพอเอื้อมมือไปแตะมุมหนังสือ เหยียนเค่อที่ดูเหมือนกำลังจะปล่อยหนังสือก็กลายเป็นจับแน่นขึ้น จากนั้นก็ดึงไปกอดเอาไว้
สวีอันหรานยืนอึ้งอยู่ตรงนั้น มันคือหนังสืออะไรเหยียนเค่อถึงได้ดูหวงแหนราวกับสมบัติล้ำค่า ชายหนุ่มชะโงกหัวไปมอง พยายามพิจารณาตัวหนังสือที่อยู่บนปก และก็เห็นว่ามันเขียนว่า ‘มั่วอวี๋’ สองคำ ใจก็เริ่มคิด “เป็นของนักเขียนขั้นเทพคนไหนกันนะ ถึงกอดไม่ปล่อยขนาดนั้น”
ข้อมือของเหยียนถูกแกะเบาๆด้วยฝีมือของสวีอันหราน ชายหนุ่มลืมตาขึ้นอย่างเสียไม่ได้ ก้มมองเพื่อนตัวเอง “นายปล่อยมือซะที”
สวีอันหรานตกใจจนแทบกระโดด ถอยหลังไปหนึ่งก้าว “นายช่วยส่งเสียงให้รู้ตัวก่อนไม่ได้หรือไง”
“นายเอาแต่แกะมือฉันแบบนี้ไม่คิดเลยหรือไงว่าฉันอาจตื่นขึ้นมา” เหยียนเค่อขยับตัวไปพิงหัวเตียงแล้วเอ่ยพูดกับเพื่อน
สวีอันหรานลูบปลอบขวัญตัวเอง “ฉันนึกว่านายจะหลับลึกไง”
เหยียนเค่อนอนไม่หลับมาหลายวันแล้ว ชายหนุ่มเท้าแขนมองไปยังเพดาน เอ่ยประโยคที่ดูไม่สมเหตุสมผลออกมา “เวลาที่นายเกลียดใครสักคน นายก็ไม่อยากเห็นเขาใช่ไหม แม้เวลาเราจะชดใช้ให้เขาไปมากแล้ว”
สวีอันหรานขบคิดตาม “ไม่สิ ฉันเกลียดเขาแล้วทำไมฉันต้องเป็นคนชดใช้ ฉันเกลียดขนาดนั้นแล้ว ต้องให้คนๆนั้นเป็นคนชดใช้สิถึงจะถูก”
เหยียนเค่อเอียงคอมองเพื่อน ยังไงก็รู้สึกว่าคำพูดของเพื่อนตนดูไม่ค่อยน่าเชื่อถือ
“แต่ว่า…” สวีอันหรานเริ่มกลับคำพูด “บางทีก็อาจจะเป็นเพราะไม่ได้สนใจ เพราะถ้าไม่สนใจไม่ว่าจะเจอหรือไม่เจอก็…”
ชายหนุ่มยังพูดไม่ทันจบ ก็สังเกตเห็นสีหน้าที่ดูแย่ลงของเพื่อน สุดท้ายก็เลยหยุดพูดไปโดยปริยาย
“ตอนนี้ฉันไม่อยากเห็นหน้านาย” เหยียนเค่อพูดออกมาจากใจ
สวีอันหรานคิดแล้วคิดอีกถึงนึกขึ้นได้ เอ่ยถามอย่างไม่อยากจะเชื่อ “เมื่อกี้ที่นายพูดคงไม่ได้หมายถึงซย่าเสี่ยวมั่วหรอกใช่ไหม”
เหยียนเค่อไม่ปฏิเสธ หลับตาลงด้วยความไม่อยากตอบคำถาม
สวีอันหรานอดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้ คลานไปบนเตียง “ซย่าเสี่ยวมั่วไม่อยากเจอนายเหรอ หล่อนพูดออกมาเองหรือไง”
เหยียนเค่อใช้มือดันเพื่อนที่ขยับตัวมาทางเขา พร้อมเอ่ยเตือน “ถ้านายยังขยับมาอีก ฉันจะไม่เกรงใจแล้วนะ”
สวีอันหรานรีบลงไปจากเตียงแล้วไปเปิดดูกระเป๋าเดินทางของเพื่อน
“นายจะทำอะไร” เหยียนเค่อชะโงกตัวไปมองอย่างไม่เข้าใจ เพื่อนงี่เง่านี่จะทำอะไรน่ารำคาญอีกนะ
สวีอันหรานรื้อชุดลำลองของเหยียยนเค่ออกมาอีกตัวแล้วก็จัดการเปลี่ยนให้ตัวเอง จากนั้นก็กระโจนไปหาเหยียนเค่อ ทำให้ชายหนุ่มตกใจจนเกือบจะยกเท้าขึ้นถีบออกไป
“นายอยากตายหรือไง” สวีอันหรานตกใจรีบกลิ้งไปทางอีกด้านของเตียง ขยับมาห่างเล็กน้อยไม่ให้เหยียนเค่อถีบถึง
เหยียนเค่อใช้เท้าเตะขาเพื่อน พูดอย่างโมโห “ลงไปจากเตียงเดี๋ยวนี้”
“ไม่ไป” สวีอันหรานปฏิเสธ พูดออกมาอย่างไม่อาย “ซย่าเสี่ยมั่วไม่มา ฉันนอนเป็นเพื่อนนายเอง”
“ฉันไม่อยากนอนกับนาย ลงไปเดี๋ยวนี้”
เหยียนเค่อกระชากแขนเสื้อ ดูท่าจะเริ่มลงมือแล้ว แต่สวีอันหรานก็ยังคงดื้อด้านไม่ยอมลงไปจากเตียง เหยียนเค่อก็ไม่กล้าออกแรงผลักเพื่อนลงไป ทั้งคู่ฉุดกระชากกันอยู่สักพักก็เหนื่อยจนยอมหยุดกันไปเอง
“นอนกับฉันเดี๋ยวนายก็นอนหลับเองแหล่ะ” สวีอันหรานเหนื่อยจนเริ่มสะลึมสะลือ
เหยียนเค่อรู้สึกประหลาดอย่างอธิบายไม่ถูก ยกแขนไปสะกิดแขนเพื่อน “นายร่วมเรียงเคียงหมอนไปกับสวีรั่วชีแล้วค่อยมานอนกับฉัน ทำไมฉันรู้สึกว่ามันแปลกๆ”
สวีอันหรานที่ถูกปลุกเริ่มไม่สบอารมณ์ “มันแปลกยังไง”
“ฉันนอนกับเมียฉันมันจะไปเทียบกับนอนบนเตียงกับนายกันได้ยังไง” สวีอันหรานพึมพำอย่างไม่สบอารมณ์
ตอนที่ 530 เผชิญหน้ากับความจริง
เหยียนเค่อนิ่งคิดไปพักหนึ่ง ก็นึกได้ว่ามันแปลกตรงไหน เขาเอาแต่คิดว่าที่ที่เขานอนอยู่มันเป็นที่ของสวีรั่วชี ทำให้ยิ่งคิดยิ่งรู้สึกแย่เข้าไปใหญ่ หันไปมองสวีอันหรานที่กำลังสะลึมสะลือแวบหนึ่งจากนั้นก็ดันตัวลุกขึ้นจากเตียง
ชายหนุ่มหยิบหนังสือการ์ตูนที่ซย่าเสี่ยวมั่วเป็นคนวาดมาเปิดดู หน้าปกหนังสือมีลายเซ็นของหล่อนเซ็นอยู่ หนังสือเล่มนี้เนื้อหนาหวานเสียใจเขารู้สึกเจ็บปวด หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิด ไม่รู้อะไรดลใจให้กดเข้าไปในวีแชทแล้วก็นึกขึ้นมาได้ว่าซย่าเสี่ยวมั่วจะอัพผลงานของหล่อนลงในวีแชททุกวัน
เริ่มตั้งแต่วันแรกที่มีฝนตก จากนั้นก็เป็นภาพลานหญ้าหน้าบ้าน แล้วก็ต่อด้วยภาพสะพานเล็กๆที่มีแม่น้ำไหลผ่าน ทุกๆวันล้วนเป็นภาพวิวทิวทัศน์รอบตัวหล่อนที่ดูไม่ซ้ำเดิมเลย ทุกภาพที่หล่อนโพสต์จะมีตัวหนังสือเขียนกำกับอยู่ด้วย เช่น ฝนตกที่นี่อีกแล้ว ลานหญ้าที่เพิ่งจะพบ เป็นต้น เมื่อเหยียนเค่อเห็นตัวหนังสือที่เขียนว่า ‘ซีเหยียน’ ก็ตะลึงไปครู่หนึ่ง จากนั้นรีบเข้าไปเช็คข้อมูลบันทึกการเข้าพักของซย่าเสี่ยวมั่วทันที ไม่คิดว่าหล่อนอยู่ใกล้แค่ปลายจมูกเท่านั้นเองแต่เขากลับไม่เคยรู้เลยว่าหล่อนอยู่ที่ไหน
ขณะที่เหยียนเค่อกำลังนิ่งอึ้งอยู่นั้น ซย่าเสี่ยวมั่วก็อัพเดตโพสต์ใหม่ คราวนี้ไม่ใช่ภาพวาดแต่เป็นภาพถ่าย ดูเหมือนว่าน่าจะเป็นที่สนามบิน ถึงแม้จะไม่มีป้ายบอกชัดเจน แต่ภาพของผู้คนที่เดินขวักไขว่ไปมา รวมถึงผู้คนที่รอต่อแถวขึ้นรสบัสอย่างเป็นระเบียบก็เป็นตัวบ่งบอกได้ดีว่าหล่อนกำลังอยู่ที่ไหน ดูเหมือนว่าหล่อนกำลังจะเดินทางมา แต่ครั้งนี้หล่อนไม่ได้โพสต์ตัวหนังสือด้วย โพสต์แต่อิโมจิคอนหน้าคนร้องไห้สามอิโมจิคอน
เดิมทีเหยียนเค่อก็ไม่ได้อยากคิดไปเอง แต่พอเลื่อนอ่านคอมเม้นต์ดูพบว่า
มีคนถามหล่อนว่าร้องไห้ทำไม ซย่าเสี่ยวมั่วก็ตอบไปว่า ‘เพราะต้องไปเจอกลุ่มคนที่ไม่อยากเจอ’
ในจำนวนกลุ่มคนเหล่านั้นเหยียนเค่อไม่แน่ใจว่ามีเขารวมอยู่ด้วยหรือเปล่า แต่มันก็ทำให้เขาคิดมากอยู่ดี อย่างไรก็ตาม เรื่องที่ว่าหล่อนไม่อยากเจอหน้าเขามันก็คือความจริง
สวีอันหรานงีบหลับไปสักพักก็ตื่นขึ้นมา พบว่าเหยียนเค่อไม่ได้นอนหลับอยู่ข้างๆตน อาจเป็นเพราะว่ายังไม่ตื่นเต็มที่ ความกล้าเลยมีมากกว่าปกติ เลยเอ่ยถามเพื่อนออกไป “นายจะเก็บที่ข้างๆไว้ให้ซย่าเสี่ยวมั่วจริงๆหรือไง”
เหยียนเค่อเบนตามองไปทางเพื่อน ม้วนกระดาษที่ถืออยู่ในมือเป็นมวนแล้วตีไปที่สวีอันหราน “นายกลับไปนอนกับเมียนายนู่น ไม่ต้องมานอนเตียงเดียวกับฉัน”
“ไม่” สวีอันหรานกอดผ้าห่มไว้แน่น “คืนนี้ฉันจะนอนกับนาย ไม่ว่าใครก็อย่าบังอาจมาลากฉันลงจากเตียงนายเด็ดขาด”
“นายพูดเองนะ” เหยียนเค่อยิ้ม สวีรั่วชีเป็นคนประเภทเดียวกันกับเขา หากหล่อนมาเห็นสภาพของสวีอันหรานในตอนนี้คงโมโหจนอยากจะหนีการแต่งงานแน่ๆ
สวีรั่วชีได้ดูคลิปวีดิโอที่เหยียนเค่อส่งมาให้ก็โมโหฉันแทบจะขว้างโทรศัพท์ทิ้ง
วันก่อนแต่งงานได้รับคลิปวีดิโอแบบนี้จากศัตรูหัวใจที่เป็นผู้ชายส่งมาให้ หล่อนโมโหเสียยิ่งกว่าสวีอันหรานแอบไปนอนกับผู้หญิงอื่นอีก
สวีอันหรานนอนหลับลึก ช่วงนี้เขาก็ยุ่งวุ่นวายไม่น้อยไปกว่าเหยียนเค่อสักเท่าไหร่ นานๆจะได้นอนพักเต็มที่ ไม่ได้รู้เลยว่าช่วงเวลาดีๆแบบนี้ได้ถูกเหยียนเค่อทำลายลงหมดแล้ว
สวีรั่วชีโทรหาสวีอันหรานสองสาย ชายหนุ่มไม่ได้รับเลยทั้งสองสาย โทรหาเหยียนเค่อก็ไม่รับสายเหมือนกัน แต่กลับได้รับข้อความที่ทำให้ยิ่งโมโหเข้าไปใหญ่ “สวีอันหรานหลับอยู่ โทรมาจะรบกวนมันนะ”
“เหอะ ไอ้ผู้ชายบ้า กล้าล่อลวงผู้ชายของฉันเหรอ” สวีรั่วชีแค้น อันหรานมองแล้วก็อยากขำ “พวกเธอนี่ตลกจริงๆ” ทั้งๆที่รู้ว่ามันไม่จริงก็ยังจะไปเต้นตามเขา
สวีรั่วชีส่ายหัว “ฉันอิจฉาเหยียนเค่อจริงๆ ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น” ตั้งแต่ตอนมัธยมที่เธอเร่มชอบสวีอันหรานเธอก็เริ่มอิจฉาเหยียนเค่อ ทุกวันเอาแต่คิดไปว่าหากเธอกลายเป็นเหยียนเค่อได้ก็คงจะได้ใกล้ชิดสนิทสนมกับพี่ชายตัวเองมากกว่าเดิม ดังนั้นการที่ทุกวันนี้เธอมีบางด้านที่คล้ายกับเหยียนเค่อก็เป็นเพราะเธอลอกเลียนแบบชายหนุ่มมา