ตอนที่ 557 ช่วยเลี้ยงแทน
ไม่ถึงสิบนาทีเหยียนเค่อก็มาถึงบ้านของฉินซื่อหลาน พอเข้ามาด้านในก็เห็นหนึ่งคนกับอีกหนึ่งตัวตอนแผ่หลาอยู่บนพื้นพรม
พอชายหนุ่มเดินเข้าไปด้านใน ฉินซื่อหลานก็เงยหน้ามองเขาแวบหนึ่งไม่แสดงอารมณ์ใดๆ ผิดกับเจ้าโกลเด้นที่พอเห็นเขาเดินมาก็รีบวิ่งสายหางกระโจนเข้ามาหา แต่เพราะไม่ได้กินอะไรมาสองวันแล้วขาเลยอ่อนล้มอยู่ตรงเท้าของชายหนุ่ม แต่หางยังคงสายดุกดิกอยู่
“โฮ่งๆ” กรงเล็บของเจ้าโกลเด้นตะกายไปที่หลังเท้าของเหยียนเค่ออย่างไร้เรี่ยวแรง
ฉินซื่อหลานเห็นภาพตอนเจ้าโกลเด้นวิ่งเข้าไปหาเหยียนเค่อก็โมโห ลุกขึ้นนั่ง “ฉันอุตส่าห์ดูแลมันมาเป็นอาทิตย์ เวลาฉันกลับมาถึงบ้านมันแทบไม่สนใจฉันเลย ทำไมพอเห็นหน้านายแล้วมันต้องดีใจขนาดนี้”
เหยียนเค่อไม่ว่างถียงกับเพื่อน โน้มตัวไปเกาคางเจ้าโกลเด้น เจ้าโกลเด้นสบายจนต้องเอนหัว เอาจมูกถูไถกับมือของชายหนุ่ม
“มันตกหลุมรักนายเข้าแล้วหรือเปล่า” ฉินซื่อหลานพูดเรื่อยเปื่อยด้วยความอิจฉา
เหยียนเค่อลูบจมูกที่แห้งเนื่องจากขาดน้ำของเจ้าโกลเด้น เอ่ยสอนเสียงต่ำ “ทำไมดื้อแบบนี้ ซย่าเสี่ยวมั่วต้องปวดใจเพราะแกรู้ไหม”
เจ้าโกลเด้นทำท่าทางราวกับฟังรู้เรื่อง มุดหัวเข้าไปที่อุ้งเท้าตัวเอง ไม่กล้ามองหน้าเหยียนเค่อ
“ให้ตายเถอะ รู้จักทำตัวแบ๊วด้วย” ฉินซื่อหลานใช้มือไปดึงห่างที่ยังแกว่งอยู่ของเจ้าโกลเด้นแล้วเอ่ยอย่างไม่พอใจ
“นี่ฉันแย่ขนาดนั้นเลยหรือไง ขนาดหมายังไม่ยอมเล่นด้วยเลย”
“น่าจะ” เหยียนเค่อขมวดคิ้ว “เพราะว่าหมาตัวนี้ไม่ใช่หมาธรรมดา”
“สู้นายพูดว่าหมานี่เป็นหมาของนายเลยจะดีกว่า” ฉินซื่อหลานแค่นเสียงออกมาอย่างไม่พอใจ แต่ว่าเหยียนเค่อยอมมาเขาก็ไม่มีอะไรต้องให้กังวลแล้ว
“ฉันต้องไปเข้าเวรที่โรงพยาบาลต่อ ตอนนายเอามันออกไปอย่าลืมล็อคประตูให้ฉันด้วยนะ”
“อืม”
เหยียนเค่อเจออาหารหมาที่อยู่ที่ระเบียง เอาของออกมาจากกระเป๋าที่ซย่าเสี่ยวมั่วเตรียมไว้ให้เจ้าโกลเด้น ข้างในมีของเล่นหลากหลายชนิด ยาบำรุงสำหรับสัตว์ อาหารหมา แคลเซียมบำรุงกระดูกและขนมกินเล่น
สารภาพตามจริงคือเขาไม่มีประสบการณ์การเลี้ยงหมาเลย จึงให้อาหารมันตามคำแนะนำที่เขียนอยู่บนถุง
เหยียนเค่อเทอาหารลงบนที่ถาดอาหารหมา เอ่ยถามขึ้น “บ้านนายมีนมไหม”
เจ้าโกลเด้นตามกลิ่นอาหารมาถึงระเบียง นั่งลงข้างๆขาของเหยียนเค่อแล้วจ้องไปที่ถาดอาหารของตนเอง
ฉินซื่อหลานที่กำลังติดกระดุมเสื้ออยู่หยุดชะงักไปนิด หันไปมองหน้าเหยียนเค่อแล้วยู่ปาก “อยู่ในตู้เย็น” พูดเสร็จก็อดไม่ได้ที่จะบ่น “หมานายกินนมแบบเดียวกันกับเสี่ยวฝูเอ๋อร์ของฉัน ทำไมถึงน่าปวดใจขนาดนี้”
“ฉันจะทำอย่างไรได้” เหยียนเค่อถอนหายใจ “ฉันเอากลับไปหมดเลยนะ นายค่อยซื้อให้เสี่ยวฝูเอ๋อร์ใหม่แล้วกัน”
ฉินซื่อหลานโบกมือ แก้ปัญหาเรื่องหมาได้ ซื้อนมใหม่ไม่กี่ขวดไม่เป็นปัญหา
เหยียนเค่อบีบยาบำรุงออกมาให้เจ้าโกลเด้นกินก่อน จากนั้นก็เทนมที่ต้มอุ่นๆใส่ลงไปกับผสมอาหารหมา พอคนกันได้ที่ก็เอาให้มันกิน
เจ้าโกลเด้นได้กลิ่นหอมๆก็แลบลิ้นออกมาอย่างดีใจ ความจริงเหยียนเค่อก็ไม่ค่อยจะชอบหมาสักเท่าไหร่ นี่ถ้าไม่เห็นแก่ซย่าเสี่ยวมั่วเขาก็คงไม่ใจดีขนาดมานั่งดูแลหมาสักตัวหรอก
“เอ้า” เหยียนเค่อดันถาดอาหารออกไป แล้วลุกขึ้นยืนมองเจ้าโกลเด้นกินอาหารพลางส่ายหางไป
ความจริงเหยียนเค่อก็กังวลอยู่เหมือนกันว่าเขาจะให้อาหารมันได้ไม่กี่มื้อแล้วมันจะกลับมาอดอาหารอีกครั้ง แต่ก็รู้มาจากฉินซื่อหลานว่ามื้อนี้ที่มันกินเยอะกว่าทุกมื้อที่ฉินซื่อหลานเคยให้มันกินรวมกันเลยอีก
เหนียนเค่อเห็นเจ้าโกลเด้นกินหมดแล้วเริ่มเอาลิ้นเลียถาด แต่ก็ไม่กล้าจะให้เพิ่มเนื่องจากกลัวว่ามันจะจุกเกินไป
“กินเสร็จแล้วพวกเราก็กลับกันเถอะ”
“โฮ่ง” หลังจากเจ้าโกลเด้นกินอิ่มก็ดูเหมือนจะมีแรงส่งเสียงได้มากขึ้น
เหยียนเค่อตบไปที่หัวมันเบาๆ ผูกเชือกที่คอมันใหม่ให้เรียบร้อย ของชิ้นเล็กชิ้นน้อยที่อยู่ที่ระเบียงก็เก็บกลับไปเรียบร้อย จากนั้นก็จูงเจ้าโกลเด้นกลับบ้าน
ตอนที่ 558 สถานการณ์ใหม่
เจ้าโกลเด้นที่หลังจากกินอิ่มหน่ำสำราญก็เดินตามหลังเหยียนเค่อไปอย่างร่าเริง บางครั้งก็ไปยืนเกือยอยู่บนขาของชายหนุ่ม
“เป็นเด็กดีหน่อยนะ” เหยียนเค่อเปิดประตูรถให้มันกระโดดขึ้นไป
เจ้าโกลเด้นกระโดดขึ้นไปนั่งบนเบาะอย่างเรียบร้อย นั่งแลบลิ้นน่ารักมองไปที่เหยียนเค่อ
เหยียนเค่อก็ไม่เข้าใจ ว่าทำไมหมาตัวใหญ่ขนาดนี้ต้องชอบทำท่าทางน่ารักใส่เขา หรือเป็นเพราะเลียนแบบเจ้านายมันมา
เพิ่งจะขับรถเข้าถนนหลัก ก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น
เหยียนเค่อมองไปยังชื่อที่ขึ้นโชว์ก็ขมวดคิ้ว
“ฮัลโหล”
“บอสคะ วันนี้ฉันเจอเซียวอู๋อี้กับสวีอิ๋งอิ๋งที่ร้านน้ำชา” Belle รู้สึกราวกับว่าตนไปเหยียบเจอกองขี้หมาเข้า ทำไมเธอต้องเป็นคนไปเจอเรื่องแย่ๆแบบนี้
“เกิดอะไรขึ้น”
Belle ได้ฟังน้ำเสียงน้ำเสียงสงบนิ่งของเจ้านายหนุ่มที่ถามกลับมาก็รู้สึกไม่ค่อยชิน เมื่อก่อนมันต้องเป็นน้ำเสียงโมโหปนรำคาญถามกลับมาประมาณว่า “พวกหล่อนทำไม” ไม่ใช่หรือไง หรือชายหนุ่มอยากกลับใจเปลี่ยนเป็นคนอ่อนโยนแทนแล้ว
แต่คิดฟุ้งซ่านไปก็เท่านั้น ควรรีบรายงานเรื่องที่ควรรายงานจะดีกว่า “ฉันแอบตามสวีอิ๋งอิ๋งเข้าไป จากนั้นก็แอบอ้างชื่อคุณเพื่อขอดูกล้องวงจรปิดของทางร้าน แต่พวกหล่อนคุยกันเสียงเบาเกินไป เลยจับใจความไม่ได้ว่ากำลังคุยอะไรกัน แต่ดูเหมือนว่ากำลังวางแผนทำอะไรกันอยู่สักอย่าง”
“ดูๆไปแล้วกัน ว่าพวกหล่อนจะลงมือทำอะไรอีก” เหยียนเค่อไม่คิดว่า Belle จะเป็นคนระวังตัวขนาดนี้ จึงเอ่ยชม “เธอเหมาะสมกับตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์ของ YAN มาก”
Belle ยิ้มรับ เหยียนเค่อรู้แล้วจริงๆด้วยว่ามีใครเป็นตัวการแอบซ่อนอยู่ ไม่คิดว่าจะรวดเร็วขนาดนี้
“ก็ต้องขอบคุณท่านประธานเหยียน ที่ดึงตัวฉันไปอยู่ที่โน่น”
“ใกล้แล้ว” เหยียนเค่อก็ไม่ปิดบังหล่อน ต้นปีหน้าภายในบริษัท YAN คงต้องมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่
เหยียนเฟิงคงไม่ทำแค่การก่อกวนเล็กๆน้อยๆเหมือนในครั้งนี้เป็นแน่ เขาจะไม่โจมตีแต่อย่างน้อยก็จะเตรียมตั้งรับให้พร้อมทุกด้าน
Belle ก็เดาได้ถึงวิธีการของเหยียนเค่อ ในใจก็ตื่นเต้นรอคอยที่จะเห็นความเปลี่ยนแปลงของปีหน้าแต่ก็แอบมีความกังวลแฝงอยู่ด้วย
“อย่างนั้นฉันจะรอ” Belle เอ่ยอย่างสนุก
เจ้าโกลเด้นเห็นเหยียนเค่อคุยโทรศัพท์ก็โน้มตัวมาหา เหยียนเค่อจอดรถที่ข้างทาง ดันหัวมันออก “แกไม่ใช่ซย่าเสี่ยวมั่ว ทำตัวดีๆหน่อย”
Belle พูดเรื่องเป็นการเป็นงานเสร็จก็ต้องอึ้งไปอีกรอบ ได้ยินชายหนุ่มเอ่ยชื่อซย่าเสี่ยวมั่วก็เอ่ยแซว “ทำไมคะ แค่ไปร่วมงานแต่ง กลับมามีลูกชายแล้วเหรอ”
“ลูกหมาน่ะสิ” เหยียนเค่อเอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์
“หมาเองเหรอ” Belle เอ่ยอย่างผิดหวัง “ถึงว่าคุณจับหล่อนไม่ได้สักที เรื่องแบบนี้มันต้องรีบลงมือไว้ก่อน”
“อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ว่าเธอกำลังหมายถึงอะไรนะ” เหยียนเค่อไม่อยากเปิดโปง จัดที่จัดทางให้เจ้าโกลเด้นนั่งนิ่งๆ
Belle อมยิ้ม ความจริงเธออยากจะพูดว่าลงมือบังคับฝืนใจก่อนคือพวกอันธพาล
“คุณก็รู้ดีหนิแต่ก็ยังไม่ยอมทำอยู่ดี”
“หึหึ” เหยียนเค่อเห็นหล่อนไม่ยอมพูดเข้าเรื่องสักที เลยกดวางสายไป
Belle ยังอยากคุยกับชายหนุ่มเรื่องรักๆใคร่ๆอยู่ดันถูกวางสายใส่เสียดื้อๆ เธอมองไปยังหน้าจอโทรศัพท์ที่มืดสนิท กัดฟันกรอด “ชิ ทำเป็นสบายๆ ตามจีบเมียแทบตาย ฉันจะรอดูว่าถ้าจีบซย่าเสี่ยวมั่วไม่ติดคุณจะร้องไห้ไหม”
เหยียนเค่อยังไม่ได้กินข้าว คิดได้ดังนั้นเลยขับรถไปที่ร้านอาหารแถวๆที่พักของซย่าเสี่ยวมั่ว
เจ้าโกลเด้นเห็นสถานที่ที่ดูคุ้นเคยก็วิ่งไปด้านหน้าอย่างดีใจ เหยียนเค่อดึงสายปอกคอเอาไว้ แต่ก็ต้านแรงของมันไม่ไหวเซไปด้านหน้าอีกก้าวสองก้าว
“ดีใจอะไรขนาดนั้น อย่าวิ่ง” ตอนนี้เป็นเวลาเลิกงาน บนถนนทั้งรถทั้งคนเต็มไปหมด เหยียนเค่อรวบรวมแรงดึงไปที่ปอกคอ เอ่ยดุเสียงเข้ม
เหยียนเค่อย่อตัวลงไปสอนเจ้าโกลเด้นที่สุดท้ายก็ยอมหยุดอยู่นิ่งๆ
หนึ่งคนกับหนึ่งตัวจ้องตากันบรรยากาศดูน่ารัก พอเหยียนเค่อยืดตัวขึ้นยืนก็พบว่าตรงหน้ามีหญิงสาวยืนอยู่คนหนึ่ง แต่เขาก็ไม่ได้สนใจ จูงหมากะว่าจะเดินอ้อมหนีไป