ตอนที่ 583 พูดดีๆ
“คุณซย่า” พอผู้ช่วยหวังจัดการเรื่องด้านล่างเสร็จเรียบร้อยก็ขึ้นไปรายงานกับซย่าเสี่ยวมั่วรวมทั้งจะถือโอกาสเอ่ยชมบอสหนุ่มให้เธอฟังด้วย
“คุณเรียกฉันว่าซย่าเสี่ยวมั่วเถอะ”
เขาช่วยจัดการเรื่องให้เธอมาทั้งช่วงเช้า ซย่าเสี่ยวมั่วจึงให้เขาอยู่กินข้าวด้วยกัน “ลำบากคุณแล้ว”
“ไม่ลำบากครับ” ผู้ช่วยหวังไม่ปฏิเสธ เขาอยากจะรู้ว่าทำไมซย่าเสี่ยวมั่วถึงได้โกรธบอสอีกทั้งยังต้องชมบอสให้หล่อนฟังด้วยดังนั้นยิ่งอยู่ได้นานก็ยิ่งดี
ซย่าเสี่ยวมั่วไม่คิดอะไรกับการต้องกินข้าวกับคนแปลกหน้า พอได้คุยเรื่องที่สนใจเหมือนกันก็ยิ่งคุยกันได้สนิทขึ้น
ผู้ช่วยหวังค่อยๆเบี่ยงหัวข้อจากนักวาดภาพที่มีชื่อเสียงเป็นนักธุรกิจที่โดดเด่นจนสุดท้ายก็วกกลับมาที่เหยียนเค่อได้ “ประธานเหยียนเป็นนักธุรกิจที่ขยันน่าชื่นชมมาก แต่ค่อนข้างเข้มงวดกับคนอื่น”
“อือ” ซย่าเสี่ยวมั่วเอ่ยเรียบๆ ผู้ช่วยหวังยังฝืนพูดต่อ
“สุขภาพเขาไม่ค่อยดี ยังต้องทำงานยุ่งทุกวัน แต่ก็ดีกับลูกน้องมากๆ” ผู้ช่วยหวังก็ไม่รู้ว่าเขาหวังอะไรจากการเอ่ยพูดเรื่องพวกนี้ออกไป
ซย่าเสี่ยวมั่วพยักหน้า “ดูก็รู้ว่าร่างกายเขาไม่ค่อยดี”
“เขายัง…” ผู้ช่วยหวังไม่รู้จะพูดข้อดีอะไรต่อแล้ว คิดอยู่ครู่หนึ่งก็เอ่ย “หล่อมากๆ อีกทั้งรักความสะอาดอีกด้วย”
ซย่าเสี่ยวมั่วได้ยินชายหนุ่มพูดแบบนี้ก็แทบจะสำลักออกมา “เหยียนเค่อจ้างนายมาพูดเหรอ” หล่อนมองจ้องตาผู้ช่วยหวังผู้น่าสงสารครู่หนึ่ง จากนั้นก็ยกธงขาว “นายพูดต่อเถอะ”
“ประธานเหยียนเป็นคนเย็นชา น้อยครั้งมากที่จะใส่ใจคนอื่น” ผู้ช่วยหวังรู้สึกว่าในที่สุดเขาก็เริ่มพูดเข้าประเด็นได้แล้ว
ซย่าเสี่ยวมั่วก็เริ่มมีปฏิกิริยาขึ้นบ้างแล้ว แต่ก็เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “เขาก็เป็นคนแบบนั้นแหล่ะ แต่ถ้าคุณไม่ยอมแพ้ยังไงก็ต้องมีที่ยืนในสายตาเขาอยู่แล้ว”
ผู้ช่วยงหวังรู้สึกว่าเรื่องชักกลับตาลปัตร “ผมไม่ได้คิดอะไรกับท่านประธาน”
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า แล้วอย่างไร ส่วนใหญ่ก็เริ่มจากการเป็นเพื่อนกันทั้งนั้น ฉันว่านะคุณดูดีกว่าคู่หมั้นของเหยียนเค่อตั้งเยอะ” ซย่าเสี่ยวมั่วเอ่ยอวยพรอย่างเศร้าๆ “ถ้าคุณแต่งงานกับเหยียนเค่อฉันก็อวยพรให้”
ผู้ช่วยหวังเอามือก่ายหน้าผาก เขารู้ว่าทำอะไรไม่ได้ แต่ถ้าปล่อยให้ซย่าเสี่ยวมั่วเข้าใจผิดอยู่แบบนี้ไม่รู้ว่าบอส ของเขาจะจัดการเขาอย่างไรนี่สิ “ผมแค่อยากบอกว่า ท่านประธานเหยียนทำเพื่อคุณมากจริงๆ”
มือที่ซย่าเสี่ยวมั่วกำลังคีบมะเขือเทศสั่นจนทำมันร่วงอยู่บนโต๊ะ เธอค่อยๆหยิบกระดาษทิชชู่มาทำความสะอาด ไม่เอ่ยพูดอะไรทั้งสิ้น
ผู้ช่วยหวังพูดออกไปตรงๆอย่างนี้ก็รู้สึกกลัวอยู่เหมือนกัน ถ้าบอสโทษเขาล่ะจะทำอย่างไร ทำไมถึงอดไม่ได้พูดคำพูดในใจออกมาอย่างนี้นะ
“คุณซย่า คุณอย่าบอกท่านประธานนะครับว่าผมเป็นคนพูด” ตอนนี้เขาแทบอยากจะฆ่าตัวตายเลยด้วยซ้ำ
ซย่าเสี่ยวมั่วไม่ได้โง่ถึงขนาดจะได้เอาเรื่องนี้ไปบอกกับเหยียนเค่อเพื่อพิสูจน์เสียหน่อย เอ่ยคัดค้าอย่างอ่อนแรง “ฉันกับเขาไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกัน”
“อือ ไม่เกี่ยวข้องกันยิ่งดีครับ” ตอนนี้ผู้ช่วยหวังอยากจะให้หล่อนกับบอสของเขาไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันเลย เพราะถ้าบอสรู้เข้าว่าเขาพูดอะไรไปมากมายตอนอยู่ต่อหน้าซย่าเสี่ยวมั่วเขาคงไม่ต้องมีชีวิตอยู่แล้ว
“ปกติเหยียนเค่อเข้มงวดมากเลยเหรอ” ซย่าเสี่ยวมั่วทำได้แค่เปลี่ยนเรื่องคุยแทนเรื่องเมื่อครู่ แต่ก็ไม่คิดว่ากลับเป็นเรื่องของเหยียนเค่ออยู่ดี
“ใช่ครับ” ผู้ช่วยหวังพยักหน้า แต่ก็ไม่กล้าพูดเรื่องไวต่อความรู้สึกแบบนั้นอีก “พวกลูกน้องเคารพยำเกรงท่านประธานมาก อีกอย่างท่านประธานปฏิบัติต่อคนอื่นอย่างไรคุณก็คงทราบดี ท่านไม่สนใจคนอื่นเท่าไหร่นัก”
ที่จริงแล้วเธอไม่ได้รู้สึกแบบนั้น แต่ได้ฟังผู้ช่วยหนุ่มพูดแบบนี้เธอจึงได้แต่รับคำ “อย่างนั้นพวกคุณก็คงลำบากไม่น้อย”
“ไม่เท่าไหร่ครับ ผมอยู่กับท่านมานาน บางครั้งท่านก็ชอบล้อเล่นบ้าง แต่เรื่องที่ท่านไม่สนใจคนอื่นมันก็อีกเรื่อง เพราะว่าท่านใจดีกับลูกน้อง คิดเพื่อพวกเราตลอด”
“จริงเหรอ” ซย่าเสี่ยวมั่วไม่เชื่อ
“ครับ อย่างเช่น ถึงโครงการไหนที่ท่านรู้สึกไม่ชอบใจเป็นอย่างมากแต่ท่านก็จะไม่ได้โยนมาให้พวกเราทำ” เมื่อผ่านเหตุการณ์แบบนั้นเหยียนเค่อจะหยุดพักประมาณครึ่งปีแล้วค่อยหาโครงการใหม่ให้ลูกน้องทำ
ตอนที่ 584 ไม่มีอะไรต้องพูด
ในใจซย่าเสี่ยวมั่วไม่ค่อยจะเชื่อสักเท่าไหร่ ในเมื่อเหยียนเค่อดูไม่น่าเชื่อถือในหลายช่วงเวลาอยู่ ถึงแม้จะดูเยือกเย็นแต่ตัวเองก็ไม่ใช่ไม่เคยเจอเวลาที่เหยียนเค่อขี้เล่น
“เขาเสนออะไรให้คุณบ้าง ทำไมฉันรู้สึกว่าคนที่คุณรู้จักกับคนที่ฉันรู้จักมันคนละคนกันเลย”
“คุณน่าจะรู้จักตัวตนที่แท้จริงภายในของท่านประธาน” ผู้ช่วยหวังเอ่ยบอกซย่าเสี่ยวมั่วอย่างมั่นใจ
ซย่าเสี่ยวมั่วยิ้ม เธอมองทะลุใจของเหยีนเค่อได้อย่างทะลุปรุโปร่งเลยล่ะ ผู้ช่วยของเขาน่าจะมองไม่ชัดเสียมากกว่า
ความจริงเหยียนเค่อตัดสินใจแล้วว่าปีใหม่จะไม่กลับบ้าน แต่พ่อกับแม่ของเขาตื้อไม่เลิกเสียที ตั้งแต่ช่วงบ่ายก็สลับกันโทรหาเขาบอกให้เขากลับบ้านคืนนี้ เพราะที่บ้านคุณปู่มีงานเลี้ยง
เหยียนเค่อคัดค้าน แต่สุดท้ายคุณปู่ถึงกับต้องโทรมาหาเขาเอง เขาจึงได้แต่ตอบตกลง
ถ้าจะให้พูดตามตรงที่เหยียนเฟิงอิจฉาเหยียนเค่อก็ไม่ใช่ว่าไม่มีสาเหตุ ในบรรดาลูกหลานทั้งหมดผู้เฒ่าเหยียนให้ความสำคัญกับเหยียนเค่อมากที่สุด นอกนั้นก็มีแต่จะเรียกมาสั่งสอน ไม่มีคนไหนเข้าตาสักคน มีแค่เหยียนเค่อเท่านั้นที่เป็นหลานรักที่สุด เจอหน้ากันที่ไรก็คุยกันได้ไม่จบไม่สิ้น
“จะไปงานเลี้ยงใช่ไหม” เหยียนเค่อรับสายของฉินซื่อหลานก็รู้ว่าเพื่อนจะพูดอะไร
ฉินซื่อหลานรับคำ “คราวนี้จัดที่บ้านคุณปู่ นายก็ไปใช่ไหม”
“ไม่อย่างนั้นล่ะ นายคิดว่าฉันจะหนีพ้นหรือไง”
“คู่ควงล่ะ”
ทุกปีเหยียนเค่อก็ไปคนเดียวตลอดแต่ปีนี้ก็ไม่ควรที่จะยังไปคนเดียวอยู่
“นายคิดว่าสวีอิ๋งอิ๋งจะว่างมาหรือไง”
ความจริงฉินซื่อหลานยังมีท่าทีจริงจังอยู่ แต่กลับต้องขำกับคำพูดของเหยียนเค่อ “ฉันไปกับนายเอง เซ่าหมิงฟ่านก็ถูกเรียกมาเหมือนกัน”
“สมน้ำหน้า” เหยียนเค่อเห็นคนอื่นทุกข์ก็รู้สึกมีความสุข ไม่ควรมีเขาคนเดียวที่ต้องมาอยู่ท่ามกลางความทุกข์นี้ ในเมื่อมีพี่น้องก็ควรมาร่วมทุกข์ด้วยกัน
“อย่างไรซะคืนนี้ก็คงไม่ได้น่าเบื่อมากหรอก ในเมื่อตัวหลักมันคือนาย” ฉินซื่อหลานรอคอยที่จะเห็นเหยียนเค่อถูกเร่งให้แต่งงานแทบไม่ไหวแล้ว
งานเลี้ยงครั้งนี้ไม่ใช่มีแต่ตระกูลเหยียนเท่านั้น แต่ยังมีตระกูลที่มีความสัมพันธ์อันดีต่อกันอีกหลายตระกูลมาร่วมงานด้วยฉลองปีใหม่ด้วยกัน ปีที่แล้วจัดที่บ้านตระกูลซู เซ่าหมิงฟ่านอยู่ต่างประเทศ แต่ปีนี้เปลี่ยนมาจัดที่ตระกูลเหยียน คนเลยเยอะกว่าปีที่แล้ว
“หึ พวกนายก็อย่าหวังว่าจะรอด” ให้คนอื่นมาเยาะเย้ยเขา ไม่ใช่แนวของเหยียนเค่ออยู่แล้ว
ฉินซื่อหลานถอนหายใจพยามยามควบคุมตัวเองแต่ก็อดมีความสุขบนความทุกข์คนอื่นไม่ได้ “ในชายโสดสามคน นายอายุมากสุดแล้ว”
“มองแล้วดูเด็กกว่าพวกนายก็พอแล้ว”
ฉินซื่อหลานยังอยากพูดอะไรต่อแต่เหยียนค่อพูดจบก็ตัดสายทิ้งไปเสียดื้อๆ
เหยียนเค่อมีเรื่องสำคัญต้องทำ เขาเหลือเวลาอีกไม่มาก เขาต้องจัดการสะสางเรื่องทุกอย่างให้เรียบร้อยก่อนที่จะโดนพ่อแม่เร่งบังคับให้หมั้น จากนั้นก็ให้การหมั้นกลายเป็นโมฆะแทน
ผู้ช่วงหวังยังคุยกับซย่าเสี่ยวมั่วได้ไม่เท่าไหร่ก็ถูกเหยียนเค่อโทรมาเรียกตัวกลับบริษัท
“คืนนี้ฉันมีธุระไม่ได้อยู่บริษัท นายมาดูแทนฉันหน่อย”
“ครับ ผมจะกลับไปเดี๋ยวนี้”
“เรื่องของซย่าเสี่ยวมั่วจัดการเสร็จเรียบร้อยหรือยัง” เหยียนเค่อยังกลัวว่าฝั่งของซย่าเสี่ยวมั่วจะเกิดอะไรไม่คาดคิดขึ้น
“ไม่ทราบว่าบอสอยากจะคุยกับคุณซย่าหน่อยไหมครับ ผมอยู่ที่ห้องเธอ” หลังจากที่ผู้ช่วยหวังพูดจบเหยียนเค่อ
ก็ไม่ได้เอ่ยอะไรเขาจึงยื่นโทรศัพท์ไปให้ซย่าเสี่ยวมั่ว
ซย่าเสี่ยวมั่วทำหน้าเหมือนโดนบังคับ เอ่ยปฏิเสธกับผู้ช่วยหวัง “ฉันไม่มีอะไรต้องคุยกับเขา” แต่ผู้ช่วยหวังก็ยังคงดึงดันยื่นโทรศัพท์มาให้เธอ
เหยียนเค่อได้ยินสิ่งที่หล่อนพูด ก็เริ่มรู้สึกมีอารมณ์ “มีอะไรก็พูดกับฉันตรงๆ เธอไม่พูดฉันจะไปรู้ได้อย่างไรว่าฉันทำอะไรผิด”
ผู้ช่วยหวังที่แอบยืนฟังอยู่ก็รู้สึกนิ่งอึ้งไป บอสของเขามีวันที่ไม่รู้ว่าตัวเองทำอะไรผิดด้วยเหรอ