จักรพรรดิผู้ฝึกอายุห้าพันปี – ตอนที่ 8

ตอนที่ 8

บทที่ 8 เทพมนุษย์จริงๆ

สัญญาเจรจา…….เจรจาได้แล้ว?

อย่าพูดว่าหานหยุนเทา หานหยุนซีพวกเขาเลย แม้กระทั่งคุณย่ายังแปลกประหลาด “เธอเจรจาได้สำเร็จจริงหรอ? ”

“คุณย่า นี่เป็นสัญญา ดูก็จะรู้เอง”

“เอาแว่นมาให้ฉัน”

คุณย่าหานทำสีหน้าที่ตื่นเต้น แล้วใส่แว่นสายตายาว หลังจากพลิกไปไม่กี่หน้าก็ยิ่งอยู่ยิ่งจริงจัง

พอเห็นแบบนี้ หานหยุนเทาทำสีหน้าที่เคล้าด้วยยิ้มอย่างเย้ยหยัน “เยี่ยมมากหานหยู่เยน กลับยังสร้างสัญญาปลอมมาหลอกคุณย่า ช่างบาปจนไม่อยากให้อภัยได้ ยังไม่รีบสารภาพความผิดอีก! ”

“หานหยุนเทา ยังนึกว่าตัวเองฉลาดอีก ทำสัญญาปลอมมีประโยชน์อะไร! คุณย่าจะมองไม่ออกไง หรือนึกว่าสมองของฉันถูกลาถีบ? ”

“แก…….”

และในตอนนี้ คุณย่าหานจึงพูดด้วยเสียงเรียบ “อย่าทะเลาะเลย สัญญาเป็นจริง”

“อะไรนะ! ”

ในจังหวะนั้น ใบหน้าของหานหยุนเทาเหมือนดั่งขี้เถ้าดำ

เขาฝันก็นึกไม่ถึง หานหยู่เยนกลับสามารถเซ็นสัญญามาได้ เธอเจรจามาได้ยังไง? ขนาดตระกูลชั้นหนึ่งและบริษัทเหล่านั้นยังถูกปฏิเสธกลับมาเลย

ทีแรกอยากถือโอกาสนี้ไล่หานหยู่เยนออก ตอนนี้แผนการไม่เพียงแต่ล้มเหลว สัญญานี้ไม่เพียงแต่ทำให้ตำแหน่งในบริษัทของหานหยู่เยนมั่นคง แล้วยังได้รับการให้ความสำคัญจากคุณย่า

สมควรตายจริงๆ เป็นแบบนี้ได้ยังไง!

หานหยุนเทาเครียดจนกัดฟันกรอก เขาพึมพำด้วยเสียงต่ำอย่างไม่พอใจ “หานหยู่เยน แกใช้วิธีอะไรไปเซ็นสัญญานี้ ไม่ใช่ว่าแผนสกปรกๆ นะ? ฉันเดาว่าแกต้องไปหรอกผู้รับผิดชอบบริษัทเฉิงหยู่แน่นอน ถ้าเป็นแบบนี้ แกคงจะนำพาภัยพิบัติครั้งใหญ่ให้กับตระกูลหานแล้ว! ”

ในห้องประชุม ทุกคนต่างก็ทำสีหน้าที่เปลี่ยนไป

หานหยุนซีที่อยู่ข้างๆ ก็โมโห “คนปกติก็รู้ว่านี่เป็นภารกิจที่ไม่มีทางสำเร็จ หากแกใช้แผนการร้ายไปหรอกบริษัทเฉิงหยู่ งั้นแกก็คือคนบาป! ”

“เปล่า แกนี่แหละคนบาป! ”

“พวกแกอย่าพูดจาเหลวไหล! ” หานหยู่เยนเครียดไม่เบา

ตัวเองทำผลประโยชน์ที่ใหญ่ขนาดนี้ให้กับตระกูลหาน พวกคนนี้ไม่ได้ชมเธอก็แล้วไป ยังมาปรักปรำเธออีก พูดจาเหลวไหล ทำไมถึงได้มีคนชั่วแบบนี้!

“หานหยุนเทา แกพยายามหาข้อตำหนิติเตียนคนหรือสิ่งของ ทั้งที่ไม่มีข้อให้ตำหนิ ไม่ใช่ว่าทนดูที่ฉันไปเจรจาสัญญานี้ได้สำเร็จหรือไง? ต้องหาเรื่องฉันขนาดนี้ด้วยหรอ มีปัญญาก็ไปคุยเองสิ! ” หานหยู่เยนโต้เถียงกลับ

ใครจะไปรู้ว่าทำให้หานหยุนเทายิ้มเย็นชาอย่างดูถูกล่ะ “พอเถอะ อย่านึกว่าตัวเองมีความสามารถมากเพียงใดเลย ไม่แน่ผู้รับผิดชอบบริษัทเฉินอยู่เป็นคนคุยง่าย แกถือว่าโชคขี้หมาไป ฉันไปคุยก็ต้องสำเร็จแน่นอน”

“คุยง่าย? ”

หานหยู่เยนกลับยิ้มอย่างโมโหเป็นไฟ “ถ้าพูดง่ายขนาดนี้ แล้วจะรอให้ถึงตระกูลหานของพวกเราไปเจรจาไหม ตระกูลชั้นหนึ่งและบริษัทพวกนั้นก็คงได้เจรจาไปแล้ว! ”

“พอเถอะ เงียบกันหน่อย! ”

คุณย่าหานพูดขึ้น ในห้องประชุมจึงไม่กล้ามีใครออกเสียงทันที

เธอถอดแว่นสายตายาวออก แล้วเอ่ยถามด้วยคิ้วขมวดคิ้ว “หยู่เยน ฉันดูสัญญาแล้ว บริษัทเฉิงหยู่ให้ผลประโยชน์เยอะมาก นี่เป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อ แกบอกย่ามาสิ แล้วไปเจรจายังไง? ”

“นี่ ถือว่าเป็นความโชคดีของหนูมั้ง””

หานหยู่เยนคิดถึงคำกำชับของโล่เฉิน แค่แต่งนิทานออกมาทันที “ตอนนั้นตอนขึ้นลิฟต์ มีเด็กน้อยอายุสามสี่ขวบเกือบจะถูกประตูลิฟต์หนีบ หนูเลยไปดึงเด็กคนนั้น จากนั้นก็เพิ่งจะรู้ว่าเป็นลูกชายของผู้จัดการฟ่านหมิงที่บริษัทเฉิงหยู่ ตอนที่เจรจาที่จะร่วมงานกันหนูได้แสดงความจริงใจออกไป คุณฟ่านหมิงดูเงื่อนไขการประมูลราคาในเอกสารจึงรู้สึกว่าโอเคร รวมไปถึงเป็นการขอบคุณหนู ถึงจะเซ็นสัญญาอย่างราบรื่น”

“ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง” คุณย่าหานพยักหน้าอย่างพอใจ

เป็นโชคขี้หมาจริงๆ!

กลุ่มหนุ่มสาวภายในใจรู้สึกโมโห และอิจฉาจะตายแล้ว โดยเฉพาะหานหยุนเทา ภายในใจอัดอั้นจะตายแล้ว

“หยู่เยน งั้นโปรเจคนี้แกก็รับผิดชอบทั้งหมดไปเลย ต้องการคนก็บอกฉัน” คุณย่าหานพูดประโยคเดียว ทำให้ตำแหน่งของหานหยู่เยนยกสูงขึ้นไม่น้อย

หานหยู่เยนยิ้มอย่างปลื้มปริ่ม “ขอบคุณค่ะคุณย่า ใช่แล้วหานหยุนเทา เรื่องที่พนันไว้อย่าลืมล่ะ!

“ทำไม แกยังจะให้ฉันยกน้ำชาส่งน้ำให้แกหรอ? ฐานะของฉันคืออะไร แล้วแกมีฐานะอะไร! ” หานหยุนเทาสีหน้าที่เย็นชา

“ยอมแพ้ไปดีๆ เถอะ! ”

คุณย่าหานพูดขึ้นอย่างเย็นชา

หานหยุนเทาเป็นคนที่ฉลาด จึงกัดฟัน แล้วยกน้ำชายื่นไป จากนั้นก็กัดฟันพูดขึ้นไม่กี่คำ “พี่หยู่เยน ดื่มชา! ”

“ชาก็ไม่ต้องแล้ว นายมีใจก็พอ” หานหยู่เยนรู้สึกดีใจมาก รู้สึกเชิดหน้าชูตา เธอหันไปคุย “คุณย่าคะ หนูยังต้องไปเตรียมเอกสารอีกมากมาย ไปยุ่งก่อนนะคะ”

หลังจากหานหยู่เยนจากไป คุณย่าก็ไม่ได้อยู่ต่อ

ในห้องประชุม วัยรุ่นกลุ่มหนึ่งจึงได้พูดมากข้างหูหานหยุนเทา

“พี่เทา อย่ายอมแพ้แบบนี้ง่ายๆ! ”

“ใช่ ทำไมถึงปล่อยให้หานหยู่เยนที่เป็นผู้หญิงปีนขึ้นหัวได้ล่ะ ต้องให้สีหน้าเธอดูหน่อยแล้ว”

“แต่ว่า ตอนนี้เธอเป็นคนดังในสายตาของคุณย่าแล้ว หากพวกเราแตะต้องเธอ คุณย่าต้องโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ ใครจะรับผิดชอบผลที่ตามมา! ”

หานหยุนซีเอ่ยถาม “แกมีแผนอะไร? ”

“ฉันกล้ามั่นใจ การเจรจางานครั้งนี้ให้สำเร็จต้องไม่ใช่เพราะว่าหานหยู่เยนไปช่วยลูกชายของฟ่านหมิงไว้ แต่เธอได้สวมเขาให้โล่เฉิน แล้วต้องมีอะไรกับฟ่านหมิง! ”

ทุกคนต่างก็ตกตะลึง

“แค่พวกเราปล่อยข่าวออกมา รอให้คำนินทาถูกปล่อยออกไป หานหยู่เยนยังมีหน้าอยู่บริษัทไหม? อีกอย่าง ตระกูลชั้นหนึ่งพวกนั้นเห็นตระกูลหานของเรากลับได้โปรเจคมา ภายในใจต้องไม่พอใจแน่นอน! ”

หานหยุนเทายิ้มอย่างร้ายกาจ “ฉันเชื่อว่าต้องไม่ถึงสามวัน ตระกูลมีชื่อเสียงทั้งเมืองต้องรู้ว่าหานหยู่เยนเป็นผู้หญิงที่ไร้ศีลธรรม เพื่อโปรเจคจึงไปนอนกับฟ่านหมิง คุณย่าเป็นคนที่รักหน้าตา เธอจะทนไหวได้ยังไง? ”

“ความคิดดี! ”

“ฮ่าๆๆ ยังไงพี่เทาก็ฉลาดที่สุด”

“ครั้งนี้หานหยู่เยนตายแน่นอน ไม่แน่อาจจะถูกไล่ออกจากตระกูล! ”

…….

หลังจากที่ส่งหานหยู่เยนไปที่บริษัท ก็นึกถึงนัดเมื่อวานกับเสี้ยงหยวน เขาไปซื้อเข็มเงินมาหนึ่งชุดก่อน จากนั้นก็รีบไปสวนสาธารณะหลิงหู

ตอนนี้ ในสวนสาธารณะหลิงหู

เสี้ยงหยวน เสี้ยงฉ่ายเอ่อและอะหู่ก็ไปถึงเมื่อสองชั่วโมงที่แล้ว และไม่เห็นโล่เฉินปรากฏตัวสักที

“คุณปู่ โล่เฉินคงไม่หลอกพวกเราใช่ไหม?!

“รีบอะไรล่ะ เขาแค่บอกว่าวันนี้แต่ไม่ได้บอกว่าเมื่อไหร่ คนฝึกบู๊ขี้กระวนกระวายแบบนี้ได้ยังไง นั่งลงทำสมาธิ” เสี้ยงหยวนตำหนิขึ้น

เสี้ยงฉ่ายเอ่อทำหน้ากวนประสาท ยังคงเดินไปเดินมา

หนึ่งชั่วโมงผ่านไป อะหู่พูดขึ้นทันที “อาจารย์มาแล้ว”

“ท่าน”

“ท่านโล่”

โล่เฉินจอดจักรยานไฟฟ้าไว้ข้างๆ แล้วสาวเท้าเดินไปก้าวใหญ่

ระหว่างที่เดินก็ดูสง่าผ่าเผย เสี้ยงหยวนมองแล้วพยักหน้า ยิ่งอยู่ก็ยิ่งให้เกียรติโล่เฉินแล้ว

“ขอโทษด้วยนะ พอดีมีธุระหน่อยเลยมาสาย”

“ไม่เป็นไร เราก็เพิ่งมาไม่นาน” เสี้ยงหยวนสูดลมหายใจเข้าลึกๆ สีหน้าดูตื่นเต้น “ไม่รู้ว่าท่านจะรักษาผมยังไง? ”

“ง่ายมาก นายนอนลง! ”

เสี้ยงฉ่ายเอ่อและอะหู่มองหน้ากัน ทว่าโล่เฉินมีฐานะแบบนี้ พวกเขาไม่กล้ามากความ เสี้ยงหยวนแม้จะสงสัยเช่นกัน ทว่าก็ต้องทำตาม

โล่เฉินนั่งบนบนหญ้า แล้วเอาเข็มออกมา จากนั้นก็ฆ่าเชื้อเข็ม และสั่งการไปด้วย “ถอดเสื้อเถอะ ฉันจะฝังเข็มตรงตำแหน่งหัวใจให้นาย”

“อีกอย่าง ตอนที่ฉันฝังเข็ม นายต้องทำใจให้สบาย ผ่อนคลายทั้งตัว หลอดเลือดหัวใจของนายตีบตัน ฉันต้องช่วยนายให้ไหลเวียน ต้องเจ็บและทรมาน นายต้องอดทนเอาไว้”

“ท่านทำได้เลยครับ” เสี้ยงหยวนทำสีหน้าที่เคร่งขรึม แล้วหลับตาลง

หลายสิบปีไม่ได้รักษาโรคแล้ว โล่เฉินยังไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นเลยสักนิด อีกอย่างปัญหาของเสี้ยงหยวนเกิดอาการเส้นเลือดหัวใจตีบตัน จึงไม่ระวังและอย่าให้เกิดข้อผิดพลาดไม่ได้ ไม่งั้นก็คงต้องตาย

วู้ๆๆ

สามเข็มอยู่ตรงกลาง ที่แทงอยู่ตรงจุดเสินเฟิง เทียนฉือ และอิงชวง จุดฝังเข็มสามจุด แล้วหยุดไปสิบกว่าวิ โล่เฉินจึงจะยื่นมือออกไป แล้วได้ฝังเข็มลงตรงกลางอก ใต้จมูกกุ่ยกงและตรงหว่างคิ้วของเสี้ยงหยวน

สุดท้ายเขาก็ดีดนิ้ว แล้วเอาพลังทิพย์ไปปกคลุมเข็มไว้ แค่เห็นเข็มสั่นไหว เหมือนจะเปล่งเสียงสั่นเอาแผ่วเบาออกมาด้วย

เสี้ยงหยวนแค่นเสียงอันอัดอั้น สีหน้าค่อยๆ บิดเบี้ยว

จากนั้นสีหน้าของเขาก็แดงระเรื่อ ไม่นานปากก็อาเจียนเลือดดำออกมา

“คุณปู่! ” เสี้ยงฉ่ายเอ่อทำสีหน้าที่เปลี่ยนไปมาก แล้วเรียกอย่างตกใจ

“ฉ่ายเอ่อ ปู่สบายมาก”

เสี้ยงหยวนเช็ดเลือดดำตรงมุมปาก แล้วนั่งลง สภาพของเขาดีมาก รู้สึกผ่อนคลายเยอะมาก และเหมือนหนุ่มไปสิบปี

โล่เฉินดึงเข็มออกแล้วเก็บไว้ พลางลุกขึ้นและพูด “ผู้เฒ่า หลอดเลือดหัวใจตีบตันไหลเวียนแล้ว แต่ว่าบาดเจ็บมานาน ตอนนี้ก็อ่อนแอมากแล้ว อย่าใช้กำลังภายในอย่ารุนแรง ไม่งั้นอาจจะทำให้หลอดเลือดหัวใจขาด เทพเจ้าก็ช่วยชีวิตยากแล้ว!

“อาการป่วยที่ทรมานมาหลายสิบปี สามารถแก้ไขเพียงครั้งเดียว เทพมนุษย์จริงๆ ”

เสี้ยงหยวนเอ่ยชมขึ้น รู้สึกนับถือจริงๆ

“ผู้เฒ่าไม่ต้องเกรงใจ มีกระดาษปากกาไหม ฉันจะจ่ายยาให้ไปดื่ม จากนั้นทุกๆ เจ็ดวันมาหาฉันหนึ่งครั้ง หนึ่งเดือนก็หายขาดแล้ว”!

บอร์ดี้การ์ดอะหู้จึงเอากระดาษปากกาออกมาจาก โล่เฉินจ่ายยา และยังแลกเปลี่ยนช่องทางการติดต่อกับเสี้ยงหยวน จากนั้นก็ขี่จักรยานไฟฟ้ากลับไปอย่างดีใจ

พอเห็นเรือนร่างที่ยิ่งอยู่ยิ่งไปไกล เสี้ยงหยวนทำนัยน์ตาเปล่างประกาย แล้วอุทานขึ้น “วีรบุรุษที่ยังหนุ่ม มังกรในคนแบบนี้ หากสามารถคบหาได้เป็นอย่างดี ตระกูลเสี้ยงของฉันก็ผ่านวิกฤตครั้งนี้ได้แล้ว! ”

“คุณปู่ โทษหนูใจร้อนอีก”

เสี้ยงฉ่ายเอ่อกำลังโทษด้วยตัวเอง “เมื่อวานครั้งแรกที่เจอ หนูไม่อาจไม่เคารพท่านอาจารย์เลย ตอนนี้ถึงแม้เขาจะไม่แสดงอะไรออกมา แต่ภายในใจต้องมีความข้องใจ อาจจะไม่ช่วยตระกูลเสี้ยงของเราก็ได้”

เสี้ยงหยวนส่ายหัวยิ้มอย่างขมขื่น “ปล่อยไปเป็นธรรมชาติ แต่ว่า ก็ไม่สามารถไม่ทำอะไรเลย อะหู่ รีบไปบอกสามเสี้ยงที่ไม่ได้เรื่องคนนั้น ให้เขารีบหาข้อมูลเกี่ยวกับสังคมของโล่เฉิน”

จักรพรรดิผู้ฝึกอายุห้าพันปี

จักรพรรดิผู้ฝึกอายุห้าพันปี

ได้รับความลำบาก เพื่อได้อยู่ต่อ ผมทนความอัปยศอดสู แต่งเข้าตั้งสามปี ถูกดูถูกและเยาะเย้ย ในสายตาของพวกเขา ผมเป็นคนที่ไร้ประโยชน์ ใครๆก็สามารถก้าวเหนือหัวผมได้ ใช้ชีวิตอยู่อย่างหมา จนถึงวันนี้ ภัยพิบัติทุกๆอย่างผ่านไป…….เมื่อยิ่งใหญ่ขึ้นมา ทำให้คนบนโลกผวา!!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท