บทที่14 คุณชายที่สาม
การสู้ซึ่งหน้ามันหลบง่าย มากกว่าการซุ่มโจมตี
หงเหลยถิงเป็นหัวโจกใต้ดินของเมืองเจียง มีวิธีปฏิบัติกับคนอื่นมากมาย
โล่เฉินไม่กลัวก็ได้ แต่ว่าหานหยู่เยนล่ะ?
เขาไม่สามารถปกป้องหานหยู่เยนข้างๆ ได้ยี่สิบสี่ชั่วโมง
พูดอีกอย่าง โลกใบนี้ของโล่เฉิน เรือนร่างก็ไม่มีทางกันกระสุนได้ ถ้าเกิดว่าหงเหลยถิงหานักฆ่ามา ตอนที่เขาไม่ระวังตัวอาจจะโดนตามได้
วันนี้ไม่เว้นแม้แต่หงเหลยถิง ก็จะไม่ปล่อยเสือกลับภูเขาไปได้ง่ายๆ
เมื่อเป็นแบบนี้ ว่ากันตามนิสัยของโล่เฉิน ไม่อนุญาตให้อยู่ได้ เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ ความอยากฆ่าของเขามันก็มากขึ้นเรื่อยๆ ลมหายใจก็เย็นชามากขึ้น
ในตอนนี้เอง ในใจของหงเหลยถิงเต้นตึกตัก มือก็เย็นเฉียบ
เขาเองก็กำลังพนันอยู่
อันที่จริงหงเหลยถิงรู้สึกผิดหวังมาตั้งแต่ต้นแล้ว เมื่อครู่ปรี่เข้าไปเพื่ออยากจะฆ่า ตอนนี้กลับไม่มีทางช่วยได้แล้ว เลยทำได้แค่พนันกับโล่เฉินว่าอย่าเข้ามาแตะต้อง
แต่ว่า เมื่อรู้ได้ถึงลมหายใจที่เย็นเฉียบ หงเหลยถิงก็รู้สึกเหมือนฟ้าผ่าลงกลางใจ ร่างกายก็ทำการตั้งรับอย่างทันที
“อือ?”
ขณะที่โล่เฉินกำลังจะลงมือ โทรศัพท์ก็ดังขึ้น มีเบอร์แปลกเบอร์หนึ่งขึ้นมา “ฮัลโหล นั่นใคร?”
“โล่เฉิน คุณผู้ชายโล่หรือเปล่า?”
“ใช่ ฉันเอง”
“ฉันชื่อเสี้ยงจื้อสง ปกติคนเรียกว่าท่านสามเสี้ยง คุณผู้ชายโล่อาจจะไม่รู้จัก แต่พ่อของฉันเสี้ยงหยวน คุณน่าจะรู้จักใช่ไหมล่ะ!”
โล่เฉินแปลกใจเล็กน้อย “ท่านเสี้ยง ฉันรู้จัก คุณมีเรื่องอะไรหรือเปล่า?”
เสี้ยงจื้อสงหัวเราะพลางพูดขึ้น “ขอบคุณที่คุณผู้ชายช่วยพ่อของฉัน เพื่อเป็นการขอบคุณ ฉันอยากเลี้ยงข้าวคุณผู้ชายสักมื้อหนึ่ง แล้วก็เชิญคุณผู้ชายมาเจอหน้ากันหน่อย”
“ไม่ว่าง ฉันกำลังจัดการเรื่องราวต่างๆ !”
“เรื่องราวน่ารำคาญเหรอ?” เสี้ยงจื้อสงหยุดค้างไป พลางถาม “ไม่ทราบว่าคุณผู้ชายเจอเรื่องราวน่ารำคาญอะไรหรือเปล่า?พูดความจริง ฉันมีอำนาจอยู่มากในเมืองเจียง บางทีอาจจะช่วยอะไรได้บ้าง”
โล่เฉินคิดทบทวน จากนั้นจึงพูด: “คนที่ชื่อหงเหลยถิงน่ะ”
“หงเหลยถิง?”
เสี้ยงจื้อสงตกใจอึ้งไป เขาถามขึ้นอีก: “คุณผู้ชาย หงเหลยถิงอยู่กับคุณเหรอ?”
“ใช่แล้ว”
“ขอให้คุณเอาโทรศัพท์มาให้ฉันหน่อย ฉันอยากจะคุยกับเขาสักหน่อย!”
โล่เฉินเลิกคิ้วขึ้น พลางมองไปทางหงเหลยถิง ก่อนจะโยนโทรศัพท์ไป พลางพูด: “มีคนอยากคุยกับคุณน่ะ”
“ใครเหรอ?”
หงเหลยถิงตกใจอย่างร้อนรน เขาเห็นเบอร์โทรศัพท์ ก็รู้สึกคุ้นเคยเป็นอย่างมาก แต่เขารู้จักคนมากเกินไป คิดมาตั้งนานแต่ก็คิดไม่ออก
“ฮัลโหล คุณคือ……”
“หงเหลยถิง คุณกล้ามากเลยนะ ขนาดคนของฉันคุณยังกล้ามาแตะต้อง ไม่อยากเอาหัวไว้บนบ่าแล้วเหรอ!”
เสียงนั้นทำให้หงเหลยถิงตกใจจนหัวใจแทบจะระเบิดออกมา ไม่น่าล่ะเบอร์มันถึงได้คุ้นตา เพราะคือคุณชายตระกูลเสี้ยงที่สามของตระกูลเสี้ยงนี่เอง
“คุณชายที่สาม คุณเองเหรอ ไอคนนี้……”
“หุบปาก ไอคนนี้อะไรกัน เขาคือคุณผู้ชายโล่ ช่วยชีวิตพ่อของฉันเอาไว้ เป็นแขกคนสำคัญของตระกูลเสี้ยง คุณปีกกล้าขาแข็งแบบนี้เลยเหรอ ขนาดแขกของตระกูลเสี้ยงยังกล้ามาแตะต้อง”
หงเหลยถิงเหงื่อตก
ใครๆ ก็รู้ว่าเขาคือหัวโจกอันดับหนึ่งของโลกใต้ดินในเมืองเจียง แต่ไม่รู้ว่าด้านหลังเขามีคุณชายตระกูลเสี้ยงที่สามสนับสนุนอยู่ เขามีวันนี้ได้ ก็เพราะคุณชายตระกูลเสี้ยงที่สามช่วยเอาไว้
ตระกูลเสี้ยงยิ่งเก่งกาจมากกว่าเดิม เป็นคนใหญ่คนโต ถือว่ามีเบื้องหลังที่คุมได้ทั่วฟ้าเลยทีเดียว
เสี้ยงหยวนนั้น ถึงแม้จะเคยเจอคนเก่งๆ มาทั่วทั้งเมืองแล้ว แต่ก็ยังต้องเรียกอย่างเคารพว่า “นายท่านเสี้ยง” เพราะ นายท่านมีบุญคุณที่ช่วยเอาไว้……
หงเหลยถิงไม่กล้าคิดต่อไป กระอักกระอ่วนนิดหน่อย แต่ก็ไม่กล้าพูดอะไรออกมา
“แซ่หง ตอนนี้รีบขอโทษคุณผู้ชายโล่ ถ้าเกิดว่าทำให้คุณผู้ชายไม่พอใจ คุณก็ไม่ต้องทำอีกแล้ว”
“ครับๆ คุณชายที่สาม ฉันเข้าใจ!” หงเหลยถิงพยักหน้า
“เอาโทรศัพท์ให้คุณผู้ชายโล่”
หงเหลยถิงส่งโทรศัพท์ให้โล่เฉินอย่างเคารพ แต่ไม่กล้าสบตา
“มีเรื่องอะไรอีกเหรอ?”
“คุณผู้ชาย คุณอยู่ที่KTVเรอัลมาดริดใช่ไหม เดี๋ยวคนของฉันจะมาในอีกห้านาที ฉันจะต้องรับบริการคุณผู้ชายเป็นอย่างดี”
ตอบรับไป ก่อนจะวางสายใส่โล่เฉินไป
หงเหลยถิงลุกขึ้นอย่างเคารพก่อนจะกำหมัดขึ้นประสานกัน “คุณผู้ชาย ฉันตาไม่มีแววเอง ขอให้คุณอภัยให้ด้วย”
“นายท่าน เกิดอะไรขึ้นเหรอ?ไอเด็กนี่มันเป็นใคร ทำไมต้องเคารพเขาด้วย”
นายหญิงไม่พอใจเป็นอย่างมาก พลางชี้ไปที่โล่เฉินแล้วพูดเสียงดัง
เพี๊ยะ!
หงเหลยถิงมุมปากกระตุกขึ้น เพราะเกรงว่าโล่เฉินจะโกรธเลยรีบตบนายหญิงไป “นังโง่ ไสหัวออกไปจากฉันเดี๋ยวนี้……คุณผู้ชาย เห็นแก่หน้าคุณชายที่สาม อย่าได้คิดมากเลย”
“คุณไม่ได้ขมขู่เหรอ?”
“ไม่ๆ เข้าใจผิดแล้ว ต่อให้มีความกล้ามากกว่านี้อีกมากฉันเองก็ไม่กล้ามาแตะต้องคนของคุณผู้ชายหรอก”
หงเหลยถิงพูดจบ ก็หยิบนามบัตรขึ้นมา
“คุณผู้ชาย นี่คือนามบัตรของฉัน”
“ว่ากันว่านามน้อยย่อมแพ้ไฟ ตระกูลเสี้ยงไม่ได้ปักหลักอยู่ที่เมืองเจียง ไม่ว่าอย่างไรฉันเองก็เป็นหัวโจกอันดับหนึ่งของโลกใต้ดินในเมืองเจียง มีเรื่องอะไร อย่างน้อยก็ต้องได้รับรู้!”
โล่เฉินคิดดูดีๆ ตอนนี้เขายังไม่มีแรงกลับมามาก ยังอยู่ในช่วงฟื้นฟู
ถึงแม้ว่ามีคนรวยอันดับต้นๆ อย่างฟ่านหงชาง แต่เรื่องพวกนี้มันไม่เหมาะจะให้ฟ่านหงชางเป็นคนจัดการ ไม่เหมือนกับหงเหลยถิง
ทางที่มีหงเหลยถิงนั้น ทำให้เขาทำอะไรได้สะดวกมากขึ้นภายในเมืองเจียง
“ขอบคุณนะ”
“ขอบคุณอะไรกัน คุณผู้ชาย เดี๋ยวฉันไปส่งนะ”
เมื่อเดินออกมาจากKTVเรอัลมาดริด ก็มีรถแลนด์โลเวอร์ปรากฎเข้ามาพอดี
โล่เฉินขึ้นรถไป รถขับไปที่ชิงเฟิงซานจวน ที่นี่คือรีสอร์ตหน้าร้อนที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมากของเมืองเจียง คิดไม่ถึงเลยว่านี่จะเป็นธุรกิจของเสี้ยงจื้อสง
“คุณผู้ชายโล่”
ที่หน้าประตู ชายผู้เกรียงไกรวัยสี่สิบต้น ๆ สวมเสื้อแจ็กเก็ตเดินเข้ามาหาเขา
โล่เฉินพยักหน้าเบาๆ ตามความจริงนั้น นอกจากที่เสี้ยงจื้อสงจะมีความจริงจังมากแล้ว แถมยังมีความดุร้ายอยู่ด้วย ถ้าเกิดไม่เคยมีประสบการณ์อะไรคงไม่มีทางหล่อหลอมเป็นแบบนี้ได้
“คุณผู้ชาย ฉันเตรียมงานเลี้ยงเหล้าเอาไว้แล้ว เชิญ”
สวนดอกไม้ด้านหลังของซานจวน มีเหล้าปลาอาหารเตรียมเอาไว้หมดแล้ว
เสี้ยงจื้อสงมีแค่ความยิ้มแย้มก่อนจะพูดขึ้น: “คุณผู้ชาย รีบเข้ามานั่งเร็ว พวกคุณยังไม่รีบรินเหล้าให้คุณผู้ชายอีก”
คนรับใช้สาวสวยทั้งสองคนไม่เพียงรินเหล้าให้โล่เฉิน แต่ยังส่งสายตาให้ไม่หยุด เพื่อสื่ออย่างชัดเจน
ทั้งหมดนี้ โล่เฉินรับรู้ได้เป็นอย่างดี
เสี้ยงจื้อสงเองก็เป็นคนฉลาด รู้ว่าโล่เฉินไม่สนใจ เลยโบกมือๆ ไป
สาวรับใช้ลงไป ก่อนจะวนเหล้าจนครบ
โล่เฉินพลางถาม: “คุณเรียกฉันมา ไม่ได้กินข้าวธรรมดาใช่ไหม มีเรื่องอะไรหรือเปล่า?”
“ซ่อนคุณผู้ชายเอาไว้ไม่ได้เลยจริงๆ”
เสี้ยงจื้อสงหัวเราะ ก่อนจะพูดอย่างจริงจัง “คุณผู้ชาย ฉันมีเรื่องใหญ่เรื่องหนึ่ง อยากให้คุณช่วย”
“พูดมาสิ?”
“สิบปีที่แล้ว ฉันเพิ่งมาที่เมืองเจียง เพื่อคุมอำนาจของเมืองเจียงอย่างรวดเร็ว เลยใช้วิธีอย่างรวดเร็ว มีพวกผู้มีอำนาจในท้องถิ่นหนีไปมากมาย ไม่แปลกเลยที่จะทำให้ฉันมีศัตรูเยอะ”
เสี้ยงจื้อสงถอนหายใจ “หลายปีมานี้ มีคนมาหาเพื่อแก้แค้น แต่ก็ถูกฉันจัดการ แต่ก่อนหน้านี้สามวัน ฉันได้รับจดหมายฉบับหนึ่ง บอกว่าวันที่สิบห้าเดือนสิงหาคมให้มาที่ชิงเฟิงซานจวนจะเอาชีวิตฉัน”
“วันที่สิบห้าเดือนสิงหา ก็คือมะรืนนี้แล้วน่ะสิ”
“ใช่”
โล่เฉินขมวดคิ้ว “คุณมีอำนาจมากขนาดนั้น จะกังวลอะไรอีก”
เสี้ยงจื้อสงหัวเราะอย่างขมขื่น “คุณผู้ชายอาจจะไม่รู้ ก่อนหน้านี้มีคนชื่อลี่สวี้ เป็นลูกของผู้ที่เคยมีอำนาจที่สุดในเมืองเจียง หลังจากที่หมดอำนาจลง ไอคนนี้ก็หายไป”
“คิดไม่ถึงเลยว่าหลังจากนั้นสิบปีเขาเรียกอย่างขยันขันแข็ง เพื่อมาเป็นนักบู๊แล้วมาแก้แค้นฉัน นักบู๊ คุณผู้ชายรู้ดี ว่าการฝึกกำลังภายในนั้น ถึงจะเป็นเหล็ก ก็สามารถตัดให้ขาดได้”
“ถ้าเกิดว่าลี่สวี้มาอย่างชัดเจน ฉันก็ไม่กลัว เขาจะเก่งขนาดไหนก็ไม่มีทางชนะลูกกระสุนได้หรอก แต่กลัวว่ามันจะแอบมาลอบทำร้ายน่ะสิ ดังนั้น ฉันอยากจะเชิญให้คุณผู้ชายลงมือ ช่วยฉันฆ่าลี่สวี้ซะ!”
โล่เฉินมีสีหน้าเย็นชา มองอะไรไม่ออกเลย
เสี้ยงจื้อสงกัดฟัน ก่อนจะหยิบกุญแจกับบัตรเครดิตออกมา พลางพูด: “คุณผู้ชาย ฉันไม่มีทางให้คุณลงมือเปล่าๆ หรอก”
“นี่คือกุญแจของคฤหาสน์ยอดจื่อเช่ว นอกจากนี้ ในบัตรนี้มีเงินห้าล้าน หลังจากที่ทำงานเสร็จแล้ว ฉันจะให้คุณผู้ชายห้าล้าน”
โล่เฉินถอนหายใจ เสี้ยงจื้อสงมีเงินเยอะจริงๆ เลย
ไม่ใช่แค่ห้าล้าน แต่ยังมีคฤหาสน์ยอดจื่อเช่วด้วย
นั่นเป็นคฤหาสน์ที่แพงที่สุดในเมืองเจียงเลยนะ มีวิวที่สวยมากๆ บนเขาจื่อเช่ว ข้างล่างก็มีทะเลสาบใหญ่โต มีทั้งวิวเขาและแม่น้ำอย่างเข้ากัน
คนที่สามารถอยู่ที่เขาจื่อเช่วได้อย่างแพงขนาดนั้น เหมือนกับตระกูลหานที่เป็นตระกูลระดับสองของเมือง ถึงจะขายสมบัติในบ้านไปได้หมดก็ไม่มีทางซื้อคฤหาสน์ตรงตีนเขาได้
คฤหาสน์บนยอดเขายั้ย ได้ยินว่าก่อนหน้านั้นหลายปีราคาร้อยแปดสิบล้าน ต้องเป็นคนที่มีฐานะทางสังคมสูงส่งเป็นอย่างมากในเมืองเจียงถึงจะซื้อได้ ปกติถ้ามีเงินก็ซื้อได้แล้ว
อยู่ที่ยอดเขา ถึงจะถือได้ว่ามีทุกอย่างครบสมบูรณ์ สูงส่ง คนคอยชื่นชม
คิดไม่ถึงเลย ว่าคฤหาสน์ยอดนั้นจะอยู่ในมือเสี้ยงจื้อสง แถมยังให้อย่างใจกว้างด้วย
“คุณชายตระกูลเสี้ยงที่สามนี่ใจใหญ่จริงๆ เลย”
“แทบกับชีวิต กับของนอกกาย แน่นอนว่า ถึงคุณผู้ชายจะไม่ตอบตกลง ทั้งหมดนี้เป็นของคุณ เมื่อรักษาพ่อของฉันได้ ก็ถือว่าเป็นบุญคุณกับตระกูลเสี้ยงด้วย”
โล่เฉินคิดว่าเสี้ยงจื้อสงนั้นเหมาะสมเป็นอย่างมาก บวกกับว่าเขากำลังต้องการเงินไปซื้อBMW และขี้เกียจไปขอจากฟ่านหงชาง เลยตอบตกลง
“ได้ เดี๋ยวฉันจะรับไว้เอง”
“ฮ่าๆ ขอบคุณนะคุณผู้ชาย มาๆ มาดื่มเหล้าเร็ว”
เสี้ยงจื้อสงดีใจเป็นอย่างมาก
ประมาณบ่ายสามโมง โล่เฉินก็ออกจากชิงเฟิงซานจวน แล้วมาที่ร้านBMW4Sอีกครั้ง