บทที่ 32 กล้าตีน้องเมียของผมเหรอ
หนึ่งชั่วยามผ่านไป โล่เฉินก็ออกจากห้อง
“ในที่สุดคุณก็ออกมาได้เสียที”
หานหยู่ถิงอยู่ด้านนอกลานบ้านราวกับเป็นกระต่ายที่กำลังกระโดดโลดเต้นไปมา มองเข้าไปด้านในพลางขมวดคิ้วถาม “เวลาครึ่งชั่วโมงกว่า คุณทำอะไรอยู่ด้านใน?”
“โล่เฉิน ช่วงนี้ฉันจะไปอยู่ที่เมืองเจียง ถ้าคุณจะไปก็บอกฉันล่วงหน้าด้วยนะ”
เซี่ยซือหานสวมใส่ชุดอาบน้ำมายืนอยู่หน้าประตู
เป็นเรื่องเยี่ยมยอดไปเลย
หานหยู่ถิงโหวกเหวกโวยวายเสียงดัง“โอ๊ย โล่เฉิน คุณถึงกับ……ถึงกับกล้ามีชู้ลับหลังพี่สาวฉันเลยเหรอ!”
“หา?”
“คุณมันต่ำช้าสิ้นดี เมื่อกี้ฉันก็ว่าแปลกๆ ทำไมมีถังอาบน้ำส่งเข้าไป ที่แท้พวกคุณก็กำลังอาบน้ำด้วยกันอยู่นั่นเอง คุณเป็นผู้ชายต่ำทรามไร้ยางอายมาก!”
หานหยู่ถิงโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ ชี้ไปยังจมูกของโล่เฉินพลางดุด่าว่ากล่าวอย่างเสียงดัง
“ไม่ใช่อย่างนี้ คุณฟังผมอธิบายก่อน”
“ยังมีอะไรต้องอธิบายอีก ผู้หญิงคนนั้นถอดเสื้อหมดแล้ว”
ขณะที่หานหยู่ถิงกำลังพูดอยู่ก็มีน้ำตาไหลพรากลงมาเตรียมจะร้องไห้แล้ว
“เสียแรงที่พี่สาวฉันยังคอยปกป้องคุณอยู่ พี่เขาดีกับคุณมากขนาดนี้ คุณยังทำตัวต่ำๆอีก เดิมทีฉันยังรู้สึกสงสารคุณอยู่เลยตอนนี้ฉันพบว่าสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ทำนั้นถูกแล้ว”
หานหยู่ถิงหันหน้าวิ่งออกไปพร้อมกับเอ่ยว่า“คุณคอยดู ฉันจะกลับไปฟ้องพี่สาว คุณรอหย่าได้เลย”
ภายในบ้านกลางเป็นสงบเงียบมาก
“เออ……ให้ฉันไปอธิบายกับเมียของคุณไหม?”เซี่ยซือหานพูดด้วยสีหน้าแปลกประหลาด
โล่เฉินยกมือถึงโบก พลางเอ่ยว่า“ไม่เป็นไร ผมกับภรรยาของผมนั้นรักกันมาก ผมไปล่ะนะ คุณไม่ต้องใช้กำลังภายในในช่วงสิบวันนี้ อีกอย่างอย่าลืมสิ่งที่พวกเราตกลงกันไว้ด้วย”
“วางใจได้”
หลังเดินออกจากบ้านหลังนั้น โล่เฉินก็ได้พบเจอกับชายชราผมขาวคนนั้นอีกครั้ง
“คุณชายโล่รอสักครู่ครับ”
“มีเรื่องอะไร?”
“ห้องเหมานภาเบอร์สอง อยากจะพบคุณครับ”
โล่เฉินเข้าใจเสียที คาดไม่ถึงว่าฟ่านหมิงยังไม่ได้ไป
มาถึงห้องวีไอพีจุดนี้ ฟ่านหนิงนำกล่องยื่นให้เขาอย่างนอบน้อม
“อาจารย์ครับ เห็ดหลินจือพันปีอยู่นี่ครับ”
“ลำบากคุณแล้ว”
“เป็นหน้าที่ที่ควรทำครับ”ฟ่านหมิงถาม“ท่านอาจารย์จะยอมให้ผมไปส่งคุณไหมครับ”
โล่เฉินผงกหน้า เขาให้ฟ่านหมิงเอากระดาษกับปากกามา เขียนใบสั่งยาให้ ซึ่งมีตัวยาเพียงสามอย่างเท่านั้น
“ยาสามอย่างนี้มีคุณค่ามาก บอกพ่อคุณว่าช่วยหามาให้ผมโดยเร็ว ผมต้องใช้สมุนไพรพวกนี้ผสมกับเห็ดหลินจือพันปีเพื่อฟื้นฟูพละกำลัง เรื่องนี้เป็นประเด็นสำคัญมาก”
ฟ่านหมิงมีสีหน้าเข้มงวดเก็บใบสั่งยาอย่างระมัดระวัง“ท่านอาจารย์วางใจได้เลยครับ พวกผมต้องทำภารกิจสำเร็จแน่ๆครับ”
“ลำบากแล้ว”
โล่เฉินนำกล่องเก็บเข้ากระเป๋าแล้วออกจากบริษัทจัดการประมูลเฟยสื้อ
หานหยู่ถิงทิ้งเขาไว้ลำพังแล้วขับรถออกไปเอง เขาจึงต้องต่อรถเอง คงต้องรีบกลับบ้านโดยเร็วเสียแล้ว
ไม่เช่นนั้นน้องเมียจอมเกเรคงต้องใช้คำพูดยั่วยุให้บ้านแตกสาแหรกขาดไม่เป็นอันสงบแน่
บริษัทจัดการประมูลเฟยสื้อ ห้องวีไอพีเทียนจื้อหมายเลขหนึ่ง
“ปัง!”
ผู้ชายคนหนึ่งพุ่งเข้ามา กล่าวอย่างร้อนรนว่า“คุณหนูครับ มีชายหนุ่มคนหนึ่งเดินเข้าไปในห้องวีไอพีเบอร์สอง จากนั้นก็แบกกระเป๋าออกไปครับ!”
สาวงามหัวเราะเสียงเย็น“กล้าประมูลเห็ดหลินจือ แต่ไม่กล้าเอาไป ใช้วิธีกระจอกๆอย่างนี้ น่าขำสิ้นดี”
“คุณหนูครับ จะให้จัดการไหมครับ?”
“ไปขัดชายหนุ่มคนนั้นโดยเร็ว ของที่เสี้ยงเหยาเหยาต้องตาแล้วใครหน้าไหนก็แย่งไปไม่ได้”ผู้หญิงลุกขึ้นยืนด้วยสีหน้าเย็นชา
……
ใช้เวลากับการรักษาอาการของเซี่ยซือหานไปมากเลยทีเดียว เมื่อโล่เฉินมาถึงที่ร้านอาหารก็สั่งหมี่มากินอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ต่อรถที่ท่ารถโดยสาร
เดินไปไม่กี่ก้าวเขาก็พบว่ามีอะไรไม่ชอบมาพากล
ฮ่าๆ น่าสนใจ
โล่เฉินมีอารมณ์ขึ้นมาโดยพลัน เขาเลี้ยวเข้าไปในซอกซอยเล็กเดินไปด้านหน้าก็พบว่าเป็นทางตัน
เพิ่งจะหันหลังกลับมา ด้านหน้าก็ปรากฏร่างเงากลุ่มหนึ่ง
“มาแย่งเห็ดหลินจือเหรอ?”
“แย่งแม่งมึงสิ กูจะมากระทืบมึงต่างหาก!”
เสียงที่คุ้นเคยส่งมาจากด้านหลัง โกตุนถือไม้เบสบอลในมือ หลี่ชิงกับตู้คังยืนอยู่ด้านข้าง บวกกับบอดี้การ์ดอีกห้าคน ทำให้ขัดทางซอยเล็กจนหมดทุกพื้นที่
โล่เฉินรู้สึกผิดหวัง เดิมทีนึกว่าเป็นผู้หญิงในห้องวีไอพีเทียนจือเบอร์หนึ่ง แต่คาดไม่ถึงว่าจะเป็นพวกลูกหมารับใช้
“เป็นพวกนายเองเหรอ มีอะไรถึงได้มาหาผม?”
“ยังมาเก็กอีก ให้กูเสียเงินสองล้านกว่าหยวนไปเปล่าๆ แล้วยังทำให้กูอับอายในบริษัทประมูลอีก คืนนี้ไม่ทำให้มึงพิการ
กูจะไม่แซ่โก”
โล่เฉินพิงอยู่ข้างผนัง ยกคิ้วขึ้นพร้อมกับหัวเราะถามว่า“ผมมาจากเมืองเอก คุณไม่กลัวจะหาเรื่องใส่หัวเหรอ!”
“น่าขำ!”
หลี่ชิงถุยน้ำลาย หัวเราะเยาะว่า “สภาพอย่างนี้ของมึงยังคิดจะอ้างตัวเป็นคุณชายจากเมืองเอกอีก ถึงแม้มึงมาจากเมืองเอกก็ต้องเป็นตระกูลอันดับท้ายๆไม่ถือว่าเป็นอะไร”
“ไอ้เฮีย กูถามมึงสิ หานหยู่ถิงเก็บมึงมาข้างทางหรือเปล่า?”ตู้คังถาม
“ทำไม คิดอยากจะได้หยู่ถิงเหรอ?”สีหน้าของโล่เฉินค่อยๆเย็นแข็งขึ้นมาเรื่อยๆ
โกตุนกกับหลี่ชิงสบตากับตู้คังพลันหัวเราะขึ้นมาอย่างมีลับลมคมใน
“ยัยหานหยู่ถิงหน้าตาสวยงามไร้เดียงสา กูต้องตาตั้งแต่แวบแรกแล้ว เสี่ยวชิงบอกว่าตระกูลหานเป็นเพียงตระกูลที่ไม่มีในกลุ่มอิทธิพล ไม่มีอำนาจอะไร กูจะกินหานหยู่ถิงก็ง่ายแสนง่าย หรือตระกูลหานอาจจะพยักพเยิดอยากให้กูกินมากก็ได้!”
“ถ้าไม่ใช่ตัวเหี้ยอย่างมือมาก่อกวน หานหยู่ถิงก็ถูกพวกกูเสร็จเรียบร้อยแล้ว หีแม่มึงเอ้ย คิดๆแล้วโมโหว่ะ!”ตู้คังกัดฟันพูด
นัยน์ตาหลี่ชิงทอแสงร้อนรุ่ม พูดอย่างน่าสะพรึงกลัวว่า“ไม่ว่ามึงจะเป็นไม้บังหน้าที่หานหยู่ถิงหามาข้างทาง ตอนนี้มึงโทรหาหานหยู่ถิงให้เธอมาเดี๋ยวนี้ กูให้โอกาสมึงหนึ่งครั้ง หากไม่เชื่อฟัง กูจะทำให้มึงนอนอยู่ที่เตียงไปชั่วชีวิตเลย!”
“ปังปังปัง!”
โล่เฉินปรบมือ จากอารมณ์โกรธสุดจนแสดงออกมาเป็นเสียงหัวเราะ“ไม่เลว คิดได้สวยมาก!”
โกตุนสีหน้าเคร่งขรึม“ไอ้เหี้ย มึงปฏิเสธเหรอ?”
“ตอนแรกคิดว่าจะไม่ถือสา แต่เศษสวะอย่างพวกนาย คิดอยากจะลงมือกับหยู่ถิง คาดว่าพวกนายคงทำมิดีมิร้ายกับผู้หญิงคนอื่นไว้มาก”
โล่เฉินย่างเท้าค่อยๆเดินเข้าใกล้ น้ำเสียงน่าสยดสยอง“ช่างเถอะ ถือสักว่าพิทักษ์คุณธรรมเพื่อประชาชนก็แล้วกัน!”
พวกโกตุนทั้งสามคนบันดาลโทสะ“ไม่อยากดื่มสุราคำนับ รนจะดื่มสุราทัณฑ์ ทำลายขาสองข้างของมึงทิ้งเสีย”
ฟิ้ว!ฟิ้ว!ฟิ้ว!
บอดี้การ์ดทั้งสามคนมีท่าทางที่ใช้ได้ เพราะต่างเคยฝึกฝนกันมาทั้งนั้น
แต่สำหรับโล่เฉินนั้นอ่อนข้ออยู่มาก
ไม่เจียมตัว มดคิดจะเขย่งช้างงั้นเหรอ
“เพี๊ยะเพี๊ยะเพ๊ยะ!”
โล่เฉินขี้เกียจแม้แต่จะมอง ตบหน้าสามครั้งด้วยความเร็วราวกับฟ้าแลบ จากนั้นก็เห็นทั้งสามคนลอยออกไปกลางอากาศ
แล้วไปชนกับผนังอย่างจัง
“โอ๊ย”
หลี่ชิงตกใจจนหดตัว
และในเวลาเดียวกัน บอดี้การ์ดสองคนที่เหลือก็ถูกโล่เฉินถีบลอยออกไปในชั่วพริบตา ซึ่งโล่เฉินก็ได้เดินมาอยู่ตรงหน้าพวกเขาเรียบร้อย
“รีบดูสิ ด้านหลังมีคน!”
“มีบรรพบุรุษของนาย!”
ฝ่ามืออันเด็ดเดี่ยวของโล่เฉินทำให้ตู้คังสลบไสลไป โกตุนถึงกับต้องอุทานออกมา ไม้เบสบอลในมือเตรียมจะทุบตี
“ไสหัวไป!”
โล่เฉินรู้สึกรำคาญเป็นที่สุด ถีบโกตุนออกไป แล้วนั้นก็ส่งพลังทิพย์เข้าไปภายในร่างกายของโกตุน
หากไม่มีอะไรผิดคาด อวัยวะเพศของผู้ชายคนนี้ก็จะเสียสมรรถภาพภายในหนึ่งเดือน ไม่สามารถไปทำร้ายผู้หญิงอื่นได้อีก
“อา!”
และในเวลานี้หลี่ชิงเห็นภาพกลอกตาไปมา จากนั้นก็เป็นลมเป็นแล้งไปเลย
“ทนตีไม่ได้ขนาดนี้เลยเหรอ ยังออกมาก่อกวนอะไรอีก”
โล่เฉินกลอกตามองบน ก้าวออกไปจากซอก แต่ก็มีเสียงดังแว่วขึ้นมาอีกครั้ง
ไม่นานก็มีสาวสวยเดินออกมาจากความืด ข้างกายมีผู้ชายกำยำอยู่สี่คน ซึ่งแข็งแกร่งกว่าบอดิ์การ์ดของพวกหลี่ชิงเป็นไหนๆ
เสี้ยงเหยาเหยากวาดสายตามองแวบหนึ่ง ขมวดคิ้วพร้อมกับเอ่ยว่า“ฝีมือไม่เลว แต่ก็งั้นๆแหละ เอาเห็ดหลินจือออกมาแล้วจะปล่อยคุณไป”
“ถ้าผมไม่ให้ล่ะ?”
ในที่สุดตัวเอกก็มาจนได้ โล่เฉินอยากจะเล่นสนุกขึ้นมาแล้วสิ
“สถานะของฉันไม่ใช่คุณจะจินตนาการได้ถึง ไม่ต้องท้าทายอำนาจของฉัน”
เสี้ยงเหยาเหยาราวกับเป็นนกยูงที่ยโสโอหังตัวหนึ่ง ในมือยังมีบัตรธนาคารใบหนึ่ง “ในบัตรนี้มีหนึ่งล้าน หากเอาเห็ดหลินจือออกมาก็จะเป็นของคุณ คุณสามารถไปจากเมืองเจียงได้แล้วใช้ชีวิตที่ไม่เลวที่เมืองอื่น!”
“ที่ฉันมาเจรจากับคุณและยังให้เงินหนึ่งล้านหยวนอีก เพราะไม่อยากจะแย่งชิงของของคนอื่น รีบส่งเห็ดหลินจือออกมาแต่โดยดี มันเป็นทางเลือกที่ถูกต้องเดียวของคุณ!”
โล่เฉินหัวเราะดังลั่น“สาวสวย คนเขาใช้เงินสองพันหยวนในการซื้อเห็ดหลินจือมา แต่ใช้จะเงินแค่หนึ่งล้านหยวนเพื่อแลกไป ยังไม่เรียกว่าแย่งชิงอีกเหรอ!”
เสี้ยงเหยาเหยาไม่สบอารมณ์ ไม่พูดอะไร
บอดี้การ์ดราวกับรับรู้เจตนาของเจ้านาย พุ่งไปด้านหน้า แต่ชั่วพริบตาเดียวพวกเขาก็ล้มกองอยู่กับพื้นไม่มีลมหายใจอีกต่อไป
“คุณ!”
“ผมทำไม?”
โล่เฉินปรากฏตัวที่ด้านหลังของเสี้ยงเหยาเหยาอย่างน่าสะพรึงกลัว จนทำให้เธอขนหัวลุกขึ้นมา พลางมีเหงื่อไหลชุ่ม
“คุณ คุณเป็นใคร คิดจะทำอะไร?”
ร่างกายอันงดงามของเสี้ยงเหยาเหยาหดถอย รู้สึกถึงความเย็นจากด้านหลัง จนทำให้เธอพูดจาไม่ลื่นไหล “ฉัน……พ่อของฉันคือเสี้ยงจือสง คนอื่นเรียกขานว่าท่านสามเสี้ยง ฉันเป็นลูกหลานของจีนหลิน คุณกล้าแตะต้องตัวฉัน วันหลังต้องมีปัญหาใหญ่แน่”
“เสี้ยงจื้อสง?”
โล่เฉินหยุดชะงัก รู้ว่าสถานะผู้หญิงคนนี้ไม่ธรรมดา แต่คาดไม่ถึงว่าจะเป็นบุตรสาวของคนรู้จัก
โลกช่างกลมเล็กเสียจริง
“ใช่ คุณเคยได้ยินชื่อเสียงของคุณพ่อฉันใช่ไหม เก่งกาจมากนะ”
ความหวาดกลัวของเสี้ยงเหยาเหยาสลายไปไม่น้อย น้ำเสียงกลับกลายมีเป็นอ่อนโยน “คืนนี้เป็นความผิดฉันเอง ฉันกล่าวขอโทษกับคุณ คุณปล่อยฉันไปเถอะ แล้วจะถือว่าฉันติดค้างน้ำใจคุณหนึ่งครั้ง ภายภาคหน้าหากเจอปัญหาอะไรก็เรียกใช้ฉันได้เลย”
ตุ๊บตั๊บ ตุ๊บตั๊บ
ได้ยินเสียงเต้นของหัวใจชัดเจนในซอกซอยที่เงียบสงัดเช่นนี้
“คุณตอบด้วยสิ”
“คุณวางใจได้ ฉันไม่มาหาเรื่องคุณภายหลังหรอก คุณเอาเงินใช่ไม่?ในกระเป๋าของฉันมีบัตรใบหนึ่ง ด้านในมีเงินหนึ่งร้อยล้านหยวน ฉันให้คุณหมดเลย”
“คุณอย่าเงียบอย่างนี้สิ คุณได้ยินไหม?เห้ย ฉันหันหลังแล้วนะ……”
เสี้ยงเหยาเหยาหันหลังไปอย่างระมัดระวังแล้วพบว่าด้านหลังไม่มีเงาของผีแม้แต่ตนเดียว
“ไปแล้ว?!”
นาทีนี้เสี้ยงเหยาเหยามีความดีใจหลังผ่านพ้นภัยอันตรายมาได้
เมื่อกี้เธอรู้สึกว่าตัวเองคงต้องเจ็บตัวแน่ เธอกลัวว่าจะถูกจับไปทรมานอย่างน่าอนาถ
เพราะเธอคิดว่าตนเป็นสาวสวยคนหนึ่ง
ผู้ชายคนไหนจะไม่ชอบเอาสาวสวยไปเสพสุขข่มเหงกัน!
“ไอ้บ้า กล้าขู่ฉันเหรอ หากถูกฉันจับได้คุณต้องเจอดีแน่”
เสี้ยงเหยาเหยาโกรธเคืองจนกระทืบเท้า
ทันใดนั้นเสียงมือถือก็ดังขึ้นมา
เมื่อรับสายก็มีเสียงที่เต็มไปด้วยความรักและเมตตาส่งผ่านมือถือมา“เหยาเหยา การประมูลจบสิ้นหรือยัง?หนูบอกว่าจะเอาเห็ดหลินจือพันปีเป็นของขวัญวันเกิดของคุณปู่ ตอนนี้ได้หรือยัง?