บทที่50 พนันสามสิบล้าน
“เสี้ยงจื้อสงตายหรือเปล่าฉันไม่รู้ แต่ว่าชีวิตของคุณ เกรงว่าจะอันตรายหน่อย”
เสียงที่คุ้นเคย
เขา เขานี่เอง……
ในตอนนั้น เฉินชางนิ่งไป เขาไม่กล้าหันกลับมา ความหนาวสั่นเข้ามาจากเท้า
ใครกำลังพูดนะ?!
ในขณะเดียวกัน เศรษฐีต่างมองไป สุดท้ายก็มองออกไปจากล็อบบี้ไปข้างนอก
เห็นเพียงคนวัยรุ่นแต่งตัวธรรมดาแล้วจูงหญิงสวยงามเข้ามา จากนั้นก็เดินเข้ามาอย่างเนิบๆ ที่แปลกก็คือ คุณหนูใหญ่ของตระกูลเสี้ยงกับคุณท่านนั้นมีบอดี้การ์ดติดตามอยู่
คนวัยรุ่นทั้งสองคนนี้ ไม่ใช่เพิ่งโดนไล่ออกไปเหรอ ทำไมตอนนี้ถึงกลับมาอีก?
เศรษฐีหลายๆ คนต่างเหงื่อตก โล่เฉิงสงสัยในเวลาเดียวกัน แต่ว่ามุมปากกลับมีรอยยิ้มที่ไม่ลดลงเลย
“คุณหนูฉ่ายเอ่อกลับมาก็ดีแล้ว เมื่อครู่ที่ฉันกับคุณท่านเสนอคุณเห็นอย่างไรบ้าง?”
“อะไร?”
โล่เฉิงพูดด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม: “คุณกับเหยาเหยามาเป็นแฟนของฉัน ปรนนิบัติฉันดีๆ จากนั้นครึ่งปีฉันจะเลือกคนที่ถูกใจไปใช้ชีวิตด้วย คุณคิดเห็นอย่างไร?”
“ไสหัวออกไป!”
เสี้ยงฉ่ายเอ่อโกรธจนหน้าแดง เพราะถูกทำให้หัวเสียอย่างมาก “แซ่โล่ คุณนี่สามหาวเกินไปแล้ว!”
“สาวงามคู่กับอัศวิน มันเป็นแบบนี้อยู่แล้ว”
“คุณ!”
เสี้ยงฉ่ายเอ่อโกรธเป็นอย่างมาก แต่ก็ไม่อยากจะสนใจอีก เธอเลยทำปากดีขึ้นมา
ถึงอย่างไรโล่เฉิงก็เก็บอารมณ์ไว้เพื่อเฉินชาง ขอเพียงแค่ล้มเฉินชางได้ ก็สามารถล้มเลิกความอวดดีของเขาได้
“คุณปู่ อาจารย์มาแล้ว”
เสี้ยงหยวนชอบใจ จึงลุกขึ้นมากำหมัดขึ้น “อาจารย์ ก่อนหน้านี้มีเรื่องกันมามาก มันเป็นความเข้าใจผิด ขอให้อาจารย์อย่าใส่ใจ จากนั้นฉันตระกูลเสี้ยงจะไม่เกิดแบบนี้อีกแล้ว”
“ไม่ต้องทำอะไรที่ไม่มีประโยชน์หรอก ที่ฉันมาไม่ใช่เพราะตระกูลเสี้ยง”
คำพูดของโล่เฉิน ทำให้ตระกูลเสี้ยงมีสีหน้าตกใจไป
อันที่จริง ถ้าเกิดไม่ได้ยินชื่อคุณชายตระกูลโล่ โล่เฉินไม่มีทางมาหรอก
คนจอมปลอมแบบนี้เขาไม่ชอบเลยจริงๆ เมื่อมีโอกาสหักหน้า ก็จะไม่ปล่อยไปแน่นอน
“ไอ้หนุ่ม คุณไม่ต้องมาทำปลอมแล้ว!”
จู่ๆ ก็มีเสียงที่ดูไม่เป็นมิตรดังขึ้นมา
ฉีหงเดินเข้ามา พลางมองโล่เฉินแล้วยิ้ม “ไอหน้าขาว ทำเป็นอาจารย์นักบู๊ ถ้าเป็นคุณหนูฉ่ายเอ่อกับคุณท่านก็ช่างเถอะ แต่มาหลอกฉันได้เหรอ!”
“คุณเป็นใคร?”
“ฉันเป็นใครคุณไม่ต้องรู้ อย่ามาทำตัวขายหน้าแบบนี้ ใช้วิชาที่โกงมาในการทำเป็นเก่งอีก เมื่อเจอมือฉมังจริงๆ คุณตามไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ!”
ฉีหงไม่แยแส
เขารู้สึกดีกับเสี้ยงฉ่ายเอ่อมาก แต่ว่าหญิงที่ตัวเองชอบกลับชอบไอหน้าขาวนี่ มันทำให้ฉีหงหึงหวงเป็นอย่างมาก
“ไอหมาที่ไหนกันเนี่ย มาไล่กัดคนแบบนี้ เจ้าของม่ามเอาไว้เหรอ” โล่เฉินพูดจาแดกดัน
“ไอสารเลว คุณกล้ามาด่าฉันเหรอ!”
ฉีหงโกรธเป็นอย่างมาก เลยอยากจะลงมือ
เสี้ยงฉ่ายเอ่อมีสีหน้านิ่งลง จากนั้นจึงเดินขึ้นมาพูดด้วยความเย่อหยิ่ง: “ฉีหง อย่ามาหยาบคาย นี่คือแขกคนสำคัญของฉันตระกูลเสี้ยง ขอให้คุณเคารพด้วย”
“คุณหนูฉ่ายเอ่อ ไอนี่……”
“ไม่ต้องพูดแล้ว” เสี้ยงฉ่ายเอ่อเสียงเย็นชา
ฉีหงกัดฟัน และยิ่งไม่พอใจในตัวโล่เฉิน เขาถอยออกไป พลางหัวเราะเยาะเย้ย เพราะอยากรู้ว่าโล่เฉินจะถูกทำร้ายขนาดไหน
เสี้ยงฉ่ายเอ่อรู้สึกผิดมาก “อาจารย์ รบกวนด้วย”
“คนล่ะ เข้ามา”
โล่เฉินไม่ได้สนใจ ก่อนจะเดินขึ้นไปบนเวทีประลอง แล้วตะโกนออกมา
ท่าทีนั้นสง่างาม ทำให้คุณชายโล่หยุดยิ้มขึ้นมาไม่ได้
โจวไท่ที่อยู่ข้างๆ ร้องออกมา: “ไอลูกเขย มาเล่นอะไรเนี่ย สมองเสียแล้วเหรอ?”
“เขาอยากจะเจอกับเฉินไต้ซือ อยากจะชนะเฉินไต้ซือ อะไท่ คุณจะไปรบกวนโล่ไต้ซือได้อย่างไร”
“ใช่ๆ พี่เฉิงพูดถูก”
ทั้งสองคนพูดไปเรื่อย แววตาของโล่เฉิงนั้นมองมาที่หานหยู่เยน พลางพูด: “หยู่เยน ทำไมคุณถึงมีเรื่องกับฝั่งเขาด้วย มาทางฉันเถอะ เดี๋ยวเสร็จงานวันเกิดแล้ว จะพาคุณไปเดินเล่น”
“ไม่ต้องหรอก ฉันฐานะต่ำต้อย ไม่กล้านั่งข้างๆ คุณชายหรอก”
โล่เฉิงขมวดคิ้วเบาๆ
เพียงไม่นาน เขาก็โล่งใจ
คนคนนี้กำลังหึงอยู่ เมื่อครู่ปากไว ไม่ควรจะบอกว่าอยากจะคบกับพี่น้องเสี้ยงฉ่ายเอ่อ
เรื่องเล็กแบบนี้ โล่เฉิงคิดว่าใช้เงินแก้ไขได้ เขามองไปทางเวทีประลองอีกครั้ง “ถึงอย่างไรพี่เฉินก็จะแสดงออกมาอยู่แล้ว ก็ดี เฉินไต้ซือ ต้องขอให้คุณประลองกับเพื่อนของฉันหน่อย แต่ว่า ออมมือหน่อยนะ ถือว่าเป็นมารยาทก็พอ”
เงียบสงัด
ทั้งงานเงียบลง ไม่มีเสียงตอบกลับ
“อือ?เฉินไต้ซือ”
โล่เฉิงลุกขึ้น ก่อนจะมองไปทางประตูตรงมุมของห้องรับรอง พลางเรียก: “อาจารย์ คุณกำลังจะไปไหน?”
ไอเลวนี่!
ในตอนนั้นเองเฉินชางอยากจะฆ่าโล่เฉิง คุณทำเป็นเก่งเองนะ ไม่สิ ไม่ได้ทำเป็นเก่ง แต่เป็นรนหาที่ตาย
เมื่อได้ยินมาถึงตรงนี้ เฉินชางก็รู้ว่าได้เจอกันปรมาจารย์วัยรุ่นที่น่ากลัวขนาดไหน เขาอยากจะร้องไห้ ก่อนจะตัดสินใจค่อยๆ เดินจากไป
ถึงอย่างไร ในตอนนั้นเองทุกๆ คนก็มองไปที่เขา
เพี๊ยะ!เพี๊ยะ!
เฉินชางตัวสั่น รู้สึกถึงแววตาที่เย็นชา เหมือนกับมีมีดมาปักกลางหลังเขา
“หลบไม่ได้อีกแล้ว”
เฉินชางหันมาอย่างตัวแข็ง ก่อนจะก้มหน้า และค่อยๆ เดินขึ้นไปบนเวทีประลอง
โล่เฉิงไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับเฉินชาง กินอะไรเสียหรือเปล่า จะไปถ่ายท้องเหรอ?
เขาตะโกนออกมา: “อาจารย์ ร่างกายไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า รีบประลองเถอะ”
ประลองอะไรของแก
เขาเป็นปรมาจารย์ จะสู้อย่างไร แลกด้วยชีวิตเหรอ?
“พี่เฉิน สู้ๆ นะ ถ้าเกิดว่าฉันสามารถทนเฉินไต้ซือสามครั้งได้ ฉันจะให้คุณหนึ่งล้าน รับแรงของฉันได้ก็ถือว่าจะให้คุณแสนหนึ่งเป็นมารยาท ให้คุณได้มีกำไรบ้าง”
“คุณมั่นใจเหรอ?”
ได้เงินฟรีๆ ใครไม่เอาก็โง่แล้ว
อีกอย่าง ก็เหมือนเงินที่หลอกมา
“ทุกๆ คนมองอยู่นะ ตัวตนของฉัน จะโกหกได้อย่างไร”
“พนันมากกว่านี้หน่อยไหม”
โล่เฉิงสนใจ เลยยิ้มพลางถาม: “เล่นอย่างไร?”
“ฉันถ้าเกิดว่าชนะเฉินไต้ซือ จะเป็นอย่างไร?”
ฮ่าๆ
โล่เฉิงหัวเราะด้วยความเย่อหยิ่ง พลางส่ายหัวพูด: “พี่เฉิน คุณนี่เป็นเหมือนกบในกะลาจริงๆ เลย เฉินไต้ซือเป็นใครคุณก็อาจจะไม่รู้ แต่ว่าเมื่อคุณพูดแล้ว ไม่พนันก็เหมือนฉันใจแคบ คุณพูดมาเถอะ ว่าจะเอาอย่างไร?”
“คุณเอาสมบัติมามากแค่ไหน?”
“ไม่เยอะเท่าไหร่ ในบัตรมีสิบกว่าล้าน ข้างนอกยังมีโรลส์รอยกว่าสิบแปดล้าน รวมๆ ก็สักสามสิบล้านได้”
“งั้นพนันสามสิบล้านเลย!”
โล่เฉิงอึ้งไป พวกเศรษฐีเองก็อึ้งไปเช่นกัน
สามสิบล้านไม่ใช่ตัวเลยน้อยๆ เลย นี่คือการพนันของคนร่ำรวย แต่ว่าเหมือนกับผลลัพธ์จะถูกกำหนดเอาไว้แล้ว
“ยิ่งใหญ่” โจวไท่ดูถูก
โล่เฉิงดีใจมาก เขาไม่มีโอกาสใจการลงมือกับหานหยู่เยน แต่ตอนนี้เป็นโอกาสที่ดี “ไม่มีปัญหา แต่ว่าการเดิมพันของคุณ เหมือนจะไม่ได้สามสิบล้านกลับมานะ?”
เสี้ยงฉ่ายเอ่อกับเสี้ยงหยวนสบตากัน ก่อนจะเปิดปากพูด
กลับได้ยินโล่เฉิงพูดต่อ: “ไม่ได้สามสิบล้านก็ไม่เป็นไร เพื่อนกันทั้งนั้น ฉันเอาก็ไม่ได้จะเอาอะไรมาก เอาแบบนี้ก็แล้วกัน ให้หยู่เยนเป็นเจ้ามือ ถ้าแพ้จะให้หยู่เยนมากินข้าวกับฉันพรุ่งนี้”
ในตอนนั้นเอง
โล่เฉินมีแววตาเป็นประกาย พวกไม่จริงใจคนนี้ยังทำลายความตั้งใจของหยู่เยน ฆ่าไม่ตายจริงๆ เลย
ในขณะเดียวกัน คุณชายโล่ก็มั่นใจมาก
ขอเพียงแค่ได้อยู่กับหานหยู่เยนสองต่อสอง เขาก็ต้องพาหานหยู่เยนไปที่เตียงให้ได้
คุณชายระดับสูงของจีนหลิง ฉายา “คุณชายเด็ดดอกไม้” ถ้าเกิดว่าขนาดคุณหนูที่ไม่อยู่หนึ่งในตระกูลระดับหนึ่งยังจัดการไม่ได้ งั้นเขาก็ไม่ต้องอยู่ในจีนหลิงแล้ว
“ทำไม ไม่ตกลงเหรอ?” โล่เฉิงมีน้ำเสียงแกมบังคับ
“ฉันตกลง”
คนที่พูดไม่ใช่โล่เฉิน แต่เป็นหานหยู่เยน
“หยู่เยนคุณ……”
“ฉันเชื่อคุณ”
หานหยู่เยนกำหมัดแน่น ดวงตาสวยนั้นไม่มีแววอยู่เลย
มันทำให้โล่เฉินซึ้งใจ เขาไม่ยื้อเวลา พลางมองไปทางเฉินชาง แล้วพูดคำที่ทำให้คนตกใจ
“นานขนาดนี้แล้ว คุณยังกล้ามายืนต่อหน้าฉันอีก ใครให้คุณกล้ามากขนาดนี้นะ?”