บทที่49 ขอให้คุณรีบออกมาเถอะ
ตึกซิงหยุน ในห้องรับรองธรรมดาห้องหนึ่ง
“คุณปู่ อย่าเสียใจมากเกินไป”
โล่เฉินบอกข่าวการตายของเหม่ยจวนให้คุณท่านฟัง ไม่ใช่แค่เขาที่เสียใจเป็นอย่างมาก ขนาดหานหยู่เยนยังตาแดงเลย
“ไอพวกสัตว์เดรัจฉาน โล่เฉินคุณแจ้งความหรือยัง?”
“วางใจเถอะ คนทำผิดนั้นมันได้รับโทษแล้ว เมื่อครู่ได้รับโทรศัพท์ ฉู่เฟิงไปห้องจัดงานศพแล้ว เผาร่างของเหม่ยจวนเรียบร้อย แล้วเอากระดูกไปที่หมู่บ้านเหอฮัว”
คุณท่านเช็ดน้ำตา พลางอธิบาย: “นั่นคือบ้านเกิดของฉัน เหม่ยจวนชอบที่นั่นมาก ด้านหลังภูเขามีบ่อบัวอยู่ ถ้าฉันเดาไม่ผิด เสี่ยวเฟิงจะต้องเอาเถ้ากระดูกของเหม่ยจวนฝังไว้ที่ข้างๆ บ่อบัวแน่นอน”
“ฉันต้องกลับไป ส่งเหม่ยจวนเป็นครั้งสุดท้าย สะใภ้ผู้น่าสงสารของฉัน” คุณท่านลุกขึ้น อย่างสั่นเทา เหมือนจะเป็นลมไป
โล่เฉินพยุงชายชรา และตรวจสอบเล็กน้อย ก็พบว่าร่างกายนั้นถึงจุดจบแล้ว อย่างมากก็มีชีวิตได้อีกแค่ปีสองปี
“เห้อ ชายชรา”
เมื่อครู่กำลังคิดอยู่ จู่ๆ ชายแก่ก็เซมาข้างหน้า
หานหยู่เยนตกใจ โล่เฉินรีบพยุงเขาไปที่โซฟา
“โล่เฉิน ชายแพ่เป็นอะไร?”
“ร่างกายที่อ่อนแออยู่แล้ว บวกกับความเศร้าโศก แรงใจไม่เหลือแล้ว อาจจะอยู่ได้อีกไม่นาน” โล่เฉินอธิบาย
“อ๋า แล้วทำอย่างไรดีล่ะ”
หานหยู่เยนคิดไปไกลมาก เลยพูดด้วยความเป็นห่วง: “ฉู่เฟิงเพิ่งจะเสียคนรับไป ถ้าเกิดว่าเสียพ่อไปอีก ไม่รู้ว่าจะถูกทำร้ายจิตใจขนาดไหน”
“วางใจเถอะ ฉันมีวิธี หยู่เยน คุณให้คนใช้ไปเอาเข็มมา”
“คุณจะทำอะไร?”
“อย่าถามมาก รีบเร่งนะ”
เมื่อเห็นโล่เฉินสีหน้าจริงจัง หานหยู่เยนก็ไม่กล้ารีรอ เพียงไม่นาน ก็เอาเข็มเงินชุดหนึ่งมา
พบว่าหานหยู่เยนนั่งยองลงที่โซฟา ก่อนจะมองอย่างตั้งใจ
โล่เฉินพูดด้วยสีหน้าขาดความยิ้มแย้ม: “ฉันอยากจะถอดเสื้อผ้าให้ คุณมั่นใจว่าอยากจะอยู่ตรงนี้?”
“ชิ”
หานหยู่เยนทำปากจู๋ ก่อนจะพูดด้วยความไม่พอใจ: “คุณนั่นแหละที่ไม่อยากให้ฉันเห็น”
“ฉันไม่ได้โกหกคุณนะ จะรักษาต้องถอดเสื้อผ้าออก”
“คุณรักษาได้เหรอ ทำไมฉันไม่รู้เลย”
โล่เฉินยักไหล่ พลางพูดด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม: “คุณไม่รู้อะไรอีกมาก ฉันจะค่อยๆ ให้คุณรู้เอง ตอนนี้ขอให้คุณภรรยาออกไปรอข้างนอกก่อนนะ”
“ใครเป็นภรรยาคุณ”
หานหยู่เยนเบะปากเบาๆ ก่อนจะเดินจากไป
โล่เฉินไม่รีรอ ก่อนจะเริ่มทำการรักษาให้ชายแก่
เข็มมังกรเก้าหาง
นี่คือการรักษาของ《วิชาอมตะ》 มันรักษาได้ทุกโรค ครอบจักรวาล สามารถทำให้กลับมาอ่อนเยาว์ แล้วใช้ชีวิตต่อได้
เมื่อเข็มเงินอยู่ในมือ ก็ไม่ต้องกลัวโรคอะไรทั้งนั้น
บนโลกใบนี้ไม่มีโรคอะไรที่โล่เฉินรักษาไม่ได้ ถ้าเกิดจะมี ก็เพราะเข็มไม่พอเท่านั้นเอง
ทางนั้นกำลังรักษา ตึกซิงหยุนก็มีคนโผล่มาสองคน
ชายหญิงคู่หนึ่ง
เสี้ยงฉ่ายเอ่อกับอะหู่ได้รับข่าวสาร เลยรีบมา แล้วถามเลขห้องรับรอง จากนั้นทั้งสองคนก็ไม่ได้หยุดพักเลย
“ขอให้ทั้งสองคนหยุดก่อน”
ประธานเอาเข็มมาให้ พลางรอบริการหานหยู่เยนอยู่ด้านนอก
พบว่าทั้งสองคนอยากจะเข้ามา เลยขวางเอาไว้ “ทั้งสองคน จะมาหาใคร?”
“โล่เฉิน โล่ไต้ซือ”
“โล่ไต้ซือกำลังรักษาคนป่วยอยู่ ทั้งสองพักที่ห้องรับแขกก่อน อาจารย์ออกมาแล้วฉันจะบอกเขาให้”
เสี้ยงฉ่ายเอ่อร้อนใจ เพราะงานวันเกิดนั้นรอโล่เฉินอยู่คนเดียว
“ฉันเป็นเพื่อนของเขา ฉันมีเรื่องรีบร้อนจริงๆ”
“คุณหนู ขอโทษจริงๆ นะ นี่คือภรรยาของโล่ไต้ซือ คุณหาน เธอยังต้องรออยู่ข้างนอกเลย คุณคิดว่าจะมีอะไรสำคัญกว่านี้อีกไหม!”
เสี้ยงฉ่ายเอ่อมีสีหน้าตกใจ
หานหยู่เยนทักทายอย่างมีมารยาท “สวัสดีพวกคุณ มาหาโล่เฉินมีอะไรหรือเปล่า?”
“เอ่อ……”
เสี้ยงฉ่ายเอ่อทำตัวไม่ถูก เลยพูดตะกุกตะกัก “ฉันเป็นคุณหนูของตระกูลเสี้ยง ชื่อเสี้ยงฉ่ายเอ่อ ก่อนหน้านี้มีเรื่องกัน หวังว่าจะคุณจะไม่ติดใจอะไร ฉันมาที่นี่ ก็เพื่อเชิญอาจารย์กับภรรยากลับไปร่วมงานที่ซานจวน”
คนของตระกูลเสี้ยงเหรอ?
หานหยู่เยนเองก็รู้ ว่าตระกูลเสี้ยงนั้นใหญ่มากในจีนหลิง แข็งแกร่งกว่าตระกูลหานมากหลายสิบเท่า
“โล่เฉินกำลังช่วยคนอยู่ ดังนั้นขอให้คุณหนูรอก่อนนะ”
“งั้นก็ได้”
เสี้ยงฉ่ายเอ่อเองก็เข้าใจดี
ก่อนหน้านี้ที่ทำให้ทุกคนต้องไป ตอนนี้กลับมาเชิญกลับไป ใครก็ไม่พอใจ หานหยู่เยนไม่ได้มีสีหน้าอะไรแต่กลับมีมารยาทมาก ทำตัวดีจริงๆ
เพียงไม่นาน ประตูห้องก็เปิดออก
“ทำไมพวกคุณมาอยู่ที่นี่กัน?”
โล่เฉินขมวดคิ้วด้วยสีหน้าเย็นชา
เสี้ยงฉ่ายเอ่อกับอะหู่โค้งเก้าสิบองศา ด้วยความจริงใจ “อาจารย์ ก่อนหน้านี้พวกเราตระกูลเสี้ยงต้อนรับไม่ดีเอง ขอให้คุณยกโทษด้วย”
หานหยู่เยนปิดปากเล็กน้อย เพราะมันไม่น่าเชื่อเลย
เมื่อครู่เธอไม่พอใจขึ้นามแล้ว โล่เฉินมีหน้ามีตาอะไร ถึงทำให้คุณหนูของตระกูลเสี้ยงมาเชิญกลับไปได้ คิดไปคิดมา หานหยู่เยนคิดว่าอาจจะเกี่ยวกับเจ้าสัวของเจียงโจวก็ได้
แต่ตอนนี้ เธองงไปหมดแล้ว
ท่าทีแบบนี้ มันมากเกินไปหรือเปล่า
“มาไกลขนาดนี้ เพื่อประโยคเดียวเนี่ยนะ?”
“อาจารย์ ที่ฉันมาในวันนี้ก็เพื่ออยากให้คุณช่วย ในงานวันเกิดนั้นมีนักบู๊แข่งกัน นักบู๊ที่พวกเราตระกูลเสี้ยงเชิญมาถูกตระกูลโล่ทำร้ายจนแพ้ แต่ตระกูลโล่เป็นศัตรูตลอดกาลของพวกเรา แพ้ใครก็ได้ที่ไม่ใช่ตระกูลโล่ ดังนั้น……”
“ฮ่าๆ”
โล่เฉินหัวเราะออกมา พลางมีสีหน้าเย็นชามากขึ้นเรื่อยๆ “ตระกูลเสี้ยงนั้น มีประโยชน์ก็เก็บไว้ไม่มีก็เฉดหัวทิ้ง เมื่อไม่มีประโยชน์ก็ทำเหมือนฉันเป็นหมา พอมีประโยชน์ก็รีบมาขอร้องฉัน คุณคิดว่าฉันเป็นอะไร!”
“อาจารย์ ฉัน……”
“คุณตระกูลเสี้ยงเป็นใครกัน ถึงกล้ามาดูถูกข้า ทำให้รำคาญแล้ว ไม่สนใจหรอกว่าคุณเป็นใคร ก็ตายไปได้ทั้งนั้น!”
ฟู่ๆ
ตรงทางเดิน จู่ๆ ก็มีลมแรงขึ้น
เสี้ยงฉ่ายเอ่อมีสีหน้าซีดเซียว ตัวแข็งทื่อ
อะหู่เองก็ตัวสั่นเทา
จู่ๆ เขาก็คุกเข่าลง “อาจารย์ ฉันรู้ว่าไม่มีสิทธิ์มาเทียบชั้นกับคุณ แต่ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ที่ซานจวนมันเป็นความเข้าใจผิด ไม่ใช่ว่าตระกูลเสี้ยงไม่ต้อนรับคุณนะ”
“ใช่แล้วล่ะ อาจารย์”
เสี้ยงฉ่ายเอ่อดวงตาแดงก่ำ ในตานั้นมีน้ำตาอยู่ พลางรีบอธิบาย “น้องสาวของฉันชื่อเสี้ยงเหยาเหยาไปรับผิดคน คุณกับตระกูลโล่คุณชายโล่เฉิงชื่อคล้ายกัน น้องฉันเลยรับผิดคน เลยทำให้เกิดเรื่องไม่ดีแบบนี้ขึ้น”
“ตระกูลโล่คุณชายโล่เฉิง?”
“ใช่แล้ว”
โล่เฉินมองไปทางหานหยู่เยน แล้วฟังเธอพูดด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม: “ฉันรู้ว่าเขาเป็นตระกูลโล่ในจีนหลิง แต่ว่าพ่อแม่รู้แค่ว่าเขาเป็นคุณชายคนหนึ่งเท่านั้นเอง ไม่รู้ว่าครอบครัวใหญ่โตมาจากไหน ไม่อย่างนั้นคงจะจับพวกเราไปหย่ากันแล้ว”
“น่าสนใจ”
เสี้ยงฉ่ายเอ่อไม่ได้ฟังทั้งสองคนคุยกันจนเข้าใจ เลยขอร้องต่อ “อาจารย์ ขอร้องล่ะ เหยาเหยาทำผิดไปแล้ว คุณปู่กับคุณลุงสามเองก็โกรธเป็นอย่างมาก ขอให้คุณอย่าโกรธไปเลย ฉันตระกูลเสี้ยงจะชดใช้ให้”
หานหยู่เยนรู้ว่าโล่เฉินนั้นไม่ธรรมดา แต่ว่าคิดไม่ถึงว่าจะทำให้คุณหนูของตระกูลเสี้ยงในจีนหลิงมาขอร้องแบบนี้ได้ เธอทนดูต่อไปไม่ได้ เลยโน้มน้าว
“โล่เฉิน ไปหน่อยเถอะ คุณเป็นชายใจกว้างนะ อย่าใจแคบไหน่อยเลย คุณดูสิคุณหนูเสี้ยงจะร้องไห้แล้ว มันไม่ดีขนาดไหน”
“อือ……ก็ได้ เอาตามคุณว่า”
โล่เฉินยิ้มเบาๆ
เสี้ยงฉ่ายเอ่อดีใจเป็นอย่างมาก “ขอบคุณอาจารย์มาก”
คุณหนูของตระกูลเสี้ยงมาขอร้องขนาดนี้ไม่ได้ แต่ฉันพูดคำเดียวโล่เฉินก็ตกลงแล้ว
ฮ่าๆ
หานหยู่เยนรู้สึกดีภายในใจ สะใจและมั่นใจขึ้น
“เขาไม่เป็นไรแล้ว เดี๋ยวรอเขาฟื้นขึ้นมาก็ให้เขากลับบ้านได้” โล่เฉินสั่งงาน ก่อนจะจูงหานหยู่เยนออกจากตึกซิงหยุนไป
……
ชิงเฟิงซานจวน ในล็อบบี้ของงานในร่ม
บรรยากาศนั้นแปลกไป
คนของตระกูลเสี้ยงมีสีหน้าดูไม่ได้ โล่เฉิงกลับหน้าแดงก่ำ
เศรษฐีผู้มีอิทธิพลอำนาจของจีนหลิงมากมายไม่พูดอะไรเลย เพราะนี่เป็นการทัดทานกันของตระกูลเสี้ยงกับตระกูลโล่ พวกเขาไม่มีทางรวมกันได้
“คุณท่าน เมื่อครู่ที่ฉันเสนอไป คุณคิดว่าไง?”
“สามหาวนัก!”
เสี้ยงหยวนไม่ได้พูดอะไร เสี้ยงจื้อสงก็โกรธจนตบโต๊ะ แล้วสาดน้ำชา
เขาชี้ไปทางโล่เฉินพลางด่า
“คุณมันเป็นใคร ถึงพ่อคุณจะเคยเจอฉัน แต่ก็ต้องเรียกว่าพี่ใหญ่ ไอ้หนุ่มน้อยนี่กล้ามาอวดเบ่งต่อหน้าฉัน แถมยังกล้ามามีความสัมพันธ์กับฉ่ายเอ่อเหยาเหยาอีก คุณรนหาที่ตายเหรอ!”
ในล็อบบี้ ในตอนนั้นเองเงียบไป
โล่เฉิงมีสีหน้ายิ้มเหมือนเดิม พลางสบตาเสี้ยงจื้อสงด้วยความไม่เกรงกลัว
“ลุงสงพูดผิดแล้ว ฮีโร่ก็ต้องคู่กับสาวงามมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว ฉันโล่เฉิงก็เป็นคนหล่อในจีนหลิง คบหากับฉ่ายเอ่อเหยาเหยาสองคน ก็ถูกต้องแล้ว!”
“ถูกต้องบ้าอะไรกัน!”
คนที่ด่าก็คือฉีหง
โล่เฉิงปรายตามอง “คุณอยากตายเหรอ คุณมีสิทธิ์พูดที่ไหน?”
เมื่อคิดถึงความน่ากลัวของเฉินชาง ฉีหงก็ไม่กล้าพูดต่อ
“ลุงสง ฉันพูดเพียงเท่านี้พอ ฉันว่าจะคบกับฉ่ายเอ่อและเหยาเหยาสักครึ่งปี จากนั้นก็เลือกคนที่ฉันชอบมากที่สุด คนที่น่าใช้ชีวิตด้วยมากที่สุด คุณคิดว่าเป็นอย่างไร?”
น่าอาจ
น่าอัปยศจริงๆ เลย
ผู้มีอิทธิพลอำนาจทุกคนในจีนหลิงรู้สึกหวาดเสียว ตระกูลโล่ประกาศศึกกับตระกูลเสี้ยงอย่างโจ่งแจ้ง
ดูๆ ไปแล้ว จีนหลิงจะเปลี่ยนไปมากแล้ว
ข้างๆ เสี้ยงหยวน เสี้ยงเหยาเหยาก็มีสีหน้านิ่งไป ในขณะเดียวกันเขาก็กลัวขึ้นมา
ตระกูลโล่แข็งแกร่งมาก ตัวเองไม่มีทางถูกคนเล่นจนเจอกับจุดสิ้นสุดแบบนี้
ถ้างั้น เธอเต็มใจตาย
เสี้ยงจื้อสงโกรธแต่แสดงออกไม่ได้ ทันใดนั้นเขาก็หยิบปืนพกสีดำที่น่ากลัวออกมา แล้วฟรี่เข้ามาด้วยความอยากฆ่า
“ไม่มีใครมาดูถูกตระกูลเสี้ยงได้ ตายเสียเถอะ!”
คนต่างมีสีหน้าเปลี่ยนไป ขนาดคุณท่านเสี้ยงเองยังร้องด้วยความตกใจ
“ไอ้สาม หยุดนะ”
แต่ว่านั่นมันไม่ทันแล้ว
“ปัง!”
ปีนเสียงดังขึ้น แยกระเบิด
ทั้งชิงเฟิงซานจวน ทุกๆ คนต่างรู้สึกหวาดกลัว คนในงานข้างนอกก็มองไปทางงานในร่ม โดยไม่กล้าแม้แต่จะหายใจ
โล่เฉิงเองก็ตกใจมาก
เพียงไม่นาน เขาก็พบว่าตัวเองรู้สึกสงบลง
เงยหน้าขึ้น จากนั้นก็เห็น้ฉินชางมาปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าเสี้ยงจื้อสง ในมือก็ถือปืนอยู่
กระสุนมันแตกอยู่ด้านในกระบอก ปืนแตกกระจาย เสี้ยงจื้อสงมีเลือดออกเต็มไปหมด
“พ่อ!”
เสี้ยงเหยาเหยาหน้าถอดสี ก่อนจะปรี่เข้ามา
เสี้ยงจื้อสงล้มนั่งลงบนเก้าอี้ เห็นเพียงเฉินชางเปิดปากเบาๆ “ฆ่าคนที่ฉันปกป้อง ไม่รู้กฎขนาดนี้เลย คุณ อยากจะตายใช่ไหม?”
ทำอย่างไรดี?
เขาฆ่าพ่อ!
รีบมาเร็ว ฆ่าคนคนนี้ซะ โล่เฉิงก็จะไม่กล้าทระนงตัวแล้ว พ่อถึงได้นอนอย่างสงบ
เสี้ยงเหยาเหยาตกใจจนสั่นเทา น้ำตาไม่กล้าไหลออกมา เลยร้อยไห้อยู่ในใจ:
อย่าฆ่าพ่อฉัน!
รีบเข้ามาเร็ว ฉันยอมยกน้ำชาให้คุณ แต่ขอให้ไล่ชายคนนี้ออกไป
“เสี้ยงจื้อสงตายหรือเปล่าฉันไม่รู้ แต่ว่าชีวิตของคุณ กลัวว่าจะมีอันตรายหน่อย”