จักรพรรดิผู้ฝึกอายุห้าพันปี – ตอนที่ 83

ตอนที่ 83

บทที่ 83 บารมี

ตู้ดตู้ดตู้ด

หานหยุนเทารีบกดเบอร์โทรออกอย่างร้อนใจ ปลายสายน่าจะเป็นโล่ซิงเฉิน แต่กลับโทรไม่ติด

หลังจากโทรไปสามครั้งติดๆ ในที่สุดเขาก็ยอมแพ้

“หานหยู่เยน เธอเล่นลูกไม้อะไร! ”

หานหยุนเทาอดไม่ได้ที่จะตะโกนด้วยความโกรธ

แต่เดิมก็ราบรื่นไปตามที่หวัง ทำไมจู่ๆถึงได้พังทลายลงมาครั้งใหญ่แบบนี้ เหลือเพียงซากฝุ่น

แม้ว่าจิตใจจะเปลี่ยนแปลงไปมากมายขนาดไหน เวลานี้ก็ยังอดเกรี้ยวกราดขึ้นมาไม่ได้

แต่คำพูดของเขา ทำให้คุณย่าหานและญาติ ๆ ตกใจ

เป็นหานหยู่เยนลงมือ?

นั่นเป็นถึงตระกูลโล่ เธอสามารถต่อกรกับตระกูลโล่ได้ ล้อเล่นกันหรือยังไง!

อันที่จริง หานหยู่เยนได้ฟังคำพูดของผู้ช่วย เธอเองก็ตื่นตะลึงจนนิ่งอึ้งไป เธอมั่นใจอย่างยิ่งว่านี่เป็นโล่เฉินที่ลงมือ

โล่เฉินไปหาชายชราที่เคยช่วยชีวิตเอาไว้อีกแล้วหรือ?

“ทำไมไม่พูด เป็นเธอที่สร้างเรื่องขึ้นจริงๆ ด้วย ทำแบบนี้ ก็เท่ากับทำลายผลประโยชน์ของตระกูล เธอมันคนบาปของตระกูล”

“ฉันไม่ได้ทำ! ”

เมื่อเผชิญหน้ากับการใส่ร้ายจากหานหยุนเทา หานหยู่เยนก็โต้กลับทันที

“ฉันไปมีอำนาจอะไรทำลายมันได้ ถ้าฉันต่อกรกับตระกูลโล่ได้ ถ้าคณะกรรมการพรรคเทศบาลฟังฉันจริง อย่างนั้นตระกูลหานของพวกเราก็ฟื้นขึ้นไปนานแล้ว นายจะใส่ร้ายฉันก็สมควรพูดเรื่องที่มันมีเหตุผลหน่อยรึเปล่า! ”

คุณย่าหานเคลื่อนสายตา

เธอเองก็ไม่เชื่อเช่นนั้น เมื่อนึกไปถึงวันที่คุณชายโล่มาสู่ขอในวันนั้น เจ้าสัวฟ่านแห่งเจียงโจวและหงเหลยถิงล้วนโทรมาห้ามเธอเอาไว้ บอกว่าไม่ชอบใจตระกูลโล่

หรือว่า จะเป็นเจ้าสัวและท่านหงที่ลงมือ?

นี่เป็นไปได้อย่างยิ่ง

“หยุดทะเลาะกันได้แล้ว”

หญิงชราเหลือบมองและพูดเสียงเคร่ง “เรื่องของรัฐบาลพวกเราหมดทางจะไปแทรกแซง รอดูไปเงียบๆ ก่อนเถอะ หยู่เยน เธอจัดการโครงการของตัวเองไปอย่างวางใจซะ ส่วนหานหยุนเทานายไปดูที่บริษัทซิงเฉินหน่อย”

หานหยุนเทาข่มความโกรธในใจ จากนั้นก็ออกจากห้องประชุมไป

หลังการประชุม

ญาติหลายคนรีบเข้ามาพูดคุยกับหานหยู่เยนและเอ่ยยิ้ม: “หยู่เยน เรื่องที่หานหยุนเทาดึงตัวนักออกแบบไปเมื่อตอนเข้า พวกเราเองก็จนปัญญาเช่นกัน เธออย่าได้ถือสานะ”

“ใช่ อันที่จริงพวกเรายังอยู่เคียงข้างเธอ”

“หานหยุนเทาสุดท้ายแล้วก็เป็นแค่คุณชายเจ้าสำราญ ความสามารถของเธอพวกเราทุกคนรู้กันดี ตระกูลหานคิดจะกลับมาเชิดหน้าชูตา ภาระนี้ตกอยู่บนบ่าของเธอแล้ว!”

ในเวลานั้นเอง ผู้หญิงคนหนึ่งเอ่ยขึ้นอย่างเคร่งขรึม: “ตั้งแต่อดีตมา ผู้ยิ่งใหญ่ล้วนต้องผ่านความยากลำบากมากมายทั้งนั้น หยู่เยน พวกเรากำลังฝึกฝนเธอ เธอควรเข้าใจเอาไว้นะ! ”

บริษัทซิงเฉินถูกคณะกรรมการพรรคเทศบาลสั่งตรวจสอบ แม้กระทั่งที่ดินยังถูกยึดไป แบบนี้เกรงว่าน่าจะมีผู้มีอิทธิพลกำลังจัดการอยู่เบื้องหลัง

ผู้มีอิทธิพลที่แม้แต่ตระกูลจีนหลิงโล่ยังไม่เกรงกลัว เห็นได้ชัดว่าน่าหวาดกลัวขนาดไหน

เมืองเจียงก็คือเมืองเจียง จีนหลิงก็คือจีนหลิง

ฟ้าสูงจักรพรรดิอยู่ห่างไกล ตระกูลจีนหลิงไม่สามารถดูแลมาถึงที่นี่ได้อยู่แล้ว ดังนั้นการร่วมมือกันระหว่างหานหยุนเทาและบริษัทซิงเฉินมีโอกาสอย่างยิ่งที่จะล้มเหลวลง

เขากลายเป็นคนไร้ค่าอีกครั้ง

คนพวกนี้ไม่ได้โง่ ลมกระโชกแรงหน่อยก็เปลี่ยนทิศ ราวกับใบหญ้าที่ขึ้นบนกำแพงglup0ib’

“คุณลุงคุณป้าฉันเข้าใจดี”

ทุกคนล้วนรู้ดีอยู่แก่ใจ

หานหยู่เยนเองก็ไม่พูดจาตัดรอน ยังไงเสียวันหน้าเธอยังต้องการควบคุมบริษัทนี้อยู่และมีที่ยืนอย่างมั่นคงในตระกูลหาน ดังนั้นเธอยังต้องการการสนับสนุนจากใบหญ้าเหล่านี้

เธอเชื่อมั่นในมัน

รอจนเมื่อความสามารถของเธอมากเพียงพอ และคุณค่าของเธอกลายเป็นสิ่งสำคัญของตระกูลหานที่ขาดไปไม่ได้ ถึงตอนนั้นใบหน้าบนกำแพงเหล่านี้ก็จะไม่ใช่ใบหญ้าอีกต่อไป แต่จะกลายมาเป็นผู้ติดตามและผู้สนับสนุนที่ซื่อสัตย์ที่สุดของตน

“เธอเข้าใจก็ดี ไปทำงานเถอะ โครงการปินหูนั่นทำให้เธอต้องลงแรงใจไปไม่น้อย ทุกคนล้วนรู้ดีถึงความเสียสละของเธอ”

“อย่างนั้นฉันไม่รบกวนพวกคุณแล้ว”

เมื่อกลุ่มคนจากไป หานหยู่เยนก็เลิกใส่ใจ

แต่เดิมเธอต้องการโทรหาโล่เฉิน แต่เมื่อคิดแล้วก็รู้สึกว่าถามไปก็ไม่ได้อะไร มีแต่จะทำให้โล่เฉินทำตัวลำบาก ดังนั้นจึงระงับความคิดนี้เอาไว้

……

สำนักงานเทศบาล

ตี๋เทียนหนันมาส่งโล่ซิงเฉิน และพูดอย่างจริงจังว่า “คุณชายโล่ พวกเราเองก็ต้องปฏิบัติตามกฎหมายเหมือนกัน รายงานระดับสูงพวกนั้นบอกว่าคุณติดสินบนพวกเขา ดังนั้นจึงจำเป็นต้องตรวจสอบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้”

ตอนนี้โล่ซิงเฉินกำลังลุกเป็นไฟ แต่ที่นี่คือเมืองเจียง ต่อให้เขาจะมีสถานะหรืออำนาจมากกว่านี้ก็ยังคงไม่ใช่ที่นี่อยู่ดี ไม่มีหนทางจะไปกดหัวงูเจ้าถิ่นลงได้

“คุณชายอย่างฉันไปติดสินบน นายคิดว่าฉันเป็นคนโง่หรือไง? ”

“ แต่จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิด เมื่อวันก่อนการประมูลที่ดินทางตะวันออกของเมืองผืนนั้น คุณได้พบกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงที่รับผิดชอบการเรื่องประมูลจริงๆ ไม่ใช่เรื่องโกหกนี่?”

ใบหน้าของโล่ซิงเฉินกระตุก เขาอธิบายหน้าแดง

“เป็นพวกเขาที่ติดต่อให้ฉันหาต่างหาก ที่ดินขนาดใหญ่แบบนั้น ทำเลก็ดี ราคาแพง ถ้าไม่มีอสังหาฯ ที่โดนเด่นจริงๆ รัฐบาลไม่มีทางให้แน่ ฉันมาตั้งถิ่นที่เมืองเจียง พวกเขาเล็งมาที่ฉัน ให้ฉันซื้อที่ตรงนั้นไปเสียซึ่งก็ตรงกับความต้องการของฉันอยู่พอดีเลยตกลงไป เรื่องก็แค่ง่ายๆ แบบนี้”

ตี๋เทียนหนันส่ายหัวและพูดเรียบๆ “นี่คือคำพูดของคุณฝั่งเดียวเท่านั้น เรียนถามคุณชายโล่ พวกเจ้าหน้าที่ระดับสูงนั่นไม่ใช่คนโง่ใช่ไหม?”

“นายหมายความว่าไง!”

“พวกเขาไม่ใช่คนโง่ ก็สมควรจะรู้ว่ารายงานเรื่องคุณ พวกเขาเองก็จะซวยไปด้วย มีเพียงแค่รับสินบนไปจริงๆ เท่านั้น ในใจถึงได้ร้อนตัวขึ้นมาและนำเรื่องมารายงาน ดังนั้น ครั้งนี้ไม่น่าจะเป็นการใส่ร้ายคุณแน่”

“ดี นี่คือรูปแบบการทำงานของเจ้าหน้าที่เมืองเจียงใช่ไหม ขายที่เอาเงินไป มาตอนนี้กลับมาขุดหลุมดักฉัน เอาเงินพวกนั้นไปฟรีๆ ผ่านไปสักพักค่อยเอาที่นั่นออกมาประมูลอีกครั้ง”

โล่ซิงเฉินยิ้มอย่างเย็นชา “แม้แต่รัฐบาลของจังหวัดยังไม่กล้าทำขนาดนี้ด้วยซ้ำ เมืองเล็กๆ อย่างเมืองเจียง พวกนายคิดจะทำตัวพลิกแผ่นฟ้าให้ได้ใช่ไหม!”

“โปรดระวังคำพูด! ”

ตี๋เทียนหนันเอ่ยเตือน ท่าทางน่าเกรงขามทำเอาโล่ซิงเฉินถึงกับหนังศีรษะชาวาบ

“ตอนนี้เป็นเพียงการสอบสวนเท่านั้น หากมีการทุจริตในการประมูลจริง ที่จะถูกยึดกลับมา ส่วนเงินจะจัดการยังไง คณะกรรมการพรรคเทศบาลจะหารือเกี่ยวกับเรื่องนี้ ขุดหลุมดักเงินของคุณ คุณคิดมากไปแล้ว ยังไงคุณก็เป็นถึงคุณชายใหญ่ตระกูลโล่ พวกเราเองก็ไม่กล้านักหรอก! ”

“ ไม่กล้า? งั้นหรือ ถึงกับพาฉันมาที่สำนักงานเทศบาลแล้วนี่”

ตี้เทียนหนันเอ่ยอย่างจริงจังตามเดิม “ก็แค่เพื่อช่วยในการสืบสวนเท่านั้น ตอนนี้คุณชายโล่ไม่มีเรื่องอะไรแล้ว สามารถกลับไปได้ เพียงแต่ทีมตรวจสอบดูแลบริษัทซิงเฉินยังคงมีอยู่ คุณชายโล่โปรดอย่าเข้าขัดขวาง”

“บริษัทมีอะไรให้ตรวจสอบ?”

“ตรวจสอบบัญชี”

“น่าหัวเราะ ฉันเพิ่งจะก่อตั้งบริษัทไปได้ไม่กี่วัน ยังไม่ทันได้เปิดดำเนินการอย่างเป็นทางการเลยด้วยซ้ำ นายบอกกับฉันหน่อย ตรวจสอบบัญชีอะไร? มีบัญชีอะไรไปให้ตรวจ? ถ้าจะใส่ร้ายว่าฉันเลี่ยงภาษีอะไรพวกนั้นอย่างน้อยๆ ก็ช่วยรอให้ฉันเปิดทำการไปได้สักเดือนก่อนเถอะ พวกนายร้อนใจไปก็เสียเปล่าแล้ว!”

ตี้เทียนหนันยักไหล่อย่างโอเวอร์ เขาเอ่ย “อย่างนั้นผมก็ไม่รู้แล้วเหมือนกัน นี่เป็นคำสั่งจากคณะกรรมการพรรคเทศบาล ถ้าคุณชายโล่ไม่พอใจก็ไปหาหัวหน้าคณะกรรมการพรรคเทศบาลเถอะ ผมก็แต่ทำตามคำสั่งเท่านั้น หากทำให้ขุ่นเคืองอะไรไปมากขึ้น ก็ได้โปรดอย่าถือสา”

“คุณชายโล่ เชิญ”

โล่ซิงเฉินโกรธจัด แต่กลับไม่มีที่ให้ระบาย สุดท้ายได้แต่เอ่ยออกมาสองสามคำ: “ดี ฉันจะจำไว้”

“ทำให้คุณชายโล่จดจำได้ ถือเป็นเกียรติของผม”

“หึ”

โล่ซิงเฉินไม่ต้องการอยู่ต่ออีกต่อไป เขาออกจากสถานีตำรวจอย่างรวดเร็ว

ตี้เทียนหนันยิ้มที่มุมปาก ก่อนจะกดโทรออก “ฮัลโหล คุณฟ่าน เขาออกจากสถานีตำรวจไปแล้ว คุณยังอยู่ในคณะกรรมการพรรคเทศบาลหรือเปล่า? ”

“ใช่ ลำบากผู้กำกับตี้แล้ว ทีมกำกับดูแลตรวจสอบยังต้องทำงานหนักอีกสักหน่อย แทรกแซงบริษัทซิงเฉินในบางเรื่อง ส่วนปัญหาเรื่องที่ดินตะวันออกของเมืองผืนนั้น ค่อยๆ ดึงเรื่องไป ไม่ต้องรีบร้อน”

“วางใจได้ ผมเข้าใจแล้ว”

ในอีกด้านหนึ่ง

โล่ซิงเฉินอยู่ในรถMercedes-Maybach รุ่นพิเศษ ความเกรี้ยวกราดภายในใจปะทุเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนแทบจะอยากฆ่าคน

“คุณชาย คุณใจเย็นๆ ดื่มชาก่อน”

สาวใช้คนสวยเอ่ยเสียงหวานไพเราะ ท่าทางว่าง่าย

ทันใดนั้น โล่ซิงเฉินก็เอาความโกรธทั้งหมดไปลงใส่บนตัวของสาวใช้

หลังจากเสร็จกิจ ก็ได้ยินเสียงสาวใช้ที่นั่งข้างคนขับเอ่ยขึ้นอย่างตัวสั่น “คุณชาย นายท่านโทรมาแล้ว”

“รับ”

สาวใช้กดแฮนด์ฟรี จากนั้นเสียงหนาทุ้มที่เต็มไปด้วยความกังวลก็ดังออกมา “เฉินเอ๋อ ลูกไม่เป็นไรใช่ไหม ได้ยินลูกน้องรายงานมาว่าตอนนี้ลูกอยู่เมืองเจียงเจอปัญหายุ่งยาก แถมยังถูกพาตัวไปที่สำนักงานด้วย?”

“เรื่องเล็กน้อย ตอนนี้ผมออกมาแล้ว”

“สมควรตาย ไอ้พวกนั้นมันไม่อยากอยู่กันดีๆ แล้วหรือไง ถึงได้กล้ามาจับนาย ทำตัวเป็นปรปักษ์กับตระกูลโล่ของพวกเรา” ชายวัยกลางคนด่า

เมื่อได้ปลดปล่อยความโกรธออกไป โล่ซิงเฉินก็ค่อยๆ สงบลง เขาพูดอย่างเย็นชา: “พ่อ พ่อไปที่คณะกรรมการพรรคประจำจังหวัด ให้พวกเขากำจัดไอ้พวกเวรในเมืองเจียงนี่ออกไปซะ”

“ นี่ … เมืองเจียงไม่ใช่เมืองเล็ก ๆ ”

ชายวัยกลางคนอธิบาย “ในด้านเศรษฐกิจ ถือเป็นอันดับสามในจังหวัดทางตะวันตกเฉียงใต้รองจากจีนหลิงและฉู่โจว แถมผู้นำสูงสุดของเมืองเจียงยังเป็นอดีตลูกศิษย์ของหัวหน้าคณะกรรมการพรรคประจำจังหวัดด้วย แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะถอดถอนผู้นำเมืองเจียงไปแบบนี้ แถมยังอาจไปสร้างความขุ่นเคืองให้กับผู้มีอิทธิพลหลายคน มีแต่เสียกับเสีย! ”

เมื่อเขาพบว่าโล่ซิงเฉินไม่ตอบสนอง ชายคนนั้นก็พูดว่า “เฉินเอ๋อ ลูกอย่าไปสนใจ เดี๋ยวพ่อจะไปที่คณะกรรมการพรรคประจำจังหวัดคุยๆ ดู ให้เบื้องบนเตือนมาที่เมืองเจียงสักหน่อย”

“ตกลง วางสายแล้ว”

หนึ่งชั่วโมงต่อมา

โล่ซิงเฉินรับสายอีกครั้งและถามว่า “พ่อ เป็นอย่างไรบ้าง?”

“ท่าไม่ดีเท่าไหร่ ได้ยินมาว่าทางตระกูลเสี้ยงท่านนั้นกำลังคุยกับหัวหน้าพรรคประจำจังหวัดอยู่ ฉันไม่ได้เจอผู้นำสูงสุด”

“สมควรตาย เป็นตระกูลเสี้ยงจริงด้วย!”

โล่ซิงเฉินกัดฟัน “มีเพียงตระกูลเสี้ยงเท่านั้นที่มีความแข็งแกร่งขนาดนี้ มีคุณสมบัติพอที่ทำให้รัฐบาลเมืองเจียงมาจัดการกับฉัน เสี้ยงหยวนตาแก่บ้านั่น จะตายแล้วยังก่อลมก่อคลื่นอยู่อีก”

“คนที่เจอกับผู้นำสูงสุดไม่ใช่เสี้ยงหยวน แต่เป็นนายท่านหญิงคนนั้น”

โล่ซิงเฉินแผ่นหลังเย็นเฉียบ “เสี้ยงอู่ยิง? ”

“ไม่ผิด”

“ พ่อ ผมควรทำยังไง?”

โล่ซิงเฉินตื่นตระหนกในใจ เขารีบเอ่ยอย่างร้อนรน “เสี้ยงอู่ยิงต้องการต่อกรกับผม ผมไม่ใช่ได้แต่ต้องถูกเล่นจนตายหรอกหรือ นายท่านหญิงคนนั้นในจีนหลิงยังทำเอาคนคนใหญ่คนโตทุกคนหวาดกลัว ฝีไม้ลายมือเหี้ยมโหด เลือดเย็นไร้ไมตรี พ่อ ผมจะกลับไปจีนหลิง ไม่อยู่ที่เมืองเจียงแล้ว”

จักรพรรดิผู้ฝึกอายุห้าพันปี

จักรพรรดิผู้ฝึกอายุห้าพันปี

ได้รับความลำบาก เพื่อได้อยู่ต่อ ผมทนความอัปยศอดสู แต่งเข้าตั้งสามปี ถูกดูถูกและเยาะเย้ย ในสายตาของพวกเขา ผมเป็นคนที่ไร้ประโยชน์ ใครๆก็สามารถก้าวเหนือหัวผมได้ ใช้ชีวิตอยู่อย่างหมา จนถึงวันนี้ ภัยพิบัติทุกๆอย่างผ่านไป…….เมื่อยิ่งใหญ่ขึ้นมา ทำให้คนบนโลกผวา!!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท