จักรพรรดิผู้ฝึกอายุห้าพันปี – ตอนที่ 108

ตอนที่ 108

หลังจากเสี้ยงหยวนสองปู่หลานจากไป ในใจของถังหมิงกวงก็หนักอึ้งแต่กลับคล้ายพูดไม่ออก

“ยังมีอะไรอีกไหม?” โล่เฉินถาม

“นายท่าน หวั่นเอ๋อยังอยู่ที่โรงพยาบาลไม่พ้นขีดอันตราย คุณจะช่วยรักษาเธอเมื่อไหร่ ผมมีลูกสาวแค่คนเดียว หากมีอะไรเกิดขึ้น…”

โล่เฉินโบกมือและพูดว่า “วางใจได้ ฉันรู้ดี หวั่นเอ๋อถูกย้ายไปที่โรงพยาบาลเมืองเจียงแล้วใช่ไหม ฉันจะไปดูเธอเป็นครั้งคราว”

“ลำบากไต้ซือแล้ว”

หลังจากที่ถังหมิงกวงจากไป โล่เฉินก็ถามถึงสถานการณ์ของบริษัทซินเฉิง

ฟ่านหงชางตอบ “อาจารย์ บริษัทซินเฉิงตอนนี้กำลังร่วมมือกับผมอย่างใกล้ชิดใน ที่ดินทางตะวันออกของเมืองผืนนั้น ผมให้คณะกรรมการพรรคเทศบาลวางมือแล้ว ตอนนี้โล่ซิงเฉิงเคารพผมอย่างยิ่ง จากนี้ไป เขาต้องการจะสร้างเมืองสรรพที่เมืองเจียง”

“เมืองสรรพสิ่ง? คืออะไร”

“เห็นว่าต้องการสร้างห้างสรรพสินค้าอันดับหนึ่งในเมืองเจียง ไม่เพียงแต่ต้องยิ่งใหญ่ หรูหรามีสไตล์เท่านั้น แต่ยังต้องมีแบรนด์ดังทุกประเภท ความบันเทิง ที่พักผ่อน ช็อปปิ้ง ทุกอย่างจะถูกรวมเข้าด้วยกัน”

โล่เฉินหัวเราะหึหึ “เจ้านี่ทะเยอทะยานไม่น้อยเลย”

ฟ่านหงชางเอ่ย “เมืองสรรพสิ่งนี้เป็นผมที่ร่วมมือสร้างขึ้น ถึงตอนนี้ขอแค่อาจารย์เอ่ยมาประโยคเดียว จะต้องทำให้โล่ซิงเฉิงถึงกับกินไม่ได้นอนไม่หลับแน่”

“ไม่ไม่ไม่ ร่วมมือกันให้ดีๆ เมืองสรรพสิ่งถูกสร้างขึ้นมาได้ ทางที่ดีที่สุดคือหาทางนำมันออกมาจากมือของโล่ซิงเฉิง”

“ อาจารย์ ผมจะวางแผน อ้อใช่ ยังมีอีกเรื่อง ตอนนี้ปัญหาเรื่องที่ดินทางตะวันออกของเมืองได้รับการแก้ไขแล้ว อย่างนั้นสัญญาของหานหยุนเทาก็จะมีผลบังคับใช้อีกครั้ง ในบริษัทตระกูลหาน ฮูหยินคงต้องถูกกดดันอีกแล้ว”

ฟ่านหงชางถาม “ให้ผมไปเอ่ยกับโล่ซิงเฉิงสักหน่อยไหม ไม่ให้เขายกโครงการนี้ให้กับหานหยุนเทา?”

“ไม่จำเป็น ฉันเชื่อในความสามารถของหยู่เยน ถือเป็นการฝึกฝนเธอ ยังไงเสียหลังจากนี้ เธอจะต้องนำพาตระกูลหานให้ลุกขึ้นและควบคุมกลุ่มการเงินขนาดใหญ่ ความสามารถไม่เพียงพอไม่ได้”

โล่เฉินมีความมั่นใจในตัวหานหยู่เยนอย่างมาก

เขาถึงกับคาดหวังอยู่บ้าง ว่าเมื่อหานหยู่เยนกลายเป็นบอสสาวของกลุ่มการเงินขนาดใหญ่และควบคุมทรัพย์สินหลายแสนล้าน

ตอนนั้นจะเป็นอย่างไร?

ผู้หญิงที่แข็งแกร่งเช่นนี้ เป็นภรรยาของเขา โล่เฉินเองก็มีความภาคภูมิใจและรู้สึกเหนือใครขึ้นมาเช่นกัน

ฟ่านหงชางเข้าใจเรื่องราวอย่างยิ่ง เขาเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “อาจารย์ ผ่านไปอีกหน่อยให้ผมเจอกับฮุหยินสักหน่อยดีกว่า ทุกอย่างในเจียงโจว กิจการของผมล้วนสามารถให้ฮูหยินดูแลได้”

“ยังไม่ถึงเวลา”

สีหน้าของโล่เฉินเปลี่ยนเป็นจริงจัง เขาลุกขึ้นมองออกไปที่หน้าต่างและมองไปที่ท้องฟ้า “ในขณะที่ความแข็งแกร่งของฉันยังไม่มากพอ หยู่เยนยิ่งรู้น้อยเท่าไหร่ก็ยิ่งดี ค่อยเป็นค่อยไป จู่ๆ มีเรื่องให้เธอมากมายเกินไป เธอเองก็จะรับไม่ไหว”

“ผมเข้าใจ ผมจะให้เสี่ยวหมิงคอยชี้แนะฮูหยิน ปลูกฝังความสามารถให้เธออย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว ผมว่าขั้นแรก ให้ฮูหยินพิชิตเมืองเจียงก่อน เป็นยังไง?”

ฟ่านหงชางถามอย่างไม่แน่ใจ

มุมปากของโล่เฉินยกยิ้มและพยักหน้า “เป็นความต้องการของฉันพอดี เมืองเจียงแห่งนี้สร้างความอัปยศอดสูให้หยู่เยนมากเกินไป ไม่รู้ว่าพอเธอยืนอยู่บนจุดสูงสุดของเมืองเจียงเมื่อไหร่ เหล่าคนที่เคยรังแก ดูถูก ข่มเธอพวกนั้นจะมีสีหน้ายังไง ฉันอยากจะเห็นอย่างยิ่ง”

……

หลังออกมาจากตึกซิงหยุน โล่เฉินก็มาที่โรงพยาบาลเพื่อตรวจสอบสภาพร่างกายของถังหวั่นเอ๋อ

แม้ว่าจะยังสลบไสลไม่ได้สติ แต่ก็ไม่มีอันตรายถึงชีวิต

ช่วงเวลาแห่งความอ่อนแรงยังมีอีกสามถึงห้าวัน หรืออาจอีกหนึ่งสัปดาห์ ถังหวั่นเอ๋อยังสามารถทนอยู่ต่อไปได้จนกว่าเขาจะลงมือ ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องกังวล

เนื่องจากเป็นทางผ่านและห่างจากการรักษาครั้งสุดท้ายไปแล้วสามสี่วัน โล่เฉินมาที่บ้านของส้งเชี่ยงเพื่อดูอาการของมารดาเธอ

“คุณเป็นใคร ส้งเชี่ยงยังไม่กลับมาอีกหรือ?”

ที่ประตู โล่เฉินพบหญิงสาวในวัยยี่สิบเจ็ดยี่สิบแปดคนหนึ่ง

ผู้หญิงคนนั้นมีท่าทีประหลาดใจอย่างยิ่ง ท่าทีระแวงขึ้นมา “คุณเป็น ใคร มาเชี่ยงเชี่ยงทำไม? ฉันเตือนนายไว้เลยนะ อย่าเข้ามามั่วซั่ว ระวังฉันจะแจ้งตำรวจ”

“โก่โก่เธอเข้าใจผิดแล้ว นี่คือหมอเทพที่ฉันเล่าให้เธอฟังไง” ในเวลานี้เอง หญิงสาวก็ออกมาจากห้อง

“หมอเทพ?”

เฉินโก่มองไปที่โล่เฉินอย่างประเมิน สีหน้ายังคงสงสัย

โล่เฉินเดินเข้าไปใกล้ ๆ และจับชีพจรของหญิงสาวก่อนจะเอ่ย “ร่างกายฟื้นตัวได้ไม่เลว ถึงแม้จะยังอ่อนแออยู่มาก แต่ก็สามารถลุกขึ้นออกจากเตียงได้แล้ว ฉันยังต้องจัดการร่างกายของคุณอีกครั้ง จากนั้นก็ไม่ต้องให้ผมลงมือแล้ว”

“ขอบคุณหมอเทพอย่างยิ่ง บุญคุณของหมอเทพ ฉันจะไม่มีวันลืม” หญิงสาวทำท่าจะคุกเข่าลง แต่กลับถูกโล่เฉินประคองไว้ก่อน

มาถึงที่ห้องเขาก็เห็นว่าหญิงสาวยังคงไม่ขยับ

โล่เฉินเหล่ตามอง “เธอจะมัวยืนบื้อทำอะไร ออกไปเถอะ”

“ฉันจะจ้องอยู่ที่นี่ เผื่อนายจะลงมือลงไม้อะไรกับป้าของฉัน” เฉินโก่ยังคงไม่เชื่อว่าชายหนุ่มตรงหน้าเขาคือหมอเทพจริงๆ

ต้องรู้ว่า

ป้าของเธอที่เป็นยูเรเมีย ได้รับการวินิจฉัยจากหมอแล้วว่าไม่มียารักษาได้ ต่อให้มีการปลูกถ่ายไตก็ยังไม่หาย นั่นเพราะสารพิษในเลือดของเธอสะสมอยู่ในระดับที่น่ากลัวอย่างยิ่ง

แต่ว่าจู่ๆ อาการป่วยที่ต้องตายอย่างแน่นอนกลับดีขึ้นมา

นี่ถือเป็นเรื่องมหัศจรรย์

เฉินโก่เป็นพยาบาลในโรงพยาบาลเมืองเจียง เมื่อเทียบกับส้งเชี่ยงและป้าของเธอแล้วก็ตกใจเสียยิ่งกว่า เธอคิดอย่างไรก็คิดไม่ออก

“หรือเธอจะมาทำเอง?”

โล่เฉินผายมือ ท่าทางไม่รักษาแล้ว

หญิงสาวลนลานเล็กน้อย เธอรีบเอ่ยกล่อม “โก่โก่ อย่าไร้มารยาทกับหมอเทพ หากไม่ใช่เพราะหมอเทพ ฉันคงตายไปนานแล้ว หมอเทพรักษาฉันไม่ใช่ครั้งแรก ไม่มีทางมีปัญหา เธอออกไปเถอะ”

“แต่ว่าคุณป้า ฉันคิดว่านี่มันไม่น่าเชื่อถือเอาซะเลย บนโลกนี้จะมีความสามารถทางการแพทย์ที่วิเศษเช่นนี้ได้ยังไง อีกทั้งสองมือของเขาก็ว่างเปล่า จะรักษาคุณได้ยังไงกัน”

เฉินโก่ยิ่งพูดสีหน้าก็ยิ่งเย็นชา เธอมองไปที่โล่เฉินและขู่เสียงต่ำ “นายสารภาพมาซะดีๆ นายใช้วิธีเล่นกลอะไรมาหลอกตบตาป้าของฉันใช่ไหม ผ่านช่วงนี้ไปต้องตายแน่”

“โอ๊ะ นี่เป็นครั้งแรกเลยนะที่ได้เห็นหลานสาวแช่งป้าของตัวเองให้ตายแบบนี้” โล่เฉินมีสีหน้าขี้เล่น

“ ฉันไม่ได้แช่งป้า ช่วงที่คุณป้าไม่สบายฉันล้วนต้องมาดูเธอทุกวัน พวกแต่ไม่กี่วันมานี้ในโรงพยาบาลงานยุ่งมากก็เลยล่าช้าไปหลายวัน”

โล่เฉินประหลาดใจ “เธอเป็นหมอหรือ? ไม่ ท่าทางแบบเธอเป็นหมอคงไม่ได้ น่าจะเป็นพยาบาลมากกว่า”

“เป็นพยาบาลแล้วยังไง พยาบาลแล้วขอข้าวนายกินหรือไง ไม่มีพยาบาลอย่างพวกเรา คนป่วยจะมีใครที่ไหนดูแล นายมีคุณสมบัติอะไรมาดูถูกพยาบาล! ”

เฉินโก่ลุกเป็นไฟ

พยาบาลเป็นอาชีพที่ทำงานหนักไม่ปริปากบ่น เหนื่อยแทบตายแต่กลับถูกคนดูหมิ่น

นิสัยแบบนี้จะเป็นหมอเทพได้ยังไง

ที่แท้ไอ้สารเลวนี่ก็เป็นพวกต้มตุ๋นจริงๆ ด้วย

“ใจเย็น ๆ ฉันไม่ได้ดูถูกพยาบาล แต่ฉันแค่งง ในเมื่อเธอเป็นพยาบาล อย่างนั้นก็ควรจะต้องรู้ว่าป้าของเธอตอนนี้สุขภาพดีขึ้นมาแล้ว นี่สามารถโกหกได้หรือไง?”

“นี่…”

เฉินโก่ไร้คำพูด แต่ในใจของเธอยังไม่ยอมแพ้ “อย่างนั้นนายลองว่ามาว่านายใช้วิธีไหนรักษาป้าของฉัน”

“แพทย์แผนจีน”

“แพทย์แผนจีน? ฉันเป็นพยาบาลในโรงพยาบาลแพทย์แผนจีน เมื่อเดือนก่อน ฉันขอให้ผู้อำนวยการมาช่วยดูครั้งหนึ่ง ผู้อำนวยการบอกว่าป้าของฉันป่วยหนักเกินไปแล้ว พลาดเวลาที่ดีที่สุดในการรักษาเธอไปแล้ว”

เฉินโก่กอดอกและพูดอย่างเหยียดหยาม “หรือว่านายจะมีทักษะทางการแพทย์มากกว่าผู้อำนวยการโรงพยาบาลของเรา”

“ถึงแม้พูดไปแล้วจะดูไม่เกรงใจอยู่บ้าง แต่ว่าฉันเก่งกว่าผู้อำนวยการของพวกเธอจริงๆ”

“พูดจาใหญ่โตเชียว”

โล่เฉินมีสีหน้าเรียบเฉย “มีคำถามอะไรอีกไหม? ”

“นายจะหวังอะไร? ฉันได้ยินคุณป้าพูดว่านายจัดการให้เชี่ยงเชี่ยงไปที่บริษัทของนาย อีกทั้งยังเปิดบริษัทเทเลวิชั่นมีเดียด้วยแล้วให้เชี่ยงเชี่ยงไปเป็นสตรีมเมอร์”

“มีปัญหาอะไร? ”

เฉินโก่หัวเราะเยาะ “นี่ไม่น่าหัวเราะเยาะไปหน่อยหรือไง ถ้านายเป็นแพทย์แผนจีนจริง จะไปเปิดบริษัทภาพยนตร์และโทรทัศน์ได้ยังไง จริงๆ แล้วนายไม่ใช่แพทย์แผนจีนต่างหาก”

“พูดมาตั้งมากมาย เธอก็ยังคงไม่ให้ฉันรักษาป้าของเธอใช่ไหม?”

โล่เฉินเอ่ยขึ้น “ก็ได้ เธอชนะ”

เมื่อเห็นโล่เฉินกำลังจะจากไป หญิงสาวก็ลุกลี้ลุกลนและถลึงตาใส่เฉินโก่อย่างตำหนิ

ขณะกำลังจะเอ่ยปาก ส้งเชี่ยงก็กลับมาพอดี

“โอ้ พี่โล่มาแล้ว มาดูแม่ใช่ไหม ขอบคุณคุณมากที่ใส่ใจขนาดนี้”

โล่เฉินพึมพำ “ขอบคุณไม่ต้องหรอก ทำงานเหนื่อยไม่ปริปาก ช่วยคนกลับถูกใส่ร้าย ฉันว่าจบแค่ก็พอ พวกเธอไปหาผู้อำนวยการโรงพยาบาลนั่นมารักษาเถอ

จักรพรรดิผู้ฝึกอายุห้าพันปี

จักรพรรดิผู้ฝึกอายุห้าพันปี

ได้รับความลำบาก เพื่อได้อยู่ต่อ ผมทนความอัปยศอดสู แต่งเข้าตั้งสามปี ถูกดูถูกและเยาะเย้ย ในสายตาของพวกเขา ผมเป็นคนที่ไร้ประโยชน์ ใครๆก็สามารถก้าวเหนือหัวผมได้ ใช้ชีวิตอยู่อย่างหมา จนถึงวันนี้ ภัยพิบัติทุกๆอย่างผ่านไป…….เมื่อยิ่งใหญ่ขึ้นมา ทำให้คนบนโลกผวา!!

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท