จักรพรรดิผู้ฝึกอายุห้าพันปี – ตอนที่ 127

ตอนที่ 127

“พอได้แล้ว ลงไปเถอะ”

“ไม่เอา”

คังมิงปูกอดของโล่เฉิน ตั้งใจชนหน้าอกของตนเข้าใส่หน้าอกของโล่เฉิน สีหน้าทั้งได้ใจและท้าทาย

โล่เฉินเลือดพล่านขึ้นมา

ยังเยาว์วัย สวยใสบริสุทธิ์ หน้าเด็กนมโต

ไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็ล้วนไม่สามารถต้านทานสิ่งล่อใจนี้ได้ โล่เฉินได้ยินเสียงถอนหายใจด้วยความอิจฉาของผู้ชายคนอื่นๆ ในสระอย่างชัดเจน

เขาข่มอารมณ์และตั้งใจทำเสียงโกรธ “รีบลงมา ไม่อย่างนั้นฉันจะโยนเธอออกไป”

“อะไรกัน!”

คังมิงปูมุ่ยปากไม่พอใจอย่างมาก “ไม่รู้จักรักหยกถนอมบุปผาและขอบคุณเอาซะเลย เมื่อกี้ฉันช่วยคุณระบายความโกรธออกไปนะ”

“ทำไมไม่ไป”

“แล้วทำไมต้องไปด้วย” คังมิงปูหัวเราะคิกคักและพูดว่า “เหตุผลฉันก็บอกไปแล้วไม่ใช่หรือ ฉันชอบคุณมาก พี่ชาย”

โล่เฉินหนังศีรษะชา สาวน้อยคนนี้ช่างเป็นตัวประหลาด

จะต้องมีความคิดที่ไม่ดีอยู่แน่

“พอได้แล้ว จะชอบฉันก็เป็นเรื่องของเธอ ฉันมีภรรยาแล้ว ช่วยรักษาระยะห่างจากฉันด้วย”

โดยไม่ได้ตั้งใจ โล่เฉินพบว่ามีลายสีแดงเข้มแปลกประหลาดอยู่หลังใบหูของคังมิงปู เขาถามขึ้น “นี่คือรอยสักเหรอ?”

“หา”

คังมิงปูตัวสั่นสะท้านขึ้นมาและรีบปิดหูของตนเอาไว้ จากนั้นจึงปล่อยผมลงมาปิดบัง เธอเอ่ยยิ้ม “ใช่ สวยใช่ไหม”

โล่เฉินที่เข้าใจแก่นแท้ของมนุษย์ ย่อมต้องดูออกถึงความผิดปกติของคังมิงปู ดูเหมือนว่าลายนั่นจะเป็นความลับที่ห้ามไม่ให้ใครรู้

แต่เรื่องพวกนี้โล่เฉินไม่สนใจ อีกทั้งยังไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเขา

เวลาผ่านไป สิบกว่านาที

หานหยู่เยนยังคงไม่กลับมาจนโล่เฉินเป็นกังวลเล็กน้อย

ในเวลานี้เอง หญิงต่างชาติที่ชื่อเฟียก็เข้ามาจากข้างนอก ไอริสที่อยู่ในสระก็ตะโกนขึ้นมา “เฟีย ไปไหนมาตั้งนาน?”

“ไปดูเรื่องสนุกมา”

“เรื่องสนุก?”

เฟียกวาดตามองโล่เฉินและเยาะเย้ย” ด้านนอกจับขโมยได้คนหนึ่ง คิดไม่ถึงเลยว่าหน้าตาสะสวย มือเท้ากลับสกปรก แอบขโมยสร้อยคอของคนอื่น ก็เลยถูกจับได้ทันที ”

“จริงเหรอ?”

“โกหกเธอไปทำไม เรื่องสนุกๆที่ห้องแต่งตัวยังเปิดฉากอยู่นะ”

“ไปๆๆ ฉันเองก็อยากดู”

ผู้หญิงหลายคนจากไป

โล่เฉินรู้สึกผิดปกติ เขารีบกระโดดขึ้นจากสระ สวมเสื้อคลุมอาบน้ำและรีบออกจากบ่อน้ำพุร้อนไป

“เฮ้ พี่ชาย”

คังมิงปูเรียกขึ้น แล้วตามไปด้วยเช่นกัน

ในมุมหนึ่ง

หยางเซียวเห็นเข้า ก็เอ่ยสั่ง “พวกนายลองไปดูหน่อย ให้ฉันเดา หัวขโมยนั่นอาจเป็นหานหยู่เยน”

“โอ้? ฮ่าฮ่า น่าสนุกแล้ว”

“คนชั้นต่ำก็มีชีวิตชั้นต่ำ มือไม้ไม่สะอาดถือเป็นเรื่องปกติ ฉันอยากจะเห็นนักว่าพวกเขาจะจะแก้ปัญหานี้ยังไง”

“ไปกันเถอะ พวกเราก็ไปชมความสนุกสักหน่อย”

ลูกเศรษฐีหลายคนพูดคุยกันอย่างเฮฮาและออกจากบ่อน้ำพุร้อนไป

ในเวลานี้เอง

ในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าสตรี

หานหยู่เยนกรอบตาแดงก่ำ น้ำตาไหลเอ่ออยู่รอบดวงตา

เธอเอามือปิดแก้มและพูดอย่างดื้อรั้นว่า “ฉันไม่ได้ทำ คุณอย่ามาใส่ร้ายฉัน”

“ใส่ร้ายเธอ? ฮ่าฮ่า จับได้คาหนังคาเขา เธอยังกล้าพูดว่าใส่ร้าย พูดออกมาได้เต็มปาก”

คนพูดเป็นหญิงวัยสามสิบ แค่มองที่ใบหน้า โหนกแก้มสูงของเธอก็พอจะรู้ได้ว่าเป็นคนฉุนเฉียวเกรี้ยวกราดอย่างยิ่ง

เธอชี้ไปที่หานหยู่เยน และเอ่ยด่าลั่น วาจาเต็มไปด้วยความรุนแรง

“ช่างหน้าไม่อาย แม่เธอให้กำเนิดเธอมาได้ยังไงกัน”

“มือเท้าไม่สะอาดก็แล้วไป แต่นี่ยังหน้าหนา ให้ตายก็ไม่ยอมรับ ท่าทางของเธอทำเอาฉันถึงกับของขึ้น”

“โอ๊ะ ยังจะมาร้องไห้? ฉันพูดผิดตรงไหน มาเสแสร้งให้ใครดูกัน ทุกคนล้วนรู้ดี ว่าเธอมันเป็นนางแพศยาหน้าซื่อ พวกน่ารังเกียจ”

ผู้หญิงที่อยู่รอบๆ ก็ชี้มือไม้ไปมา สีหน้าแสดงให้เห็นถึงการเยาะเย้ยและดูถูกเหยียดหยาม

หานหยู่เยนรู้สึกเสียใจสุดขีด ในที่สุดเธอก็ทนไม่ไหว น้ำตาเม็ดโตไหลลงมา

ฉากตรงหน้านี้ โล่เฉินที่รีบวิ่งมาก็บังเอิญเห็นเข้าอย่างชัดเจน

บูม

ความโกรธของเขาพุ่งพรวดขึ้นจนทำเอาเขาแทบขาดสติ ใครกันที่กล้าทำให้ผู้หญิงของฉันเสียน้ำตา!

“กรี๊ด!”

ผู้หญิงใจร้ายคนนั้นถูกกระแทกจนกระเด็น หัวของเธอชนเข้ากับกรอบประตูจนปูดโปนขึ้นมา

โล่เฉินกอดหานหยู่เยนเอาไว้และถามอย่างปวดใจ “หยู่เยน ไม่เป็นไรใช่ไหม อย่าร้องอย่าร้อง ผมอยู่นี่ มีผมอยู่”

“ฮือ ฮืออ ฮืออ…”

หานหยู่เยนยิ่งร้องไห้ด้วยความเสียใจมากขึ้น เธอเอ่ยสะอื้น “เธอบอกว่าฉันขโมยของของเธอ แถมยังมาตบตีฉัน ฮือฮืออฮืออ ฉันไม่ได้ทำ”

“ผมรู้ คุณจะไปขโมยของได้ยังไง จะต้องเป็นเธอใส่ร้ายคุณแน่”

โล่เฉินเงยหน้าขึ้นมอง สีหน้าเย็นชา

ผู้หญิงใจร้ายยืนขึ้น เธอจับศีรษะของตนเองเอาไว้ ใบหน้าดุร้าย “แกกล้าตีฉันเหรอ ยัยนั่นเป็นผู้หญิงของแก? ดีๆๆ ไอ้เด็กหน้าเหม็น พวกแกรนหาที่ตายแล้วจริงๆ!”

“ไม่รู้ว่าใครที่กำลังรนหาที่ตาย ตามกฎของคลับ หากจงใจก่อเรื่อง ผลที่ตามมาเธอคงรู้”

“ฉันจงใจก่อเรื่อง? แกเองก็คิดว่าฉันใส่ร้ายเธอ แกลองให้ทุกคนพูดดู ว่าฉันใส่ร้ายเธอรึเปล่า?” ผู้หญิงใจร้ายคนนั้นกวาดตามอง

บรรดาพวกผู้หญิงซุบซิบกันขึ้นมา

“พวกเธอเองก็เห็นชัดเจนดี เป็นนางแพศยานั่นที่ขโมยของ”

“สร้อยคออยู่ที่เธอ ยังจะมาพูดว่าไม่จริงอีก” ”

“จับได้คาหนังคาเขา จะมาหน้าด้านเล่นลูกไม้ก็ไร้ประโยชน์”

โล่เฉินขมวดคิ้ว เขาถามขึ้น “ขโมยอะไร?”

“สร้อยคอ”

หญิงใจร้ายชี้ไปที่สร้อยคอบนแท่นแล้วเอ่ยอย่างโกรธเคือง “Angel tearsมีมูลค่ากว่า 800,000 ถูกเธอขโมยไปไม่ต้องพูดถึง พอฉันจะเอาคืนเธอกลับจงใจล้มลงบนพื้น ทำให้ไพลินแตกออก ค่าชดเชยสามารถพูดกันภายหลังได้ แต่ตอนนี้ยอมรับผิดกับฉันมาซะ!”

โล่เฉินมองไปที่สร้อยคอและก้มถามว่า “หยู่เยน เกิดอะไรขึ้น?”

หานหยู่เยนสายตาดูว่างเปล่า เธอสั่นศีรษะและพูดว่า “ฉันไม่รู้จริงๆ ฉันแค่เปิดตู้เพื่อหยิบกระเป๋า ทันใดนั้นเธอก็ร้องโวยวายว่าของหาย”

“แล้วยังไงต่อ สร้อยนั้นไปพบที่ไหน?”

“ใน… ในกระเป๋าของฉัน”

โล่เฉินตะลึงงันไป

หญิงใจร้ายเยาะเย้ย “ตอนนี้แกยังจะมาพูดอะไรได้อีก เธอเองก็ยอมรับแล้ว รีบขอโทษมาเดี๋ยวนี้ ยังมี แกเมื่อกี้เองก็ตั้งใจชนฉัน นิสัยชั่วร้าย แกก็คุกเข่าให้ฉันเดี๋ยวนี้”

ว้าว

บรรยากาศพุ่งสูงขึ้น ผู้ชมรอบๆกำลังสนุกบนความทุกข์ของคนอื่น

“น่าสนใจ”

ข้างหลังฝูงชน คนที่ติดตามหยางเซียวหัวเราะ “มีละครดีๆ ให้ดูแล้ว ไม่รู้ว่าไอ้ขยะนั่นจะทำยังไง!”

“ก็ต้องคุกเข่าน่ะสิ จะทำอะไรได้อีก”

เฟียหญิงชาวต่างชาติตอนนี้กำลังมีลูกเศรษฐีคนหนึ่งโอบกอดอยู่ เธอเย้ยหยัน “น่าอับอายจริงๆ มาขโมยของในนี้ น่ารังเกียจแถมยังโง่สิ้นดี!”

“รอไปก่อนเถอะ อีกเดี๋ยวพนักงานของคลับกำลังจะมาเร็ว ๆ นี้ พวกเขาจะไล่ออกไปแน่” ไอริสหญิงสาวต่างชาติอีกคนเอ่ยขึ้น

ท่ามกลางฝูงชน โล่เฉินขมวดคิ้ว

มีพยานหลักฐานอยู่แบบนี้ ไม่มีข้อโต้แย้งได้จริงๆ

แต่ในใจของโล่เฉินรู้ดีอย่างยิ่ง สมควรจะเป็นผู้หญิงใจร้ายที่ร้องว่า “ทำของหาย” ขึ้นมาเพื่อดึงความสนใจของหานหยู่เยน จากนั้นจึงมีผู้ร่วมขบวนการอีกคนแอบวางสร้อยคอไว้ในกระเป๋าของเธออย่างเงียบๆ

นี่เป็นลูกไม้ง่ายๆ

แต่จุดประสงค์คืออะไร?

แค่ไม่ชอบหน้าหานหยู่เยน หรือว่าเป็นเจ้าลูกเศรษฐีพวกนั้นที่สั่งการมา?

“ยังจะมายืนนิ่งทำไม!”

หญิงใจร้ายร้องลั่น “คุกเข่าขอโทษเดี๋ยวนี้ จากนั้นก็ชดเชยค่าเสียหายมาให้ฉันซะ ค่าสร้อยคอพร้อมค่าทำขวัญ รวมถึงเรื่องที่นายชนฉันจนบาดเจ็บ รวมทั้งหมดแล้ว หนึ่งล้าน!”

วูบ

หานหยู่เยนหน้าซีดขาว เธอหดตัวแน่นในอ้อมแขนของโล่เฉิน

“นางแพศยา ไอ้ขี้แพ้ ชดใช้เงินยอมรับผิดซะ!”

ด้านหลัง เฟียร้องขึ้นดัง

ทันใดนั้น พวกหญิงสาวที่อยู่รอบๆ ต่างก็ตะโกนขึ้นมาด้วย

“ขอโทษเดี๋ยวนี้!”

“ยอมรับผิดซะ!”

“ชดใช้เงิน!”

เสียงร้องดังขึ้นราวกับมีดคมปลาบที่กรีดแทงเข้ามาในหัวใจของหานหยู่เยน จนร่างกายที่บอบบางของเธอสั่นเทา ดวงตาตื่นตระหนก

ไม่ใช่เพราะว่าเธอกลัว แต่เป็นเพราะที่คือการเหยียบย่ำศักดิ์ศรีและความอัปยศอย่างสุดโต่ง

โล่เฉินกำหมัดแน่น ในใจปะทุความโกรธ

“ที่รัก”

ในช่วงเวลาบีบคั้นนี้เอง ชายวัยกลางคนปรากฏตัวขึ้น

หญิงใจร้ายรีบปรี่เข้าไปทันทีและร้องไห้ฟ้องเขา “ที่รัก คุณจะต้องจัดการให้ฉันนะคะ”

“ที่รัก เป็นอะไรไป หน้าผากเธอเป็นอะไร?”

“นางคนชั้นต่ำนั่นขโมยสร้อยคอของฉันไป แถมให้ตายก็ไม่ยอมรับ ไอ้ผู้ชายคนนั้นก็เข้ามาชนฉัน ฉันรู้สึกเหมือนสมองได้รับกระทบกระเทือน”

“อะไรนะ!”

ชายวัยกลางคนโกรธจัด แต่เขาเองไม่ใช่คนโง่ เขาเอ่ยถาม “นายเป็นใคร เป็นตระกูลไหน?”

ด้านหลัง มีลูกเศรษฐีตะโกนขึ้น “พี่ชาย เจ้านั่นเป็นคนจนขี้แพ้คนหนึ่ง เป็นเขยแต่งเข้าเกาะคนอื่นกิน ผมเป็นพยานได้”

“พวกเราก็สามารถเป็นพยานได้” สาวต่างชาติก็เอ่ยตามกันมาติดๆ

มีลูกเศรษฐีอีกคนเอ่ย “ลูกพี่ของผมคือหยางเซียวคุณชายของตระกูลหยางจากเมืองเจียง ผมไม่มีทางพูดโกหกแน่ พี่ชาย คุณวางใจได้”

“ดี!”

ชายวัยกลางคนไม่ต้องกังวลอีกต่อไป เขาคว้าเก้าอี้แล้วทุบลงไป แต่โล่เฉินกลับหลบหนี

“ยังจะกล้าหนี”

“แตะต้องเมียฉัน ขโมยสร้อยคอเมียฉัน ใครให้ความกล้ากับพวกแก คุกเข่าขอโทษเดี๋ยวนี้แล้วตบหน้าตัวเอง100 ฝ่ามือ รวมถึงชดเชยค่าเสียหายทั้งหมดมาแล้วไสหัวไป เรื่องจะถือว่าจบ”

“ไม่อย่างนั้น ฉันจะฆ่าพวกแก”

โล่เฉินหายใจเร็วขึ้น หานหยู่เยนกำลังตัวสั่นอยู่ในอ้อมแขนของเขา

ทุกครั้งล้วนเป็นแบบนี้

อารมณ์ดีๆ ล้วนต้องถูกพวกสุนัขบางตัวมาทำลายลง

วันนี้เป็นครั้งแรกที่ได้มาแช่น้ำพุร้อนกับหยู่เยน สมควรจะได้เที่ยวเล่นอย่างมีความสุข แต่กลับมีพวกตาบอดก่อเรื่องขึ้นอีก

คิดว่าตนใจเย็นนักหรือไง?

หึหึ ครั้งหนึ่ง ตนเคยเป็นถึงราชามารผู้ยิ่งใหญ่ที่เหล่าผู้คนต่างต้องหวาดกลัว

กวาดล้างเมือง สังหารจักรพรรดิ

พวกแมลงเหล่านี้นับเป็นตัวอะไรกัน!

“ยังกล้าสบตาฉันอีก!”

ชายวัยกลางคนตะโกน “ใครก็ได้มานี่สิ พนักงาน! จับพวกมันมาให้ฉัน ฉันจะขุดลูกตาของไอ้ขยะนั่นออกมา ส่วนนางชั้นต่ำนั่นก็หาคนมาโทรมมันซะ”

กรอบ!

โล่เฉินคำรามในใจ นิ้วของเขาส่งเสียงออกมา

แต่ว่า เขาอยู่ในช่วงอ่อนแอ

ตุบๆ

จู่ๆ หัวใจของเขาก็เต้นแรง

โล่เฉินรู้สึกได้ถึงความปลอดโปร่งขึ้นมา ความแข็งแกร่งที่หายไปเนิ่นนานกลับมาแล้ว ความอ่อนแอสลายหายไปราวกับควันเมฆ คล้ายว่าเขาเปลี่ยนไปเป็นอีกคน ลมหายใจอันแรงกล้าหลั่งไหลออกมา

ความรู้สึกมีอำนาจในการควบคุม

ช่างยอดเยี่ยม

ดังนั้น ต่อไป

ทุกคนต้องตาย!

จักรพรรดิผู้ฝึกอายุห้าพันปี

จักรพรรดิผู้ฝึกอายุห้าพันปี

ได้รับความลำบาก เพื่อได้อยู่ต่อ ผมทนความอัปยศอดสู แต่งเข้าตั้งสามปี ถูกดูถูกและเยาะเย้ย ในสายตาของพวกเขา ผมเป็นคนที่ไร้ประโยชน์ ใครๆก็สามารถก้าวเหนือหัวผมได้ ใช้ชีวิตอยู่อย่างหมา จนถึงวันนี้ ภัยพิบัติทุกๆอย่างผ่านไป…….เมื่อยิ่งใหญ่ขึ้นมา ทำให้คนบนโลกผวา!!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท