เข้าสู่ระบบ ‘ฝ่ามือยูไล’ [Sign in Buddha’s palm] – ตอนที่ 50

ตอนที่ 50

Sign in Buddha’s palm 50 พลังฉีหลั่งไหล

หิมะถล่มกลิ้งลงมาอย่างรุนแรงกวาดล้างทุกสิ่งลงมาด้านล่างด้วยแรงที่ไม่อาจหยุดยั้ง

แผ่นดินสั่นสะเทือน ภูเขาก็สั่นสะเทือน ทุกอย่างพังทลายเมื่อต้องเผชิญกับความยิ่งใหญ่ของฟ้าดิน แม้ว่าจะเป็นยอดปรมาจารย์ระดับชั้นที่หนึ่งก็ต้องตกใจและหวาดกลัวมันเป็นอย่างมาก

“ท่านปู่เรากำลังจะตายหรือ?”

เด็กน้อยกอดเฒ่าหลี่ไว้แน่น เสียงของเขาสั่นเครือ

แม้เขาจะอายุราวๆ สิบขวบปี แต่เขาก็รู้ดีว่า ด้วยหิมะที่ถล่มลงมานี้ผู้คนในเมืองเล็กๆ เช่นนี้คงจะไม่สามารถอยู่รอดได้

เพียงเท่านั้นเพราะไม่ว่าเด็กน้อยจะร้องเรียกเท่าไหร่ เฒ่าหลี่ที่เขาสวมกอดอยู่ก็ไม่ตอบสนองใดๆ กลับมา

“ท่านปู่ มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นอย่างนั้นหรือ?”

เด็กน้อยขุดเอาความกล้าออกมา เงยหน้าขึ้นมองหน้าของเฒ่าหลี่

เขาเห็นดวงตาของเฒ่าหลี่เบิกกว้าง ใบหน้าตกใจสุดขีด

เด็กน้อยรู้สึกงงงวย และมองข้ามหัวของเฒ่าหลี่ไปโดยไม่ได้ตั้งใจ

อย่างไรก็ตามฉากที่เด็กน้อยได้เห็นจะเป็นฉากที่เขาไม่มีวันลืม

ท่ามกลางหิมะที่ถล่มลงมาอย่างไร้ที่สิ้นสุด ฝ่ามือองค์ยูไลสีทองเข้มค่อยๆ ต้านหิมะถล่มที่น่าหวาดกลัวนั่นไว้ พื้นที่โดยรอบเมืองอาบด้วยแสงอันบริสุทธิ์

หากมองจากระยะไกลจะเห็นเป็นองค์ยูไลทองคำองค์ใหญ่สูงจรดฟ้าจากพื้นดิน โดยฝ่ามือขององค์ยูไลทอดยาวออกไปปกป้องเมืองไว้ทั้งเมือง

แสงจากองค์พระแผ่ซ่าน

ดอกบัวสีทองเบ่งบาน

เด็กชายตัวเล็กสามารถได้ยินเสียงแห่งธรรมเบาๆ ลอยมาตามสายลม เหมือนองค์ยูไลกำลังสวดมนต์พิธีด้วยเสียงต่ำ

หวึ่ง!

เวลาต่อมา

หิมะโถมถล่มลงมาเรื่อยๆ

อย่างไรก็ตาม ใต้การคุ้มครองของฝ่ามือยูไลสีทองเข้มที่ครอบคลุมไปทั่วทั้งพื้นที่ ตัวเมืองยังคงสภาพสมบูรณ์ท่ามกลางแรงถล่มจากหิมะ ราวกับที่นี่เป็นแดนอันศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ภายในฝ่ามือ

นี่คือ องค์ยูไลที่แท้จริงเช่นนั้นหรือ…”

มือของเฒ่าหลี่สั่นสะท้าน น้ำตาของชายชรากำลังไหลรินออกมา คนที่อายุมากอย่างเขานั้นขาข้างหนึ่งก็ก้าวเข้าโลงไปแล้ว ชื่อเสียง ความมั่งคั่ง อารมณ์ทั้งเจ็ด และความปรารถนาทั้งหกล้วนผ่านเข้ามาในชีวิตเขาหมดสิ้นแล้ว แต่ในช่วงเวลานี้หัวใจของเฒ่าหลี่เต้นแรงขึ้น ความเกรงกลัวท่วมท้นราวกับเผชิญหน้าอยู่กับเทพเซียนและองค์ยูไล

ผึ่บ

ผึ่บ

ผึ่บผึ่บ

เมื่อชาวบ้านคนอื่นๆ เห็นฉากนี้ พวกเขาคุกเข่าลงกับพื้นพร้อมๆ กัน หันตัวไปทางซูฉิน สีหน้าดูเคร่งเครียดอย่างยิ่ง

พวกเขาหาใช่คนโง่ไม่ หากไม่ใช่เพราะการลงมือของซูฉิน เมืองทั้งเมืองคงถูกกลบฝังอยู่ใต้หิมะไปแล้ว

กล่าวได้ว่าซูฉินคือผู้ช่วยชีวิตทุกคนในเมืองเล็กๆ แห่งนี้

เช่นนี้แล้วใครจะไม่คุกเข่า? ใครจะกล้าไม่คุกเข่า?

ปึง!

หิมะถล่มลงมาอย่างไม่รู้จักจบจักสิ้น แต่ก็ถูกสกัดกั้นไว้ได้อย่างสมบูรณ์ เมื่อเวลาผ่านไปแรงกดดันก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ด้วยการคุ้มครองของฝ่ามือยูไลก็ดูเหมือนจะไม่ส่งผลกระทบใดๆ ต่อเมืองเลย

ตรงกึ่งกลางของฝ่ามือยูไล ซูฉินนั่งขัดสมาธิหลอมรวมทั้งจิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ พลังกายและกำลังภายใน หมุนเวียนเปลี่ยนผันเพื่อมาต่อต้านหิมะที่ถล่มลงมาจากด้านบน

หลังจากครึ่งชั่วโมงผ่านไป

หิมะที่ถล่มลงมาก็เริ่มชะลอตัวลง

หิมะที่ตกหนักบริเวณเขาหวู่หนานในเวลาสองสามวันมานี้เป็นธรรมดาที่จะไหลลงมาจนหมดแล้ว

“ใกล้จะจบแล้ว”

ซูฉินค่อยๆ ลืมตาขึ้น ด้วยการสังเกตจากดวงตาแห่งสัจจะ เขาสามารถควบคุมสถานการณ์ทั้งหมดได้

“พลังฟ้าดินนี่ช่างน่ากลัวจริงๆ”

“ด้วยความแข็งแกร่งของข้าในยามนี้มันยังไม่ค่อยจะเพียงพอเท่าไรนัก”

ซูฉินส่ายหัวน้อยๆ

แม้โดยพื้นฐานเมืองนี้จะรอดปลอดภัยแล้ว แต่ซูฉินรู้อยู่เต็มอกว่าหิมะถล่มที่เขาเผชิญนี้มันก็เป็นเพียงแค่หนึ่งจากในร้อยในพันส่วน หรืออาจจะถึงหนึ่งในล้านส่วนจากพลังถล่มทลายที่แท้จริงของหิมะถล่ม

หิมะถล่มลงจากภูเขาหวู่หนานกระจายออกไปทั่วทุกทิศทางเป็นระยะหลายร้อยลี้โดยรอบ

เมืองที่ซูฉินอยู่ตอนนี้เป็นเพียงจุดเล็กๆ ในอาณาบริเวณหลายร้อยลี้

แต่ถึงจะเป็นแบบนั้นในตอนนี้ซูฉินก็ใช้ทั้งกำลังภายในและจิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ออกไปจำนวนมหาศาล กล่าวได้ว่าหากเขาพบเข้ากับกลุ่มยอดปรมาจารย์ระดับชั้นที่หนึ่งสักกลุ่มหนึ่งเขาจะต้องหันหลังกลับแล้ววิ่งหนีไปอย่างแน่นอน

“ใกล้จะหมดแล้ว”

“ถึงเวลาที่จะเดินทางจากไป”

ซูฉินเหลือบตามองฝูงชนที่คุกเข่าอยู่กับพื้นและโค้งคำนับมาทางเขาอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงจากไปเงียบๆ

หลังจากนั้นไม่นาน

แสงแดดก็ส่องลงมาจากฟากฟ้า

ผู้คนที่กำลังคุกเข่าอยู่กับพื้นอดไม่ได้ที่จะเงยหน้าขึ้นมอง

“จบ…จบลงแล้วงั้นหรือ?”

ผู้คนในเมืองเล็กๆ แห่งนี้ รู้สึกเหมือนอยู่ในความฝัน

พวกเขารอดชีวิตจากหิมะถล่มครั้งยิ่งใหญ่ขนาดนั้นได้จริงๆ หรือ?

“นายท่าน นายท่านอยู่ที่ไหน?”

ขณะนั้นเองเฒ่าหลี่ก็ร้องตะโกนออกมา

คำพูดที่ตะโกนออกไป

คนอื่นๆ ก็พลันตื่นขึ้นจากภวังค์

สาเหตุที่พวกเขารอดจากเหตุการณ์หิมะถล่มทั้งหมดเป็นเพราะพระหนุ่มรูปนั้น

“ใช่แล้ว?”

“นายท่านผู้นั้นอยู่ที่ไหน?”

ทุกคนต่างมองไปรอบๆ

“เฒ่าหลี่เจ้ารู้จักนายท่านผู้นั้นนี่ เจ้ารู้หรือไม่ว่านายท่านไปที่ไหน?”

ชายวัยกลางคนมองไปที่ชายชราและอดไม่ได้ที่จะถามออกมา

ก่อนที่หิมะจะถล่มเขาเห็นเฒ่าหลี่พูดคุยอยู่กับซูฉิน

“ข้าจะรู้ได้เช่นไรเล่า?”

เฒ่าหลี่กลอกตา

ในสายตาของเฒ่าหลี่ ซูฉินในขณะนี้ไม่ต่างไปจากองค์ยูไลที่เคยได้ยินมา คนธรรมดาเช่นเขาจะไปรู้ได้เช่นไร

“นั่นสินะ”

ชายวัยกลางคนที่ถามคำถามก็เหมือนจะนึกได้

แม้ว่าหิมะที่ถล่มลงมา นอกจากเมืองเล็กๆ แห่งนี้ สถานที่อื่นๆ ต่างก็ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะ พวกเขาไม่สามารถออกไปไหนได้เลย

แต่ทั้งหมดทั้งมวล พวกเขาก็ยังรอดชีวิตมาได้

ไม่ใช่เรื่องยากที่จะอยู่รอดแค่ไม่กี่เดือนด้วยอาหารที่สะสมเอาไว้ภายในเมือง

อีกไม่กี่เดือนนับจากนี้ก็จะเป็นฤดูร้อนและคาดว่าหิมะที่ด้านนอกจะละลายหายไปแล้วในตอนนั้น

“พระรูปนั้นได้ช่วยเราเอาไว้ เราจะไม่ทำอะไรสักอย่างเลยคงจะไม่ได้แล้ว”

ชายวัยกลางคนที่เอ่ยขึ้นในตอนแรกก็กล่าวคำขึ้นมาอีกครั้ง

“ทำอะไรสักอย่าง?”

“เจ้าหมายความว่าอย่างไร?”

เฒ่าหลี่ขมวดคิ้วแล้วเอ่ยถาม

ความจริงเขาก็ให้ความเคารพกลัวเกรงซูฉินมาตั้งนานแล้ว แต่ไม่รู้จะแสดงออกอย่างไร

ในสายตาของเฒ่าหลี่ แม้ว่าจะมอบทั้งเมืองให้กับซูฉิน ซูฉินก็คงไม่ได้เหลียวแล

แม้เฒ่าหลี่จะคิดมาอย่างหนักแล้ว แต่เขาก็นึกไม่ออกจริงๆ ว่าจะทำเช่นไรเพื่อตอบแทนคุณที่ซูฉินช่วยชีวิตของเขาเอาไว้

“ทำไมทุกครัวเรือนในเมืองนี้ ไม่มาช่วยกันหล่อทองคำเป็นรูปนายท่านผู้นั้นกันล่ะ แล้วพวกเราจะบูชามันทั้งยามกลางวันและกลางคืนไปเลย”

ชายวัยกลางคนคนนั้นคิดอยู่สักพักแล้วจึงพูดออกมา

คำพูดนั้น

คนอื่นๆ พลันพยักหน้าเห็นดีเห็นงามด้วย

โดยเฉพาะเฒ่าหลี่ ตาของเขาเป็นประกายวาววับ

ห่างจากเขาหวู่หนานไปหลายร้อยลี้

ซูฉินก้าวไปตามทางที่ทอดยาว มุ่งมั่นที่จะกลับไปยังวัดเส้าหลิน

เป็นธรรมดาที่ซูฉินจะไม่รู้ว่าเหตุการณ์ที่เขาสกัดกั้นหิมะถล่มทำให้ผู้คนในเมืองเล็กๆ แห่งนั้นเตรียมที่จะหล่อรูปปั้นทองคำให้เขาและจะบูชาทั้งยามกลางวันยันยามกลางคืน

หรือบางทีซูฉินอาจจะไม่สนใจเลยก็ได้ต่อให้เขารู้เรื่องก็ตาม

ในขณะนี้ซูฉินกำลังถือขวดขนาดใหญ่สองขวด คือ ขวดบรรจุ‘โอสถเสริมศักยภาพขนาดใหญ่‘ ไว้ในมือหนึ่ง ส่วนอีกมือกำขวด‘โอสถกักเก็บพลังศักดิ์สิทธิ์‘ แล้วก็โยนโอสถทั้งสองเข้าปากราวกับกินถั่วอยู่ตลอดเวลา

ไม่ว่าจะเป็นโอสถเสริมศักยภาพขนาดใหญ่หรือโอสถกักเก็บพลังศักดิ์สิทธิ์ ทันทีที่มันเข้าไปในปากของซูฉินก็ถูกย่อยสลายทันทีด้วยร่างกายอันทรงประสิทธิภาพ กลายมาเป็นพลังภายในอันดุดันและจิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์อันสมบูรณ์พร้อมเติมเต็มพลังงานที่เสียไปก่อนหน้าของซูฉิน

หากหัวหน้าลานโพธิ์มาเห็นพฤติกรรมของซูฉินตอนนี้เข้า คงจะต้องใจสลายอย่างแน่นอน

โอสถเสริมศักยภาพขนาดใหญ่เป็นหนึ่งในโอสถศักดิ์สิทธิ์ของวัดเส้าหลิน มันมีฤทธิ์สูงกว่าโอสถเสริมศักยภาพขนาดเล็กหลายต่อหลายเท่า ลานโพธิ์เองสามารถส่งโอสถชนิดนี้ออกมาเพียงไม่กี่สิบเม็ดเท่านั้น

ส่วน ‘โอสถกักเก็บพลังศักดิ์สิทธิ์‘ นั้นล้ำค่ายิ่งขึ้นไปอีกระดับ เพราะมันข้องเกี่ยวกับการบ่มเพาะ ‘พลังศักดิ์สิทธิ์‘ สามารถช่วยยอดปรมาจารย์ระดับชั้นที่หนึ่งในการบ่มเพาะได้ ซึ่งในยุคนี้ไม่มีใครในลานโพธิ์สามารถปรุงกลั่นโอสถชนิดนี้ออกมาได้เลยด้วยซ้ำ

เข้าสู่ระบบ ‘ฝ่ามือยูไล’ [Sign in Buddha’s palm]

เข้าสู่ระบบ ‘ฝ่ามือยูไล’ [Sign in Buddha’s palm]

Status: Ongoing

Sign in Buddha’s palm

เข้าสู่ระบบฝ่ามือยูไล

ซูฉินเที่ยวท่องไปในยุทธภพอันกว้างใหญ่ เป็นโลกที่ชาวยุทธเตร็ดเตร่อาละวาดไปทั่ว เป็นสถานที่ที่หยวนกั๋วชีอยู่เหนือใต้หล้า เป็นที่ที่ผู้สืบทอดหมัดเก้าตะวันออกหาประสบการณ์ต่อสู้ไปตามแนวสายธารอันทอดยาวและภูเขาอันสูงชัน ทั้งยังมีเซี่ยวหลี่ที่ขี่กระบี่โบยบินสู่ความเวิ้งว้างว่างเปล่า

เนื่องจากซูฉินไม่มีพรสวรรค์ด้านวิชายุทธ เขาจึงเป็นได้เพียงพระกวาดลานแห่งตำหนักลานจิปาถะ

ในเวลานั้นเอง ระบบแห่งการลงชื่อเข้าใช้ก็ถูกกระตุ้นเปิดออก!

ลงชื่อเข้าใช้ที่หน้าพระประธานสีทองอร่าม ได้รับ [ฝ่ามือยูไล]

ลงชื่อเข้าใช้ที่หน้าลานสงฆ์ ได้รับ [กายแกร่งวัชระ]

ลงชื่อเข้าใช้ที่ภูเขาหลังวัด ได้รับ [กายาโพธิสัตว์ปีศาจทองคำ]

สมบัติแทบจะแทรกอยู่ทุกหย่อมหญ้าในวัดเส้าหลินให้ได้ลงชื่อรับของรางวัลมา ซูฉินไม่คิดลงจากภูเขาอันเป็นที่ตั้งของวัดเส้าหลินไปที่ไหนแน่ถ้ายังไม่ได้ลงชื่อรับของ และตัวเขาก็ลงชื่อรับของอยู่แบบนั้นมาตลอดยี่สิบปี

ยี่สิบปีผ่านไป เส้าหลินเข้าไปพัวพันกับการต่อสู้ระหว่างธรรมะและอธรรม เหล่ามารเข้าโจมตีวัดเส้าหลินอย่างมิเกรงฟ้าดิน มาทั่วทุกสารทิศมุ่งเข้าสู่ศาลาพระคัมภีร์ อย่างดุร้าย! และทรงพลัง!

จนกระทั่งพวกมันเจอเข้ากับศิษย์วัดนามซูฉินกำลังกวาดลาน…

แปลจากงานเขียนเรื่อง Sign in Buddha’s palm ผู้แต่ง : หุยเต้าหยวนชู

ปล.เนื้อหาภายในเป็นเพียงจินตนาการของผู้เขียน ผู้แปลเพียงนำเสนอผลงานในรูปแบบที่เข้าใจง่ายขึ้นเท่านั้น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท