เข้าสู่ระบบ ‘ฝ่ามือยูไล’ [Sign in Buddha’s palm] – ตอนที่ 204 (II) ทิพยอํานาจ เรียก สายลม!

ตอนที่ 204 (II) ทิพยอํานาจ เรียก สายลม!

Sign in Buddha’s palm 204 (II) ทิพยอํานาจ เรียก สายลม!

ราชาปีศาจมากกว่าสิบตนที่ยืนอยู่ด้านข้างเจ้าเมืองอินจี๋ เมื่อเห็นกองทัพจักรกลนับสิบล้านตัวออกมามากมายนับไม่ถ้วน พวกเขาก็กลืนน้ำลายลงคอไปอย่างยากลําบาก

ในระดับของพวกเขา เป็นปกติที่ไม่อาจล่วงรู้ถึงความลับเบื้องลึกของโลกถ้ำปีศาจได้

“กองทัพ?”

ด้านบนเมืองเมฆาปีศาจ

โม๋จีถอนหายใจด้วยความโล่งอก

แม้ว่ากองทัพปีศาจนับล้านจะดูน่าตกใจกลัว แต่ในมุมของโม๋จี มันก็ไม่เป็นอะไรตราบใดที่เจ้าเมืองอินจไม่ได้ลงมือเอง

โม๋จีรู้ว่าซูฉินไม่ได้ควบคุมค่ายกลขนาดใหญ่ภายในเมืองเมฆาปีศาจเอาไว้ ดังนั้นค่ายกลในเมืองเมฆาปีศาจในขณะนี้จึงไม่อาจหยุดยั้งเจ้าเมืองอินจี๋ได้

แต่สําหรับกองทัพ…

แม้ว่าจะมีกองทัพเป็นสิบล้าน แต่ขอบเขตราชาปีศาจสามารถมองข้ามยุทธวิธีล้อมกรอบด้วยกองทัพไปได้

“เจ้าเมืองอินจี๋ต้องการทําสิ่งใด?”

โม๋จีมองดูกองทัพสิบล้านนายด้วยความระมัดระวัง ในที่สุดก็พบสิ่งผิดปกติ “กองกําลังเหล่านี้ไม่ใช่ปีศาจ แต่เป็นจักรกล”

โม๋จีพึมพํากับตนเอง งุนงงมากยิ่งขึ้น

ไม่ว่าจะเป็นกองทัพปีศาจหรือกองทัพจักรกล เมื่อเผชิญหน้ากับตัวตนขอบเขตราชาปีศาจแล้วก็ไม่ยากที่จะกวาดล้าง

และในขณะที่โม๋จีกําลังคิดถึงเรื่องนี้อยู่นั้น กองทัพกว่าสิบล้านนายก็เคลื่อนพลเข้ามาใกล้เมืองเมฆาปีศาจอย่างช้าๆ

“พวกเจ้าลงมือได้”

โม๋จีสงบใจลง มองไปที่ราชาปีศาจที่อยู่ข้างกาย

“ขอรับ”

ราชาปีศาจเหล่านี้ถูกซูฉินฝังจิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ไว้แล้ว ไม่กล้าที่จะขัดคําสั่งแน่ นับประสาอะไรกับกองทัพสิบล้านนาย แม้จะสั่งให้โจมตีเจ้าเมืองอินจี๋ พวกเขาก็ทําได้เพียงกัดฟันทําตาม

“กองทัพสิบล้าน?”

“ต่อให้มีเป็นร้อยล้าน ในสายตาของราชาปีศาจอย่างข้า พวกมันก็ไม่มีค่าให้กล่าวถึง”

ราชาปีศาจเหล่านั้นทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า แผ่รัศมี พลังออกไปโจมตีกองทัพจักรกลทั้งสิบล้านเบื้องล่าง

ฉับพลัน

พลังฟ้าดินก็ผันผวน กลายเป็นแรงระเบิดอันรุนแรง บดขยี้กองทัพทั้งสิบล้าน

ขณะที่รอยยิ้มแห่งชัยชนะกําลังปรากฏขึ้นบนใบหน้าของราชาปีศาจเหล่านั้น ทันใดนั้นแสงสีดําก็โผล่ขึ้นมาจากกองทัพทั้งสิบล้าน

แสงสีดํานั้นกระจายแรงโจมตีของเหล่าราชาปีศาจออกเป็นหลายล้านส่วนแยกออกไปตกลงบนตัวจักรกลสงครามแต่ละตัว

“นี่คือ?”

ราชาปีศาจแห่งเมืองเมฆาปีศาจเบิกตากว้างอย่างเหลือเชื่อ

เมื่อครู่พวกเขาโจมตีสุดกําลังเข้าใส่กองทัพทั้งสิบล้านนาย แต่ฆ่าพวกมันไม่ได้แม้แต่ตัวเดียว

“แย่แล้ว!”

ในเวลานี้ ใบหน้าของราชาปีศาจแห่งเมืองเมฆาปีศาจก็เปลี่ยนสี และชั้นแสงสีดําก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง มาจากกองทัพจักรกลทั้งสิบล้าน แรงกดดันของมันราวกับท้องฟ้าถล่มลงมาใส่

“อัก”

ราชาปีศาจทั้งหลายต่างกระอักเลือกออกมาและกระเด็นกลับเข้าไปในเมืองเมฆาปีศาจ

“เกิดอะไรขึ้นกับพวกเจ้า?”

โม๋จีก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วและเอ่ยถามด้วยเสียงต่ำ

“เรียนรองเจ้าเมือง กองทัพเหล่านี้ กองทัพเหล่านี้มีปัญหา” ใบหน้าของราชาปีศาจตนหนึ่งซีดเซียว ขณะที่พูดก็อาเจียนออกมาเป็นเลือด

“มีปัญหา”

โม๋จีมองดูกองทัพทั้งสิบล้านอีกครั้ง

ในตอนนี้หากโม๋จียังไม่รู้ว่ามันมีปัญหา นางคงโง่จริงๆ แล้ว

“กระจายตัว”

“การโจมตีของเหล่าราชาปีศาจถูกกระจายออกไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด”

โม๋จีเห็นแสงสีดําโผล่ออกมาจากกองทัพจักรกลปีศาจทั้งสิบล้านตัว

ด้วยชั้นของแสงสีดํานั้นสามารถกระจายพลังโจมตีของราชาปีศาจออกไปนับไม่ถ้วน ส่งผลให้ไม่อาจฆ่าจักรกลได้แม้แต่ตัวเดียว

ในตอนนั้น

มีเสียงหัวเราะดังมาจากเจ้าเมืองอินจี๋

“ฮ่าฮ่าฮ่า ตอนนี้เจ้าก็ได้รู้ความน่าสะพรึงกลัวของจักรกลสงครามแล้วสินะ แต่มันสายเกินไปแล้วล่ะ! วันนี้ข้าจะทําลายเมืองเมฆาปีศาจซะ เพื่อให้รู้ว่าจะเป็นอย่างไรถ้าไม่เชื่อฟังข้า!”

เสียงหัวเราะของเจ้าเมืองอินจี๋เต็มไปด้วยพลังฟ้าดิน แผ่ขยายดังไปทั่วทุกซอกทุกมุมของเมืองเมฆาปีศาจ

ในขณะนี้ ผู้คนในเมืองเมฆาปีศาจต่างหวาดกลัวราวกับเผชิญหน้ากับวันสิ้นโลก

ความจริงแล้วเมื่อเมืองเมฆาปีศาจถูกตีแตก สิ่งที่พวกเขาต้องเผชิญก็คงไม่ต่างจากวันสิ้นโลก

“ท่านรองเจ้าเมือง ข้าไม่สามารถเข้าไปภายในโถงเจ้าเมืองได้เลย” ในตอนนั้น ปีศาจที่เข้าไปในโถงใหญ่ของเจ้าเมืองก็รีบเข้ามารายงานอย่างรวดเร็ว

“ไม่เป็นไร”

โม่จีถอนหายใจเบาๆ

หลังจากได้เห็นความน่ากลัวของกองทัพจักรกลปีศาจทั้งสิบล้านตัว โม๋จีไม่คิดว่าซูฉินจะหยุดมันได้

ฉับพลัน

ในตอนนั้นเอง

เสียงอันแสนสงบนิ่งก็ลอยเข้ามาในโสตประสาทของโม๋จี “เป็นพวกมันที่มารบกวนการปิดด่านฝึกตนของข้างั้นหรือ?”

“นายท่าน?”

โม๋จีตกใจและมองไปด้านข้างอย่างรวดเร็ว

เห็นว่าซูฉินยืนอยู่ด้านข้างนางตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่ทราบ มองดูกองทัพทั้งสิบล้านด้านนอกเมืองเมฆาปีศาจ

“นายท่าน กองทัพทั้งสิบล้านนี้ ” โม๋จีรีบแจ้งซูฉินถึงข้อมูลบางอย่างที่นางพอจะคาดเดาออกมาได้

“นายท่าน ท่านรีบไปเถอะ”

“ไม่เช่นนั้น เมื่อกองทัพทั้งสิบล้านเคลื่อนพลเข้ามาพร้อมกับเจ้าเมืองอินจี๋ ข้าเกรงว่ามันจะเป็นอันตราย” โม๋จีพูดอย่างเร่งร้อน

ในมุมของโม๋จี ความแข็งแกร่งของซูฉินไม่ได้อ่อนแอไปกว่าเจ้าเมืองอินจีนัก ตราบใดที่ซูฉินไม่ต้องเผชิญหน้ากับกองทัพเหล่านั้น เจ้าเมืองอินจี๋ก็ไม่สามารถทําอะไรซูฉินได้

“ไป?”

ซูฉินไม่ได้พูดอะไรต่อ

“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า เจ้าเป็นเจ้าเมืองเมฆาปีศาจคนใหม่ใช่หรือไม่?” เจ้าเมืองอินจี๋ที่อยู่ห่างออกไปนับสิบลี้เมื่อเห็นซูฉินก็พูดออกมาอย่างดูถูกเหยียดหยาม “ถ้าเจ้ายินดีที่จะยอมจํานนและสาบานว่าจะรับใช้เจ้าปีศาจผู้นี้ไปตลอดชีวิต ข้าพอจะสามารถไว้ชีวิตเจ้าได้”

น้ำเสียงของเจ้าเมืองอินจี๋เผยให้เห็นถึงความมีเมตตา ราวกับว่าเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ซูฉินจะยอมจํานนต่อตน

“ไม่รู้คุณค่าของชีวิตเลยจริงๆ” ซูฉินกวาดตามองกองทัพจักรกลปีศาจทั้งสิบล้านอย่างรวดเร็ว ก่อนจะกล่าวขึ้นเบาๆ

“ดี!”

“ดีมาก!”

เจ้าเมืองอินจ์โกรธจัด เขาไม่คิดว่าซูฉินจะหยิ่งผยองได้ขนาดนี้ ด้วยแรงกดดันของจักรกลสงครามปีศาจ ยังกล้าพูดกับเขาด้วยความโอหังเช่นนี้

“ถ้าอย่างนั้น เจ้าอย่าได้โทษข้าเลย” เจ้าเมืองอินจี๋คิดในใจ

ทันใดนั้นกองทัพจักรกลทั้งสิบล้านก็ระเบิดพลังสีดําอย่างรุนแรง กลายเป็นม่านแสงหนาทึบ ผสานรวมเข้าด้วยกันราวกับตาข่ายที่ครอบคลุมฟ้าดิน ปิดผนึกทุกทิศทางอย่างสมบูรณ์

“แม้ว่าสิ่งนี้จะกินพลังงานต้นกําเนิดของจักรกลสงครามไปอย่างมหาศาล และคงเปิดใช้งานไม่ได้อีกอย่างน้อยๆ ก็ยี่สิบปี”

“แต่เจ้าจะต้องตกตายในวันนี้อย่างแน่นอน”

นิยาย เว็ปแรกที่ลง novelza.com

เจ้าเมืองอินจี๋คํานวณเอาไว้หมดแล้ว

“จบสิ้นแล้ว”

โม๋จีมองไปที่ม่านแสงที่ห้อมล้อมทุกทิศทาง และมองไปทางซูฉินอย่างสิ้นหวัง

ยามที่โม๋จีกําลังจะบอกให้ซูฉินยอมอ่อนข้อ และส่งตัวนางให้กับเจ้าเมืองอินจี๋เพื่อแลกกับการมีชีวิตอยู่

“งั้นก็ไม่ต้องพูดให้มากความ” ซูฉินค่อยๆ ละสายตาจากกองทัพจักรกลปีศาจทั้งสิบล้าน และมองไปยังเจ้าเมืองอินจี๋จากระยะไกล “เมื่อเป็นเช่นนี้ เจ้าก็ตายได้แล้วล่ะ”

ขณะเดียวกันเจ้าเมืองอินจี๋กําลังหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง

ท่ามกลางสายตาอันสิ้นหวังของทุกผู้ทุกคน

ซูฉินก็ก้าวเท้าเดินออกไป และพูดขึ้นอย่างแผ่วเบา

“เรียกสายลม!”

เพิ่งจะกล่าวจบ

อากาศก็เริ่มก่อตัวเข้าหากัน

เหนือฟากฟ้าราวกับมีพายุลมกระโชก!

สายลมกลุ่มนี้เป็นสีดํา และพัดหมุนไม่รู้จบ กลายเป็นมังกรดําเก้าตัวพุ่งเข้ากลืนกองทัพจักรกลปีศาจทั้งสิบล้าน ท่ามกลางสายตาที่เหลือเชื่อของทุกคน

เข้าสู่ระบบ ‘ฝ่ามือยูไล’ [Sign in Buddha’s palm]

เข้าสู่ระบบ ‘ฝ่ามือยูไล’ [Sign in Buddha’s palm]

Status: Ongoing

Sign in Buddha’s palm

เข้าสู่ระบบฝ่ามือยูไล

ซูฉินเที่ยวท่องไปในยุทธภพอันกว้างใหญ่ เป็นโลกที่ชาวยุทธเตร็ดเตร่อาละวาดไปทั่ว เป็นสถานที่ที่หยวนกั๋วชีอยู่เหนือใต้หล้า เป็นที่ที่ผู้สืบทอดหมัดเก้าตะวันออกหาประสบการณ์ต่อสู้ไปตามแนวสายธารอันทอดยาวและภูเขาอันสูงชัน ทั้งยังมีเซี่ยวหลี่ที่ขี่กระบี่โบยบินสู่ความเวิ้งว้างว่างเปล่า

เนื่องจากซูฉินไม่มีพรสวรรค์ด้านวิชายุทธ เขาจึงเป็นได้เพียงพระกวาดลานแห่งตำหนักลานจิปาถะ

ในเวลานั้นเอง ระบบแห่งการลงชื่อเข้าใช้ก็ถูกกระตุ้นเปิดออก!

ลงชื่อเข้าใช้ที่หน้าพระประธานสีทองอร่าม ได้รับ [ฝ่ามือยูไล]

ลงชื่อเข้าใช้ที่หน้าลานสงฆ์ ได้รับ [กายแกร่งวัชระ]

ลงชื่อเข้าใช้ที่ภูเขาหลังวัด ได้รับ [กายาโพธิสัตว์ปีศาจทองคำ]

สมบัติแทบจะแทรกอยู่ทุกหย่อมหญ้าในวัดเส้าหลินให้ได้ลงชื่อรับของรางวัลมา ซูฉินไม่คิดลงจากภูเขาอันเป็นที่ตั้งของวัดเส้าหลินไปที่ไหนแน่ถ้ายังไม่ได้ลงชื่อรับของ และตัวเขาก็ลงชื่อรับของอยู่แบบนั้นมาตลอดยี่สิบปี

ยี่สิบปีผ่านไป เส้าหลินเข้าไปพัวพันกับการต่อสู้ระหว่างธรรมะและอธรรม เหล่ามารเข้าโจมตีวัดเส้าหลินอย่างมิเกรงฟ้าดิน มาทั่วทุกสารทิศมุ่งเข้าสู่ศาลาพระคัมภีร์ อย่างดุร้าย! และทรงพลัง!

จนกระทั่งพวกมันเจอเข้ากับศิษย์วัดนามซูฉินกำลังกวาดลาน…

แปลจากงานเขียนเรื่อง Sign in Buddha’s palm ผู้แต่ง : หุยเต้าหยวนชู

ปล.เนื้อหาภายในเป็นเพียงจินตนาการของผู้เขียน ผู้แปลเพียงนำเสนอผลงานในรูปแบบที่เข้าใจง่ายขึ้นเท่านั้น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท