เข้าสู่ระบบ ‘ฝ่ามือยูไล’ [Sign in Buddha’s palm] – ตอนที่ 206 ฮือฮา

ตอนที่ 206 ฮือฮา

เจ้าเมืองอินจี่ตายแล้ว!

ราชาปีศาจภายในเมืองเมฆาปีศาจต่างชําเลืองมองกันเองทุกคนต่างตกตะลึง

เจ้าเมืองอินจี้คือใคร? เขาคือทรราชผู้ครองดินแดนในรัศมีล้านนี้และได้เข้าสู่ขอบเขตราชาปีศาจระดับสูงตั้งแต่ เมื่อสองร้อยปีที่แล้ว

และเมื่อกว่าสองร้อยปีก่อน เจ้าเมืองอินจี้ยังได้ไปยังส่วนลึกของโลกเพื่อเข้าคารวะเทพเจ้าปีศาจและได้รับของขวัญมาจากเทพเจ้าปีศาจอีกด้วย

เป็นเรื่องเหลือเชื่อที่ชายผู้แข็งแกร่งเช่นนี้มาตกตายด้วยน้ํามือของซูฉิน

“นายท่าน…………”

ราชาปีศาจหลายตน ก้มศีรษะลงอย่างนอบน้อม

ก่อนหน้านี้ซูฉินกดขี่พวกมันด้วยจิตมาร แม้ว่าราชาปีศาจเหล่านี้จะเชื่อฟังคําสั่ง แต่ก็ยังมีความคับแค้นภายในใจอยู่

แต่ยามนี้ เจ้าเมืองอินจี้ที่ราวกับภูเขาสูงใหญ่ในสายตาพวกมันได้ตกตายด้วยน้ํามือของซูฉิน ราชาปีศาจเหล่านี้จึงยอมจํานนอย่างสมบูรณ์

ในโลกถ้ําปิศาจนั้นเคารพผู้ที่แข็งแกร่งกว่าเสมอเมื่อซูฉินมีความแข็งแกร่งมากมายเพียงนี้ ย่อมไม่มีเผ่าพันธุ์ปีศาจตนใดกล้าคิดแค้นเป็นอริศัตรู

ซูฉินเพิกเฉยต่อการนอบน้อมของเหล่าราชาปีศาจเขาหันมองออกไปนอกเมืองเมฆาปีศาจ

ในขณะนี้ ภายใต้ทิพยอํานาจ “เรียกลมเรียกฝน” กองทัพจักรกลของเผ่าปีศาจนับล้านแทบจะสลายหายไปหมดแล้ว

เมื่อเห็นเช่นนั้นซูฉินก็สั่งการด้วยจิตจากนั้นทิพยอํานาจ“เรียกลมเรียกฝน”ก็ค่อยๆหายไป

“มันกินแก่นแท้แห่งมารไปเกือบหนึ่งส่วน…”

จิตใจของซูฉินดําดิ่งอยู่ในภวังค์

ทิพยอํานาจแบ่งออกเป็นสองประเภทหนึ่งคือประเภทเรียกใช้และอีกประเภทคือทักษะติดตัว

ประเภทแรกกินพลังงาน ส่วนประเภทหลังไม่ต้องจ่ายพลังงานแต่อย่างใด

ตัวอย่างเช่น ดวงตาแห่งสัจจะเป็นทิพยอํานาจเป็นประเภททักษะติดตัวตราบใดที่ซูฉินต้องการเขาสามารถใช้ดวงตาแห่งสัจจะได้สิบสองชั่วโมงต่อวัน

ส่วน “เรียกลมเรียกฝน” นั้นกินพลังงานประเภทนี้ส่วนใหญ่จะใช้แก่นแท้แห่งพลัง บางครั้งก็ใช้จิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์หรือใช้ทั้งคู่ประกอบกัน

“โอ้?”

ซูฉันเลิกคิ้วขึ้น เหมือนกับค้นพบบางสิ่งมองไปยังจุดที่เจ้าเมืองอินจีสลายหายไป

ช่วงเวลาต่อมา

กําไลข้อมือสีดําก็ลอยมาอยู่เบื้องหน้าซูฉิน

“นี่คือ?”

ซูฉินมองไปที่กําไลข้อมือสีดําอันนี้ ใบหน้าดูครุ่นคิด

กําไลข้อมือสีดําวงนี้ มันให้ความรู้สึกคล้ายคลึงกับมีดเทพเจ้าปีศาจ

แน่นอนว่ามันก็เป็นเพียงความรู้สึกกลิ่นอายของกําไลข้อมือสีดํานั้นด้อยกว่ามีดเทพเจ้าปีศาจมากคล้ายกับของที่ยังไม่สมบูรณ์

“เป็นอุปกรณ์ของเทพเจ้าปีศาจ?”

ซูฉินแตะปลายคางคาดเดาภายในใจ

นอกจากนี้ซูฉินยังรู้สึกได้ถึงไอพลังเดียวกับของกองทัพจักรกลปีศาจทั้งสิบล้านอยู่บนตัวกําไลข้อมือสีดําสนิทนี้ด้วย

“น่าสนใจ”

ซูฉินตรวจสอบกําไลข้อมือซ้ําหลายครั้งจนแน่ใจแล้วว่าไม่มีใครแสดงความเป็นเจ้าของมันเอาไว้เขาจึงเก็บมันไปพร้อมเดินกลับไปยังส่วนลึกของโถงใหญ่ใจกลางเมือง

“นายท่าน..”

ร่องรอยความผิดหวังปรากฏขึ้นบนใบหน้าของโม่จีซูฉินไม่ได้ชายตาแลตัวนางเลยตั้งแต่ปรากฏตัวออกมาจนกระทั่งจากไปสิ่งนี้ทําให้โม่จีสงสัยว่านางทําอะไรผิดไปหรือเปล่า

ในตอนนั้นเอง

เสียงอันสงบนิ่งก็ลอยเข้ามาในหูของโม่จี

“เจ้าก็ตามเข้ามาด้วย”

“เจ้าค่ะ นายท่าน” ดวงตาของโม่จีเป็นประกายนางรีบสาวเท้าอย่างรวดเร็วตามไปยังโถงใหญ่ภายในเมืองทันที

และในยามนี้

ข่าวการล่มสลายของเจ้าเมืองอินจี้ก็แพร่กระจายออกไปทั่วทุกสารทิศอย่างรวดเร็วดุจสายฟ้าฟาด

เจ้าเมืองอินจี้เป็นบุรุษที่ทุกคนรู้กันดีว่าแข็งแกร่งในรัศมีหนึ่งล้านนี้เป็นธรรมดาที่จะเขาดึงดูดความสนใจได้เป็นจํานวนมากโดยเฉพาะศัตรูเก่าแก่

ในโลกถ้ําปีศาจ ยกเว้นไว้แต่ส่วนลึกของโลก ราชาปีศาจระดับสูงยังถือว่าเป็นตัวตนที่หายากในหลายพื้นที่และหาได้ยากยิ่งกว่าที่ราชาปีศาจระดับสูงจะต่อสู้กันถึงแก่ชีวิต

นอกจากนี้ซูฉินยังไม่ได้ปิดบังการต่อสู้ระหว่างตนกับเจ้าเมืองอินจี้กลับลงมือต่อหน้าผู้คนมากมายในเมืองเมฆาปีศาจ

ดังนั้น เพียงไม่นานหลังจากที่เจ้าเมืองอินจี่ตายไปข่าวนี้ก็ล่วงรู้ถึงหูเจ้าเมืองใหญ่คนอื่นๆ เรียบร้อย

“เจ้าเมืองคนใหม่ของเมืองเมฆาปีศาจจะแข็งแกร่งปานนั้นได้เยี่ยงไรไร้เหตุผลสิ้นดี เจ้าเมืองอินจี้เข้าสู่ขอบเขตราชาปีศาจระดับสูงมานานกว่าสองร้อยปีแล้วไม่ใช่หรือ?”

มีร่างหนึ่งสวมชุดคลุมสีดําผืนใหญ่ ร่างของมันสูงชะลูดปกคลุมไปด้วยไปด้วยความมืดมิดทั่วทั้งตัว กําลังทําหน้างนงงอยู่

“ท่านเจ้าเมือง มีข่าวลือมากมายในตอนนี้บอกว่าเจ้าเมืองเมฆาปีศาจคนใหม่ออกมาพร้อมกับพายุและฝนห่าใหญ่เจ้าเมืองอินจี้และราชาปีศาจในอาณัติมากกว่าสิบตนถูกทําลายภายใต้สายลมและหยาดฝนกลุ่มนี้”

ปีศาจตัวอ้วนที่อยู่ด้านข้างเป็นผู้พูด

“ถูกทําลายภายใต้สายลมและหยาดฝน?” ร่างสูงใหญ่ในชุดคลุมสีดําส่ายหัวเล็กน้อยอย่างไม่เชื่อถือ

แม้เขาจะรู้สึกว่าข่าวลือนั้นเหลือเชื่อเกินไปสายลมและหยาดฝนประเภทใดกันที่สามารถสังหารราชาปีศาจระดับสูงได้?

“อย่างไรก็ตาม การตายของเจ้าเมืองอินจี้เป็นความจริงและเจ้าเมืองเมฆาปีศาจคนใหม่นี้เป็นไปได้ก็อย่าไม่ไปยั่วยุมันเด็ดขาด”

ร่างสูงในชุดคลุมสีดําตัวใหญ่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงออกคําสั่ง

เขาไม่สนใจว่าจะเกิดอะไรขึ้นในช่วงเวลานั้นแต่เนื่องจากเจ้าเมืองเมฆาปีศาจคนใหม่สามารถสังหารเจ้าเมืองอินจีได้แสดงให้เห็นว่ามันแข็งแกร่งยิ่งกว่าคู่ต่อสู้

เจ้าเมืองอินจี้เป็นราชาปีศาจระดับสูงมานานกว่าสองร้อยปีแล้วแต่เจ้าเมืองเมฆาปีศาจคนใหม่ก็ยังรั้งเอาไว้ได้แสดงให้เห็นว่าอีกฝ่ายอยู่ไม่ไกลจากขอบเขตราชาปีศาจขั้นสูงสุดแล้ว

หรือเจ้าเมืองเมฆาปีศาจคนใหม่อาจจะเป็นขั้นสูงสุดของขอบเขตราชาปีศาจก็เป็นได้

การเป็นราชาปีศาจขั้นสูงสุดเพียงพอที่จะออกเดินทางไปตามดินแดนต่างๆ แม้แต่ราชาปีศาจระดับสูงก็ยังเต็มใจจะอยู่ใต้อาณัติซึ่งไกลเกินกว่าพวกเขาจะเทียบได้

มีเพียงสิ่งนี้ที่อธิบายได้ว่าทําไมเจ้าเมืองอินจี้จึงทําไม่ได้แม้แต่จะหลบหนี ทั้งยังสิ้นชีพลงอย่างสมบูรณ์

รู้หรือไม่ว่าการเอาชนะราชาปีศาจระดับสูงนั้นไม่ยากแต่หากต้องการจะสังหารราชาปีศาจระดับสูงนั้นกลับยากเย็นราวกับเอื้อมให้ถึงท้องฟ้า

ไม่มีปีศาจตนใดที่สามารถไปถึงขอบเขตราชาปีศาจระดับสูงแล้วยังเป็นตัวโง่งม เมื่อรู้ว่าไม่สามารถเอาชนะได้พวกมันย่อมต้องหนีอย่างแน่นอน

และหากราชาปีศาจระดับสูงตั้งใจจะหนีเอาชีวิตรอดเว้นแต่จะมีความห่างชั้นที่มากเกินไป อย่างไรก็สามารถมีชีวิตอ ยู่ต่อไปได้

“ขอรับ” ปีศาจอ้วนโค้งคํานับ

และในเมืองใหญ่อื่นๆ เหล่าราชาปีศาจต่างอยู่ในอาการเคร่งขรึมจริงจัง

“เจ้าเมืองอินจีนั้นข้าเคยพบเขามาแล้วความแข็งแกร่งของเขานั้นยอดเยี่ยมมาก และคาดว่าจะเข้าสู่ขอบเขตราชาปีศาจขั้นสูงสุดได้ภายในร้อยปี”

“น่าเสียดายที่ต้องมาจบชีวิตด้วยน้ํามือของเจ้าเมืองเมฆาปีศาจคนใหม่ เจ้ารู้หรือไม่ว่าเจ้าเมืองเมฆาปีศาจคนใหม่คือใคร?”

“ไม่แน่ใจเลย ข้าไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อน”

ปีศาจที่มีกลิ่นอายถึงขอบเขตราชาปีศาจต่างมาพูดคุยกันจู่ๆ ก็มีผู้แข็งแกร่งในระดับเดียวกันปรากฏตัวขึ้น เป็นธรรมดาที่จะสงสัยใคร่รู้

“บางที หลังจากนี้ข้าคงต้องหาเวลาไปเยี่ยมเยียนเจ้าเมืองเมฆาปีศาจคนใหม่เสียแล้ว?”

หนึ่งในราชาปีศาจกระซิบคํา แน่นอนว่าการเยี่ยมเยียนในที่นี้ไม่ได้หมายถึงการยั่วยุถึงหน้าประตูเมืองแต่เป็นการเยี่ยมเยียนตามปกติ

“ในดินแดนปีศาจของข้า จู่ๆก็มีบุคคลผู้แข็งแกร่งที่มีโอกาสเป็นถึงราชาปีศาจขั้นสูงสุดโผล่ขึ้นมาหรือนี้อาจจะเป็นการวางหมากอย่างลับๆของดินแดนใหญ่แห่งอื่นก็เป็นได้”

“ดูเหมือนว่าจะต้องแจ้งจ้าวดินแดนโม่ฮว่าให้ทราบเรื่องนี้เสียแล้ว”

บนหน้าผาสูงชันมีปีศาจที่ใบหน้ารางเลื่อนบ่นพึมพําอยู่กับตนเอง

แม้ว่าปีศาจใบหน้ารางเลื่อนผู้นี้จะไม่ได้แผ่ไอพลังใดๆออกมาแต่ปราณปีศาจฟ้าดินซึ่งปกติจะผันผวนรุนแรงกลับสงบนิ่งเชื่องเชื่ออย่างยิ่งเมื่ออยู่ต่อหน้าปีศาจตนนี้

ขณะที่ภายนอกกําลังปั่นป่วนพูดคุยกันว่าจะต้องนําซูฉินเข้าไปอยู่ในรายการของผู้ที่ไม่ควรยั่วยุ

ซูฉินได้กลับเข้ามายังส่วนลึกของโถงใหญ่ใจกลางเมือง

ต้นไม้โบราณแกว่งไกวไปมา ปราณปีศาจจํานวนมากมารวมตัวกันและหลั่งไหลเข้าสู่ร่างกายของซูฉินอย่างต่อเนื่อง

“น่าเสียดายนัก”

“ที่ไม่สามารถลงชื่อเข้าใช้ที่นี่ได้อีกต่อไป”

“มิเช่นนั้นมันจะเป็นขุมสมบัติชั้นยอดสําหรับการฝึกฝนเลยทีเดียว”

ซูฉินถอนหายใจเบาๆ

ต้นไม้โบราณต้นนี้เป็นกิ่งก้านสาขาของต้นไม้ปีศาจโบราณที่แท้จริง มีความสามารถในการช่วยควบรวมป ราณปีศาจตามธรรมชาติไม่ว่าปีศาจตนใดที่มา บ่มเพาะใต้ร่มไม้โบราณนี้ จะได้รับผลเป็นสองเท่าโดยใช้ความพยายามแค่ครึ่งเดียวเท่านั้น

และนี่ก็เป็นเหตุผลว่าเหตุใดจึงมีราชาปีศาจอยู่ในทุกๆเมืองใหญ่

สมัยก่อน เทพเจ้าปีศาจในส่วนลึกของโลกได้กระจายกิ่งก้านของต้นไม้ปีศาจโบราณไปยังสถานที่ต่างๆภายในโลกถ้ําปีศาจโดยตั้งกิ่งไม้เป็นแกนหลักและสร้างเมืองใหญ่มากมายในโลกถ้ําปิศาจ

ขณะที่ซูฉินกําลังคิดเรื่องนี้อยู่

โม่จีก็เดินเข้ามาด้วยความเคารพ

“นายท่าน” โม่จีลังเลเล็กน้อยและในที่สุดก็กัดฟันกล่าวคําออกมา “นายท่านได้สังหารเจ้าเมืองอินจี มันจะต้องดึงดูดความสนใจของจ้าวดินแดนอย่างแน่นอน ”

“จ้าวดินแดน?” ซูฉินขมวดคิ้ว

“มิผิด” โม่จีกล่าวคําอย่างรวดเร็ว “แน่นอนว่านายท่านไม่ต้องกังวลจ้าวดินแดนเป็นตัวตนเช่นไร? อีกครึ่งก้าวก็ จะออกจากขอบเขตราชาปีศาจแล้วสําหรับจ้าวดินแดนนั้น ไม่ต้องกล่าวถึงการตายของเจ้าเมืองอินจี้ แม้ว่าจะมีเจ้าเมืองตายไปนับแสนเขาก็จะไม่เคลื่อนไหว”

ซูฉินฟังอยู่พักใหญ่ก็พอเข้าใจคร่าวๆ ว่าตัวตนของจ้าวดินแดนภายในโลกถ้ําปีศาจคือสิ่งใด

ในโลกถ้ําปิศาจ นอกเหนือจากส่วนลึกของโลกแล้วทุกๆรัศมีสิบล้านจะนับเป็นดินแดนใหญ่

ไม่ว่าจะเป็นเมืองเมฆาปีศาจหรือเมืองอินจี้ก็ล้วนอยู่ภายในดินแดนโม่ฮว่าทั้งนั้น

ส่วนจ้าวดินแดนโม่ฮว่า

คือผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในดินแดนโม่ฮว่าทั้งหมด

เกือบจะหลุดพ้นออกจากขอบเขตราชาปีศาจแล้ว

“เกือบจะหลุดพ้นจากขอบเขตราชาปีศาจ?”

“ครึ่งก้าวสู่ขอบเขตเซียนเทพปฐพี?”

ซูฉันคิดอยู่ครู่หนึ่ง แต่ไม่ได้คิดเป็นจริงเป็นจังจนเกินไป

ตราบใดที่จ้าวดินแดนโม่ฮว่ายังไม่เลยขอบเขตราชาปีศาจอย่างสมบูรณ์ ซูฉินก็ไม่ได้สนใจอะไรมาก และเขาเองก็มี ไฟลับมากมายในมือโดยเฉพาะตอนนี้อาณาเขตก็ได้ควบแน่ นสําเร็จแล้วแม้จะได้เผชิญหน้ากับจ้าวดินแดนโม่ฮว่าจริงๆก็มีความมั่นใจว่าสามารถต่อต้านได้

“เอาล่ะ”

“ข้ามีเรื่องบางอย่างที่จะต้องแจ้ง”

ซูฉินมองไปที่โม่จีและกล่าวคําออกมาเบาๆ

“นายท่าน พูดมาได้เลย” นางรีบกล่าวตอบทันที

“ข้าจะออกจากเมืองเมฆาปีศาจไปยังเมืองอินจ์” ซูฉินกล่าวออกอย่างไม่ลีลา

เนื่องจากไม่สามารถลงชื่อเข้าใช้ที่เมืองเมฆาปีศาจได้อีกต่อไป ซูฉินจึงต้องไปที่อื่น บังเอิญว่าเจ้าเมืองอินจี้ได้ตกตายภายใต้น้ํามือเขาไปแล้วดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะไปยังเมืองอินจี้

อย่างไรเสีย เมืองใหญ่ๆภายในโลกถ้ําปิศาจล้วนมีกิ่งก้านของต้นไม้ปีศาจโบราณ

หลังจากที่ซูฉิน กอบโกย จากกิ่งก้านต้นไม้ปีศาจโบราณ ภายในเมืองเมฆาปีศาจจนเกลี้ยงแล้ว เขา ก็ย่อมเปลี่ยนไปกอบโกย” ที่อื่นแทน

“อะไรนะ?”

โม่จีเบิกตากว้างไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่ได้ยิน

นางนึกไม่ถึงว่าซุฉินกําลังจะออกจากเมืองเมฆาปีศาจไป

“ข้าจะมอบทางเลือกให้เจ้าสองทาง” ซูฉินเหลือบมองโม่จีแล้วจึงพูดต่อ“หนึ่งคือการอยู่ในเมืองเมฆาปีศาจต่อไปเจ้าสามารถเป็นรองเจ้าเมืองต่อไปได้”

“นายท่านอยู่ที่ไหน โม่จีก็จะอยู่ที่นั่น นายทานอย่าได้ทอดทิ้งโมจี”นัยน์ตาของโม่จีรื้นแดงมัวไปด้วยคราบน้ําตานางสะอื้นไห้

แน่นอนโม่จีรู้ดีว่าเหตุผลที่นางเป็นรองเจ้าเมืองเมฆาปีศาจได้นั้นทั้งหมดเป็นเพราะมีซูฉันยืนอยู่เบื้องหลัง

“ถ้าอย่างนั้นก็ตามข้ามา” ซูฉินพิจารณาอย่างถี่ถ้วนแล้วจึงกล่าวคํา

สําหรับซูฉิน แม้ว่าโม่จีจะไม่ได้แข็งแกร่งมากนักแต่อย่างน้อยระหว่างที่เขาปิดด่านฝึกตนก็ยังสามารถจัดการเมืองเมฆาปีศาจได้อย่างเป็นระบบระเบียบ

อย่างน้อยก็สามารถปิดด่านได้ครู่หนึ่งไม่ต้องกังวลว่าจะต้องถูกรบกวนจนออกจากด่านฝึกตน

และการที่ซูฉินไปยังเมืองอินจีครานี้ คาดว่าเขาก็ยังคงต้องปิดด่านฝึกตนต่อไปยามนี้หากมีผู้ช่วยอย่างโม่จีคอยดูแลเรื่องจุกจิกทั้งหลายภายในเมืองอินจีให้ก็คงจะช่วยเขา ประหยัดแรงไปได้เยอะ

ในเวลาเดียวกัน

ใต้เมืองฉางอัน

ภายในโถงพระราชวังอันสูงตระหง่านใต้ดิน

ซูฉินพลันลืมตาขึ้น มองไปยังทิศทางหนึ่ง

“นั่นคือ?!”

เข้าสู่ระบบ ‘ฝ่ามือยูไล’ [Sign in Buddha’s palm]

เข้าสู่ระบบ ‘ฝ่ามือยูไล’ [Sign in Buddha’s palm]

Status: Ongoing

Sign in Buddha’s palm

เข้าสู่ระบบฝ่ามือยูไล

ซูฉินเที่ยวท่องไปในยุทธภพอันกว้างใหญ่ เป็นโลกที่ชาวยุทธเตร็ดเตร่อาละวาดไปทั่ว เป็นสถานที่ที่หยวนกั๋วชีอยู่เหนือใต้หล้า เป็นที่ที่ผู้สืบทอดหมัดเก้าตะวันออกหาประสบการณ์ต่อสู้ไปตามแนวสายธารอันทอดยาวและภูเขาอันสูงชัน ทั้งยังมีเซี่ยวหลี่ที่ขี่กระบี่โบยบินสู่ความเวิ้งว้างว่างเปล่า

เนื่องจากซูฉินไม่มีพรสวรรค์ด้านวิชายุทธ เขาจึงเป็นได้เพียงพระกวาดลานแห่งตำหนักลานจิปาถะ

ในเวลานั้นเอง ระบบแห่งการลงชื่อเข้าใช้ก็ถูกกระตุ้นเปิดออก!

ลงชื่อเข้าใช้ที่หน้าพระประธานสีทองอร่าม ได้รับ [ฝ่ามือยูไล]

ลงชื่อเข้าใช้ที่หน้าลานสงฆ์ ได้รับ [กายแกร่งวัชระ]

ลงชื่อเข้าใช้ที่ภูเขาหลังวัด ได้รับ [กายาโพธิสัตว์ปีศาจทองคำ]

สมบัติแทบจะแทรกอยู่ทุกหย่อมหญ้าในวัดเส้าหลินให้ได้ลงชื่อรับของรางวัลมา ซูฉินไม่คิดลงจากภูเขาอันเป็นที่ตั้งของวัดเส้าหลินไปที่ไหนแน่ถ้ายังไม่ได้ลงชื่อรับของ และตัวเขาก็ลงชื่อรับของอยู่แบบนั้นมาตลอดยี่สิบปี

ยี่สิบปีผ่านไป เส้าหลินเข้าไปพัวพันกับการต่อสู้ระหว่างธรรมะและอธรรม เหล่ามารเข้าโจมตีวัดเส้าหลินอย่างมิเกรงฟ้าดิน มาทั่วทุกสารทิศมุ่งเข้าสู่ศาลาพระคัมภีร์ อย่างดุร้าย! และทรงพลัง!

จนกระทั่งพวกมันเจอเข้ากับศิษย์วัดนามซูฉินกำลังกวาดลาน…

แปลจากงานเขียนเรื่อง Sign in Buddha’s palm ผู้แต่ง : หุยเต้าหยวนชู

ปล.เนื้อหาภายในเป็นเพียงจินตนาการของผู้เขียน ผู้แปลเพียงนำเสนอผลงานในรูปแบบที่เข้าใจง่ายขึ้นเท่านั้น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท