เข้าสู่ระบบ ‘ฝ่ามือยูไล’ [Sign in Buddha’s palm] – ตอนที่ 211.2 (II) เข้าสู่ระบบ! ภาพ สิบสองสัตว์ศักดิ์สิทธิ์

ตอนที่ 211.2 (II) เข้าสู่ระบบ! ภาพ สิบสองสัตว์ศักดิ์สิทธิ์

Sign in Buddha’s palm 211 (11) เข้าสู่ระบบ! ภาพ สิบสองสัตว์ศักดิ์สิทธิ์

“เจ้าแน่ใจหรือว่าจ้าวทะเลบูรพานั้นตายไปแล้ว?”

ซูฉินคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงถามต่อ

“ไม่แน่ใจ”

ชิงชิวเฉียนเฉียนกล่าวตามความจริงว่า “จ้าวทะเลบูรพา มีความสามารถสูงเสียดฟ้า แม้ว่าเขาจะตายไป แต่ก็มีหนทางที่จะฟื้นคืนชีพกลับมาได้ หากเขากลับมาเห็นห้องลับใน ถ้ําเซียนถูกครอบครองโดยเผ่าจิ้งจอกของข้าล่ะก็ คงจะไม่ปล่อยพวกข้าไปแน่”

เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ชิงชิวเฉียนเฉียนเงยหน้าขึ้นและมองไปที่ซูฉินอย่างระมัดระวัง “ดังนั้นบรรพบุรุษเผ่าจิ้งจอกของข้าจึงรอคอยเกือบสองพันปีกว่าจะกล้าเข้าครอบครองเกาะหยิงโจวแห่งนี้ทีละนิด”

“สองพันปี?”

“ตระกูลจิ้งจอกของเจ้านี่ระวังตัวดีจริงๆ”

รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าของซูฉิน

เซียนเทพปฐพี่มีอายุขัยเพียงหนึ่งพันปี แม้ว่าจ้าวทะเลบูรพาจะมีหนทางยืดอายุขัยออกไปได้ แต่การยืดอายุขัยออกไปได้สี่ถึงห้าร้อยปีก็ถึงขีดสุดแล้ว ยังไม่นับระยะเวลาก่อนหน้าที่จ้าวทะเลบูรพาใช้ในการบ่มเพาะเรื่อยมา

เผ่าจิ้งจอกตระกูลชิงชิวรอเกือบสองพันปีก่อนถึงจะกล้าเคลื่อนไหว แม้เผ่าพันธุ์ภูตอสูรจะมีอายุยืนยาวเกินกว่าเผ่าพันธุ์มนุษย์ แต่หลังจากระยะเวลาอันยาวนานเช่นนี้ สําหรับเผ่าพันธุ์จิ้งจอกก็ยังต้องใช้เวลาไปหลายชั่วอายุคน

แน่นอน ยิ่งจิ้งจอกตระกูลชิงชิวระมัดระวังตนมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งอธิบายถึงความน่าสะพรึงกลัวของจ้าวทะเลบูรพาในยุคนั้นได้มากขึ้นเท่านั้น

แม้ว่าบรรพบุรุษเผ่าจิ้งจอกในยุคนั้นจะเชื่อว่าจ้าวทะเลบูรพามีแนวโน้มที่จะตกตายไปแล้ว แต่มันก็ยังรอจนถึงขีดจํากัดอายุขัยของอีกฝ่ายจึงจะรวบรวมความกล้า เข้ายึดครองเกาะหยิงโจว

“เซียนเทพปฐพีขั้นสูงสุด…”

ซูฉินรู้สึกทึ่ง แม้ว่าเขาจะแน่ใจว่าตนสามารถขึ้นสู่ขอบเขตเซียนเทพปฐพีได้ และก็ไม่ใช่ปัญหาที่จะไปยังจุดสูงสุด แต่การก้าวไปสู่จุดนั้นอาจใช้เวลาไปหลายร้อยหลายพันปี

“เจ้าคิดเห็นอย่างไรกับเคหาสน์ลับภายในถ้ําเซียน?”

ซูฉินถอนหายใจออกมาแล้วจึงลอบถาม

“นายท่าน” ชิงชิวเฉียนเฉียนรีบกล่าวตอบทันที “ท่านหัวหน้าเผ่าคิดเอาไว้ว่า ถ้ําแห่งนั้นเป็นสมบัติล้ําค่าของจ้าวทะเลบูรพา แต่น่าเสียดายที่นางไม่สามารถผ่าแนวค่ายกลสังหารที่ล้อมรอบอยู่เข้าไปได้”

“บรรพบุรุษเผ่าจิ้งจอกของข้าก็ไม่สามารถกําจัดค่ายกลเก้าชั้นออกไปได้ ทําได้แค่มองดูสมบัติที่ซ่อนอยู่ใต้ฝ่าเท้า แต่ไม่สามารถแตะต้องได้”

ชิงชิวเฉียนเฉียนกระซิบบอก

“สมบัติ?”

ซูฉินส่ายหัวเล็กน้อย

ถึงแม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่ามันผ่านมานานแค่ไหนแล้วตั้งแต่ยุครุ่งเรืองของกระแสปราณฉีครั้งล่าสุด แต่อย่างน้อยก็หลายหมื่นปี

เป็นพันๆ ปีผ่านพ้นไป จะมีสมบัติอะไรเล่าถึงเก็บไว้ได้ ยาวนานขนาดนั้น?

“เสร็จเรียบร้อย

ดวงตาของซูฉินเป็นประกายในทันที เมื่อมองไปยังแผ่นศิลาสีดําเบื้องหน้า และตะโกนออกมาเสียงดัง “จงฟื้นคืน!”

ทันใดนั้น

เห็นค่ายกลฟ้าดินขนาดใหญ่สั่นสะเทือนและเข้าปกคลุม เกาะหยิงโจวทั้งหมดอีกครั้ง

พลังของค่ายกลขนาดใหญ่เข้าปกคลุมเกาะหยิงโจว ช่วยปกปิดเกาะหยิงโจวให้กลืนไปกับทะเลบูรพาอีกครั้ง กลับมาเป็นสรวงสวรรค์บนดินอีกครั้ง

ค่ายกลขนาดใหญ่ที่ซูฉินผ่าทําลายก่อนหน้าเป็นเพียงค่ายกลที่คอยปกคลุมเกาะเอาไว้ แต่มันไม่ได้ทําลายแกนหลักของค่ายกลไปด้วย

ดังนั้นเมื่อซุฉินเพิ่มพลังให้กับแผ่นศิลาสีดํา ค่ายกลฟ้าดินที่หักพังจึงค่อยๆฟื้นกลับมาอีกครั้ง

ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อเทียบกับค่ายกลฟ้าดินที่ควบคุมโดย จิ้งจอกตระกูลชิงชิวกับที่ควบคุมโดยซูฉิน ในครั้งนี้มันครอบคลุมได้อย่างสมบูรณ์แบบมากกว่า

ท้ายที่สุดจิ้งจอกตระกูลชิงชิวก็เป็นเพียงสัตว์อสูร แม้ว่าจะมีความฉลาดเฉลียวโดยกําเนิด แต่ไม่มีทางที่จะควบคุมค่ายกลของมนุษย์ที่จ้าวทะเลบูรพาเป็นผู้สร้างเอาไว้ได้อย่างสมบูรณ์

หลายปีที่ผ่านมานี้ ซูฉินได้ลงชื่อเข้าใช้และได้รับคัมภีร์ ค่ายกลรูปแบบต่างๆมามากมาย ความรู้นั้นสะสมจนเขาก้าวเข้าสู่ระดับปรมาจารย์ด้านค่ายกลแล้ว ประกอบกับดวงตาแห่งสัจจะและวิชาปราณฉีฟ้ากําหนดที่ช่วยให้จับกระแสพลังของค่ายกลขนาดใหญ่ได้

ในเวลานี้ค่ายกลฟ้าดินที่ปกคลุมเกาะหยิงโจวนั้น กว้างใหญ่ไพศาล แม้จะไม่ได้ดีเท่ากับยุครุ่งเรือง แต่ก็แข็งแกร่งกว่าของเผ่าจิ้งจอกก่อนหน้านี้มาก

“นี่คือ?”

ชิงชิวเฉียนเฉียนกลืนน้ําลายลงคอ ตะลึงงันกับสิ่งที่เห็น

นิยาย เรื่องนี้อัพเดตก่อนที่อื่น เว็ปแรกที่ลง novelza.com

หากซูฉินไม่ได้ถามคําถามมากมายกับนางขนาดนี้ จนทําให้ค่อนข้างแน่ใจว่าซูฉินไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับจ้าวทะเลบูรพา…

ไม่เช่นนั้นนางคงจะคิดว่าซุฉินเป็นทายาทของจ้าวทะเลบูรพาที่แท้จริงไปแล้ว

“เอาล่ะ”

“เกือบจะสมบูรณ์แบบทีเดียว”

ซูฉินปาดเหงื่อ มองขึ้นไปบนค่ายกลฟ้าดินที่สร้างขึ้นมาใหม่ด้วยความพึงพอใจ

ในขณะนี้เขาได้ปรับแต่งศิลาสีดําอย่างสมบูรณ์แล้ว ซึ่งเทียบเท่ากับการเป็นเจ้าของคนใหม่ของเกาะหยิงโจว ยกเว้นก็แต่ถ้ําเซียนในส่วนลึกของเกาะ ไม่มีสิ่งใดที่อยู่นอกเหนือขอบเขตการตรวจสอบของซูฉิน

“พาข้าไปยังถ้ําเซียนที่มีห้องลับนั่นซะ”

หลังจากซูฉินเข้าควบคุมเกาะหยิงโจวเรียบร้อย เขาก็หันไปพูดกับชิงชิวเฉียนเฉียน

“เจ้าค่ะ”

ชิงชิวเฉียนเฉียนโค้งคารวะพร้อมกับกล่าวคํา

เมื่อชิงชิวเฉียนเฉียนกําลังจะพาซูฉินไปที่ถ้ําเซียนในส่วนลึกของเกาะหยิงโจว

ซูฉินก็หยุดอย่างกะทันหัน

“เกือบลืมไปเลย”

ดวงตาของซูฉินตกลงไปบนแผ่นศิลาสีดําอีกครั้ง

เหตุผลสําคัญที่สุดที่ซูฉินออกจากเมืองฉางอันเพื่อค้นหา เกาะหยิงโจวก็เพราะเขาต้องการหาสถานที่ใหม่สําหรับการลงชื่อเข้าใช้

“เกาะหยิงโจวเป็นหนึ่งในสิบทวีปและสามเกาะดํารงอยู่ มายาวนานหลายหมื่นปี มันจะต้องมี “เต๋าสะสม” เป็นจํานวนมากแน่”

ความคิดของซูฉินผันผวนไปมา และรีบกระซิบคําภายในใจทันที “ระบบ ลงชื่อเข้าใช้”

[ขอแสดงความยินดี โฮสต์ลงชื่อเข้าใช้สําเร็จ ได้รับภาพ “สิบสองสัตว์ศักดิ์สิทธิ์” ]

เข้าสู่ระบบ ‘ฝ่ามือยูไล’ [Sign in Buddha’s palm]

เข้าสู่ระบบ ‘ฝ่ามือยูไล’ [Sign in Buddha’s palm]

Status: Ongoing

Sign in Buddha’s palm

เข้าสู่ระบบฝ่ามือยูไล

ซูฉินเที่ยวท่องไปในยุทธภพอันกว้างใหญ่ เป็นโลกที่ชาวยุทธเตร็ดเตร่อาละวาดไปทั่ว เป็นสถานที่ที่หยวนกั๋วชีอยู่เหนือใต้หล้า เป็นที่ที่ผู้สืบทอดหมัดเก้าตะวันออกหาประสบการณ์ต่อสู้ไปตามแนวสายธารอันทอดยาวและภูเขาอันสูงชัน ทั้งยังมีเซี่ยวหลี่ที่ขี่กระบี่โบยบินสู่ความเวิ้งว้างว่างเปล่า

เนื่องจากซูฉินไม่มีพรสวรรค์ด้านวิชายุทธ เขาจึงเป็นได้เพียงพระกวาดลานแห่งตำหนักลานจิปาถะ

ในเวลานั้นเอง ระบบแห่งการลงชื่อเข้าใช้ก็ถูกกระตุ้นเปิดออก!

ลงชื่อเข้าใช้ที่หน้าพระประธานสีทองอร่าม ได้รับ [ฝ่ามือยูไล]

ลงชื่อเข้าใช้ที่หน้าลานสงฆ์ ได้รับ [กายแกร่งวัชระ]

ลงชื่อเข้าใช้ที่ภูเขาหลังวัด ได้รับ [กายาโพธิสัตว์ปีศาจทองคำ]

สมบัติแทบจะแทรกอยู่ทุกหย่อมหญ้าในวัดเส้าหลินให้ได้ลงชื่อรับของรางวัลมา ซูฉินไม่คิดลงจากภูเขาอันเป็นที่ตั้งของวัดเส้าหลินไปที่ไหนแน่ถ้ายังไม่ได้ลงชื่อรับของ และตัวเขาก็ลงชื่อรับของอยู่แบบนั้นมาตลอดยี่สิบปี

ยี่สิบปีผ่านไป เส้าหลินเข้าไปพัวพันกับการต่อสู้ระหว่างธรรมะและอธรรม เหล่ามารเข้าโจมตีวัดเส้าหลินอย่างมิเกรงฟ้าดิน มาทั่วทุกสารทิศมุ่งเข้าสู่ศาลาพระคัมภีร์ อย่างดุร้าย! และทรงพลัง!

จนกระทั่งพวกมันเจอเข้ากับศิษย์วัดนามซูฉินกำลังกวาดลาน…

แปลจากงานเขียนเรื่อง Sign in Buddha’s palm ผู้แต่ง : หุยเต้าหยวนชู

ปล.เนื้อหาภายในเป็นเพียงจินตนาการของผู้เขียน ผู้แปลเพียงนำเสนอผลงานในรูปแบบที่เข้าใจง่ายขึ้นเท่านั้น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท