เข้าสู่ระบบ ‘ฝ่ามือยูไล’ [Sign in Buddha’s palm] – ตอนที่ 225 (1) กลับคืนสู่ความตื่นตระหนกอีกครั้ง

ตอนที่ 225 (1) กลับคืนสู่ความตื่นตระหนกอีกครั้ง

Sign in Buddha’s palm 225 (1) กลับคืนสู่ความตื่นตระหนกอีกครั้ง

“ถูกต้องตามที่ผู้อาวุโสกล่าว”

นักพรตเฒ่ากระซิบคําด้วยความเคารพ

“เอาล่ะ”

ซูฉินไม่ได้ถามอะไรนักพรตเฒ่าต่อ แต่หันไปมองชิงชิวเฉียนเฉียนแทน “บนเกาะหยิงโจวนี่มีกล่องที่ทําจากหยกบ้างไหม?”

“กล่องหยก?”

แม้ว่าชิงชิวเฉียนเฉียนจะไม่รู้ว่าซูฉินต้องการสิ่งนี้ไปเพื่อการใด แต่นางก็ยังตอบไปตามจริงว่า “นายท่าน ข้าจะนํามันมาให้ท่าน

แม้ว่าเผ่าจิ้งจอกชิงชิวจะเป็นภูตอสูร แต่ก็รักของสวยๆงามๆมาก บนเกาะมีปะการังสีทอง มันมีทุกอย่างอยู่ภายในนั้น ส่วนกล่องหยก แน่นอนว่ามันรวมอยู่ในรายการของสวยๆงามๆเหล่านั้นด้วยไม่นาน

ชิงชิวเฉียนเฉียนนํากล่องหยกที่สูงเท่าครึ่งหนึ่งของความสูงของคนปกติมา วัสดุของตัวกล่องหยกนี้มีความวิจิตรงดงามยิ่ง มีรูปแบบคล้ายกับสิ่งของในสมัยราชวงศ์ถัง มูลค่าของมันย่อมล้ําค่าอย่างมาก แต่ในสายตาของซูฉิน ไม่มีอะไรมากไปกว่าอุปกรณ์สําหรับจัดเก็บสิ่งของ

“ตามข้ามา”

ซูฉินเหลือบมองกล่องหยก จากนั้นจึงหันหลังเดินไปยังเกาะเล็กๆกลางทะเลสาบ

“เจ้าค่ะ” ชิงชิวเฉียนเฉียนถือกล่องหยกเดินตามซูฉินไปอย่างไม่มีติดขัด

นักพรตเฒ่าลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แต่สุดท้ายก็กัดฟันเดินตามไป แม้ว่าซูฉินจะไม่ได้บอกให้เขาอยู่ต่อ แต่ก็ไม่ได้บอกว่าสามารถจากไปได้เช่นกัน ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ นักพรตเฒ่าไม่กล้ากระทําการใดหุนหันพลันแล่น

ไม่นานนัก

ทั้งสามก็มาอยู่หน้าถ้ําเซียนของจ้าวทะเลบูรพา

ครืน!

ประตูหินสีดําค่อยๆเปิดออก

“นี่คือถ้ําเซียนของจ้าวทะเลบูรพา?”

นักพรตเฒ่าชําเลืองมองดูอย่างระมัดระวังและพบว่าสิ่งของส่วนใหญ่เสื่อมสภาพไปหมดแล้วโดยเฉพาะขวดและไหบางอัน ซูฉินอาจจะไม่รู้อะไรมากนัก แต่สิ่งเหล่านี้เมื่ออยู่ในสายตาของนักพรตเฒ่า มันกลับทําให้เขาทุกข์ระทม

“โอสถจิตวิญญาณพฤกษา โอสถแปรผันศักดิ์สิทธิ์ โอสถเพลิงทองคํา.. สิ่งเหล่านี้เป็นโอสถที่หาได้ยากยิ่ง เพียงพอที่จะสร้างนิกายใหญ่ขึ้นมาอีกนิกายได้เลย โอสถพวกนี้บางตัวก็ได้สูญหายไปหลายพันปีแล้ว ”

ยิ่งนักพรตเฒ่าจ้องมองมากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งใจสลายมาก ขึ้นเท่านั้น บางทีเขาอาจจะไม่สามารถใช้ขวดและไหภายใน ถ้ํานี้ได้ แต่สําหรับนิกาย มันก็เพียงพอแล้วที่จะยกระดับราก ฐานของนิกายขึ้นได้หนึ่งถึงสองระดับ

ตอนนี้โอสถเหล่านี้กลับถูกทําลายให้สูญค่าไปตามเวลา จะไม่ให้นักพรตเฒ่ารู้สึกปวดใจได้อย่างไร?

“หือ?”

นักพรตเฒ่ายังมองลึกเข้าไปอีก เมื่อสายตาปะทะเข้ากับร่างของจ้าวทะเลบูรพา รูม่านตาของเขาก็หดแคบลงในทันที หากซูฉินไม่ได้อยู่ข้างหน้า นักพรตเฒ่าคงจะรีบหนีไปแล้วในตอนนี้

“ทะเลบูรพา จ้าวทะเลบูรพา…” นักพรตเฒ่ากลืนน้ําลาย รู้สึกว่าขาแข้งสั่นเทาอ่อนแรง

“ก็ใช่ที่ว่านั่นคือจ้าวทะเลบูรพา แต่เหลือเพียงร่างกายเท่านั้น จิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ได้สลายหายไปหมดแล้ว” เมื่อชิงชิวเฉียนเฉียนเห็นอาการของนักพรตเฒ่าที่เป็นเช่นนั้นก็ยึดอกขึ้นเล็กน้อย แสร้งทําเป็นไม่สนใจอีกฝ่าย

“ร่างกาย……”

“จริงด้วย จ้าวทะเลบูรพาจะมีชีวิตมาจนถึงทุกวันนี้ได้อย่างไร มันจะต้องเป็นเพียงร่างกายเท่านั้น” นักพรตเฒ่ารู้สึกว่าเหงื่อเย็นไหลย้อยลงตามหน้าผาก และพูดออกมาอย่างiวดเร็ว

ซูฉินหยุดตรงหน้าศพของจ้าวทะเลบูรพา จมอยู่ในความคิด

“นายท่าน ทําไมถึงไม่ย้ายเขาออกไปด้านนอกกันเล่า” ชิงชิวเฉียนเฉียนคิดว่าซูฉินกําลังรู้สึกว่าร่างนี้ขวางทางอยู่จึงพูดขึ้นมาอย่างรวดเร็ว

“ไม่จําเป็น”

ซูฉินส่ายศีรษะเล็กน้อย แล้วกล่าวออกมาเบาๆ “ธุลีกลับสู่ธุลี ดินกลับสู่ผืนดิน แม้ว่าจะเป็นเซียนเทพปฐพี หลังจากถึงจุดสิ้นสุดของชีวิต ก็ต้องจมฝังอยู่ในดินเช่นกัน”

ซูฉินพูดเบาๆ กระทืบเท้าขวาออกไปตามใจตน

ฉับพลัน

ตําแหน่งที่ร่างของจ้าวทะเลบูรพาเคยอยู่ก็พังทลายลง และร่างของจ้าวทะเลบูรพาก็ถูกฝังอยู่ในนั้น

เมื่อชิงชิวเฉียนเฉียนเห็นฉากนี้ ร่องรอยความซับซ้อนก็ปรากฏขึ้นบนหน้าของนาง

เมื่อเปรียบเทียบกับคนอื่นๆ ในสายตาของชิงชิวเฉียนเฉียน ตัวตนของจ้าวทะเลบูรพานั้นส่งผลกระทบเป็นพิเศษ จ้าวทะเลบูรพาได้กดขี่จิ้งจอกตระกูลชิงชิวมาเกือบหมื่นปี มันยังคงทิ้งเงามืดบางอย่างไว้ในใจของจิ้งจอกตระกูลชิงชิว

“เฮ้อ……”

เมื่อเห็นฉากนี้ นักพรตเฒ่าก็ได้แต่ทอดถอนใจ

สิ่งที่เรียกว่าจอมยุทธ ต่อให้อยู่ในขอบเขตเซียนเทพปฐพี เหมือนอย่างจ้าวทะเลบูรพา และแม้แต่ผู้ที่เหนือกว่าเซียนเทพปฐพีก็ไม่ได้ต่างไปจากคนธรรมดา เมื่อสิ้นอายุขัยย่อมกลายเป็นเถ้าธุลี

หลังจากที่ซูฉินจัดการร่างของจ้าวทะเลบูรพาจนเสร็จสิ้นแล้ว เขาก็หันกลับมา เดินไปยังตาน้ําพุจิตวิญญาณ

หลังจากที่ซูฉินดื่มกินเพื่อใช้ในการทะลวงขั้น ในตอนนี้น้ําพุจิตวิญญาณได้เดือดแห้งไปจนหมดแล้ว หากไม่ใช่เพราะละอองจิตวิญญาณจางๆ ที่ยังคงกระจายตัวอยู่ เกรงว่าบางคนอาจจะไม่สนใจมันเลยก็ได้

“ผู้อาวุโส นี่คือจิตใจแห่งฟ้าดินที่หลอมรวมกลายเป็นตาน้ําพุจิตวิญญาณงั้นหรือ?” ท่าทีของนักพรตเฒ่าเปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อย สุดท้ายก็อดใจไม่ได้ที่จะถามออกไป

“นับว่าเจ้ามีสายตาที่ดี”

ซูฉินหันไปมองนักพรตเฒ่าแล้วกล่าวออกมาเบาๆ

ในตอนนี้ ตาน้ําพุจิตวิญญาณดูไม่เหมือน “น้ําพุ” เลย ถ้าไม่ได้ใส่ใจมากพอ จะรู้สึกว่าตรงจุดนี้เป็นเพียงแค่จุดที่จิตใจแห่งฟ้าดินมาบรรจบกันเฉยๆ

นักพรตเฒ่าสามารถรับรู้ต้นกําเนิดของมันได้อย่างรวดเร็ว เห็นได้ชัดว่ามีความรู้ไม่เบา

“สํานักเอกะวิถีของข้าเคยมีน้ําพุจิตวิญญาณเช่นกัน แต่มันแห้งเหือดไปตั้งแต่ห้าพันปีที่แล้ว…” นักพรตเฒ่ารีบพูดต่อ “ดังนั้นจึงมีบันทึกรายละเอียดเกี่ยวกับน้ําพุจิตวิญญาณอยู่ภายในสํานัก”

ในฐานะมหาอํานาจจากต่างดินแดน สํานักเอกะวิถีนับเป็นนิกายใหญ่ที่สืบทอดมรดกมาตั้งแต่ยุคสุดท้ายของช่วงกระแสปราณฉีฟื้นฟู ไม่น่าแปลกใจที่จะครอบครองน้ําพุจิตวิญญาณอยู่

“ผู้อาวุโสต้องการจะย้ายน้ําพุจิตวิญญาณงั้นหรือ?”

นักพรตเฒ่ามองไปยังกล่องหยกที่ชิงชิวเฉียนเฉียนต้องถือเอาไว้ด้วยมือทั้งสองข้าง และถามอย่างไม่แน่ใจนัก

ตาน้ําพุจิตวิญญาณเกิดจากการรวมตัวของจิตใจแห่งฟ้า ดินอันมหาศาลมากมายได้ที่สิ้นสุด สิ่งของธรรมดาๆ ไม่สามา รถเก็บรักษามันเอาไว้ได้ มีเพียงหยกบริสุทธิ์เท่านั้นที่สามา รถกักเก็บตาน้ําพุจิตวิญญาณเอาไว้

ซูฉินได้ขอให้ชิงชิวเฉียนเฉียนหากล่องหยกก็เพื่อการนี้

“มิผิด”

ซูฉินกล่าวคํา

บัดนี้น้ําพุจิตวิญญาณใกล้จะหมดลงแล้ว แทนที่จะเก็บไว้บนเกาะหยิงโจว สู้นําไปตั้งไว้ที่เมืองฉางอันดีกว่า บางทีสักวันน้ําพุจิตวิญญาณจะฟื้นฟูกลับมา จิตใจแห่งฟ้าดินจะได้กระจายออกไปทั่วเมืองฉางอัน ทําให้เมืองฉางอันกลายเป็นแดนศักดิ์สิทธิ์สําหรับการฝึกยุทธ

“เอาล่ะ”

“วางกล่องหยกลง

“แล้วพวกเจ้าก็ถอยออกไปให้ห่างๆ หน่อย”

ซูฉินเหลือบมองชิงชิวเฉียนเฉียนแล้วพูดออกมาอย่างช้าๆ

“เจ้าค่ะ”

ชิงชิวเฉียนเฉียนวางกล่องหยกไว้ด้านหน้าตาน้ําพุจิตวิญญาณทันที แล้วถอยกลับไปอย่างนอบน้อม

นักพรตเฒ่าเต็มไปด้วยความกลัวหลังจากออกจากถ้ํา เขาก็มองไปรอบๆ ราวกับกังวลอะไรบางอย่าง

“เจ้ากําลังมองหาสิ่งใด?”

ชิงชิวเฉียนเนี่ยนมองไปที่นักพรตเฒ่าอย่างสงสัย และกล่าวถามออกมาอย่างใครรู้

“ผู้อาวุโสต้องการย้ายน้ําพุจิตวิญญาณ เจ้าไม่เข้าใจอะไรเลยงั้นหรือ?” นักพรตเฒ่างุนงง แล้วย้อนถามกลับไป

“หืม?” ชิงชิวเฉียนเฉียนกะพริบตาปริบๆ

“เห้อ…” เมื่อนักพรตเฒ่าได้เห็นสิ่งนี้ เขาก็ทําได้เพียงอธิบายเพื่อคลายความสับสนของชิงชิวเฉียนเฉียนอย่างอดทน “น้ําพุจิตวิญญาณนั้นหยั่งรากลึกลงไปในผืนแผ่นดินแล้ว และการที่ผู้อาวุโสต้องการย้ายตาน้ําพุจิตวิญญาณไปก็เหมือนกับการถอนต้นไม้เก่าแก่ออกไป รู้ไหมว่ามันหมายถึงสิ่งใด?”

“หมายความว่าเช่นไร?” ชิงชิวเฉียนเฉียนดูเหมือนจะเข้าใจ แต่ก็ยังไม่เข้าใจ

“หมายความว่า..” นักพรตเฒ่ากําลังจะเอ่ยตอบ

ในตอนนั้นเอง

ตูมมม!

ทั่วทั้งเกาะหยิงโจวก็สั่นสะเทือนอย่างกะทันหัน และน้ําทะเลก็สั่นกระเพื่อม แม้ว่าชิงชิวเฉียนเฉียนจะเป็นเผ่าภูตอสูร ก็ยังรู้สึกว่าตนกําลังเผชิญหน้ากับจุดสิ้นสุดของโลก

ถ้าไม่ใช่เพราะมีค่ายกลฟ้าดินขนาดใหญ่รอบเกาะหยิงโจว ที่พอจะต้านทานแรงกระแทกอันรุนแรงนี้ได้อยู่บ้าง เกรงว่ายามนี้ทั้งเกาะคงจะแหลกสลายไปแล้ว

หลังจากนั้นอีกครึ่งชั่วโมง

การสั่นสะเทือนก็ค่อยๆ หยุดลง

จนถึงตอนนี้ นักพรตเฒ่าค่อยมีโอกาสได้กล่าวประโยคครึ่งหลังออกมา “มันหมายความว่าฟ้าดินจะกลับตาลปัตร”

“ความแข็งแกร่งของผู้อาวุโสช่างยากจะหยั่งถึงจริงๆ…”

ย้อนกลับไปตอนที่น้ําพุจิตวิญญาณภายในสํานักเอกะวิถีได้เดือดแห้งลงไป ตอนที่จะย้ายน้ําพุ จําเป็นจะต้องร่วมแรงร่วมใจกันภายในสํานักเป็นเวลาหลายเดือนกว่าจะแล้วเสร็จ

แต่ซูฉินกลับทําได้ดีกว่านั้น สามารถจัดการปัญหาทุกอย่างได้ในเวลาเพียงครึ่งชั่วโมง

เมื่อนักพรตเฒ่าและชิงชิวเฉียนเฉียนกําลังตกใจอย่างมิรู้ประมาณอยู่นั้น เสียงของซูฉินก็แว่วผ่านหูมา

“พวกเจ้าเข้ามาเถอะ”

“เจ้าค่ะ” ชิงชิวเฉียนเฉียนและนักพรตเฒ่าเหลือบมองซี่งกันและกัน จากนั้นจึงเดินอย่างสํารวมเข้าไปภายในถ้ํา

เข้าสู่ระบบ ‘ฝ่ามือยูไล’ [Sign in Buddha’s palm]

เข้าสู่ระบบ ‘ฝ่ามือยูไล’ [Sign in Buddha’s palm]

Status: Ongoing

Sign in Buddha’s palm

เข้าสู่ระบบฝ่ามือยูไล

ซูฉินเที่ยวท่องไปในยุทธภพอันกว้างใหญ่ เป็นโลกที่ชาวยุทธเตร็ดเตร่อาละวาดไปทั่ว เป็นสถานที่ที่หยวนกั๋วชีอยู่เหนือใต้หล้า เป็นที่ที่ผู้สืบทอดหมัดเก้าตะวันออกหาประสบการณ์ต่อสู้ไปตามแนวสายธารอันทอดยาวและภูเขาอันสูงชัน ทั้งยังมีเซี่ยวหลี่ที่ขี่กระบี่โบยบินสู่ความเวิ้งว้างว่างเปล่า

เนื่องจากซูฉินไม่มีพรสวรรค์ด้านวิชายุทธ เขาจึงเป็นได้เพียงพระกวาดลานแห่งตำหนักลานจิปาถะ

ในเวลานั้นเอง ระบบแห่งการลงชื่อเข้าใช้ก็ถูกกระตุ้นเปิดออก!

ลงชื่อเข้าใช้ที่หน้าพระประธานสีทองอร่าม ได้รับ [ฝ่ามือยูไล]

ลงชื่อเข้าใช้ที่หน้าลานสงฆ์ ได้รับ [กายแกร่งวัชระ]

ลงชื่อเข้าใช้ที่ภูเขาหลังวัด ได้รับ [กายาโพธิสัตว์ปีศาจทองคำ]

สมบัติแทบจะแทรกอยู่ทุกหย่อมหญ้าในวัดเส้าหลินให้ได้ลงชื่อรับของรางวัลมา ซูฉินไม่คิดลงจากภูเขาอันเป็นที่ตั้งของวัดเส้าหลินไปที่ไหนแน่ถ้ายังไม่ได้ลงชื่อรับของ และตัวเขาก็ลงชื่อรับของอยู่แบบนั้นมาตลอดยี่สิบปี

ยี่สิบปีผ่านไป เส้าหลินเข้าไปพัวพันกับการต่อสู้ระหว่างธรรมะและอธรรม เหล่ามารเข้าโจมตีวัดเส้าหลินอย่างมิเกรงฟ้าดิน มาทั่วทุกสารทิศมุ่งเข้าสู่ศาลาพระคัมภีร์ อย่างดุร้าย! และทรงพลัง!

จนกระทั่งพวกมันเจอเข้ากับศิษย์วัดนามซูฉินกำลังกวาดลาน…

แปลจากงานเขียนเรื่อง Sign in Buddha’s palm ผู้แต่ง : หุยเต้าหยวนชู

ปล.เนื้อหาภายในเป็นเพียงจินตนาการของผู้เขียน ผู้แปลเพียงนำเสนอผลงานในรูปแบบที่เข้าใจง่ายขึ้นเท่านั้น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท