เข้าสู่ระบบ ‘ฝ่ามือยูไล’ [Sign in Buddha’s palm] – ตอนที่ 242.1 การสงคราม

ตอนที่ 242.1 การสงคราม

เข้าสู่ระบบ “ฝ่ามือยูไล

Sign in Buddha’s palm 242 (1)

การสงคราม

ซูฉินยืนเอามือไพล่หลัง

ภายในระยะไม่กี่จ้างรอบกายของเขา เปลวไฟสีดําสนิทมารวมตัวกัน ค่อยๆเผาไหม้อย่างช้าๆ โค้งตัวเข้ามาราวกับดวงจันทร์

เปลวเพลิงจากปากของมังกรปีศาจที่สามารถเผาผลาญได้ทุกสิ่ง หลังจากที่เข้ามาใกล้ซูฉิน ไม่เพียงแต่จะไม่ทําร้ายเขา แต่ไฟนั้นยังหลุดพ้นออกจากการควบคุมของมังกรปีศาจอีกด้วย?

“นี่

ยอดปรมาจารย์ขั้นสูงสุดทุกคนต่างตกตะลึง มังกรปีศาจอยู่ภายในวิหารการสงครามมาอย่างน้อยก็หลายพันปี และในสายตาของพวกเขา มังกรปีศาจนั้นเหนือกว่าตํานานยุทธทั่วๆ ไปมาตั้งนมนานแล้ว แม้ว่าซูฉินจะสามารถป้องกันเปลวไฟที่มังกรปีศาจพ่นออกมาได้ เขาควรจะต้องใช้ทุกวิถีทางเพื่อต้านรับอย่างไม่อาจเลี่ยง และอาจจะถูกโจมตีเข้าอย่างจัง

แต่บัดนี้?

ซูฉินยังคงยืนอยู่ที่เดิม ไม่แม้แต่ขยับตัวไปไหน ก็ยังสามารถหยุดเปลวเพลิงของมังกรปีศาจไว้ภายในรัศมีไม่กี่จ้างรอบตัว นี่มันเป็นวิธีการเช่นไรกัน? ต้องมากความสามารถเพียงไหน?

“ผู้ทรงสมณศักดิ์”

เฉียนขู่ยังคงตกใจ เขาอยู่ใกล้กับซูฉินมากที่สุด สิ่งที่เขาได้เห็นนั้นชัดเจนกว่ายอดปรมาจารย์ขั้นสูงสุดคนอื่นๆ ในสายตาของเฉียนขู่ การกระทําของซูฉินไม่ได้ง่ายดายอย่างการป้องกันเปลวไฟมืดทะมึนนั้น แต่ยังเป็นการควบคุมเปลวไฟที่มาจากมังกรปีศาจ ซึ่งมันน่าเหลือเชื่ออย่างมาก

เมื่อเทียบกับคนอื่นๆที่ตกอกตกใจกันอยู่ ซูฉินดูสงบนิ่ง กวาดตามองไปยังเปลวไฟสีดําที่ลุกไหม้อยู่รอบๆร่างของเขาก่อนที่จะมองไปยังมังกรปีศาจอีกครั้ง

“น่าเสียดายจริง…”

“ภาพดวงตะวันขนาดมหึมาของข้าเพิ่งถึงจุดเริ่มต้นเท่านั้น อย่างมากก็ทําได้แค่สร้างผลกระทบต่อเปลวไฟเหล่านี้เท่านั้น ทําให้รับประกันได้แค่ว่าจะไม่ถูกทําร้าย”

ซูฉินคิดอยู่ภายในใจเงียบๆ

สุดท้ายแล้ววิชาภาพดวงตะวันขนาดมหึมาก็ช่วยเหลือซูฉินได้อย่างจํากัด แต่หากฝึกฝนจนถึงความสําเร็จระดับเล็ก ซูฉินจะสามารถควบคุมเปลวไฟบนโลกนี้ได้อย่างแท้จริง สามารถจุดระเบิดได้ตั้งแต่มังกรปีศาจยังไม่พ่นไฟออกมา ซึ่งน่ากลัวจนถึงขีดสุด

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะเป็นเพียงภาพดวงตะวันขนาดมหึมาระดับเริ่มต้น ก็ไม่ใช่สิ่งที่มังกรปีศาจจะจัดการได้ หากมังกรปีศาจต้องการสังหารซูฉินด้วยเปลวเพลิง มันก็เท่ากับพยายามจะทําให้ปลาจมน้ําตาย

“กร้าซ!”

แววตาของมังกรปีศาจดูประหลาดใจมากกับมนุษย์ที่อยู่ตรงหน้า ดูเหมือนมันจะสงสัยว่าทําไมเปลวไฟสีดําของมันจึงกลายเป็นเช่นนี้

ในเวลาต่อมา

มังกรปีศาจตัวนี้ยึดร่างของมันขึ้น เขาบนหัวของมันเหมือนกับดาบชี้ตรงขึ้นบนฟ้า กรงเล็กที่แหลมคมส่องประกายแวววับ เกล็ดสีดําสนิทมีความมันวาวราวกับโลหะ

แม้ว่าพลังชีวิตและเลือดเนื้อของมันจะสลายไปมากแล้ว แต่ปราณภายในร่างก็เหมือนกับภูเขาไฟที่เงียบสงบแต่อาจจะปะทุได้ทุกเมื่อ ซึ่งเป็นสิ่งที่ตํานานยุทธทั่วไปไม่สามารถต้านทานได้

บูม!

มังกรปีศาจโฉบออกมาด้านนอกวิหารการสงคราม ปราณของมันแทรกซึมไปทั่วชั้นบรรยากาศน่าสยดสยอง แผ่พุ่งเข้าหาซูฉิน แม้ว่ามังกรปีศาจจะไม่ใช่มังกรที่แท้จริง แต่สายเลือดที่ไหลเวียนอยู่ในตัวมันนั้นเกี่ยวพันกับมังกรที่แท้จริง ซึ่งมีศักยภาพมากจนน่าเหลือเชื่อ และทําให้ร่างกายของมันมีพลังมหาศาล

ด้วยเหตุนี้ แม้ว่าซูฉินจะป้องกันเปลวไฟสีดําที่มันพ่นออกมาได้ มังกรปีศาจก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรนัก เพราะมันยังไม่ได้ใช้วิธีการอื่นที่ทรงพลังยิ่งกว่า

ในเวลานี้ทุกคนก็ได้รับชมภาพสุดสะพรึง เห็นมังกรยาวหลายร้อยเมตร ลําตัวของมันราวกับสายฟ้าสีดําทมิฬที่พร้อมจะกวาดล้างทุกสิ่งบนโลก แม้แต่ชั้นบรรยากาศยังเริ่มบิดเบี้ยว

ส่วนซูฉินนั้น

เมื่อเทียบกับฉากอันยิ่งใหญ่อลังการนี้ ซูฉินนั้นไม่มีความโดดเด่น เป็นประหนึ่งเศษฝุ่น

“ผู้ทรงสมณศักดิ์”

ใบหน้าของเฉียนขู่แข็งเกร็ง เขาเต็มไปด้วยความกังวล

“ลุงสามนั้นไร้เทียมทาน” หลีหว่านที่อยู่ข้างๆ ไม่ได้กังวลแต่ประการใด แม้ว่านางจะกลัวมังกรปีศาจที่โฉบลงมา และใบหน้าของนางเองก็ขาวซีด แต่หลีหว่านมีความมั่นใจในตัวซูฉินอย่างเปี่ยมล้น

“วิ่ง!”

ยอดปรมาจารย์ขั้นสูงสุดหลายคนต่างมือเท้าอ่อนแรง เมื่อเทียบกับเปลวเพลิงสีดําเมื่อครู่ ในตอนนี้มังกรปีศาจพุ่งเข้าใส่ซูฉินด้วยตนเอง ร่างมังกรนั้นใหญ่จนบดบังท้องฟ้าและดวงอาทิตย์ พลังมันน่าตื่นตะลึงยิ่งกว่าเปลวเพลิงสีดํา

“ฝึบ!”

ซูฉินไม่พูดพร่ําทําเพลง ดึงมีดยาวรูปร่างแปลกๆคล้ายกับเคียว โค้งโก่งไปดั่งพระจันทร์เต็มดวง เขาหยิบมันออกมาจากคลังระบบ แล้วฟันไปทางมังกรปีศาจโดยไม่ลังเล

เพียว

ท้องฟ้าและผืนดิน แลดูเหมือนจะเปลี่ยนเป็นมหาสมุทรอันมืดมิด เพียงช่องว่างในอากาศเสี้ยวหนึ่งเท่านั้นก็สามารถปิดกั้นแสงทั้งมวล ตัดฝาอากาศออกไป

มีบาดแผลปรากฏขึ้นบนร่างขนาดใหญ่ของมังกรปีศาจ ใบมีดจากคมมีดเทพเจ้าปีศาจแทงตรงเข้าทะลุร่างของมังกรปีศาจ

“กร้าซซซซ!!!”

ด้วยความเจ็บปวด มันจึงคํารามลั่น โชคไม่ดีที่ใบมีดของคมมีด เทพเจ้าปีศาจนั้นมีความยาวเพียงไม่กี่เมตร มันเพียงพอที่จะผ่าคนออกเป็นสองส่วน แต่ร่างมังกรปีศาจนั้นใหญ่โตเกินไป มีความยาวกว่าหลายร้อยเมตร บาดแผลแค่ไม่กี่เมตรนั้นนับเป็นเพียงรอยแผลตื้นๆบนร่างที่ใหญ่โตของมังกรปีศาจเท่านั้น

ถ้าไม่ใช่เพราะคมมีดเทพเจ้าปีศาจนั้นมาพร้อมกับไอพลังที่คล้ายจะมาจากขุมนรก สามารถแผ่ขยายการโจมตีออกไปยังส่วนอื่นๆ เกรงว่าบาดแผลเท่านี้คงจะสมานกันในชั่วพริบตา

“ฟันอีกครั้ง!”

ซูฉินไม่ลังเล ถือคมมีดเทพเจ้าปีศาจ และฟาดฟันต่ออีกครั้ง มันเหมือนกับประกายมีดนั้นตัดผ่ามิติ ในพริบตาเดียวก็ไปปรากฏอยู่ใกล้ๆกับมังกรปีศาจแล้ว

คราวนี้มังกรปีศาจเกิดการเรียนรู้ โดยมันรู้ว่าร่างกายของมันไม่สามารถหยุดคมมีดเทพเจ้าปีศาจได้ ทันใดนั้นทั้งร่างของมันก็กลายเป็นเงาดําหนาทึบ หลบเลี่ยงการฟาดฟันของคมมีดเทพเจ้าปีศาจ

ฉากนั้นทําให้ผู้คนตื่นตะลึง มังกรปีศาจที่คอยพิทักษ์โถงภายในวิหารการสงคราม ถูกสะกดภายใต้คมมีดของซูฉินซึ่งมันน่ากลัวมาก

“มีดเล่มนั้น”

ยอดปรมาจารย์ขั้นสูงสุดบางคนจ้องมองไปที่คมมีดเทพเจ้าปีศาจที่ซูฉินถืออยู่ หัวใจพวกเขาพลันสั่นสะท้าน

แม้ว่าตอนแรกพวกเขาจะไม่รู้ว่าทําไมภิกษุอย่างซูฉินจึงใช้มีดเป็นอาวุธ แต่ในเวลานี้ ประกายมีดที่เกิดจากคมมีดเล่มนี้เฉียบคมมาก ฉีกกระชากทุกอย่างแตกออกเป็นเสี่ยงๆ

“ก็ยังถือว่าไม่โง่จนเกินไป”

ซูฉินเห็นว่ามังกรปีศาจไม่กล้าเผชิญหน้ากับคมมีดเทพเจ้าปีศาจตรงๆ รอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา คมมีดเทพเจ้าปีศาจนี้ได้มาจากซูฉินภายในโลกถ้ําปีศาจ ซึ่งมันดูเหมือนว่าจะมีความสัมพันธ์บางอย่างกับเทพเจ้าปีศาจระดับสูงภายในส่วนลึกของโลก จนถึงปัจจุบันนี้ซูฉินยังไม่เคยเห็นว่าจะสิ่งมีชีวิตใดที่คมมีดเทพเจ้าปีศาจไม่สามารถแทงทะลุได้

แม้แต่รอบนอกของเกาะหยิงโจว ค่ายกลฟ้าดินจํานวนมากที่จัดตั้งโดยเซียนเทพปฐพี่อย่างจ้าวทะเลบูรพา ด้วยคมมีดเทพเจ้าปีศาจ มันก็ถูกผ่าออกเป็นสองส่วนอยู่ดี

“ในเมื่อเป็นเช่นนี้”

ซูฉินเก็บคมมีดเทพเจ้าปีศาจกลับไป ก้าวย่างไปด้านหน้า ลอยขึ้นบนอากาศเดินเข้าหามังกรปีศาจ

“อะไร?!”

เมื่อยอดปรมาจารย์ขั้นสูงสุดทั้งหลายได้เห็นฉากนี้ ดวงตาของพวกเขาก็เบิกกว้างอย่างไม่เชื่อสายตา

มังกรปีศาจเก่งกาจในด้านการต่อสู้ด้วยกําลังกายระยะประชิด หากซูฉินต้องการจัดการกับมังกรปีศาจ วิธีที่ดีที่สุดคือการหลบหนีจากการปะทะของมัน และเฉือนมังกรปีศาจอย่างต่อเนื่องด้วยคมมีดในมือของเขา

แต่ตอนนี้ซูฉินกลับพุ่งตรงเข้าหามังกรปีศาจ

“กร้าซ!”

เมื่อมังกรปีศาจเห็นดังนั้น ดวงตาใหญ่ยักษ์ของมันก็ฉายแววตื่นเต้นออกมา ทีแรกมันลังเลที่จะเข้าใกล้ซูฉิน แต่บัดนี้อีกฝ่ายกลับเสนอตัวเข้ามาหามันตรงๆ

หวิ่ง!!

ทั่วร่างอันใหญ่โตของมังกรปีศาจพลันระเบิดพลังชีวิตและเลือดเนื้อออกมาอย่างไร้ที่สิ้นสุด เงามังกรพาดผ่านไปถึงฟากฟ้า มันแหงนหน้าขึ้นมองท้องฟ้า คํารามก้องเปล่งรัศมีอันน่าสะพรึงกลัวออกมา กดดันทั่วทุกพื้นที่บนเทือกเขาคุนหลุน

เข้าสู่ระบบ ‘ฝ่ามือยูไล’ [Sign in Buddha’s palm]

เข้าสู่ระบบ ‘ฝ่ามือยูไล’ [Sign in Buddha’s palm]

Status: Ongoing

Sign in Buddha’s palm

เข้าสู่ระบบฝ่ามือยูไล

ซูฉินเที่ยวท่องไปในยุทธภพอันกว้างใหญ่ เป็นโลกที่ชาวยุทธเตร็ดเตร่อาละวาดไปทั่ว เป็นสถานที่ที่หยวนกั๋วชีอยู่เหนือใต้หล้า เป็นที่ที่ผู้สืบทอดหมัดเก้าตะวันออกหาประสบการณ์ต่อสู้ไปตามแนวสายธารอันทอดยาวและภูเขาอันสูงชัน ทั้งยังมีเซี่ยวหลี่ที่ขี่กระบี่โบยบินสู่ความเวิ้งว้างว่างเปล่า

เนื่องจากซูฉินไม่มีพรสวรรค์ด้านวิชายุทธ เขาจึงเป็นได้เพียงพระกวาดลานแห่งตำหนักลานจิปาถะ

ในเวลานั้นเอง ระบบแห่งการลงชื่อเข้าใช้ก็ถูกกระตุ้นเปิดออก!

ลงชื่อเข้าใช้ที่หน้าพระประธานสีทองอร่าม ได้รับ [ฝ่ามือยูไล]

ลงชื่อเข้าใช้ที่หน้าลานสงฆ์ ได้รับ [กายแกร่งวัชระ]

ลงชื่อเข้าใช้ที่ภูเขาหลังวัด ได้รับ [กายาโพธิสัตว์ปีศาจทองคำ]

สมบัติแทบจะแทรกอยู่ทุกหย่อมหญ้าในวัดเส้าหลินให้ได้ลงชื่อรับของรางวัลมา ซูฉินไม่คิดลงจากภูเขาอันเป็นที่ตั้งของวัดเส้าหลินไปที่ไหนแน่ถ้ายังไม่ได้ลงชื่อรับของ และตัวเขาก็ลงชื่อรับของอยู่แบบนั้นมาตลอดยี่สิบปี

ยี่สิบปีผ่านไป เส้าหลินเข้าไปพัวพันกับการต่อสู้ระหว่างธรรมะและอธรรม เหล่ามารเข้าโจมตีวัดเส้าหลินอย่างมิเกรงฟ้าดิน มาทั่วทุกสารทิศมุ่งเข้าสู่ศาลาพระคัมภีร์ อย่างดุร้าย! และทรงพลัง!

จนกระทั่งพวกมันเจอเข้ากับศิษย์วัดนามซูฉินกำลังกวาดลาน…

แปลจากงานเขียนเรื่อง Sign in Buddha’s palm ผู้แต่ง : หุยเต้าหยวนชู

ปล.เนื้อหาภายในเป็นเพียงจินตนาการของผู้เขียน ผู้แปลเพียงนำเสนอผลงานในรูปแบบที่เข้าใจง่ายขึ้นเท่านั้น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท