เข้าสู่ระบบ ‘ฝ่ามือยูไล’ [Sign in Buddha’s palm] – ตอนที่ 281 เข้าสู่ระบบ! เคล็ดหัวใจดาบ!

ตอนที่ 281 เข้าสู่ระบบ! เคล็ดหัวใจดาบ!

Sign in Buddha’s palm 281 เข้าสู่ระบบ! เคล็ดหัวใจดาบ!

ในตอนที่ซูฉินบุกเข้ามายังเกาะหมื่นดาบโดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนที่เขาตะโกนว่าบรรพชนดาบคลานออกมาพบข้า ทุกคนในคุกใต้ดินล้วนได้ยินอย่างชัดเจน

อย่างไรก็ตามแม้ในยามนั้นทุกคนจะตกใจพวกเขาก็ไม่ได้เก็บมาใส่ใจคิดเพียงแค่ว่าพรรคหมื่นดาบคงจะปราบซูฉินได้ในไม่ช้าและบางทีอาจจะถูกคุมขังอยู่ในหลุมทมิฬนี่เหมือนพวกตนในท้ายที่สุด

อย่างไรก็ตามสิ่งที่เกิดขึ้นต่อจากนั้นได้ทําลาย ความคิดของทุกคนไปโดยสิ้นเชิง

แม้ว่าการต่อสู้ระหว่างซูฉินกับบรรพชนดาบจะ ไม่ได้ยาวนานนักแต่การระเบิดพลังก็เพียงพอจะเขย่าเกาะหมื่นดาบทั้งหมดรวมไปถึงหลุมทมิฬที่ สร้างไว้ใต้ดินด้วย

โดยเฉพาะในตอนสุดท้ายที่ซูฉินทะลวงค่ายกล เก้าดาบหมุนวนบนอาคารดาบเก้ายอดจนเสียงดังสนั่นภายในคุกใต้ดินซึ่งอยู่ใจกลางยอดเขาดาบก็เหมือนกับได้พบจุดจบของโลก

ก่อนที่ทุกคนในคุกใต้ดินจะทันได้ผ่อนคลาย พวกเขาก็ได้ยินเสียงของตัวคุกใต้ดินซึ่งทํามาจากเหล็กดําทมิฬทะเลเหนือระเบิดออกอย่างกะทันหันและทันใดนั้นทางออกสู่โลกภายนอกก็ปรากฏให้เห็น

ที่ปลายทางมีชายคนหนึ่ง ดวงตาสงบนิ่งแผ่กลิ่นอายที่น่าพรั่นพรึงยืนอยู่

ช่วงเวลาต่อมา

ชายผู้มีดวงตาสงบนิ่งและเต็มไปด้วยกลิ่นอายอันน่ากลัวนั้นก็ได้ก้าวเข้ามาในหลุมทมิฬจ้องมองไปยังหลีหว่านด้วยความตื่นเต้น

 ลุงสาม 

หลีหว่านกะพริบตาคู่น้อยๆ ของนาง

นางอยู่ภายในหลุมทมิฬแห่งนี้มาสองสามวัน แล้ว หลังจากสนทนากับคนอื่นๆ ที่ถูกขังอยู่ที่นี่เหมือนกันนางจึงเข้าใจได้ว่าพรรคหมื่นดาบเป็น ตัวตนประเภทใด

ต่อหน้าพรรคหมื่นดาบที่สืบทอดมรดกมากว่าสี่พันปีตํานานยุทธขั้นสูงสุดจะนับเป็นตัวอะไรได้?เว้นแต่จะแปลงจิตวิญญาณแรกกําเนิดได้เหมือนบรรพชนดาบผู้ซึ่งทรงพลังอํานาจในต่างแดนไม่เช่นนั้นก็ไม่สามารถสร้างความสะเทือนให้กายใหญ่ได้เลย

แม้หลีหว่านจะมีความหวังเล็กๆ ในใจของนางแต่ถ้ามองกันตามความเป็นจริงแล้วไม่ว่าซูฉินจะแข็งแกร่งแค่ไหนเขาจะสามารถเอาชนะบรรพชนดาบได้หรือ?

แต่ยามนี้ เมื่อมองไปยังซูฉินที่อยู่เบื้องหน้าหลีหว่านก็รู้สึกเหมือนตนกําลังอยู่ในฝัน

 หือ? 

ซูฉินเหลือบมองหลีหว่านและเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย

ก่อนที่จะทําสิ่งใด ซูฉินก็ตรวจสอบยืนยันสภาพร่างกายของหลีหว่านอย่างรอบคอบด้วยจิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์

หลังจากตรวจดูอย่างถี่ถ้วน ซูฉินก็ไม่พบว่ามีสิ่งผิดปกติใดกับหลีหว่าน

ก่อนออกจากเมืองฉางอัน หลีหว่านเป็นเพียงผู้ฝึกยุทธระดับชั้นที่สี่ แต่ในเวลาเพียงไม่กี่เดือนฐานการบ่มเพาะของหลีหว่านก็พุ่งสูงขึ้นเป็นระดับชั้นที่หนึ่งอย่างรวดเร็ว

และซูฉินก็เห็นว่าหลีหว่านนั้นเต็มไปด้วยพลังงานปราณชีวิตและเลือดเนื้อมีกลิ่นอายที่แข็งแกร่งไม่มีอันตรายซ่อนเร้นจากการเร่งเพิ่มระดับฐานการบ่มเพาะนอกจากนี้หลีหว่านยังมีเจตจํานงดาบที่น่าตกใจอยู่ภายในร่าง

เจตจํานงดาบจางๆ นี้คล้ายจะเป็นเจตจํานงดาบชนิดเดียวกันกับที่อยู่บนยอดเขาดาบสูงพันจ้าง ของพรรคหมื่นดาบเห็นได้ชัดว่ามันเป็นไปในทิศทางเดียวกันมันมาจากนักพรตหมื่นดาบเมื่อสี่พันปีที่แล้ว

ซูฉันค่อยๆชําเลืองดูและพบว่าเจตจํานงดาบในร่างของหลีหว่านไม่เพียงแต่ไร้ซึ่งอันตรายซ่อนเร้นแต่ยังมีประโยชน์อย่างมากช่วยเสริมพลังให้กับแก่นแท้กําลังภายในของหลีหว่านอยู่ตลอดเวลา

 ลุงสาม 

หลีหว่านเริ่มอธิบายทุกอย่างหลังจากที่ตนถูกพามายังพรรคหมื่นดาบ

ตามคํากล่าวของหลีหว่าน คนของพรรคหมีนดาบไม่ได้สร้างความอับอายให้นางแม้แต่น้อยไม่เพียงเท่านั้นยังมอบโอสถและผลไม้จิตวิญญาณมากมายให้แก่นางด้วยสุดท้ายหลีหว่านก็ถูกพาไปยังแท่นบูชามันมีเจตจํานงดาบเล่มหนึ่งที่ลึกล้ํายากหยั่งถึงพุ่งเข้าใส่ร่างของ นาง..

 ลุงสาม เหล่าผู้เฒ่าพรรคหมื่นดาบดูแลหว่านเอ๋อเป็นอย่างดี…  หลีหว่านกล่าวอย่างระมัดระ

 ดูแลอย่างดี? ซูฉินลองคิดตามจากนั้นจึงเข้าใจจุดประสงค์ของพรรคหมื่นดาบ

หลีหว่านมีร่างหัวใจแห่งดาบ เป็นหนึ่งในร่างกายที่เหมาะสมที่สุดสําหรับบรรพชนดาบ แต่จิตวิญญาณแรกกําเนิดของบรรพชนดาบนั้นทรงพลังเกินไปหากหลีหว่านยังคงเป็นผู้ฝึกยุทธระดับชั้นที่สี่แม้จะเป็นร่างหัวใจแห่งดาบก็ไม่สามารถรองรับพลังอันยิ่งใหญ่ของจิตวิญญาณแรกกําเนิดได้

ดังนั้นก่อนที่บรรพชนดาบจะยึดครองร่างจริงๆ เขาต้องปรับปรุงความแข็งแกร่งของหลีหว่านก่อนและการปรับปรุงนี้จะต้องไม่มีอันตรายใดซ่อนอยู่ไม่เช่นนั้นหลังจากที่บรรพชนดาบยึดร่างอันตรายที่แฝงเร้นเหล่านี้จะปะทุออกมาหากเป็นเช่นนั้นไม่ใช่จะทําให้บรรพชนดาบปวดหัวหรอกหรือ?

นี่เป็นเหตุผลว่าทําไมพรรคหมื่นดาบจึงยอมสูญเสียให้หลีหว่านได้กินโอสถและผลไม้จิตวิญญาณมากมาย

แต่ก็เท่านั้น

เกรงว่าทุกคนในพรรคหมื่นดาบจะไม่ได้คาดหวังว่าเมื่อพวกเขายกระดับการบ่มเพาะของหลีหว่านขึ้นเป็นระดับชั้นที่หนึ่งแล้วซูฉินจะมาทุบประตูบ้านและสังหารบรรพชนดาบด้วยพลังอันแข็งแกร่งรวมถึงทําลายขุมกําลังอันยิ่งใหญ่อย่างพรรคหมื่นดาบ

และหลีหว่านก็เหมือนโชคหล่นทับ ได้รับผลประโยชน์จากพรรคหมื่นดาบโดยไม่รู้ตัวไม่ต้องจ่ายราคาใดออกไปแม้แต่น้อย

 แต่เจตจํานงในร่างกายของเจ้า….  ซูฉินหรี่ตาลงเล็กน้อย และสังเกตเจตจํานงดาบภายในร่างของหลีหว่านอย่างระมัดระวัง

เมื่อเทียบกับโอสถและผลไม้จิตวิญญาณที่หลี หว่านได้รับเจตจํานงดาบนี้มีค่ามากที่สุด

แน่นอนว่า  มีค่า  ในที่นี้คือเมื่ออยู่กับหลีหว่านสําหรับซูฉินนั้นแม้ว่าจะมอบเจตจํานงดาบนี้แก่เขาเขาก็ไม่ได้ต้องการมัน

 เป็นนักพรตหมื่นดาบที่ทิ้งสิ่งนี้ไว้?  ซูฉินแตะ ปลายคาง ใบหน้าครุ่นคิด

เจตจํานงดาบนี้น่าจะเป็นมรดกของนักพรตหมี่นดาบที่บรรพชนดาบได้รับมาจากอาคารดาบเก้ายอดพันจ้าง

ก่อนที่จะยึดครองร่าง บรรพชนดาบคงฝากมันเอาไว้ในร่างของหลีหว่านชั่วคราว

ด้วยเจตจํานงดาบนี้ร่างกายของหลีหว่านจึงได้รับการขัดเกลาอย่างต่อเนื่องทําให้การยึดร่างของบรรพชนดาบดําเนินไปด้วยความราบรื่นแต่ก็น่าเสียดาย

การกระทําของบรรพชนดาบนั้นช่างไร้ประโยชน์ ไม่เช่นนั้นหากบรรพชนดาบยังคงมีเจตจํานงดาบนี้อยู่เมื่อต่อสู้กับซูฉินซูฉินอาจไม่สามารถจัดการอีกฝ่ายได้ง่ายดายเพียงนี้

นอกจากนี้เจตจํานงดาบนี้แตกต่างไปจากเจต จํานงดาบที่มีอยู่ในอาคารดาบเก้ายอดพันจ้าง

เจตจํานงดาบในอาคารดาบเก้ายอดพันจ้างได้หล่อเลี้ยงเกาะหมื่นดาบมาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาหลายพันปี

แต่เจตจํานงดาบเล่มนี้ได้รับการรักษาอย่างดี แม้พลังบางส่วนจะสูญหายไปนับพันปีแต่ก็ยังถือว่าแข็งแกร่งกว่าเจตจํานงดาบบนยอดเขาดาบพันจ้าง

 ทําความเข้าใจเจตจํานงดาบในร่างของเจ้าให้ ดี มันจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อตัวเจ้า ซูฉินเตือนหลีหว่านลอยๆ

 เจ้าค่ะ 

ในตอนนี้ หลีหว่านเองก็ยังสังเกตเห็นประโย ชน์ของเจตจํานงดาบภายในร่างของนางจึงพยักหน้ารับอย่างรวดเร็ว

ขณะที่ซูฉินและหลีหว่านกําลังพูดคุยกันว่าจะออกจากคุกใต้ดิน

คนอื่นๆ ที่ถูกคุมขังอยู่ในคุกใต้ดินแห่งนี้ก็รวบ รวมความกล้า เดินมาเบื้องหน้าซูฉินโค้งคํานับพร้อมกับกล่าวว่า คารวะท่านผู้ยิ่งใหญ่ 

ในตอนนี้คุกใต้ดินหลุมทมิฬได้เปิดออกแล้ว และอาคารดาบเก้ายอดพ้นจ้างก็สูญเสียความสามารถในการปราบปราม คนเหล่านี้ย่อมฟื้นพลังก ลับมาได้เป็นธรรมดาแต่ไม่มีใครกล้าหนีออกจากคุกใต้ดินในเวลานี้

ด้านนอกคุกใต้ดินหลุมทมิฬ พรรคหมื่นดาบผู้ มั่งคั่งได้ถูกทําลายลงไปแล้วและเหตุที่ทําให้เกิดเรื่องนี้ขึ้นก็คือซูฉินมันฟังดูน่าเหลือเชื่อยิ่งนัก

 ลุงสาม พวกเขาทั้งหมดคือ…  หลีหว่านกระซิบบอกทันที

ซูฉินชําเลืองมองยังคนไม่กี่คนกลุ่มนี้ ในหมู่พวกเขาผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดคือชายชราที่มีผมและเคราสีขาวอยู่ในขอบเขตตํานานยุทธระดับนภาชั้นที่เจ็ดยังไม่ได้ควบแน่นอาณาเขต

 เงยหน้าขึ้น 

ซูฉินก้มหน้าเล็กน้อย

 ท่านผู้ยิ่งใหญ่ได้ทําลายล้างพรรคหมื่นดาบความน่าเกรงขามสะท้านไปถึงสวรรค์สมกับที่อเสียงของท่านพ่อมดราชนที่มีมาอย่างยาวนานกว่าสามพันปี… ชายชราผมขาวกล่าวด้วยความเคารพ

 พ่อมดราชัน? 

ซูฉินยิ้ม

นักพรตเฒ่าสํานักเอกะวิถีได้บอกเขาเกี่ยวกับเรื่องราวของเซียนเทพปฐพีทั้งหมดที่กําเนิดขึ้นในยุทธภพต่างแดนแล้วพ่อมดราชันเป็นหนึ่งในคนเหล่านั้น

พ่อมดราชันเป็นเซียนเทพปฐพี่จากสํานักผู้วิเศษเขาเดินทางตะลอนไปตามนิกายใหญ่แห่งต่างๆทั่วดินแดนในที่สุดก็หายตัวไปอย่างลึกลับว่ากันว่าเขาค้นพบความลับจากยุคเฟื่องฟูกระแสปราณฉีครั้งล่าสุด

แต่ไม่มีใครรู้ว่าข้อเท็จจริงมันเป็นเช่นไร แม้แต่ สํานักผู้วิเศษเองการพูดคุยเรื่องนี้ก็ถือเป็นข้อห้ามดังนั้นเขาจึงไม่อยากพูดอะไรอีก

 ข้าไม่ใช่พ่อมดราชัน 

ซูฉินสายศีรษะ

แม้ว่าเขาจะสามารถเอาตัวรอดได้เมื่ออยู่ต่อหน้าเซียนเทพปฐพีแต่เขาก็ไม่ใช่เซียนเทพปฐพีการเอาตัวรอดก็ส่วนของการเอาตัวรอดส่วนการต่อสู้ได้อย่างสูสียังคงห่างไกลนัก

แม้ว่าฝ่ามือยไลจะเป็นเคล็ดวิชาล้ําเลิศที่ช่วยให้ซูฉินสามารถใช้พลังในระดับเซียนเทพปฐพี่ได้แต่นั่นก็เป็นแค่กระบวนท่าหนึ่ง

แน่นอนว่าถ้าซูฉินฝึกฝนภาพดวงตะวันขนาด มหึมาและกลายเป็นอีกาทองคําสามขา สัตว์ศักดิ์สิทธิ์ที่มีธาตุไฟแข็งแกร่งที่สุดแม้จะเป็นอีกาทองคําสามขาวัยเยาว์ก็เพียงพอแล้วที่จะกวาดล้างเซียนเทพปฐพี่ส่วนใหญ่

แต่ก็น่าเสียดาย

ในตอนนี้ ภาพดวงตะวันขนาดมหึมาของซูฉิน เพิ่งอยู่ในขั้นเริ่มต้นยังห่างจากความสําเร็จเล็กๆน้อยๆอยู่อีกมากไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องสําเร็จวิชาจนถึงขั้นสุดท้ายเลย

 ตามข้ามา 

ซูฉันพูดทิ้งท้ายเอาไว้เช่นนี้ แล้วจึงเดินออก จากคุกใต้ดินอย่างช้าๆ

เมื่อเห็นดังนี้หลีหว่านกตามซูฉินไปในทันที ขณะที่คนอื่นต่างชําเลืองมองหน้ากัน แล้วจึงกัดฟันเดินตามออกไปทันที

ไม่นาน

ซูฉินและคนอื่นๆ ก็เดินออกจากคุกใต้ดินจนมา ถึงกึ่งกลางของยอดเขาดาบ

ยอดเขาดาบนี้เป็นยอดเขาหลักของอาคารดาบ เก้ายอดพันจ้างเรียกได้ว่าเป็นใจกลางของค่ายกลเก้าดาบหมุนวนที่บรรพชนดาบพรรคหมื่นดาบคอยกระตุ้นการทํางานของค่ายกลครู่หนึ่ง

คนทั้งหลายก็มาถึงยอดเขาดาบโดยราบรื่น

แม้ว่าค่ายกลเก้าดาบหมุนวนจะโดนซูฉินทําลายไปแล้วแต่ก็ยังมีรังสีดาบอันแหลมคมแทรกซึมอยู่ในอากาศ

ไม่ไกลนักก็มีร่างของศิษย์พรรคหมื่นดาบนอนอยู่

ในตอนที่ซูฉินทะลวงค่ายกลเก้าดาบหมุนวน พลังอันน่าสะพรึงกลัวแทบจะทะลุถึงยอดเขาทั้งหมดและไม่รู้ว่ามีคนกี่คนตกตายภายใต้พลังอันนี้

 ตายกันหมดแล้ว…… 

ชายชราผมขาวไม่คาดคิดว่าจะได้เห็นฉากดังก ล่าว ในเวลาเดียวกับที่มีความสุขล้นใจความกังวลก็ปรากฏขึ้นอย่างแผ่วเบา

พรรคหมื่นดาบยังพวกเขาไว้ในคุกใต้ดินสร้างความเกลียดชังให้พวกเขามาเป็นเวลานานในเวลานี้พรรคหมื่นดาบถูกทําลายลงอย่างสมบูรณ์จะไม่ให้พวกเขามีความสุขได้อย่างไร?

อย่างไรก็ตาม

ชายชราผมขาวผู้เปี่ยมสุขก็รู้ดีว่าวิธีการของซู ฉันนั้นรุนแรงและเด็ดขาด

ในฐานะที่พรรคหมื่นดาบเป็นนิกายใหญ่ มีศิษย์ หลายหมื่นคน ผู้คนจํานวนมากตกตายต่อหน้าเขาแต่ซูฉินไม่กะพริบตาแม้แต่น้อย

ถ้าไม่ใช่เพราะกลิ่นอายอันสูงส่งสง่างามของซูฉินชายชราผมขาวคงสงสัยไปแล้วว่าซูฉินอาจมาจากสถานที่ป่าเถื่อนเลือดเย็นอย่างนิกายเฮยหยวนหรือเปล่า?

ซูฉินเดินไปจนสุดทางก่อนจะมาถึงห้องโถง ใหญ่

ห้องโถงแห่งนี้เปรียบเสมือนดาบศักดิ์สิทธิ์กลับ หัว ตั้งตระหง่านอยู่ด้านหน้า พ่นกลิ่นอายที่ทําให้อกสั่นขวัญแขวนออกมา

 นี่ควรเป็นสถานที่ที่เก่าแก่ยาวนานที่สุดใน พรรคหมื่นดาบ 

ซูฉินหยุดยืนมองอย่างคร่าวๆ ครุ่นคิดในใจตนอ ย่างเงียบเชียบ

ไม่ว่าจะเป็นหลีหว่านหรือชายชราผมขาวที่ยืน อยู่ด้านหลัง ต่างก็รอคอยซูฉินเงียบๆ

ซูฉินตรึกตรองอยู่ในใจครู่หนึ่ง แล้วจึงกล่าวคํา ในใจว่า

 ระบบ ลงชื่อเข้าใช้

[ขอแสดงความยินดีโฮสต์ลงชื่อเข้าใช้สําเร็จได้รับเคล็ดลับทางจิตวิญญาณเคล็ดหัวใจดาบ]

 

เข้าสู่ระบบ ‘ฝ่ามือยูไล’ [Sign in Buddha’s palm]

เข้าสู่ระบบ ‘ฝ่ามือยูไล’ [Sign in Buddha’s palm]

Status: Ongoing

Sign in Buddha’s palm

เข้าสู่ระบบฝ่ามือยูไล

ซูฉินเที่ยวท่องไปในยุทธภพอันกว้างใหญ่ เป็นโลกที่ชาวยุทธเตร็ดเตร่อาละวาดไปทั่ว เป็นสถานที่ที่หยวนกั๋วชีอยู่เหนือใต้หล้า เป็นที่ที่ผู้สืบทอดหมัดเก้าตะวันออกหาประสบการณ์ต่อสู้ไปตามแนวสายธารอันทอดยาวและภูเขาอันสูงชัน ทั้งยังมีเซี่ยวหลี่ที่ขี่กระบี่โบยบินสู่ความเวิ้งว้างว่างเปล่า

เนื่องจากซูฉินไม่มีพรสวรรค์ด้านวิชายุทธ เขาจึงเป็นได้เพียงพระกวาดลานแห่งตำหนักลานจิปาถะ

ในเวลานั้นเอง ระบบแห่งการลงชื่อเข้าใช้ก็ถูกกระตุ้นเปิดออก!

ลงชื่อเข้าใช้ที่หน้าพระประธานสีทองอร่าม ได้รับ [ฝ่ามือยูไล]

ลงชื่อเข้าใช้ที่หน้าลานสงฆ์ ได้รับ [กายแกร่งวัชระ]

ลงชื่อเข้าใช้ที่ภูเขาหลังวัด ได้รับ [กายาโพธิสัตว์ปีศาจทองคำ]

สมบัติแทบจะแทรกอยู่ทุกหย่อมหญ้าในวัดเส้าหลินให้ได้ลงชื่อรับของรางวัลมา ซูฉินไม่คิดลงจากภูเขาอันเป็นที่ตั้งของวัดเส้าหลินไปที่ไหนแน่ถ้ายังไม่ได้ลงชื่อรับของ และตัวเขาก็ลงชื่อรับของอยู่แบบนั้นมาตลอดยี่สิบปี

ยี่สิบปีผ่านไป เส้าหลินเข้าไปพัวพันกับการต่อสู้ระหว่างธรรมะและอธรรม เหล่ามารเข้าโจมตีวัดเส้าหลินอย่างมิเกรงฟ้าดิน มาทั่วทุกสารทิศมุ่งเข้าสู่ศาลาพระคัมภีร์ อย่างดุร้าย! และทรงพลัง!

จนกระทั่งพวกมันเจอเข้ากับศิษย์วัดนามซูฉินกำลังกวาดลาน…

แปลจากงานเขียนเรื่อง Sign in Buddha’s palm ผู้แต่ง : หุยเต้าหยวนชู

ปล.เนื้อหาภายในเป็นเพียงจินตนาการของผู้เขียน ผู้แปลเพียงนำเสนอผลงานในรูปแบบที่เข้าใจง่ายขึ้นเท่านั้น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท