เข้าสู่ระบบ ‘ฝ่ามือยูไล’ [Sign in Buddha’s palm] – ตอนที่293 (I) ตัดสังหาร

ตอนที่293 (I) ตัดสังหาร
Sign in Buddha’s palm 293 (I) ตัดสังหาร
“รสชาติไม่เลว”
ซูฉินหรี่ตาลงเล็กน้อย ราวกับเขากําลังเพลิดเพลินกับอะไรบางอย่าง
เคล็ดพันสายฟ้าของบรรพบุรุษเหลยสิ่งได้สร้างทะเลสายฟ้าที่มีรัศมีกว้างไกลกว่าร้อยเมตรสุดท้ายแล้วมันไม่ใช่พลังของบรรพบุรุษเหลยสิ่งอีกต่อไปมันเป็นพลังจากสวรรค์
แต่สําหรับซูฉิน มันเป็นเพียงอาหารบํารุงสําหรับเคล็ดวิชาห้าหมัดสายฟ้าเทพเจ้า
ห้าหมัดสายฟ้าเทพเจ้านี้ซูฉินได้มาจากการลงชื่อเข้าใช้ที่วังหลวงมันเป็นเคล็ดวิชาเกี่ยวกับสายฟ้าที่ช่วยให้ซูฉินอาบสายฟ้าต่างน้ําได้บนฟากฟ้า เขาจะต้องกังวลอะไรเกี่ยวกับทะเลสายฟ้าเพียงแค่นี้?
ในสายตาของซูฉินพลังสายฟ้าที่ทําให้ขอบเขตตํานานยุทธพากันหวาดกลัวเป็นเพียงลมเย็นที่พัดมากระทบใบหน้าเท่านั้น
“เจ้าไม่เป็นอะไรได้อย่างไร?!”
บรรพบุรุษเหลยสิ่งที่ถูกซูฉินคว้าคอเอาไว้ รู้สึกเหมือนตกลงไปในถังน้ําแข็งเขาไม่เข้าใจว่าทําไมทะเลสายฟ้าร้อยเมตรซึ่งเพียงพอจะทําลายตํา นานยุทธทั้งหมดทั้งมวลจึงไม่สามารถจัดการกับซูฉินได้?
“สายฟ้าน่ะไร้ประโยชน์ต่อหน้าข้า”
ซูฉินส่ายศีรษะเล็กน้อย
เว้นแต่สายฟ้าสวรรค์เก้าชั้นฟ้าที่แท้จริงสิ่งอื่นไม่สามารถทําร้ายเขาได้
ห้าหมัดสายฟ้าเทพเจ้าไม่เพียงทําให้ซูฉินมีการโจมตีที่ทรงพลังเท่านั้น แต่ยังมอบ ‘ภูมิคุ้มกันให้กับเขาในระดับหนึ่งด้วย
แต่ถึงจะมีภูมิคุ้มกันสูงเพียงใด หากเป็นสายฟ้าจากสวรรค์เก้าชั้นฟ้าในตํานานแม้ร่างกายของซูฉินที่ฝึกฝนห้าหมัดสายฟ้าเทพเจ้าก็ไม่อาจต้านทานมันได้อีกต่อไป
แต่สายฟ้าสวรรค์เก้าชั้นฟ้านั้นหายากเพียงใด?มีเพียงเซียนเทพปฐพี่ที่ก้าวเดินในวิถีแห่งสายฟ้าเท่านั้นที่จะหยิบยืมมันมาใช้ได้บ้าง
“เหลยสิ่ง…” บรรพชนนิกายเฮยหยวนซึ่งอยู่ห่างออกไปไม่ไกลมีใบหน้าที่บิดเบี้ยวน่าเกลียด
เมื่อครูบรรพบุรุษเหลยสิ่งยังคงให้คํามั่นและขอให้รอจนกว่าทะเลสายฟ้าจะหายไปแล้วจึงร่วมมือกันสังหารซูฉินอยู่เลยแต่เพียงเวลาสั้นๆกลับเกิดการเปลี่ยนแปลงจากหน้ามือเป็นหลังมือซูฉันไม่เพียงแต่ไม่ได้รับบาดเจ็บจากทะเลสายฟ้าแต่ยังกลับออกมาอย่างปลอดภัยและเข้าจับกุมบรรพบุรุษเหลยสิงในทันทีซึ่งน่ากลัวอย่างยิ่ง
เมื่อเทียบกับบรรพชนนิกายเฮยหยวนผู้เกรียงไกรตํานานยุทธทั้งหลายที่อยู่ห่างออกไปหลายสิบลี้ต่างตกตะลึง
ในสายตาของพวกเขาบรรพบุรุษเหลยสิ่งเปรียบประดุจเทพเซียน ทูตสายฟ้าในนามของสวรรค์มีพลังเพียงใด? แต่ในขณะนี้เทพเซียนผู้ยิ่งใหญ่ผู้นั้นกลับถูกจับกุมอยู่ในกํามือของซูฉินราวกับไก่ไม่สามารถเคลื่อนหนีไปไหนได้การเปลี่ยนแปลงที่รุนแรงเช่นนี้ทําให้ตํานานยุทธบางคนเกือบจะเกิดอาการธาตุไฟเข้าแทรก
“บรรพชน…”
ศิษย์นิกายเทพเจ้าสายฟ้าหลายคนเห็นว่าบรรพชนของตนกําลังอับอายขายหน้าใบหน้าของพวกเขาก็เต็มไปด้วยความเศร้าโศกแต่ไม่มีใครกล้าก้าวเข้าไปหยุด
ในสนามต่อสู้มีตํานานยุทธขั้นแปลงจิตวิญญาณแรกกําเนิดถึงสี่คนเพียงไอพลังอย่างเดียวก็พอแล้วที่จะยับยั้งการเคลื่อนไหวของตํานานยุทธขั้นสูงสุดธรรมดาๆ มิใช่หรือ?
“ข้าประเมินเจ้าต่ําไป”
ในเวลานี้ บรรพบุรุษเหลยสิ่งที่โดนซูฉินคว้าคอเอาไว้ก็สงบลงในทันที
แม้มือขวาของซูฉินจะกํารอบแค่ที่ลําคอเท่านั้นแต่พลังในการปราบปรามอันน่าสยดสยองก็ทําให้แก่นแท้แห่งพลังและจิตวิญญาณแรกกําเนิดของบรรพบุรุษเหลยสิ่งแทบจะหยุดนิ่ง
เหตุผลที่บรรพบุรุษเหลยสิ่งไม่ได้ทําสิ่งใดออกไป ทั้งที่บรรพชนผู้สง่าผ่าเผยเช่นมันถูกหยิบชู ขึ้นมาเยี่ยงนี้เท่ากับเป็นความอัปยศอย่างยิ่ง
เพราะบรรพบุรุษเหลยสิ่งทําอะไรไม่ได้ขณะนี้แก่นแท้แห่งพลังและจิตวิญญาณแรกกําเนิดได้ถูกระงับไว้เป็นเรื่องยากมากที่จะเคลื่อนไหว
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้”
“ก็ตายไปด้วยกันนี่แหละ”
บรรพบุรุษเหลยสิ่งรู้ตัวดีว่าไม่มีทางเลือกอื่นแล้วด้วยความแข็งแกร่งของซูฉินในปัจจุบันแม้จะไม่ได้แข็งแกร่งเท่ากับเซียนเทพปฐพีแต่คาดว่าคงจะไม่ห่างกันมากนักนอกจากนี้ร่างกายยังใกล้เข้าสู่กายแห่งธรรมชาติแล้วหากเขายังลากถ่วงต่อไปเขาอาจจะตายไปอย่างไร้โอกาสจะทําสิ่งใด
ช่วงเวลาต่อมา
บรรพบุรุษเหลยสิ่งก็ไม่ลังเลที่จะเผาผลาญพลังของตนเองและพลังก็พลันระเบิดกระจายออกมาทําให้หลุดพ้นจากการปราบปรามของซูฉินในทันที
“พันสายฟ้า! ฉุดกระชาก!”
ร่างของบรรพบุรุษเหลยสิ่งเริ่มพังทลาย และพลังสายฟ้าที่แสนน่ากลัวก็เริ่มมารวมตัวกันอย่างบ้าคลั่งท้องฟ้ามืดครึ้มไปหมด
ถ้าเคล็ดพันสายฟ้าเป็นเคล็ดวิชาลับของนิกายเทพเจ้าสายฟ้าพันสายฟ้าฉุดกระชากก็เป็นทักษะฆ่าฟันที่หวังจะตายไปพร้อมกัน
การใช้ร่างกายเป็นสื่อนําสายฟ้าทําให้ทัณฑ์สายฟ้าแกร่งกว่าเคล็ดพันสายฟ้านับสิบเท่า?
ครีน!
เห็นสายฟ้าอันไม่มีที่สุดสุดพลุ่งพล่านไปทั่วชั่วแวบเดียวรอบตัวซูฉินก็มีทะเลสายฟ้ารัศมีกว่าพันเมตรก่อตัวขึ้นพลังผันผวนต่อเนื่องกลิ่นอายทําลายล้างคละคลุ้งไปหมด
ทะเลสายฟ้านับพันเมตรที่ปรากฏขึ้นจากความว่างเปล่าเริ่มกดขี่สรรพชีวิตทั้งหมดท้องฟ้าสั่นสะเทือนอยู่เหนือฝูงชน
ซูว!
ก่อนที่ทะเลสายฟ้าพันเมตรจะก่อตัวขึ้นมาจิตวิญญาณแรกกําเนิดของบรรพบุรุษเหลยสิ่งที่กระโจนหนีออกมาได้ก็โล่งใจเล็กน้อย
หลังจากใช้พันสายฟ้าฉุดกระชากร่างกายจะถูกฉีกทําลายเป็นชิ้นๆด้วยพลังของสายฟ้าอันยิ่งใหญ่แต่จิตวิญญาณแรกกําเนิดมีโอกาสที่จะหลบหนีออกมาได้
บรรพบุรุษเหลยสิงโชคดีไม่น้อยที่รอดจากการละทิ้งร่างตนเองพุ่งหนีออกมาก่อนที่ทะเลสายฟ้าพันเมตรจะมาถึง
“สูญเสียร่างกายไป แม้จะหาร่างใหม่ได้แต่ก็ต้องใช้เวลาหลายสิบปีกว่าจะบุกยึดร่างได้…”
บรรพบุรุษเหลยสิงถอนหายใจแต่ก็พลันรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาในชั่วพริบตา
เมื่อเทียบกับการปราบซูฉินได้อย่างสมบูรณ์ตอนนี้ก็นับว่าดีมากอยู่อย่างน้อยก็ยังคงเหลือจิตวิญญาณแรกกําเนิดอยู่ตรงนี้
สําหรับตํานานยุทธขั้นสูงสุดที่แปลงจิตวิญญาณแรกกําเนิดได้ จิตวิญญาณแรกกําเนิดมีความสําคัญมากกว่า
“ข้าได้ยินมาเนิ่นนานแล้วว่าพันสายฟ้าฉุดกระชากของนิกายเทพเจ้าสายฟ้าเป็นท่าสังหารที่น่าพรั่นพรึงและตอนนี้มันสมกับชื่อเสียงที่ได้รับมาจ ริงๆ” ห่างออกไปบรรพชนนิกายเฮยหยวนมองไป ยังทะเลสายฟ้าพันเมตรที่ผันผวนอยู่ด้วยความรู้สึกตกใจบนใบหน้า
“ถ้าไม่ใช่ทางเลือกสุดท้าย ข้าจะงัดกระบวนท่านี้ออกมาใช้ได้อย่างไร?” บรรพบุรุษเหลยสิงส่ายศีรษะกล่าวคําด้วยอารมณ์ความรู้สึก
พันสายฟ้าฉุดกระชากคือทักษะสังหารที่ต้องละทิ้งกายเนื้อถ้าไม่ใช่เพื่อหลบหนี ก็ไม่มีใครจะเต็มใจจะใช้
ท้ายที่สุดการสังหารศัตรูได้เช่นนี้ก็เทียบได้กับรับประโยชน์หนึ่งพันแต้มแต่ต้องสูญเสียไปแปดร้อย
แม้ว่าจะสังหารศัตรูได้? แต่ร่างกายก็ยังต้องแตกสลายอยู่ภายใต้พลังสายฟ้าอันยิ่งใหญ่มิใช่หรือ?
“มิผิด”
บรรพชนนิกายเฮยหยวนเห็นด้วยอย่างยิ่ง
ซูฉินแข็งแกร่งเกินไปจริงๆ ไม่เพียงแต่กายเนื้อที่ก้าวเข้าสู่ขอบเขตกายแห่งธรรมชาติแล้วเท่านั้นปราณเลือดยังสูงเสียดฟ้าเคล็ดวิชามากมายที่เขาเชี่ยวชาญก็น่าที่งยิ่งกว่าสามารถสลายจิตวิญญาณแรกกําเนิดของบรรพชนตําหนักเทพเจ้าหิมะได้ด้วยฝ่ามือเดียวเป็นความสามารถที่น่าตกใจโดยแท้จริง
“นี่คือ นี่คือพันสายฟ้าฉุดกระชากของนิกายเทพเจ้าสายฟ้า….” ห่างออกไปหลายสิบลตํานานยุทธจํานวนมากเห็นการก่อตัวของทะเลสายฟ้าอย่างรวดเร็วจนถึงพันเมตรพวกเขากลืนน้ําลายดังเอื้อกน้ำเสียงที่เปล่งออกมาสั่นเทา
“พันสายฟ้าฉุดกระชากนี่แข็งแกร่งมากไหม?”ตํานานยุทธที่มีประสบการณ์ค่อนข้างน้อยถามออกอย่างระมัดระวัง
“แข็งแกร่งมากไหม?” ตํานานยุทธอีกคนหนึ่งเย้ยหยัน“สองพันปีก่อนมีเซียนเทพปฐพี่ไปเยือนนิกายเทพเจ้าสายฟ้า”
“ด้วยเหตุนี้ บรรพชนนิกายเทพเจ้าสายฟ้าสิบคนจึงตื่นขึ้นมาร่วมมือกันใช้พันสายฟ้าฉุดกระชากจนเกิดทะเลสายฟ้ากว้างไกลหลายพันเมตรบังคับให้เซียนเทพปฐพี่ต้องถอยหนีไป”
“แม้แต่เซียนเทพปฐพี่ยังถูกบังคับให้ล่าถอยเจ้าคิดว่าพันสายฟ้าฉุดกระชากนี้แข็งแกร่งหรือไม่เล่า?”
คําที่กล่าวออกมา
ผู้เฝ้าดูต่างตกใจ
ในสายตาของทุกคน เซียนเทพปฐพี่นั้นไว้เทียมทานและการบังคับให้เซียนเทพปฐพี่ต้องถอยหนีไปได้ก็เพียงพอแล้วที่จะแสดงให้เห็นถึงพลังของพันสายฟ้าฉุดกระชากที่สามารถเขย่าโลกหล้า
“นายท่านกําลังตกอยู่ในอันตรายเสียแล้ว”
ชายชราเฟยย ดูเคร่งเครียด เขาเองก็เคยได้ยินเรื่องที่นิกายเทพเจ้าสายฟ้าใช้พันสายฟ้าฉุดกระชากเพื่อบังคับให้เซียนเทพปฐพีถอยหนีไป
แม้จะเป็นการลงมือร่วมกันของบรรพชนสิบคนทําให้รัศมีพลังกว้างไกลหลายพันเมตรมากกว่าพลังจากบรรพบุรุษเหลยสิ่งเพียงคนเดียวที่สร้าง ทะเลสายฟ้าได้เพียงพันเมตร
แต่ซูฉินก็ไม่ใช่เซียนเทพปฐพี่เช่นกัน
ด้วยกระบวนท่าไม้ตายที่หยิบยืมพลังจากสวรรค์นี้เป็นเรื่องยากที่จะบอกว่าซูฉินสามารถรอดได้หรือไม่
แม้ซูฉินจะรอดชีวิตจากทะเลสายฟ้ารัศมีพันเมตรนี้แต่บรรพชนนิกายเฮยหยวนก็จับจ้องโอกาสที่อยู่เบื้องหน้านี้ตลอด…..
หวิ่ง!!!
ขณะที่ทะเลสายฟ้านับพันเมตรยังคงผันผวนไม่หยุดรัศมีการทําลายล้างก็แผ่ขยายออกไปอย่างรวดเร็ว
“คงจะตายแล้วใช่หรือไม่?”
บรรพบุรุษเหลยสิ่งและบรรพชนนิกายเฮยหยวนจ้องเขม็งไปที่ทะเลสายฟ้ารัศมีพันเมตร
แม้ว่าทั้งคู่จะมั่นใจในพันสายฟ้าฉุดกระชากแต่ความแข็งแกร่งของซูฉินนั้นน่ากลัวเกินไปไม่ว่าจะเป็นบรรพบุรุษเหลยสิ่งหรือบรรพชนนิกายเฮยหยวนต่างก็มีร่องรอยความกังวลอยู่ในใจ
เพื่อใช้ทักษะฆ่าตัวตายนี้บรรพบุรุษเหลยสิงถึงกับต้องยอมเสียร่างกายไป หากยังไม่สามารถจัดการกับซูฉินได้อีกพวกเขาก็ไม่รู้จะทําอย่างไรแล้วจริงๆ
ในตอนนั้นเอง
ทะเลสายฟ้าพันเมตรเริ่มสั่นคลอนและบิดเบี้ยว
เข้าสู่ระบบ ‘ฝ่ามือยูไล’ [Sign in Buddha’s palm]

เข้าสู่ระบบ ‘ฝ่ามือยูไล’ [Sign in Buddha’s palm]

Status: Ongoing

Sign in Buddha’s palm

เข้าสู่ระบบฝ่ามือยูไล

ซูฉินเที่ยวท่องไปในยุทธภพอันกว้างใหญ่ เป็นโลกที่ชาวยุทธเตร็ดเตร่อาละวาดไปทั่ว เป็นสถานที่ที่หยวนกั๋วชีอยู่เหนือใต้หล้า เป็นที่ที่ผู้สืบทอดหมัดเก้าตะวันออกหาประสบการณ์ต่อสู้ไปตามแนวสายธารอันทอดยาวและภูเขาอันสูงชัน ทั้งยังมีเซี่ยวหลี่ที่ขี่กระบี่โบยบินสู่ความเวิ้งว้างว่างเปล่า

เนื่องจากซูฉินไม่มีพรสวรรค์ด้านวิชายุทธ เขาจึงเป็นได้เพียงพระกวาดลานแห่งตำหนักลานจิปาถะ

ในเวลานั้นเอง ระบบแห่งการลงชื่อเข้าใช้ก็ถูกกระตุ้นเปิดออก!

ลงชื่อเข้าใช้ที่หน้าพระประธานสีทองอร่าม ได้รับ [ฝ่ามือยูไล]

ลงชื่อเข้าใช้ที่หน้าลานสงฆ์ ได้รับ [กายแกร่งวัชระ]

ลงชื่อเข้าใช้ที่ภูเขาหลังวัด ได้รับ [กายาโพธิสัตว์ปีศาจทองคำ]

สมบัติแทบจะแทรกอยู่ทุกหย่อมหญ้าในวัดเส้าหลินให้ได้ลงชื่อรับของรางวัลมา ซูฉินไม่คิดลงจากภูเขาอันเป็นที่ตั้งของวัดเส้าหลินไปที่ไหนแน่ถ้ายังไม่ได้ลงชื่อรับของ และตัวเขาก็ลงชื่อรับของอยู่แบบนั้นมาตลอดยี่สิบปี

ยี่สิบปีผ่านไป เส้าหลินเข้าไปพัวพันกับการต่อสู้ระหว่างธรรมะและอธรรม เหล่ามารเข้าโจมตีวัดเส้าหลินอย่างมิเกรงฟ้าดิน มาทั่วทุกสารทิศมุ่งเข้าสู่ศาลาพระคัมภีร์ อย่างดุร้าย! และทรงพลัง!

จนกระทั่งพวกมันเจอเข้ากับศิษย์วัดนามซูฉินกำลังกวาดลาน…

แปลจากงานเขียนเรื่อง Sign in Buddha’s palm ผู้แต่ง : หุยเต้าหยวนชู

ปล.เนื้อหาภายในเป็นเพียงจินตนาการของผู้เขียน ผู้แปลเพียงนำเสนอผลงานในรูปแบบที่เข้าใจง่ายขึ้นเท่านั้น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท