ตอนที่ 35 ปีศาจจิ้งจอก
ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด.. ครั้งนี้ฉินเสี่ยวยู่กลับไม่รู้สึกหงุดหงิดรำคาญที่ได้ยินเสียงของจางผิง!
หลินหนานหันหลังกลับไปดู และเมื่อพบว่าเป็นจางผิงเขาก็รู้สึกดีใจขึ้นมาอย่างมาก!
หมอนี่ควรจะต้องกลับมาจ่ายค่าอาหารและค่าเหล้าถึงจะถูก!
ไม่รู้ว่าจางผิงใช้เวทย์มนตร์อะไรในการง้องอนอ้ายเฉวี่ย เธอและเขาจึงได้เดินโอบไหล่กันกลับมาอย่างหวานชื่นรวดเร็วเช่นนี้
เชอะ.. ผู้ชายห่วยแตกก็คู่ควรกับผู้หญิงห่วยแตก!
แต่ช่างเถอะ!! ขอแค่หมอนี่ยอมจ่ายเงินคืนฉันก็พอแล้ว!
“คุณหลิน.. พวกคุณสองคนจะไปต่อกันที่ไหนล่ะ?” จางผิงร้องถามขึ้นทันที
“ผมเพิ่งจะกินข้าวเสร็จ และนี่ก็กำลังจะแยกย้ายกันกลับบ้าน แล้วนี่คุณกลับมาที่…”
แต่ก่อนที่หลินหนานจะทันพูดจบประโยค จางผิงก็รีบพูดแทรกขึ้นมาเสียก่อน
“จะรีบกลับไปไหนกัน! อาหารยังไม่ทันจะย่อยเลย เอางี้ดีกว่า.. ผมจะพาคุณไปหาอะไรสนุกๆทำ!” จางผิงบอกกับหลินหนานอย่างมีลับลมคมนัย
หลินหนานไม่ได้สนใจอยากจะไปที่ไหน และสำหรับเขาแล้ว ไม่มีที่ไหนที่จะทำให้เขานึกสนุกได้!
เวลานี้ สิ่งที่น่าสนใจสำหรับเขามากที่สุดคือเงิน เขากำลังต้องการเงิน!
ช่วยไม่ได้.. ฉันกำลังร้อนเงินนี่นา!
ทางที่ดีแกคืนเงินค่าอาหารกับค่าเหล้าฉันมาจะดีกว่า..
“ผมจะพาคุณไปโกลเดนพาเลซ อยู่ตรงข้ามนี่เอง! ผมจะพาคุณไปเปิดหูเปิดตา แล้วก็เปิดโลก!”
หลินหนานได้แต่คิดในใจว่า..
หมอนี่มัวแต่พล่ามอะไรกัน! ทำไมถึงไม่พูดเสียทีว่าจะคืนเงินค่าอาหารให้ฉัน? นั่นต่างหากที่ฉันต้องการได้ยิน..
ฉันเห็นโลกมามากพอแล้ว นายไม่จำเป็นต้องพาฉันไปเปิดโลกอีกก็ได้!
“ไม่ล่ะ.. ฉันไม่สนใจ!” หลินหนานยกมือขึ้นโบกไปมา
จางผิงคิดไม่ถึงว่าหลินหนานจะปฏิเสธง่ายดาย และรวดเร็วเช่นนี้ จึงได้แต่นิ่งอึ้งไป..
ถ้าแกไม่ไป ฉันจะเอาคืนแกได้ยังไงกันล่ะ?
ไม่.. ฉันจะต้องลากตัวแกไปด้วยให้ได้!
“นี่คุณหลิน.. อย่ารีบปฏิเสธนัก คุณรู้มั๊ยว่าโกลเดนพาเลซเป็นสถานที่แบบไหน? ที่นั่นเป็นสถานที่แสดงโชว์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเจียงไฮวเชียวนะ ถ้าไม่มีเงินจริง ไม่มีทางได้เข้าไปแน่!” จางผิงรีบอธิบายทันที
“แล้วพวกเราจะเข้าไปที่นั่นได้ยังไง?” หลินหนานถามกลับไปทันที
จางผิงรีบตอบกลับไปทันที “ไม่ต้องห่วง ผมมีญาติทำงานที่นั่น เขามีบัตรที่ให้พวกเราเข้าไปได้..”
“อ่อ.. ที่แท้ก็อาศัยเส้นสายภายในครอบครัว” หลินหนานเข้าใจได้ทันที
“เสียใจด้วย.. ผมไม่สนใจอยู่ดี!” หลินหนานตอบกลับพร้อมกับยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจ
จางผิงได้แต่คิดในใจว่า.. ‘นี่แกคงรู้ตัวว่าฉันพาแกไปทำให้อับอายสิท่า? แต่ต่อให้ต้องอุ้มแกไป ฉันก็จะทำ!’
“น่าเสียดายแย่เลย.. ผมได้ยินมาว่าที่โกลเดนพาเลซมีโชว์ต่อสู้กันในกรง แล้วก็ให้คนดูเดิมพันผลแพ้ชนะ แต่ไม่เป็นไร คนปกติทั่วไปที่ไม่กล้าพอ ก็คงยากที่จะไปดูการต่อสู้ที่โหดเหี้ยมแบบนี้ได้ ผมเข้าใจ..” จางผิงจงใจทิ้งไพ่ไม้ตายของตนเองออกไป
“ต่อสู้ในกรง?” แววตาของหลินหนานเป็นประกายขึ้นมาทันที
“ใช่แล้ว! คล้ายๆกับพวกมวยใต้ดินในประเทศไทย จะเป็นการต่อสู้ที่ไร้กฏกติกาจนกว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะแพ้ยังไงล่ะ ผมได้ยินจากญาติที่ทำงานอยู่ด้านในว่า บางครั้งก็สู้กันถึงตายเชียวนะ!”
จางผิงทำเสียงกระซิบเบาเพื่อให้สิ่งที่จะพูดต่อไปดูลึกลับมากขึ้น “เท่าที่ฉันรู้มากนะ เจ้าของโกลเดนพาเลซนี่มีเบื้องหลังที่ลึกลับมากด้วย..”
หลินหนานไม่ได้สนใจเรื่องเจ้าของโกลเดนพาเลซเลยแม้แต่น้อย แต่เขาสนใจคำว่า ‘เดิมพัน’ ต่างหาก..
หากมีการเดิมพันเกิดขึ้น ก็ย่อมมีหนทางที่จะทำเงินได้มากมาย..
แม้หลินหนานจะได้เงินรางวัลมาถึงหนึ่งแสนสองหมื่นหยวนแล้ว แต่นั่นก็เป็นเพียงแค่หยดน้ำในถังเท่านั้น หากเปรียบเทียบกับราคาสมุนไพรที่แพงลิบลิ่วสำหรับใช้ในการบ่มเพาะพลัง
ดังนั้น.. ยิ่งเขาหาเงินได้มากมายเท่าไหร่ ก็จะยิ่งเป็นผลดีต่อตนเองมากขึ้นเท่านั้น แล้วเช่นนี้ใครจะปฏิเสธได้ลงคออีกเล่า?
สำหรับเรื่องการเดิมพันนั้น ตั้งแต่ที่หลินหนานเข้ามาเป็นทหารรับจ้าง มีวันไหนบ้างที่เขาหนีพ้นคำว่าเดิมพัน?
“ตกลง! ผมจะไปกับคุณ..” หลินหนานตอบตกลงทันที
จางผิงถึงกับนิ่งอึ้งไปด้วยความตกใจ เพราะจู่ๆหลินหนานกลับตกลงใจที่จะไปด้วยง่ายๆเช่นนี้ เขายังคิดว่าคงจะต้องเกลี้ยกล่อมหลินหนานอีกสักพักใหญ่ทีเดียว
หมอนี่คงกำลังคิดทำอะไรไม่ดีอยู่แน่!
ฉินเสี่ยวยู่รู้สึกสงสัย คิ้วของเธอขมวดเข้าหากันเล็กน้อยในขณะที่เอ่ยถามหลินหนาน “หลินหนาน.. นี่นายจะไปจริงๆเหรอ?”
ฉินเสี่ยวยู่ไม่อยากให้หลินหนานเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับจางผิงมากนัก เธอรู้สึกมาตลอดว่า จางผิงไม่ใช่คนดีอะไรนัก หลังจากเลิกรากันไปหลายปี กลับมาพบเจอกันอีกครั้งคราวนี้ ก็ยิ่งทำให้ฉินเสี่ยวยู่มั่นใจในสัญชาติญาณของตนเองมากขึ้น
เมื่อครู่จางผิงเพิ่งจะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ให้กับหลินนาน และเสียหน้าไปมาก มีหรือที่จู่ๆจะหวังดีมาชวนหลินหนานไปเที่ยวด้วยความบริสุทธิ์ใจ
เธอไม่เชื่ออย่างเด็ดขาดว่าจางผิงจะไม่มีอะไรอยู่เบื้องหลัง!
“อืมม.. ผมอยากจะไป!”
หลินหนานพยักหน้าและอธิบายต่อว่า “ผมไปเพื่อเงิน..”
“ได้! ถ้านายอยากจะไป ฉันก็จะไปกับนายด้วย” ฉินเสี่ยวยู่ตัดสินใจตอบออกไป
อย่างน้อยมีหลินหนานอยู่ข้างกายเช่นนี้ เธอก็รู้สึกโล่งใจไปมาก..
จางผิงได้แต่นึกเย้ยหยันอยู่ในใจ เพราะทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่เขาได้วางเอาไว้อย่างสมบูรณ์แบบ!
เป็นเพราะเธอกับไอ้หมอนี่.. ทำให้ฉันต้องเสียหน้า!
ไปถึงโกลเดนพาเลซเมื่อไหร่ ฉันจะทำให้เธอกับไอ้หมอนี่ได้อับอายอย่างที่สุด แล้วฉัน – จางผิง จะได้กู้หน้าตัวเองกลับมาคืนเป็นสิบเท่าร้อยเท่า!
จางผิงต้องอดกลั้นอาการลิงโลดดีใจที่จะได้แก้แค้นเอาไว้ภายใน และรีบเดินนำคนทั้งคู่ข้ามถนนไปอีกฝั่งทันที
โกลเดนพาเลซนั้นอยู่ตรงข้ามกับร้านอาหารที่พวกเขาเพิ่งไปนั่งกินข้าว และตัวอักษรป้ายนีออนสว่างไสวนั้นก็โดดเด่น และดึงดูดสายตาผู้ที่ได้พบเห็นอย่างมาก
ระหว่างทางที่ข้ามถนนไปนั้น ฉินเสี่ยวยู่ก็ได้กระซิบบอกกับหลินหนานว่า “หลินหนาน นายต้องระวังตัวให้ดี จางผิงต้องมีเจตนาไม่ดีซ่อนอยู่แน่!”
“เรื่องนั้นผมรู้!” หลินหนานกระซิบตอบพร้อมกับพยักหน้า
“นี่นายก็รู้งั้นเหรอ?!!” ฉินเสี่ยวยู่ตาโตด้วยความตกใจ
“แน่นอน! เพราะถ้าผมเป็นฝ่ายแพ้ยับเยินขนาดนั้น ผมก็ต้องหาทางเอาคืนเหมือนกัน แล้วก็ต้องเอาคืนให้หนักกว่าเดิมด้วย!” หลินหนานตอบกลับยิ้มๆ
“ก็ถ้านายรู้แบบนั้นแล้ว ทำไมนายถึงยังตามจางผิงมาอีกล่ะ..” ฉินเสี่ยวยู่ถามกลับไปด้วยความงุนงงสงสัย
“อยากได้ลูกเสือ ก็ต้องเข้าถ้ำเสือสิ!” หลินหนานตอบกลับไปสั้นๆ
“อืมม.. ก็จริง!” ฉินเสี่ยวยู่พยักหน้าเห็นด้วย แต่ถึงอย่างนั้นเธอเองก็ยังคงรู้สึกกังวลใจอยู่ดี
หลังจากที่ได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันหนึ่งวันแบบนี้ ฉินเสี่ยวยู่ก็ค่อยๆได้เรียนรู้ และทำความเข้าใจอุปนิสัยเบื้องต้นของหลินหนาน
หมอนี่อาจดูเป็นผู้ชายกะล่อน แต่หลายๆครั้งก็ทำสิ่งดีๆ และมีวิธีจัดการกับเรื่องต่างๆได้ไม่เลวทีเดียว!
นอกจากจะไม่หยิบเงินที่ไม่ใช่ของตนเองตอนไปทวงหนี้แล้ว ยังช่วยรักษาคุณตาที่หมดสตินั่นด้วย!
และเพียงแค่สองเรื่องนี้ ก็สามารถพิสูจน์แล้วว่า หลินหนานนอกจากจะเป็นคนมีความสามารถแล้ว เขายังมีจิตใจที่ดีอีกด้วย!
ด้วยเหตุนี้ ฉินเสี่ยวยู่จึงเริ่มที่จะเชื่อมั่นในตัวหลินหนาน!
………
ด้านหน้าโกลเดนพาเลซนั้น มีรถหรูจอดเรียงรายอยู่มากมาย..
ทั้งมาเซราติ แลมโบกินี เฟอรารี่ มายบัค และถูกลงมาหน่อยก็เป็น เมอร์เซเดส–เบนซ์ รุ่นเอสคลาส แล้วก็รถราคาหลักล้านขึ้นไป..
แต่ละคนที่ก้าวลงมาจากรถนั้น ล้วนแล้วแต่เป็นหนุ่มหล่อสาวสวยที่แต่งกายด้วยเสื้อผ้า และรองเท้าซึ่งบ่งบอกความเป็นชนชั้นสูงของตนเอง
ระหว่างทางที่เดินเข้าไปนั้น จางผิงก็ได้บอกเล่าเรื่องของเจ้าของรถหรูแต่ละคันให้หลินหนานฟังอย่างเพลิดเพลิน
เอี๊ยด!!
รถยี่ห้อ Roll-Royce แล่นเข้ามาจอดอยู่หน้าประตูทางเข้าโกลเดนพาเลซ แม้รถยี่ห้อนี้จะไม่หรูหราเท่ากับเฟอรารี่และแลมโบกินี แต่ป้ายทะเบียนที่มีเลข 8 ถึงห้าตัวนั้น ก็เป็นที่ดึงดูดสายตาของผู้พบเห็นอย่างมาก
และเมื่อรถจอด ชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาก็เปิดประตูก้าวเดินลงมาจากรถ ตามมาด้วยหญิงสาวรูปร่างสง่างามในชุดกระโปรงเดรสสีแดง
ในยามที่หญิงสาวเยื้องย่างลงมาจากรถนั้น ความสวยที่โดดเด่นประหนึ่งดอกกุหลาบสีแดงบานสะพรั่ง ก็ได้ดึงดูดสายตาของผู้คนที่พบเห็น
ผมสีดำดั่งไหมที่ถูกม้วนไว้เป็นลอนนั้นปล่อยสยายประบ่า คิ้วโก่งโค้งเข้ากันได้ดีกับดวงตาทั้งสอง และริมฝีปากสีแดงเข้ม เนินอกสีขาวกว่าครึ่งที่เผยออกมานั้นช่างนวลเนียน และผุดผ่องนัก
เอวของหญิงสาวคอดเข้าหากัน เรียวขางดงามนวลผ่องนั้น คลุมไว้ด้วยเดรสสั้นสีแดง..
คำแรกที่หญิงสาวคนนี้ควรจะได้รับคือ.. สวย!
คำที่สองคือ.. สวยมาก!
และคำสุดท้ายคือ.. สวยที่สุด!
หญิงสาวคนนี้นอกจากจะสวยงามแล้ว ยังมีเสน่ห์เย้ายวนอย่างมากด้วย สามารถดึงดูดผู้คนให้สนใจได้โดยที่ไม่ต้องทำอะไร..
แต่ในใจของหลินหนานนั้นมีเพียงคำพูดเดียวเท่านั้น..
นางปีศาจจิ้งจอก!