ตอนที่ 55 ปีศาจจิ้งจอกในโลกปัจจุบัน
“เงินตั้งหนึ่งล้วนกว่าหยวน อาจจะซื้อสมุนไพรชั้นเยี่ยมไม่ได้ แต่ก็มากพอที่จะซื้อหาสมุนไพรสำหรับการฝึกกำลังภายในได้..”
หลินหนานพึมพำกับตัวเองในขณะที่เดินออกมาจากโกลเดนพาเลซ แต่หลังจากนั้นเพียงไม่กี่ก้าว จู่ๆ ก็มีคนมาล้อมเขาไว้
หลินหนานได้แต่ยิ้มออกมา และคิดอยู่ในใจว่า ถ้าจางผิงกับพวกไม่กลับมาเอาคืนต่างหาก จึงจะเป็นเรื่องน่าแปลก..
“มีเรื่องอะไรอีกล่ะ? พวกแกคงจะรอฉันอยู่นานมากแล้วสินะ?” หลินหนานถามข้นด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ
“รอนานหน่อยจะเป็นอะไรไป ขอแค่พวกฉันได้ยำแกให้ตายคาตีนก็สบายใจแล้ว!” หมาป่าตอบกลับยิ้มๆ
“โอ้!! ดูท่าพวกแกคงจะเตรียมการมาอย่างดีสินะ?” หลินหนานหัวเราะร่วน
“แน่นอน! จะมาแก้แค้นคนอย่างแกทั้งที ฉันก็ต้องเตรียมตัวมาอย่างดีอยู่แล้ว!” หมาป่าพยักหน้ายอมรับ
จากนั้น หมาป่าก็ยกนิ้วขึ้นใส่เข้าไปในปากของตนเอง พร้อมกับเป่าออกมาเป็นเสียงเรียกส่งสัญญาณให้กับลูกน้องทันที
หลังจากเสียงผิวปากดังขึ้น ชายฉกรรจ์หลายคนที่ซ่อนตัวอยู่ตามจุดต่างๆในที่จอดรถ ไม่ว่าจะเป็นข้างทาง หรือว่ากระถางดอกไม้ ต่างก็พากันเดินออกมาเต็มไปหมด
แต่ละคนต่างก็ถือท่อนเหล็กบ้าง ไม้เบสบอลบ้าง และบางคนก็ถึงกับชักมีดออกมา..
เวลานี้ชายฉกรรจ์หลายสิบคนกำลังล้อมหลินหนานไว้อย่างหนาแน่น หมาป่ามั่นใจว่าหลินหนานจะไม่มีทางรอดกลับไปได้แน่
“นี่นายเรียกพรรคพวกมามากขนาดนี้เลยเรอะ?” หลินหนานถามขึ้น
“ใช่! ทุกคนล้วนเป็นลูกน้องของฉันเอง ทำไม? แกคงคิดไม่ถึงสินะว่าฉันจะสามารถเรียกพรรคพวกมาได้รวดเร็ว แล้วก็มากมายขนาดนี้?” หมาป่าหรี่ตาลงเล็กน้อย พร้อมกับร้องบอกหลินหนานด้วยสีหน้าภาคภูมิใจ
“เฮ้อ.. ดูท่าฉันคงให้บทเรียนกับแกน้อยไปสินะ! แกถึงไม่ได้เรียนรู้อะไรเลย..” หลินหนานพึมพำออกมาพร้อมกับส่ายหน้า
หมาป่าถึงกับหน้าเปลี่ยนไปทันที พร้อมกับร้องตะโกนถามอย่างไม่เข้าใจ “แกพูดแบบนี้หมายความว่ายังไง?”
“ก็ไม่ได้หมายความว่าอะไรมากไปกว่า..”
หลินหนานยักไหล่อย่างไม่หวั่นเกรง และพูดต่อทันที “ต่อให้แกจะพาพรรคพวกมามากแค่ไหน ผลลัพธ์ก็ไม่ต่างกัน..”
เมื่อได้ยินคำพูดของหลินหนาน หมาป่าและลูกน้องคนสนิททั้งสอง ต่างก็หันไปมองหน้ากันทันที ก่อนจะระเบิดเสียงหัวเราะออกมาดังลั่น
“ฉันว่าแกบ้าไปแล้ว! แกต้องเป็นบ้าแน่ๆ นี่แกคิดว่าตนเองเป็นซุปเปอร์ฮีโร่ หรือว่าเป็นพระเอกหนังบู๊หรือยังไง? แกคนเดียวจะสู้กับคนตั้งหลายสิบคนได้ยังไง?” หมาป่าพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน
“ถ้าไม่เชื่อก็ลองดูได้”
หลินหนานเบ้ปากตอบอย่างไม่ยี่หระ เพียงแต่คนมากขนาดนี้คงต้องใช้เวลาในการจัดการนานหน่อย แต่ก็ไม่เป็นไร เพราะก่อนหน้านี้ที่อยู่ในห้อง เหวินลี่ก็ปรนเปรออาหารให้กับเขาจนอิ่มแปล้
“นี่!! ฉันว่าแกรีบๆยอมแพ้จะดีกว่า อย่าแกล้งทำเป็นเก่งต่ออีกเลยน่า!”
จางผิงยืนโอบเอวแฟนสาวไว้ พร้อมกับแนะนำหลินหนานต่อ “พี่หมาป่าบอกกับฉันว่า ถ้าแกยอมคุกเข่าโขกศรีษะเรียกพวกเราว่าพ่อ ก็จะยอมปล่อยแกไป!”
“อืมม.. ก็ฟังดูมีเหตุผลดีนี่” หลินหนานตอบกลับไปพร้อมกับพยักหน้าเห็นด้วย
จางผิงถึงกับทำหน้างุนงง..
อะไรกัน?!
หมอนี่โอหังจะตาย ทำไมถึงได้ยอมรับข้อเสนอง่ายๆแบบนี้?
มันดูอ่อนข้อง่ายเกินไป!
แต่เมื่อเห็นคนจำนวนมากที่ล้อมหลินหนานอยู่ จางผิงจึงค่อยรู้สึกโล่งใจ และได้แต่คิดว่า ไม่แปลกที่หลินหนานจะยอมง่ายๆเช่นนี้ เพราะต่อให้เขาจะเก่งสักแค่ไหน ก็คงไม่อาจรับมือกับกำปั้นนับร้อยได้ทันแน่!
นับว่าหมอนี่รู้จักประเมินตัวเองได้ดีพอควร!
“เอาล่ะ.. ถ้าอย่างนั้นพวกแกก็คุกเข่าโขกศรีษะเรียกฉันว่าพ่อได้แล้ว แล้วฉันจะยอมปล่อยพวกแกไป!” หลินหนานตอบกลับไปด้วยสีหน้าจริงจัง และแสดงออกชัดเจนว่าเขาไม่ได้ล้อเล่น
“นี่แก!! แกรนหาที่ตายเองนะ!!” จางผิงได้ยินคำตอบของหลินหนาน ก็ถึงกับระเบิดอารมณ์ออกมาทันที
“ปากดีนัก! เดี๋ยวฉันจะจัดการเลาะฟันของแกออกมาเอง!” หมาป่าร้องตะโกนออกมาด้วยน้ำเสียงที่ดุดันยิ่งกว่าเดิม
“คนจองหองอย่างมัน ถ้าไม่โดนซะบ้าง คงจะไม่รู้ฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ!”
“พี่หมาป่า ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของฉันจัดการเอง!”
สิ้นเสียงร้องตะโกนออกมา ชายฉกรรจ์คนหนึ่งก็ก้าวเดินกะเผลกออกมาพร้อมกับใบหน้าที่บวมเปล่ง และจุดเด่นของคนผู้นี้ก็คือศรีษะที่โล้นเป็นมันเงา ภายใต้ท้องฟ้าในยามค่ำคืน ยังเปล่งประกายวาววับราวกับหลอดไฟนับร้อยวัตต์
และเมื่อได้เห็นชายผู้นั้น หลินหนานถึงกับหัวเราะออกมาเสียงดัง!
โลกกลมชะมัด!! ฉันเพิ่งจะเจอกับหมอนี่เมื่อเช้า!
“หัวโล้น.. แกมาทันเวลาพอดี!” หมาป่าร้องตะโกนตอบด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
“พี่หมาป่า นี่ถ้าไม่ใช่เพราะไอ้เวรนั่นซัดฉันจนน่วมเมื่อเช้า หลังจากที่พี่โทรไปบอก ฉันคงมาถึงที่นี่ได้เร็วกว่านี้” ชายหัวโล้นร้องตะโกนตอบกลับไป
แม้จะอยู่ในสภาพย่ำแย่ทุลักทุเล แต่หัวโล้นก็ยังถือท่อเหล็กไว้ในมือ และพยายามที่จะวางท่าให้ดูน่าเกรงขาม แต่ด้วยบาดแผลตามตัวและบนใบหน้า ทำให้มันดูน่าขบขันเสียมากกว่า!
“ตั้งใจฟังฉันให้ดี! ถ้าแกกล้ามีเรื่องกับพี่หมาป่า พี่หมาใหญ่ แล้วก็พี่เสือดาว ก็เท่ากับว่าแกมีเรื่องกับฉันด้วย และถ้าแกมีเรื่องกับฉันฉายาหัวโล้น ก็เท่ากับแกรนหาที่ตาย!”
ชายหัวโล้นตวัดท่อนเหล็กในมือไปมาด้วยท่าทางดุดัน พร้อมกับร้องตะโกนถามด้วยสีหน้าท่าทางขึงขัง
“ใคร? ใครกันที่มันไม่เกรงกลัวนรก?!”
“ฉันเอง!” หลินหนานร้องตะโกนตอบกลับไป
หัวโล้นหรี่ดวงตาปูดบวมของมันมองออกไปด้านหน้า และในที่สุดก็เห็นหน้าชายหนุ่มที่ยืนอยู่ตรงข้ามได้อย่างชัดเจน
ขนทั่วทั้งร่างของมันถึงกับลุกชัน ร่างกายเย็นเฉียบขึ้นมาทันที!
ฉิบหายแล้ว! เป็นมันได้ยังไง? ทำไมฉันถึงได้ซวยซับซวยซ้อนมาเจอมันที่นี่อีก?
“แกมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงกัน?” หัวโล้นร้องตะโกนถามออกมาอย่างลืมตัว
“ฉันก็มาเล่นสนุกกับลูกพี่สวนสัตว์ของแกน่ะสิ! อ้อ.. แล้วก็คนอื่นๆด้วย!” หลินหนานยกมือขึ้นชี้ไปรอบๆ และตอบกลับไปทันที
ชายหัวโล้นถึงกับเหงื่อแตกท่วมตัว และเวลานี้ มันก็แทบอยากจะตัดลิ้นตัวเองทิ้ง หรือไม่ก็ยกมือขึ้นตบหน้าตัวเองแทน!
ถ้าฉันรู้ว่าเป็นหมอนี่ตั้งแต่แรก ฉันจะไม่แน่!
ชายหัวโล้นยังจดจำความเจ็บปวดที่เกิดจากกระดูกหักเมื่อเช้าได้เป็นอย่างดี และเพียงแค่นึกถึง เขาก็ถึงกับขนลุกไปทั่วทั้งร่าง และเจ็บจี๊ดไปทั่วทั้งตัวราวกับถูกมดรุมกัด
ชายหัวโล้นเริ่มสั่นสะท้านไปทั่วทั้งร่าง..
ทำยังไงดี?
ใครก็ได้บอกฉันทีว่าฉันควรทำยังไงดี?
มันเหลือบมองท่อนเหล็กในมือ และจู่ๆ ข้อไม้ข้อมือก็หมดเรี่ยวแรง ท่อนเหล็กร่วงหลุดจากมือกระแทกกับพื้นเสียงดังแกร๊ง..
มันอาศัยจังหวะนั้นแกล้งทำเป็นล้มลงกับพื้น และนอนดิ้นขดไปขดมาเหมือนงู พร้อมกับกรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด
“หัวโล้น.. นี่แกเป็นอะไรไป” หมาป่าร้องตะโกนถามออกมาด้วยสีหน้างุนงง คิ้วทั้งสองข้างขมวดเข้าหากัน
“พี่หมาป่า.. ฉันเจ็บแผลเก่า เจ็บ.. เจ็บมากๆ” หัวโล้นร้องคร่ำครวญออกมาอย่างน่าเวทนา
หัวโล้นไม่สามารถบอกหมาป่าไปตามตรงได้ว่า หลินหนานคือคนที่ทำร้ายเขาจนตกอยู่ในสภาพนี้ ในขณะที่หมาป่าเองก็ได้แต่งุนงงสงสัย
ยังไม่ทันได้ลงมือ จู่ๆก็ลงไปนอนดิ้นกับพื้นแบบนี้ นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?
“ทุเรศสิ้นดี! ไร้ประโยชน์ชะมัด!”
หมาป่าร้องตะโกนดุด่าอย่างไม่นึกเห็นเห็นใจ “ตั้งนานไม่ปวด แต่กลับมาปวดตอนนี้นี่นะ?”
“มันปวดเพราะเห็นฉันเข้าน่ะสิ!” หลินหนานพูดขึ้นด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม
“เห็นแก? ทำไมเห็นแกแล้วมันต้องปวดด้วย?” หมาป่าถามกลับเสียงห้วน
“ก็เพราะฉันเป็นคนซ้อมมันจนกระดูกหักเมื่อเช้ายังไงล่ะ! สงสัยฉันคงจะลงมือหนักไปหน่อย พอเห็นหน้าฉัน ความเจ็บปวดก็เลยกำเริบขึ้นมาอีก..” หลินหนานตอบกลับพร้อมกับยิ้มกว้าง
“เป็นฝีมือของแกเองงั้นเหรอ?”
หมาป่านั้นเป็นคนฉลาดเฉลียว และเริ่มสัมผัสถึงบางสิ่งบางอย่างที่ผิดปกติได้ตั้งแต่แรกแล้ว..
“ถูกต้อง! โลกกลมจริงๆ” หลินหนานพยักหน้า
“งั้นก็ดี!! ฉันจะได้สะสางหนี้เก่ากับหนี้ใหม่พร้อมกันทีเดียว! พวกเรา.. จัดการไอ้หมอนี่ อย่าให้มันรอดชีวิตออกไปจากที่นี่ได้ เรื่องอื่นๆฉันรับผิดชอบเอง!” หมาป่าร้องตะโกนสั่งสั่งดัง ใบหน้าของมันบิดเบี้ยวอย่างน่ากลัว
ชายฉกรรจ์ห้าสิบกว่าคนที่ล้อมร่างหลินหนานไว้ตรงกลางนั้น ค่อยๆขยับบีบเข้ามาใกล้เรื่อยๆ และสีหน้าของแต่ละคนก็บ่งบอกว่า ต้องการเอาชีวิตของหลินหนาน..
“วันนี้โกลเดนพาเลซของฉันครึกครื้นดีจัง.. มีคนเข้ามาหาเรื่องถึงหน้าประตูเชียว!”
และจู่ๆ เสียงไพเราะอ่อนหวานดังขึ้น และกระจายอยู่ในห้วงอากาศ ช่างเป็นน้ำเสียงที่มีเสน่ห์เย้ายวนยิ่งนัก!
แต่น้ำเสียงอ่อนหวานไพเราะนั้น กลับทำให้หมาป่าและอีกหลายคนในที่นั้น ถึงกับหน้าเปลี่ยนสีขึ้นมาทันที
จากนั้น หญิงสาวในชุดกี่เพ้ารูปร่างเย้ายวนน่าดึงดูดก็ปรากฏขึ้น รอยยิ้ม และการเยื้องย่างของเธอนั้นทำให้ผู้คนที่ได้พบเห็นถึงกับนิ่งไปด้วยความตกตะลึง..
ประหนึ่งว่าปีศาจจิ้งจอกในตำนานได้ปรากฏขึ้นในโลกปัจจุบัน!
******
ฝากนิยายของทีมงานด้วยนะคะ
เรื่อง : เทพปีศาจผงาดฟ้า
เขาฟื้นสติตื่นขึ้นมาในร่างและผืนพิภพแห่งใหม่ หลังจากที่ล่วงลับตายจากไปในโลกก่อนหน้า
หลงเฉินเริ่มออกเดินทางครั้งใหม่ในผืนพิภพที่เต็มไปด้วยเทพเซียนและมารปีศาจ สิ่งมีชีวิตลึกลับมากมายหลายหลาก และมนุษย์ที่สามารถบ่มเพาะพลังจนขึ้นกลายเป็นยอดฝีมือผู้ไร้เทียมทาน พร้อมผงาดขึ้นสู่จุดสูงสุดแห่งผืนพิภพทั้งมวล
หนทางเบื้องหน้าของเขามิได้เรียบง่ายอย่างที่คิด จำต้องฝ่าฟันอุปสรรคมากมายเกินคณานับ สังหารทุกคนที่เข้าขัดขวาง ยอดผู้ฝึกยุทธ์พเนจรท่องโลกาท้ายุทธภพสุดขอบฟ้า จนกลายเป็นที่รู้จักในนามเทพปีศาจแห่งจักรวาล ปกครองความเป็นและความตาย
แม้กระทั้งสรวงสวรรค์ยังต้องก้มกราบต่อหน้าเขา!
—————–
เรื่อง : จักรพรรดิ์เทพมังกร
ความเป็นอมตะของหลิงหยุนได้มลายหายไป.. ทำให้เขาตกลงมาสู่โลกมนุษย์ ในยุคที่เต็มไปด้วยความเสื่อมทรามอย่างที่สุด
จากนั้น.. หลิงหยุนจะค่อยๆ บ่มเพาะพลังในตัวเองทีละขั้น ทีละขั้น และไต่ลำดับขึ้นไปต่อกรกับสวรรค์ได้อย่างไร..
******