ภารกิจขโมยใจ ผจญภัยต่างโลก – ตอนที่ 3 ฝันร้ายหมายเลขเก้า (3)

ตอนที่ 3 ฝันร้ายหมายเลขเก้า (3)

แม้เธอจะรู้ล่วงหน้าว่าใครเป็นคนที่ตายไปในมิติแรก ซูหว่านเองก็ยังคงไม่กล้าประมาทแม้เพียงนิด ในโลกใบนี้เธอรู้เนื้อเรื่องมาก่อนและใช้มันเพื่อประโยชน์ของตัวเอง หากเธอสามารถทำเช่นนั้นได้ คนอื่นๆ จะไม่อาจทำได้เหมือนกันหรือ

ซูหว่านยังคงปฏิบัติกับฉีมู่อย่างระแวดระวังและรักษาระยะห่างกับเขาเป็นช่วงแขน ชายคนนี้ชวนให้เธอรู้สึกแย่ ตามท้องเรื่องเดิมเขาเป็นตัวร้ายตัวเป้งแสนตลบตะแลงที่เป็นต้นเหตุให้คนกว่าครึ่งในกลุ่มเก้าคนต้องเสียชีวิต

เมื่อเนื้อเรื่องดำเนินมาถึงห้วงฝันมิติที่ห้า ฉีมู่ผู้ช่ำชองในการวางแผนได้พบรูปแบบเฉพาะในความฝันแต่ละมิติ นั่นคือในทุกมิติจะมีจำนวนคนตายที่จำกัดไว้อยู่

ใช่แล้ว ไม่มากไม่น้อยไปกว่าหนึ่งคน!

โลกความฝันทั้งเก้ามิติ คนทั้งเก้าคน มีเพียงคนเดียวที่อยู่รอดไปจนถึงมิติสุดท้าย

ตั้งแต่ที่เขารู้ว่ามีรูปแบบเช่นนี้แฝงอยู่ ฉีมู่ก็เริ่มเสี้ยมใส่ความคนอื่นไม่ว่าจะจงใจหรือไม่ก็ตามเพื่อปกป้องตัวเอง สุดท้ายเขาทำถึงขั้นปลิดชีพเพื่อนตัวเองด้วยซ้ำ

แน่นอนว่าเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นตอนที่เขาพยายามฆ่าอี้จื่อเซวียน เขาย้อนเวลาในจังหวะที่ฉีมู่กำลังจะลงมือคร่าชีวิตอีกฝ่าย หลังจากนั้นเขาก็เป็นฝ่ายรุกและคอยบงการฉีมู่…

ในที่สุดทั้งสามก็มาถึงพื้นที่โล่งแจ้งด้วยการนำทางของฉีมู่อย่างที่เขาว่าไว้ ซูหว่านมองฉีมู่ด้วยความฉงนเมื่อมองไปยังกองไม้แห้งที่มุมหนึ่งของพื้น “พี่ใหญ่ฉี พี่เตรียมพวกนี้ไว้เหรอคะ”

“ใช่แล้ว!”

ฉีมู่พยักหน้ารับอย่างไม่คิด “ตอนแรกฉันยังอยากจะไปเก็บไม้ในป่ามาเพิ่ม แต่ฉันมาเจอพวกเธอทั้งสองคนซะก่อน แต่ยังไงฟืนพวกนี้ก็น่าจะพออยู่”

ฉีมู่ว่าขึ้นพลางนั่งยองลงและหยิบไฟแช็กออกมาจากกระเป๋าด้วยท่าทางคล่องแคล่ว

ครั้นเห็นเขาโอ้อวดทักษะการใช้ไฟแช็กอย่างภาคภูมิใจ ซูหว่านก็อดไม่ได้ที่จะระอาและทำเมินมันไป ทว่าฟังเถียนเถียนที่ไร้ซึ่งเล่ห์เหลี่ยมกลับเอาแต่อยู่ข้างกายฉีมู่ ขณะส่งสายตามองเขาอย่างชื่นชม

เด็กสาวตัวน้อยผู้ไม่มีพิษภัยคนนี้นั้นง่ายต่อการใช้ภาพลักษณ์ปั่นหัวที่สุด

หลังจากนั้นครู่หนึ่งฉีมู่ก็ก่อกองไฟขนาดใหญ่ก่อนที่ทั้งสามจะมานั่งล้อมกองไฟนั้น กองไฟสีส้มท่ามกลางเงามืดวูบไหวยามค่ำคืนพาความอบอุ่นมาให้ผู้คนได้มากนัก แม้แต่ความเย็นเยียบที่ทับถมในใจก็ดูเหมือนจะค่อยๆ เจือจางลงไป

ฟังเถียนเถียนและซูหว่านนั่งอยู่อีกฟากของกองไฟ ทั้งสองเอนหลังพิงกัน จากนั้นไม่นานลมหายใจของฟังเถียนเถียนก็ส่งจังหวะสม่ำเสมอก่อนจะผล็อยหลับไป

ซูหว่านไม่เหนื่อยล้าและง่วงงุนแม้แต่น้อย อย่างไรก็ตามพอเห็นฉีมู่เฝ้ามองเธอกับฟังเถียนเถียนอย่างใจเย็นจากอีกด้านของกองไฟ เธอทำเพียงหลับตาลงและตกอยู่ในห้วงนิทราไม่นานหลังจากนั้น

ฉีมู่เพ่งมองกองไฟอยู่ครู่หนึ่งเมื่อเห็นว่าทั้งสองหลับไปแล้ว เขาลุกขึ้นด้วยความระมัดระวังอย่างยิ่ง และหันหลังเดินลึกเข้าไปในป่า

ทันทีที่ร่างของเขาลับหายไปซูหว่านก็ลืมตาขึ้น สายตาไร้แววงัวเงีย

ดึกป่านนี้ฉีมู่ไปทำอะไรตามลำพังกัน ทำไมเขาต้องรอจนเธอกับฟังเถียนเถียนหลับสนิทถึงค่อยออกไป

ซูหว่านวางมือลงบนกระเป๋าเป้ของตนและเปิดซิป เธอหยิบผ้าที่ใช้เช็ดหน้าเมื่อเย็นออกมาจากช่องเล็กๆ ด้านใน

เป็นอย่างที่คิดไว้…

ใบหน้าซูหว่านเหยเกยามจ้องผ้าเช็ดหน้ายับย่นเขม็ง

“ซูหว่าน เธอตื่นแล้วเหรอ”

น้ำเสียงฉีมู่พลันดังขึ้นจากด้านหลังของเธอ เธอแสร้งทำเป็นตกใจกลัวและขยำผ้าเช็ดหน้ายู่ยี่ในมือแน่น ใบหน้าถอดสีก่อนค่อยๆ หันหลังไป “พี่ใหญ่ฉี! พี่ทำฉันกลัวนะ! มาอยู่ด้านหลังเราได้ยังไงกันล่ะคะ”

สีหน้าฉีมู่ออกจะกระอักกระอ่วน “คือว่า…ฉันไปปลดทุกข์แล้วก็เกิดหลงทางขึ้นมา ให้ตายเถอะ พอตกดึกแล้ว ที่นี่ก็ยิ่งเป็นเขาวงกตขึ้นไปอีก! หาทางออกไปไม่ได้เลยจริงๆ”

“โอ้ จริงเหรอคะ”

ใบหน้าของเธอฉายท่าทีประหม่าเช่นกัน “ความจริงแล้ว ฉันเองก็อยากไป…ปลดทุกข์เหมือนกัน”

“เอ๋”

ฉีมู่หลุบตาลงน้อยๆ “อย่างนั้นก็อย่าไปไกลมากนะ ตามสบายเลย ฉันจะไม่…ไม่แอบมองเธอหรอก”

ว่าจบเขาก็กลับไปที่เดิมที่พิงตัวลงก่อนหน้านี้ ห่มตัวด้วยเสื้อคลุมตัวเองและหันหลังให้เธอคล้ายกับกลัวว่าซูหว่านจะไม่สบายใจ

ซูหว่านหาโทรศัพท์จากกระเป๋าและใช้มันเป็นไฟฉายก่อนเดินเข้าไปในป่าด้านหลัง

ป่าดิบเขาดูราวกับสิ่งมีชีวิตร่างยักษ์และดำมืดในยามค่ำคืน ไม่รู้ได้ว่าเมื่อไรมันจะอ้าปากอาบเลือดของตัวเอง ความจริงแล้วซูหว่านไม่ได้ต้องการจะปลดทุกข์ เธอเพียงไม่อยากให้ฉีมู่ผิดสังเกตเท่านั้น

หลังจากก้าวเข้าไปในป่าไม่เท่าไร ซูหว่านหยุดเท้าและนั่งลงบนก้อนหินข้างทาง มองหน้าจอที่ส่องแสงสว่างรางๆ เสดูเวลาอย่างไม่รู้ตัว ไม่คาดคิดว่าเวลาล่วงจะเลยมาถึงสี่ทุ่มห้าสิบแล้ว และโทรศัพท์ยังคงเหลือแบตเตอรี่อยู่สองขีด

ในจังหวะที่เธอจ้องหน้าจอโทรศัพท์ตัวเอง พลันมีบางอย่างเปลี่ยนไปบนหน้าจอ ก่อนเสียงเสียดหูจะทำให้เธอสะดุ้งโหยงจนแทบโยนโทรศัพท์ทิ้ง!

เสียงร้องเฉือนบาดและสะท้านหูยังคงดังไม่หยุด

หน้าจอปรากฏชื่อคนโทรเข้า นึกไม่ถึงว่าจะเป็นฟั่นซูจวิน!

ฟั่นซูจวินกับอี้จื่อเซวียนอยู่ร่วมห้องห้าศูนย์สามด้วยกันในหอชาย พอซูหว่านกับอี้จื่อเซวียนคบหากันเธอจึงบันทึกเบอร์ของเขาไว้

ในความทรงจำของเจ้าของร่างเดิม ฟั่นซูจวินเป็นพวกหมกหมุ่นที่ไม่สุงสิงกับผู้คนนัก งานอดิเรกสุดโปรดในวันธรรมดาคือการหมกตัวอยู่ที่บ้านและเล่นเกมในห้องนอนตัวเอง หรือไม่ก็ตั้งวงกับฉินลู่ซึ่งอยู่ห้องเดียวกันเพื่อผลาญเวลาทั้งคืนที่ร้านอินเทอร์เน็ต

เป็นธรรมดาของพวกติดเกมซึ่งยังเป็นหนึ่งในเก้าคนที่มาเที่ยวฤดูใบไม้ผลิครั้งนี้

แววตาซูหว่านฉายวาววับ เธอเห็นว่าโทรศัพท์ตัวเองยังคงไม่มีสัญญาณ ทว่าเบอร์ที่ปรากฏบนหน้าจอบอกเธอว่าสิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้ไม่ใช่ภาพลวงตา

“ว่าไง! ฟั่นซูจวินเหรอ”

ไม่มีเวลาให้ลังเลใจ ซูหว่านรับสายในทันที

“สวบๆๆ สวบๆๆ”

เสียงถูไถแปร่งๆ ดังมาจากฟากปลายสายชวนให้เย็นสันหลังวาบ

“ฟั่นซูจวิน นั่นนายใช่ไหม”

เธอกำมือถือแน่นและถามอีกครั้งอย่างช่วยไม่ได้

“ที่เก้า…ลำดับที่เก้า…ลำดับที่เก้า…”

น้ำเสียงแหบแห้งเจือแค่นขืนของชายคนหนึ่งส่งผ่านมาจากปลายสาย ซูหว่านแยกไม่ออกด้วยซ้ำว่าเป็นเสียงของฟั่นซูจวินหรือไม่ แต่เธอกลับอดไม่ได้จะถามกลับ “ลำดับที่เก้าคืออะไร”

“เมิ่ง…เมิ่ง…อ่าห์! เอี๊ยด กร๊อบ…”

ซุ่มเสียงที่ดังมาจากโทรศัพท์เริ่มชวนพิศวงและขนหัวลุก

ซูหว่านยังคงถือสายไว้ หากแต่กลับรู้สึกว่าเสียงลมหายใจของฟังเถียนเถียนค่อยๆ จางหายไป

ตู๊ดๆๆ…

สายถูกตัดไปในขณะที่เธอไม่ละสายตาไปจากหน้าจอ มันกลับมาเป็นดังเดิมอย่างก่อน ยังคงไม่มีสัญญาณ ยังคงมีแบตเตอรี่สองขีด ยังคงบอกเวลา…สี่ทุ่มห้าสิบ!

ภารกิจขโมยใจ ผจญภัยต่างโลก

ภารกิจขโมยใจ ผจญภัยต่างโลก

Status: Ongoing

ซูหว่าน คือเจ้าหน้าที่ทำลายเขตแดนประจำองค์กรแห่งหนึ่งในห้วงกาลอวกาศที่สาบสูญ ในโลกที่ผู้คนทะลุมิติข้ามภพกันไม่เว้นวัน จิตล่องลอยไปเกิดใหม่ในร่างอื่นอยู่ทุกค่ำคืน ก็ได้เธอนี่แหละที่คอยสะสางดูแลความวุ่นวายและจัดการข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นกับเหตุการณ์เหล่านั้น

แต่แล้ววันหนึ่งก็เกิดปัญหาใหญ่เข้าจนได้ เมื่อองค์กรพบว่านางรองที่เกิดใหม่ดันไปสอยพระเอกกับนางเอกของภพนั้นร่วงจนทำให้เนื้อเรื่องเปลี่ยนแปลงไป หัวหน้าแผนกทำลายเขตแดนจึงได้มอบภารกิจให้ซูหว่านไปเก็บกวาดสถานการณ์นี้ให้เรียบร้อย โดยตัวเธอต้องเข้าไปสวมบทบาทเป็นตัวละครในโลกแห่งนั้น

กระนั้นหลังจากที่เธอจัดการทุกอย่างให้เข้าที่เข้าทางเหมือนเดิมแล้ว ภารกิจของเธอกลับยังไม่จบสิ้น ซูหว่านยังคงลืมตาตื่นขึ้นมาในโลกอื่นอีกหลายโลก ไม่ว่าจะเป็นโลกเกมออนไลน์ โลกซอมบี้ หรือโลกเวทมนตร์ แต่ทุกครั้งที่เธอย้ายไปโลกใหม่ บทบาทที่เธอได้รับกลับหยุดอยู่แค่ ‘แฟนเก่า’ ของตัวเอกในเรื่อง

และที่น่าแปลกใจยิ่งกว่าคือทุกโลกที่เธอเดินทางไปนั้น เธอต้องได้พบเจอกับ ‘เขา’ อยู่ร่ำไป แม้ยุคสมัยและสภาพแวดล้อมของโลกจะเปลี่ยนแปลง แต่รูปร่างหน้าตาของเขาคนนั้นยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนไป เขาเป็นใครกันแน่ หรือจะเป็นคนที่ได้รับภารกิจพิสดารนี้เหมือนเธอกันนะ!?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท