ภารกิจขโมยใจ ผจญภัยต่างโลก – ตอนที่ 19 ฝันร้ายหมายเลขเก้า (19)
ภายในห้องชุดที่ตกแต่งอย่างหรูหรา ซูหว่านและฟั่นซูจวินได้แต่มองหน้ากันไปมา
สุดท้ายคือซูหว่านที่ทำลายความเงียบระหว่างทั้งสองลง “ให้ฉันทำแผลให้นายหน่อยไหม”
สายตาของเธอมองไปยังบาดแผลบนร่างกายของฟั่นซูจวิน แผลของเขาค่อนข้างจะสาหัส
“ไม่เป็นอะไร”
ฟั่นซูจวินหายใจหอบใหญ่ นั่งลงบนเก้าอี้ที่อยู่อีกด้าน “ฉัน…ฉันฆ่าเฉินอวี้เฟิง ตอนนี้มีพลังในการเยียวยาบาดแผลเพียงแค่ชั่วเวลาสั้นๆ”
ตอนที่ฟั่นซูจวินเรียกเฉินอวี้เฟิงบนถนน เขาก็สัมผัสได้ถึงลมหายใจที่ไม่มั่นคงจากกายของเฉินอวี้เฟิง เขาและไป๋เสี่ยวเย่ว์ต่างก็ได้รับบาดเจ็บ
อาศัยความสามารถในการสังเกตอย่างรวดเร็วของตน ฟั่นซูจวินก็มองตัวตนของเฉินอวี้เฟิงออก ในระหว่างที่ทั้งสองต่อสู้นัวเนียกัน เขาก็ฆ่าเฉินอวี้เฟิงไป
แต่ว่าเฉินอวี้เฟิงเป็นคนบอกกับฟั่นซูจวินก่อนจะมอดไหม้เป็นธุลีว่า เขาถูกฉีมู่ฆ่า ฉีมู่เป็นผี!
ตอนนั้นฟั่นซูจวินก็นึกขึ้นได้ทันได้ว่า เมื่อไม่นานมานี้ ตอนที่ฉีมู่และซูหว่านอยู่ด้วยกัน เขาไม่ทันได้คิดอะไรมากนัก ก็หวนคิดไล่ตามความทรงจำกลับไป ในที่สุดก็มองเห็นรถของฉีมู่จอดอยู่ที่ประตูใหญ่หน้าร้านแห่งนี้
ทั้งหมดเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว นับแต่ฟั่นซูจวินบุกเข้ามา จนกระทั่งซูหว่านฆ่าฉีมู่ ทั้งหมดทั้งมวลนี้ จนถึงตอนนี้ฟั่นซูจวินก็ยังไม่เข้าใจต้นสายปลายเหตุ
เห็นท่าทีครุ่นคิดด้วยใบหน้าบึ้งตึงของฟั่นซูจวิน ซูหว่านก็ไม่ได้เอ่ยอะไร เธอเดินเข้าไปด้านหน้าฟั่นซูจวิน ยกมือขึ้นดีดนิ้วดังเบาๆ ไปทางเขา บาดแผลบนร่างกายของฟั่นซูจวินหากมองด้วยตาเปล่าก็เห็นว่าฟื้นสภาพได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งแม้แต่คราบเลือดบนร่างกายก็ยังหายไปอย่างไร้ร่องรอย
“นี่มัน…”
ฟั่นซูจวินได้สติกลับคืน มองไปยังซูหว่านด้วยใบหน้าประหลาดใจและตื่นตระหนก “เธอทำได้ยังไงกัน”
ซูหว่านยิ้มขึ้นอย่างไม่ใส่ใจ “ก็อย่างที่นายเห็น ฉันฆ่าฉีมู่ เลยได้รับ…อำนาจควบคุมโลกแห่งฝันร้ายโดยทั้งหมด!”
“อะไรนะ”
ฟั่นซูจวินรีบลุกขึ้นโดยพลัน เสียงของเขามีความสั่นเครือเจืออยู่ “เธอจะบอกว่าฉีมู่เขาคือ…”
“ถูกต้อง เขาคือฝันร้าย เป็นเขานั่นแหละที่ทำให้พวกเราทั้งแปดต้องติดอยู่ในในโลกอันแปลกประหลาดแห่งนี้”
น้ำเสียงของซูหว่านกล่าวอย่างทรงพลัง
ฝันร้ายหมายเลขเก้า ดินแดนความฝันชั้นที่เก้า ผู้คนทั้งเก้าต่างดิ้นรนเพื่อเอาชีวิตรอด
ทั้งหมดดูไปแล้วก็สมเหตุผล แต่ความจริงแล้วนับแต่ซูหว่านเข้ามายังโลกแห่งนี้ก็ดูรู้สึกผิดหูผิดตา
ประการแรก เมื่อเธอเข้าสู่โลกภารกิจแห่งนี้ เรื่องราวโลกแห่งภารกิจนี้ก็เปลี่ยนไปโดยอัตโนมัติ เรื่องนี้ก็ใช่ว่าจะไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน โดยทั่วไป การที่โครงเรื่องจะเปลี่ยนได้ มีความเป็นไปได้อยู่สองสามอย่าง ความเป็นไปได้สูงที่สุดก็คือมีบุคคลภายนอกเข้ามายุ่ง
ดังนั้น บุคคลภายนอกทำไมถึงต้องเปลี่ยนเหตุการณ์
ในโลกดินแดนแห่งความฝัน เขามีความสามารถอะไรถึงเปลี่ยนเรื่องราวที่ถูกกำหนดไว้แล้วได้ด้วยกัน
ซูหว่านคิดได้เพียงคำตอบเดียวนั่นก็คือ คนผู้นั้นสามารถควบคุมโลกแห่งฝันร้ายได้
หากโลกแห่งนี้มีผู้ที่สามารถควบคุมความฝันได้จริงสักคน แล้วคนผู้นั้นจะเป็นใครกัน ทำไมถึงต้องให้การมาของตัวเองเป็นเหตุให้เรื่องราวเปลี่ยนไป
คำถามแล้วคำถามเล่ารุมเร้าซูหว่าน จนกระทั่งซูหว่านได้สัมผัสกับฉีมู่ในชั้นแรกๆ ของความฝันตั้งแต่เริ่มแรก
เธอสัมผัสถึงความแตกต่างของคุณลักษณะที่ฉีมู่มี
ฉีมู่ที่เธอได้พบนี้ แตกต่างกับฉีมู่ในเรื่องราวเดิมโดยสิ้นเชิง
หลังจากสงสัยว่าฉีมู่คือบุคคลจากภายนอก ซูหว่านก็หวนนึกถึงตอนที่เธอรับสายของฟั่นซูจวินในความฝันตอนนั้น ในตอนแรกซูหว่านเธอเข้าใจไปว่าถูกฝันร้ายควบคุม แต่ต่อมา กลับมีข้อสงสัยใหม่เกิดขึ้น…
ฟั่นซูจวินทำไมถึงโทรศัพท์หาเธอ
หากไม่ใช่ถูกฝันร้ายควบคุม ยังจะมีใครอีกที่มีความสามารถเจาะทะลวงความฝัน จนทำให้โทรศัพท์เชื่อมต่อได้
หรือไม่ก็…
นั่นคือโทรศัพท์ซึ่งตัวเธอเองในอนาคตเป็นคนให้ฟั่นซูจวินโทร ดังนั้นข้อความที่เขาต้องการบอกกับตัวเธอคืออะไรกันแน่
ที่เก้า ที่เก้า เมิ่ง…
นี่คือเงื่อนงำที่ซูหว่านที่ทิ้งไว้ให้กับตัวเธอ
ที่เก้าที่ว่า คงหมายถึงคนที่เก้า
แต่ ‘เมิ่ง’ อันที่จริงฟั่นซูจวินคงตั้งใจจะพูดว่า ‘ฝัน’
ความหมายที่แท้จริงของเงื่อนงำนี้ก็คือ…คนที่เก้าคือฝันร้าย
ดังนั้นโลกแห่งจึงเรียกว่าฝันร้ายหมายเลขเก้า ไม่ได้ชื่อว่าฝันร้ายชั้นที่เก้า
ที่จริงแล้ว ตั้งแต่แรกที่นั่งรถออกมาเที่ยวก็มีเพียงแปดคนเท่านั้น ไม่เคยมีคนที่เก้ามาก่อน…
ทั้งแปดคนที่ประสบอุบัติเหตุรถยนต์ก็ถูกฝันร้ายเข้าจู่โจมในสถานที่และเวลาที่ชัดเจน เขาควบคุมความคิดและความทรงจำของคนทั้งหมด จนกลายเป็นคนที่เก้า
ในเวลานั้นซูหว่านก็คิดได้ทั้งหมด…
ในความเป็นจริงเฉินอวี้เฟิงซิ่งรถเก่งมาก ฝีมือเขาอยู่ในระดับต้นๆ เชียว ไม่จำเป็นต้องหาใครมาช่วยขับรถเลยก็ได้
และห้องนอนของพวกเขาทั้งสอง ห้องหนึ่งคือ 503 อีกห้องคือ 305 ที่จริงแล้วนี่ก็คือตัวเลขรหัสบอกใบ้ตั้งแต่แรกแล้ว เป็นนัยบอกว่ามีเพียงแปดคนมาตั้งแต่แรก
ฉีมู่คือคนที่เกินออกมา หรือควรพูดว่า ฝันร้ายใช้ความทรงจำของทุกคนสร้างตัวตนของฉีมู่ขึ้นมา เปลี่ยนแปลงความทรงจำของทุกคน แล้วเริ่มเกมในความฝันชั้นที่เก้านี้
แค่นี้เรื่องราวทั้งหมดในโครงเรื่องเดิมก็สามารถอธิบายได้หมดสิ้น ว่าทำไมถึงได้เป็นฉีมู่ที่พบกฎของความฝันชั้นที่ก้าวเป็นคนแรก ที่จริงแล้วกฎที่ว่านั้นเป็นเขานั่นเองที่คอยควบคุมอยู่
แต่ทำไมท้ายที่สุดอี้จื่อเซวียนและเมิ่งถิงเหยาถึงหลุดพ้นจากความฝันไปได้โดยปลอดภัยทั้งสองคน
นั่นเป็นเพราะหลังจากทำให้หกคนที่เหลือตาย ในตอนที่ฉีมู่กำลังลงมือกับอี้จื่อเซวียนก็ถูกอี้จื่อเซวียนทำการย้อนเวลา เขาจึงพลาดท่า และอี้จื่อเซวียนก็ฉวยโอกาสนี้ แทงทะลุหัวใจของฉีมู่ได้สำเร็จ
เลือดในหัวใจ คือที่มาของฝันร้ายทั้งหมด
และเวลานั้นเอง อี้จื่อเซวียนก็ได้รับพลังแห่งฝันร้าย แต่เขาก็ไม่ได้บอกเมิ่งถิงเหยา แต่กลับใช้พลังแห่งความฝันของตน ทำทีเหมือนพาตัวเมิ่งถิงเหยา รอดพ้นออกจากความตายมาอย่างหวุดหวิด ซึ่งในความจริงแล้วการออกจากโลกแห่งนั้นมันง่ายดายเหลือเกิน
นี่สิ ถึงจะเป็นเรื่องทั้งหมดที่ควรเกิดขึ้นในตอนแรกของภารกิจนี้
หลังจากมองทะลุความจริงอย่างปรุโปร่งแล้ว ซูหว่านก็ใช้แรงปณิธานของตนปลุกตัวเองตื่นขึ้นจากความฝันชั้นลึก เมื่อฟื้นขึ้นมาเธอก็อยู่ในโรงพยาบาลแล้ว และได้เริ่มเล่นเกมความฝันรอบใหม่
ครั้งนี้ เธอได้ปลอมตัว ทำทีเป็นตกอยู่ในสภาพสับสนเพราะฝันร้าย ปล่อยให้ฉีมู่ค่อยๆ เข้าใกล้ตนที่ละนิดๆ
ความจริงแล้ว นับแต่วินาทีที่ฉีมู่ฆ่าเฉินอวี้เฟิง ซูหว่านก็ได้รู้ว่าไป๋เสี่ยวเย่ว์ไม่ใชหมายเลขหนึ่ง แต่เป็นเฉินอวี้เฟิงต่างหาก
ดังนั้น เฉินอวี้เฟิงจึงเป็นคนแรกที่ตาย และถึงแม้เขาจะหายไปหลังจากตาย แต่เขาไม่ได้หลุดพ้นจากโลกแห่งนี้ แต่กลับกลายเป็นผีที่เต็มไปด้วยบาดแผล
ใช่แล้ว โลกชั้นนี้มีผีอยู่สามตนแต่แรกแล้ว พวกเขาทั้งสามต่างมีจุดพิเศษหนึ่งที่เหมือนกัน นั่นก็คือร่างกายเต็มไปด้วยบาดแผล
ฉีมู่ได้รับบาดเจ็บที่แขน เขาบอกว่าตัวเองประสบอุบัติเหตุรถยนต์
ไป๋เสี่ยวเย่ว์มีบาดแผลบนร่างกาย ตอนที่เมิ่งถิงเหยาพบกับเธอ เธอดูเหมือนกำลังถูกฟั่นซูจวินตามฆ่า แต่ที่จริงแล้ว ฟั่นซูจวินต่างหากที่เป็นหมายเลขสอง หลังจากเฉินอวี้เฟิงตาย ไป๋เสี่ยวเย่ว์ก็เริ่มตามฆ่าฟั่นซูจวิน เพียงแต่เธอประเมินความสามารถในการต่อสู้ของฟั่นซูจวินพลาดไปเท่านั้น สุดท้ายจึงกลายเป็นฟั่นซูจวินที่ไล่ล่าเธอ หากเมิ่งถิงเหยาไม่ปรากฏตัว ฟั่นซูจวินคงทำให้ไป๋เสี่ยวเย่ว์หายไปแล้ว…
สำหรับผีตัวที่สาม ก็คือฉินลู่
ซูหว่านหลับตาลง ค้นหาในโลกแห่งความฝัน ก็ ‘เห็น’ ฉินลู่และฟังเถียนเถียนเตร็ดเตร่ไปตลอดบนทางเดิน
ฉินลู่ปกปิดตัวตนได้อย่างดีทีเดียว อย่างน้อยฟังเถียนเถียนก็ไม่ได้สังเกตว่าบนกายฉินลู่เต็มไปด้วยบาดแผลเลยมาโดยตลอด
“ฉินลู่และฟังเถียนเถียนอยู่ห่างจากที่นี่ไม่ไกล”
ซูหว่านลืมตาขึ้น จ้องลึกเข้าไปยังฟั่นซูจวินปราดหนึ่ง “นายคือหมายเลขสอง ฟังเถียนเถียนคือหมายเลขสาม ถ้าเธอตาย เธอว่าฉินลู่จะไม่ฆ่าฟังเถียนเถียนเหรอ”
“เธออยากฆ่าฉันเหรอ”
ฟั่นซูจวินมองซูหว่าน ปะทะกับสายตาของเธอโดยตรง
ซูหว่านเพียงแค่ยิ้มขึ้นเพียงเล็กน้อย ตอนนี้ ทั้งโลกอยู่ในมือของเธอ เธอดีดนิ้วใส่ฟั่นซูจวินอีกทีหนึ่ง ฟั่นซูจวินก็สลบไป
ดูสิ พลังแห่งฝันร้ายมีประโยชน์ไร้เทียมทานอย่างที่สุดจริงๆ แต่ทำไมฉีมู่ถึงได้เอาแต่ทำตัวผลุบๆ โผล่ๆ แบบนั้นนะ
หึ ก็เพราะเขาเกลียดหน้าผู้ปรับแต่งมิติไง!
การมีตัวตนของเขาก็คือเพื่อรับใช้พระเอก ในเวลาเดียวกันเขาก็ยังต้องกำจัดตัวเขาผู้ทำลายมิติผู้นี้ แต่กลับไม่สามารถปลิดชีพตัวเองได้โดยตรง ดังนั้นฉีมู่ ไม่สิ ต้องเรียกเขาว่าชีเย่ว์ ชีเย่ว์เลือกใช้การโจมตีธรรมดาทั่วไป วางแผนทำให้ความทรงจำของเขาเลือนราง แล้วก็หลอกให้เขารัก แค่นี้แล้วเขาก็จะสามารถช่วยให้ฝ่ายพระเอกเพิ่มระดับขึ้นอย่างสะดวกราบรื่น ช่วยกระตุ้นความรู้สึกของตัวเอก และยังแก้ปัญหาของตนในฐานะผู้ทำลายมิติผู้นี้ ช่างเป็นวิธีการที่สมบูรณ์แบบต่อทั้งสองฝ่ายจริงๆ
แต่ว่า…
ถ้าเขาเป็นตัวของตัวเองในตอนแรก บางทีอาจจะถูกเขาหลอกจริงๆ ก็ได้
น่าเสียดาย ตั้งแต่ได้พบสวีเช่อ
ใจของซูหว่านก็รู้สึกปวดร้าวขึ้นมาชั่วขณะโดยไม่รู้สาเหตุ
หลังจากผู้ชายคนนั้นหลอกลวงอย่างไร้เยื่อใย เธอก็ไม่ยอมให้ใครหน้ามาหลอกได้อีก ไม่ยอมให้ใครหน้าไหนทอดทิ้งตัวเองอีก
ใช้ความรู้สึกจากใจจริงมาหลอกเธอ ใช้วิธีอันอำมหิตที่สุดทอดทิ้งเธอ
วิธีการวางตัวอย่างนี้ ซูหว่านได้เรียนรู้มาจากสวีเช่อ
หลายปีมานี้ เธอค่อยๆ เข้าใกล้สวีเช่อ ค่อยๆ โหดเ**้ยมขึ้น อำมหิตขึ้น และไม่คำนึงวิธีการใดๆ เช่นเดียวกับเขา
ดังนั้น ในโลกแห่งนี้ ในเกมตานี้ ชีเย่ว์ก็ไม่ใช่คู่มือของซูหว่านแต่แรกแล้ว…
บนถนนโล่งกว้าง เงาร่างสูงหนึ่งเตี้ยหนึ่งเดินตามกัน คนหนึ่งอยู่หน้าคนหนึ่งอยู่หลัง ทันใดนั้นเอง เงาร่างที่สูงกว่าที่อยู่ด้านหน้านั้น ก็หยุดลง
“ฉินลู่”
ฟังเถียนเถียนมองไปยังคนที่อยู่ด้านหน้าด้วยความสงสัยเล็กน้อย “ฉินลู่ นายเป็นอะไร”
“เปล่า”
ความผิดปกติซ่อนอยู่ภายก้นบึ้งนัยน์ตาฉินลู่ เขาค่อยๆ กำหมัดทั้งสองของตนจนแน่น นับแต่วินาทีที่เขาตื่นขึ้นจากฝันร้าย เขาก็ได้รู้ว่าตัวเองตายแล้ว แผลที่อยู่บนแผ่นหลัง ก็คือหลักฐานว่าเขาได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต
วินาทีนั้น สมองของเขาว่างเปล่า จนกระทั่งฟังเถียนเถียนโทรศัพท์มาหา ได้ยินเสียงอันบอบบางและอ่อนหวานของเธอ ฉินลู่จึงค่อยๆ ฟื้นคืนสติของตนกลับมา
ในความคิดของเขามีรายชื่อคนที่ต้องสังหาร แต่ละคนถูกเรียงลำดับเลขที่ และพวกเขาก็ต้องถูกฆ่าตามลำดับนั้น…หมายเลขหนึ่งเฉินอวี้เฟิง หมายเลขสองฟั่นซูจวิน หมายเลขสามฟังเถียนเถียน หมายเลขสี่ซูหว่าน หมายเลขห้าอี่จื่อเซวียน หมายเลขหกเมิ่งถิงเหยา
ในตอนนั้นฉินลู่รู้สึกกลัวขึ้นมาเล็กน้อย ไม่ใช่กลัวที่ตัวเองจะไม่มีโอกาสกลับมามีชีวิตอีกครั้ง แต่กลัวว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับฟังเถียนเถียน
ดังนั้น เขาจึงบอกที่อยู่ของตนกับฟังเถียนเถียนอย่างละเอียด เขาอยากปกป้องเธอ ความรู้สึกนี้ไม่เคยรุนแรงขนาดนี้มาก่อน
และเมื่อครู่นี้ ข้อมูลบางอย่างก็ปรากฏขึ้นในความคิดของฉินลู่…หมายเลขสองฟั่นซูจวินหายไปแล้ว
นี่หมายความว่า ฟังเถียนเถียนผู้อยู่ในหมายเลขสาม ได้กลายเป็นเป้าหมายของทุกคนแล้ว…