ตอนที่ 23 ตัวแทนคนรัก (23)
ลั่วชูชูและเซียวจิ่งมั่วเลิกกันแล้ว นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ทั้งสองเลิกกัน แต่ครั้งนี้พวกเขาเลิกกันโดยที่ไม่ทะเลาะกันและไม่รั้งกัน ทั้งคู่เลิกกันด้วยดีหรืออาจเป็นเพราะว่าพวกเขามีเรื่องที่ต้องกังวลอยู่ในใจไม่น้อย
ลั่วชูชูออกจากคฤหาสน์ส่วนตัวของเซียวจิ่งมั่วพร้อมกับกระเป๋าเดินทางใบเล็กๆ ในเวลานี้เธอคิดว่าอย่างน้อยเธอก็ต้องรักษาศักดิ์ศรีสุดท้ายของเธอไว้ให้ได้ เข้ามายังไงก็ออกไปอย่างนั้น เขาจะไม่เอาของที่เป็นของเซียวจิ่งมั่วไปสักชิ้นเดียว
แต่…จะออกไปแบบนี้ได้จริงๆ เหรอ แม้ว่าจะถือกระเป๋าเดินทางใบเดียวกันกับตอนที่ย้ายเข้ามาอยู่ แม้ว่าจะบอกตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าจะคบและจากกันด้วยดี
ในใจลั่วชูชูยังคงชัดเจนว่าเขาแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับตอนแรกที่ย้ายเข้ามาในคฤหาสน์แห่งนี้ เธอทิ้งหัวใจของเธอไว้ที่นี่แต่ต้องออกไปโดยมีบาดแผลในใจ
นี่…นี่ก็คือความรัก ความรักของการเป็นตัวแทนของใครอีกคนหนึ่ง นี้ก็ช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิแล้ว สองข้างทางมีแต่ใบไม้แห้งร่วงหล่นกระจัดกระจายตามสายลม ลั่วชูชูลากกระเป๋าเดินทางและเดินอย่างเปล่าเปลี่ยวบนถนนอันยาวไกลซึ่งไร้ผู้คน
เส้นทางอันยาวไกล ซูหว่านนั่งอยู่ในรถของเธอมองแผ่นหลังอันโดดเดี่ยวของผู้หญิงคนนั้น ภาพมองของซูหว่านเบลอไปสักกพักและกลับมาปกติอย่างรวดเร็ว
เขาเบี่ยงสายตาไม่มองไปที่ลั่วชูชู เมื่อเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง สายตาของซูหว่านก็กลับมาเย็นชาตามนิสัยเก่าเช่นเคย ซูหว่านหยิบโทรศัพท์มือถือเครื่องเล็กๆ ข้างตัวแล้วโทรไปยังเบอร์บ้านในตัวเมือง”ฉันเอง”
เธอจงใจปรับโทนเสียงให้ต่ำลง “ได้เวลาแล้ว พวกนายลงมือได้เลย”
“เยี่ยม! เยี่ยมมาก”
เสียงปลายทางดูเหมือนจะโหดร้าย “คนที่แซ่เซียวทำสิ่งที่ไร้คุณธรรมมากมายขนาดนี้ เขาก็สมควรได้รับผลกรรม”
“อืม”
ซูหว่านตอบกลับเบาๆ “พวกเธอต้องระวังด้วยไม่ว่าจะสำเร็จหรือไม่ก็ตามเงินที่เหลือฉันก็จะโอนเข้าบัญชีของพวกเธอตามที่ได้ตกลงกันไว้ เพียงพอสำหรับครอบครัวของพวกเธอที่จะมีใช้ได้ทั้งชีวิต”
พอพูดจบซูหว่านก็วางสายโทรศัพท์ของเธอ แล้วถอดซิมการ์ดโทรศัพท์ออกมาหักเป็นชิ้นๆ แล้วโยนออกไปนอกหน้าต่าง จากนั้นเธอก็สตาร์ตรถแล้วขับออกไป
วันรุ่งขึ้น ซึ่งตรงกับวันหยุดพอดี ซูหว่านนอนขี้เกียจอยู่บ้านถึงบ่ายแล้วก็ออกไปที่โรงพยาบาลตามเคย แสงแดดยามเช้าอบอุ่นและสดใสเป็นพิเศษ ส่องผ่านกระจกหน้าต่างอันโปร่งใส ความสดใสของแสงแดดตกกระทบมาที่หน้าของซูรุ่ย ซูหว่านยืนอยู่ที่ประตูแล้วทำสายตาแบบงงๆ ราวกับว่าเธอจำลักษณะครั้งแรกที่พบซูรุ่ยไม่ได้ สำหรับเขาแล้ว ในตอนนั้นซูรุ่ยเป็นเพียงชาวโลกคนหนึ่งที่เขาสามารถหลอกใช้ได้ก็เท่านั้น มันเหมือนกับการเล่นเกมออนไลน์ที่มี NPC (ตัวละครใด ๆ ที่ไม่ได้ถูกควบคุมโดยผู้เล่น) มากมายในเกมใครจะไปให้ความสนใจกับตัวละครในนั้นล่ะ
ซูรุ่ยตอนนี้ดูสมจริงกว่าเดิมโดยไม่มีข้อสงสัย ซูรุ่ยที่อยู่บนเตียงมองคอมพิวเตอร์อย่างตั้งใจ หลังจากนั้นไม่นานซูรุ่ยก็ดูเหมือนจะรู้สึกถึงการจ้องมองของ ซูหว่าน จู่ๆ ซูรุ่ยก็เงยหน้าขึ้นมาขณะที่เธอเงยหน้า ความเย็นชาบนใบหน้าก็จางหายไป แววตาของเขาอ่อนโยนขึ้นมาเป็นพิเศษ “เธอมาแล้วเหรอ ได้ดูข่าวช่วงเช้ามาหรือยัง”
ในขณะที่พูดซูรุ่ยได้หันหน้าจอแล็ปท็อปที่วางราบกับโต๊ะไปทางซูหว่าน ข่าวเช้าของเซียงเฉิงในเช้าวันนี้ดุเดือดเป็นพิเศษ เครือบริษัทเฮ่าเย่ว์ซึ่งเป็นเสาหลักองค์กรของเซียงเฉิงปกติก็จะได้รับความสนใจมาโดยตลอดอยู่แล้ว แต่ในวันนี้ห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ ภายใต้นามของเฮ่าเย่ว์ เกิดเหตุคุกคามที่สงสัยว่าอาจจะเป็นการแก้แค้น
ในเช้าวันหยุดเมื่อพ่อค้าแม่ค้าและพนักงานในห้างไปทำงานพวกเขาเห็นห้างถูกปกคลุมไปด้วยป้ายที่เปื้อนเลือด
“ฆาตกรชดใช้ชีวิต!”
“พวกไร้จรรยาบรรณ!”
ป้ายแบบเดียวกันสะบัดไปตามลม ประตูและห้องโถงของห้างทั้งหมดถูกย้อมด้วยสีเลือดไม่ทราบที่มา กลิ่นคาวทำให้ผู้คนหวาดกลัว …
แม้ว่าตระกูลเซียวจะเริ่มต้นในอุตสาหกรรมห้างสรรพสินค้า แต่เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมาอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์เริ่มรุ่งเรือง อาวุโสเซียวได้เล็งเห็นโอกาสทางธุรกิจในการเข้าร่วมอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ เนื่องจากเขามีความสัมพันธ์อันใกล้ชิดกับเจ้าหน้าที่ในเซียงเฉิงมาโดยตลอดอยู่แล้ว อาวุโสเซียวจึงสามารถรับข้อมูลภายในได้อย่างง่ายดาย และกว้านซื้อเมืองเก่าได้ในราคาที่ต่ำที่สุด
ในเวลานั้นการรื้อถอนเมืองเก่าเป็นเรื่องยากมาก ยิ่งคนเก่าคนแก่ที่อยู่มานานยิ่งจัดการยาก อาวุโสเซียวเป็นคนที่ทำอะไรคนเดียวตั้งแต่ไหนแต่ไรอยู่แล้ว จึงไม่เข้าใจความรู้สึกของคนยากจนที่มีต่อบ้านเกิด ตอนนั้นเขาใช้แค่เงินซื้อพวกมาเฟียท้องถิ่นเข้าไปในก่อกรรมทำเข็ญชาวบ้าน เพื่อบังคับกลุ่มชาวบ้านย้ายออกจากที่นั่น และทำให้มีผู้เสียชีวิต!
เรื่องพวกนี้ซูหว่านใช้เงินจ้างคนไปสืบเพื่อที่จะได้ข่าวพวกนี้ตอนที่เธอกลับจากต่างประเทศ ตัวเธอเองเกิดมาในครอบครัวที่ร่ำรวย เธอเข้าใจมุมมืดของนักธุรกิจที่น่ารังเกียจโดยเฉพาะอย่างยิ่งแนวการทำงานของอาวุโสเซียว เมื่อแปดปีก่อนเธอต้องการให้ซูหว่านเลิกกับเซียวจิ่งมั่ว เพราะมันสามารถทำให้ตระกูลเซียวล้มละลาย เพราะฉะนั้น มีเรื่องอะไรอีกที่เขาจะทำไม่ได้
ในขณะที่กำลังสืบสวนซูหว่านได้รู้จักกับเหยื่อที่โดนบังคับให้ย้ายออก ในตอนแรกตระกูลเซียวได้ปกปิดเรื่องส่วนตัวผ่านความสัมพันธ์ แค่ชดเชยโดยเงินจำนวนหนึ่งให้กับครอบครัวของเหยื่อเท่านั้น
เงินเป็นสิ่งที่ดี แต่เงินไม่สามารถซื้อคืนคนที่เสียชีวิตให้กลับมาได้ เหยื่อเหล่านั้นไม่มีทางแก้ต่อความแค้นในใจของพวกเขาได้เลย ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาพวกเขาเห็นตระกูลเซียวแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ พวกเขาก็รู้สึกยิ่งไร้พลัง
ความเป็นจริงแล้ว พวกเขามีความคิดที่จะใช้ความรุนแรงเพื่อแลกกับความยุติธรรม แต่ช่วงหลายปีที่ผ่านมา พวกเขาไม่เคยได้รับความยุติธรรมเลย จนพวกเขาไม่เชื่ออีกต่อไปว่ากฎหมายจะอำนวยความยุติธรรมให้กับคนยากจน และพวกเขาก็กังวลเกี่ยวกับอนาคตของครอบครัว ซึ่งจะถูกตระกูลเซียวแก้แค้น ที่ไม่ต่อสู้กับคนรวยแม้ว่าพวกเขาจะสู้สุดชีวิตที่มีอยู่ ก็ไม่อยากให้กระทบลูกๆ หลานๆ
จนกระทั่งซูหว่านมาเจอพวกเขา ซูหว่านก็มาในฐานะเหยื่อคนหนึ่ง เพราะการล้มละลายของครอบครัวซูในตอนนั้นก็เคยขึ้นหนังสือพิมพ์หน้าหนึ่งเหมือนกัน หลังจากที่ซูหว่านสัญญาว่าจะทำให้ครอบครัวของพวกเขาอยู่ดีเป็นสุข โดยให้พวกเขาไปต่างประเทศทั้งหมดในที่สุดก็มีคนเต็มใจที่จะยืนหยัดต่อสู้กับตระกูลเซียวจนถึงที่สุด…
ตอนนี้ไม่ใช่แปดปีที่แล้ว
เมื่อแปดปีก่อนหรือสิบกว่าปีที่แล้วมีคนเสียชีวิตกับเหตุการณ์ย้ายถิ่นฐานในเวลานั้นบ่อยมาจนกลายเป็นเรื่องปกติ แต่ในปัจจุบัน เรื่องแบบนี้ร้ายแรงมาก
…..
ซูรุ่ยที่นอนอยู่บนเตียงเห็นว่าซูหว่านเอาแต่จ้องดูข่าว ก็เลยไม่พูดอะไร เขาปิดคอมพิวเตอร์แล้วหันไปมองซูหว่าน “เธอเป็นคนทำหรือเปล่า”
ซูรุ่ยไม่เคยเรียนรู้วิธีการแก้แค้นแบบนี้ เขาเป็นคนชอบใช้ความรุนแรงในการบริหารธุรกิจมาโดยตลอด ซูหว่านพยักหน้านิ่งๆ “เตรียมพร้อมมานานแล้ว…”
“ก็เลย …”
ซูรุ่ยลากเสียงยาวและมองไปที่ซูหว่าน “เซียวจิ่งมั่วมีความพิเศษอะไรที่ทำให้เธอเสียแรงและพยายามขนานนี้ เห็นได้ชัดว่าเธอสามารถจู่โจมเขาเพียงครั้งเดียว ก็จะทำให้เขาไม่สามารถพลิกตัวได้แล้ว ทำไมถึงต้องใช้เวลานานขนาดนี้”
น้ำเสียงของซูรุ่ยค่อนข้างซับซ้อน เขาจะไม่ยอมรับว่าเขาอิจฉาแน่นอน เมื่อได้ยินคำพูดของซูรุ่ย ซูหว่านก็เงียบลง ตอนนั้นที่เธอออกมาจากโลกของความฝัน เธอเลือกภารกิจง่ายๆ เพื่อกลับมายังโลกโดยไม่ได้คิดอะไรเลย เข้ามาแล้วซูหว่านถึงได้รู้ว่าภารกิจครั้งนี้คือเป็นตัวแทนคนรักของใครสักคน ซึ่งนี่เป็นภารกิจที่ซูหว่านไม่อยากเผชิญมากที่สุดเลย
ในแง่ของการเงินและธุรกิจซูหว่านมีความโดดเด่นมาโดยตลอดจริงๆ แล้วมันง่ายมากที่จะเล่นงานตระกูลเซียวด้วยพรสวรรค์ของเธอในโลกนี้ แต่…ซูหว่านไม่ได้มุ่งตรงไปที่เรื่องนี้ตั้งแต่แรก เธอได้สัมผัสกับลั่วชูชูก่อนตามด้วยเซียวจิ่งมั่ว
เธอค่อยๆ เข้าสู่ชีวิตของเซียวจิ่งมั่วและลั่วชูชู ไม่มีใครรู้ว่าซูหว่านคาดหวังอะไรอยู่ …
“นี่เป็นเรื่องของฉัน”
ในที่สุดซูหว่านก็เงยหน้าขึ้นอย่างเกียจคร้านและมองไปที่ซูรุ่ย “เธอก็น่าจะสนุกมามากพอแล้วนะ อย่าอยู่แต่โรงพยาบาลไม่ยอมออกไปใหน ฉันเหลือเวลาไม่มากแล้ว”
ซูหว่านอยู่ในโรงพยาบาลไม่นาน พอออกจากโรงพยาบาลเขาก็รีบโทรไปที่สำนักงานใหญ่ในยุโรป ถ้าคาดการณ์ไม่ผิดทุกคนจะขอยุติการทำธุรกิจกับตระกูลเซียว และตามเนื้อหาสัญญาแล้ว ปัญหาเรื่องความน่าเชื่อถือก็เกิดจากเครือบริษัทเฮ่าเย่ว์ หากยกเลิกสัญญาจึงไม่จำเป็นต้องจ่ายค่าชดเชยใดๆ
ในความเป็นจริงมันไม่ใช่แค่ EVFA เท่านั้น แต่แบรนด์ใหญ่ๆ หลายแห่งกำลังวางแผนที่จะเริ่มถอนตัวออกจากห้างสรรพสินค้าของเซียว และวันนี้หุ้นของเฮ่าเย่ว์ดิ่งลดลงสุดในตลาดหุ้น และสงครามบนโซเชียลก็ยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ
เครือบริษัทเฮ่าเย่ว์ เปลี่ยนจากองค์กรที่เป็นเสาหลักในท้องถิ่นมาเป็นผู้ที่ไร้ยางอายในสายตาของทุกคนในเวลาเพียงวันเดียว และยิ่งมีการเปิดเผยวิดีโอทางโซเชียลโดยบุคคลที่อ้างว่าเป็นสมาชิกในครอบครัวของเหยื่อที่ย้ายถิ่นฐานเมื่อสิบปีก่อน ก็ทำให้เหตุการณ์นี้เป็นข่าวดังที่สุดในเวลานี้