ภารกิจขโมยใจ ผจญภัยต่างโลก – ตอนที่ 9 เทพแห่งเกมออนไลน์รักฉัน
ตอนที่ซูหว่านเข้าสู่โลกนี้ ก็คุ้นเคยกับโครงเรื่องหลักทั้งหมดในโลกภารกิจนี้แต่แรกอยู่แล้ว เมื่อได้ยินซูรุ่ยพูดถึงตัวตนของเขา ซูหว่านก็หวนคิดถึงประวัติส่วนตัวทั้งชีวิตของซือถูเย่ในใจในเวลาชั่วเวลาพริบตา เปรียบเทียบระดับของตัวเองในตอนนี้กับระดับของซือถูเย่อยู่ในใจ ซูหว่านรู้สึกว่าโลกใบนี้ยังคงเต็มไปด้วยเจตนาร้ายอันน่ากลัวเต็มไปหมด…
อันดับหนึ่งของเซิร์ฟหัวเซี่ย! จะทำอย่างไรดี
“ซูหว่าน”
เห็นซูหว่านนั่งใจลอยอยู่บนโซฟา ซูรุ่ยก็กระเถิบไปข้างซูหว่านอย่างช้าๆ แล้วเขย่าโทรศัพท์มือถือของเธออีกรอบ พร้อมพูดด้วยน้ำเสียงสงสัย “จื้อจุนอู๋ซั่งเป็นใครเหรอ”
“ลูกพี่ในสตูดิโอทำงานของพวกฉันน่ะ”
ซูหว่านตอบอย่างหมดเรี่ยวแรง ในโลกออนไลน์จุดเริ่มต้นของเธอเดิมทีก็ต่ำต้อยจนน่าสงสารอยู่แล้ว พอตอนนี้มาเปรียบเทียบกับซูรุ่ย ซูหว่านไม่รู้ทำไมในใจถึงได้รู้สึกหงุดหงิดเป็นพิเศษ เป็นอารมณ์แบบที่พูดไม่ออกและบอกไม่ถูก ทำให้ตัวเธอดูหดหู่ลงมาทันทีไม่น้อย
“ลูกพี่?”
ซูรุ่ยเลิกคิ้วขึ้น “สนิทกับคุณมากเหรอ”
ตอนที่ซูหว่านอยู่ในห้องครัวเมื่อครู่ โทรศัพท์มือถือของเธอดังไม่หยุด ซูรุ่ยหยิบขึ้นมาดูอยู่หลายครั้ง ข้อความที่เห็นส่งมาต่างเป็นของจื้อจุนอู๋ซั่ง เรื่องที่ถามโดยรวมแล้วก็ต่างเกี่ยวกับเกม ตอนท้ายยังบอกให้เธอกินข้าวให้ตรงเวลา รักษาสุขภาพต่างๆ นานาอย่างเป็นห่วงเป็นใย
ซูรุ่ยบอกได้เลยว่าแค่เห็นข้อความก็อารมณ์เสียแล้ว!
ดังนั้นเขาจึงจัดการบล็อกจื้อจุนอู๋ซั่งอย่างไม่ลังเล สำหรับการตอบกลับข้อความอะไรนั่น ท่านแม่ทัพซูก็แค่พูดไปอย่างนั้นเองแหละ
ซูหว่านไม่รู้ว่าซูรุ่ยบล็อกจื้อจุนอู๋ซั่งไปแล้ว เมื่อได้ยินคำถามของซูรุ่ย ซูหว่านเพียงส่ายหน้าอย่างใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว “ไม่ได้สนิทมาก แค่ร่วมมือกันชั่วคราว อยู่กับพวกเขาแล้วจะได้เลื่อนระดับเร็วขึ้นหน่อย”
“ต่อไปผมจะพาคุณไปเลื่อนระดับเอง!”
เมื่อได้ยินซูหว่านพูดถึงเรื่องเลื่อนระดับ ซูรุ่ยก็ตาเป็นประกาย รีบหันหน้ามองซูหว่านด้วยสีหน้ามีความหวัง “อีกครึ่งเดือนกว่าหลังจากนี้ช่องทางข้ามเซิร์ฟก็จะเปิดแล้ว ถึงเวลานั้นจะมีการเปิดแผนที่ส่วนกลางกับสนามประลองส่วนกลาง ระดับของผมตอนนี้ถือว่ายังพอใช้ได้ รอให้แผนที่ส่วนกลางเปิดแล้ว ผมจะพาคุณไปเลื่อนระดับที่นั่น”
ถึงแม้จอมเวทเป็นอาชีพที่ตายง่าย แต่ก็ไม่พูดไม่ได้ว่าเป็นอาชีพที่เลื่อนระดับได้เร็วที่สุดใน ‘หลิงเสิน’ อาชีพที่ได้เปรียบที่สุดเวลาไปสังหารมอนสเตอร์
“นายนี้ก็ถ่อมตัวจังเลยนะ! เป็นอันดับหนึ่งของเซิร์ฟแล้วยังบอกว่าตัวเองพอใช้ได้อีกเหรอ แล้วฉันควรต้องมีชีวิตอยู่ต่อไปไหมเนี่ย”
ซูหว่านมองซูรุ่ยอย่างขำๆ “ทำไมเมื่อก่อนฉันถึงไม่เคยพบว่านายยังมีคุณธรรมอันดีงามเรื่องความอ่อนน้อมถ่อมตนแบบนี้อยู่ด้วยนะ”
“ข้อดีของผมมีเยอะแยะ คุณยังมีเวลาอีกทั้งชีวิตค่อยๆ ไปขุดค้น”
ซูรุ่ยยิ้ม พร้อมกับขยับเข้าใกล้ซูหว่านอย่างช้าๆ
“พอแล้ว ฉันควรไปออนไลน์แล้ว ถ้าคุณเหนื่อยก็นอนในห้องนอนแขกแล้วกัน มีเรื่องอะไรเราค่อยคุยกันอีกทีพรุ่งนี้”
เอ่อ…
ซูรุ่ยยมองดูซูหว่านกลับไปเชื่อมต่อกับแคปซูลเกมในห้องนอนอย่างทำอะไรไม่ได้ ท่านแม่ทัพซูบอกได้เลยว่าเขาไม่ดีใจเลยสักนิด!
“ฮัลโหลครับ คุณลุงหลี”
ซูรุ่ยเดินไปยังระเบียงห้องแล้วโทรหาพ่อบ้านของตัวเองทันที “แคปซูลเกมของผมที่ส่งมาทางเครื่องบินจะถึงเมื่อไร อะไรนะครับ พรุ่งนี้เช้าเหรอ ช่างเถอะๆ เอาตามนี้ไปก่อนแล้วกัน!”
หลังวางสาย ซูรุ่ยมองไปยังถนนที่เปล่าเปลี่ยวนอกหน้าต่าง หรี่ตาลงอย่างไม่รู้ตัว…
ซูหว่านกลับไปยังเกม เธอยังคงอยู่ในดันเจี้ยน ในดันเจี้ยนอันว่างเปล่ามีแค่เงาโดดเดี่ยวของเธอคนเดียว
ซูหว่านนั่งลงพิงอยู่ข้างผนังด้านข้าง ขณะนี้กล่องข้อของเธอถูกถล่มด้วยข้อความมากมาย ซูหว่านกดเปิดดูข้อความที่มากมายเหมือนเกล็ดหิมะขึ้น เก้าสิบเปอร์เซ็นต์เป็นคำขอเป็นเพื่อน
ซูหว่านกดปฏิเสธไปทั้งหมด แทบไม่ได้ดูละเอียดเท่าไร
จากนั้น ก็เห็นข้อความหลายข้อความในลิสต์รายชื่อเพื่อนของเธอ…
เสี่ยวเฟิงฉานเย่ว์ : [พี่เทียนยกเลิกคำสั่งไล่ฆ่าเธอแล้ว ต่อไปเจอกันเราจะยังเป็นเพื่อนกันอยู่ไหม]
อู่เป่าเป้ย : [ใต้เท้าไอดอล! ฉันดูวิดีโอของคุณแล้ว! คุณรับลูกศิษย์ไหมคะ คุณรับฉันเป็นศิษย์ได้ไหม]
จื้อจุนอู๋ซั่ง : [ทำไมเธอถึงบล็อกเบอร์ฉันล่ะ]
ตอนที่เจ้าของร่างเดิมออกจากซื่อเทียน เธอได้ลบเพื่อนสมัยที่ยังอยู่ในซื่อเทียนไปเกือบหมด เสี่ยวเฟิงฉานเย่ว์คือคนเดียวที่ยังเหลืออยู่
เขาเป็นคนกะล่อนปลิ้นปล้อนคนหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้น่ารังเกียจมากขนาดนั้น
ดั่งคำกล่าวที่ว่าพอคนจากไปชาก็เย็นชืด ก่อนหน้านี้หลังจากถูกเยี่ยเทียนสังหารจนตกไปหลายระดับ สมาชิกคนสำคัญในกิลด์ซื่อเทียนต่างก็เข้าร่วมปฏิบัติการไล่ฆ่าซูหว่านกันหมด มีแค่เสี่ยวเฟิงฉานเย่ว์คนเดียวเท่านั้นที่ไม่ได้ลงมือ แต่มันก็แค่นั้นจริงๆ
เขาไม่เคยลงมือแต่ก็ไม่เคยพูดอะไรเพื่อเธอสักคำ
นี่คงจะเป็นวิธีการมีชีวิตอยู่ร่วมกับคนอื่นของเสี่ยวเฟิงฉานเย่ว์ละมั้ง!
ซูหว่านครุ่นคิดอยู่สักครู่สุดท้ายก็ลบเขาออกจากรายชื่อเพื่อนของตัวเอง จากนั้นซูหว่านก็ส่งอีโมจิหน้ายิ้มไปให้อู่เป่าเป้ย พอมาถึงของจื้อจุนอู๋ซั่ง ซูหว่านครุ่นคิดครู่หนึ่ง แต่ก็ตอบกลับไปว่า [ฉันไม่ได้เป็นคนบล็อก] จากนั้นก็ไม่ได้สนใจอะไรอีก
ยังไม่ถึงเที่ยงคืนดันเจี้ยนยังไม่ได้รีเซ็ตใหม่ ซูหว่านจัดการข้อความจากเพื่อนเสร็จ จึงเปิดดูหน้ากระดานสนทนาทางโลกอย่างเบื่อหน่าย ตอนนี้ยังมีคนคุยกันถึงเรื่องของเธออยู่อีก แต่ประเด็นหลักที่ทุกคนพูดคุยได้เปลี่ยนจากการประลองกับไป๋หลังไปเป็นคำสั่งไล่ฆ่าที่ถูกยกเลิกอย่างกะทันหัน
ที่แท้ตู๋หลังเป็นคนยกเลิกคำส่งสั่งหารก่อน แล้วตี้ซื่อเทียนก็ยกเลิกตามมาทีหลัง
ที่นี้ตัวเธอเองก็ไม่ต้องไปเก็บระดับอย่างอกสั่นขวัญหายอีกต่อไปแล้ว แต่ว่า…
ซูหว่านยังคงไม่รู้สึกดีใจ
เธอไม่ชอบฐานะที่ตัวเองตกเป็นฝ่ายด้อยกว่าอยู่ตลอดอย่างนี้ แต่ในโลกของ ‘หลิงเสิน’ ระดับกลับเป็นตัวกำหนดทุกอย่าง ช่วงเวลาที่เธอเข้ามาทำภารกิจนี้เป็นช่วงจังหวะที่แย่ที่สุดพอดี อ้างอิงจากอัตราในการเพิ่มค่าประสบการณ์ที่ตัวเองบุกตะลุยดันเจี้ยนคนเดียวทุกวันในตอนนี้ เมื่อถึงเวลาที่ช่องทางข้ามเซิร์ฟเปิดขึ้น คาดว่าอย่างพยายามแล้วคงจะฝืนเลื่อนไปที่ระดับหกสิบได้โดยประมาณ
แค่ระดับที่หกสิบเอง ตอนนี้ ID จอมเวทของซูรุ่ยไปถึงระดับเจ็ดสิบแล้ว
ซูหว่านถอนใจอีกครั้ง อย่างที่คิดไว้ การปรากฏตัวของซูรุ่ยทำให้เธอรู้สึกกระวนกระวายใจ
ทั้งๆ ที่รู้ว่าถ้าใช้ประโยชน์จากซูรุ่ยจะสามารถไปถึงจุดมุ่งหมายของตัวเองได้โดยเร็วที่สุด ถ้าเป็นซูหว่านเมื่อก่อนเธอไม่แม้แต่จะคิด แน่นอนว่าเธอจะใช้วิธีที่ง่ายและรวดเร็วที่สุดในการทำภารกิจให้สำเร็จ
แต่ตอนนี้…
ซูหว่านรู้สึกหงุดหงิดมาก ตั้งแต่ที่เห็นซูรุ่ยครั้งแรกที่หน้าประตู เธอก็รู้สึกว่าในใจยุ่งเหยิงไปหมด
ความรู้สึกที่เหมือนไม่รู้จักแต่ก็คุ้นเคยแบบนี้ ทำให้ซูหว่านไม่อยากอยู่ในห้องนานกว่านั้นแม้แต่วินาทีเดียว เธอในตอนนี้ทำได้แค่หลบอยู่ในเกม ค่อยๆ จัดการกับอารมณ์ของตัวเอง
หลังจากที่บอกตัวเองในใจไปเป็นร้อยรอบว่า ‘ให้ใจเย็น’ สีหน้าของซูหว่านจึงดีขึ้นมาหน่อย
เธอออฟไลน์อย่างเงียบเชียบ เมื่อออกมาจากห้องนอนของตัวเองก็พบว่าไฟในห้องห้องรับแขกปิดไปแล้ว ประตูห้องนอนแขกอีกฝั่งปิดสนิท ไม่รู้ว่าซูรุ่ยนอนแล้วหรือกำลังทำอย่างอื่นอยู่
ซูหว่านเดินไปห้องครัวแล้วรินน้ำดื่มให้ตัวเองหนึ่งแก้ว จากนั้นก็หันตัวกลับไปยังห้องนอนเปลี่ยนเสื้อและนอนลง
เช้าวันต่อมา ซูหว่านถูกปลุกด้วยเสียงดังเอะอะรบกวนระลอกหนึ่ง เธอเปิดประตูห้องนอนออกมาอย่างสะลึมสะลือ ก็เห็นคนงานกลุ่มหนึ่งกำลังย้ายแคปซูลเกม ‘หลิงเสิน’ เครื่องใหญ่เข้ามาในบ้านของเธออย่างเป็นระบบระเบียบ
“หมายความว่ายังไง”
ซูหว่านมองแวบเดียวก็เห็นซูรุ่ยที่นั่งอยู่บนโซฟาห้องรับแขกอย่างไม่เป็นเดือดเป็นร้อน
ซูรุ่ยได้ยินเสียงของซูหว่าน เมื่อหันหน้ามาก็เห็นเธอใส่ชุดนอนสีฟ้าอ่อน ยืนทำหน้างงงวยอยู่หน้าประตู
จู่ๆ ก็รู้สึกว่าซูหว่านสภาพแบบนี้น่ารักมากเลย ทำยังไงดี
ซูรุ่ยรีบยืนขึ้นและเดินมาอยู่หน้าซูหว่าน ใช้ร่างกายของตัวเองบดบังร่างอันเพรียวบางของเธอ…
ซูหว่านที่น่ารักขนาดนั้นแค่ฉันดูคนเดียวก็พอแล้ว
ซูหว่าน “…”
ช่วงนี้นายไปอ่านนิยายท่านประธานอะไรแปลกๆ มาอีกแล้วใช่ไหม
ซูหว่านรู้สึกว่าสายตาที่ซูรุ่ยมองตัวเองแปลกประหลาดมาก มันทำให้เธอรู้สึกเกร็งไปทั้งตัว
“แคปซูลเกมของคุณควรเปลี่ยนรุ่นแล้ว สองเครื่องนี้เป็นแคปซูลเกมออกใหม่ล่าสุด เครื่องใหญ่หรูหรา รุ่นลิมิเต็ดของบริษัท TX ผมให้คนส่งทางเครื่องบินมาโดยเฉพาะ แถมยังเป็นรุ่นคู่รักที่มีแค่หนึ่งเดียวอีกด้วยผมกับคุณคนละเครื่อง รหัสเครื่องของคุณคือ 520 รหัสเครื่องของผมคือ 521”
ระหว่างที่พูด ซูรุ่ยเอียงตัวเล็กน้อย ใช่มือข้างหนึ่งค้ำประตู ก้มหน้ามองซูหว่านด้วยสีหน้าคาดหวัง
สีหน้าที่ขอร้องว่าเธอช่วยชมฉันหน่อยแบบนี้มันคืออะไรกัน!
ซูรุ่ย นายนี่ยิ่งอยู่ยิ่งทำลายภาพลักษณ์ตัวละครของนายนะรู้รึเปล่า
ขณะนี้ในใจของซูหว่านกำลังกลอกตามองบนไปหลายตลบ เพียงแต่ว่าเธอกลับคาดการณ์กำลังรบของซูรุ่ยผิดไปอย่างเห็นได้ชัด….
อะไรที่เรียกว่าการแสดงความรักแบบหลากหลายให้คนโสดตายกันไปข้างหนึ่งนะเหรอ
ก็ต้องเป็นตอนที่หลังจากเกมสามารถข้ามเซิร์ฟได้นั่นแหละ เย่อวี่ หัวหน้ากิลด์หย่งเย่ นอกจากสมญานามว่าอันดับหนึ่งของเซิร์ฟแล้ว เขายังถูกผู้เล่นทั้งเซิร์ฟประทานฉายาสุดคูล บ้าคลั่ง ดุเดือด เลือดพล่าน สะท้านฟ้าว่า…
มารคลั่งแห่งการแสดงความรัก!