ในคืนที่อยู่ในฐานชังหยา หยางอู่แอบย่องเข้าไปในพื้นที่ต้องห้ามของฐานชังหยาห้องทดลองเฟิงเยี่ยในตอนกลางคืน ตามคำสั่งของหยางจื่อซี
การแอบสำรวจยามกลางคืนคราวนี้ราบรื่นกว่าที่หยางอู่คิดไว้ เขาหลีกเลี่ยงกลุ่มคนหูไวตาไวทั้งหมด แล้วเข้าไปในห้องโถงกลางของห้องทดลอง ห้องโถงสีขาวที่ดูเรียบร้อย นอกจากอุปกรณ์ทดลองมากมายแล้ว ยังมีประตูที่กะพริบไฟสีแดงที่อยู่ด้านข้างของห้องโถง
หยางอู่จ้องไปที่ประตู สายตาของเขาเริ่มพร่ามัวไปเล็กน้อย เขารู้สึกว่าประตูกำลังเรียกให้เขาเปิดออก และเมื่อเปิดประตูนี้บาน เขาจะมีชีวิตที่แตกต่างออกไป…
“เฮือก!”
หยางอู่ลุกขึ้นจากเตียงด้วยเหงื่อที่ท่วมตัว และตระหนักได้ว่าเขาไม่ได้อยู่ในห้องทดลองเฟิงเยี่ย แต่อยู่ในห้องรับรองแขกของฐานชังหยา
เมื่อคืนเขา…แค่ฝันไป
เนื้อหาของความฝันเลือนรางเล็กน้อย สัญชาตญาณของหยางอู่รู้สึกถึงความไม่ปลอดภัยเล็กน้อย เขารีบลุกขึ้นและล้างหน้าอย่างลวกๆ ก่อนจะออกจากห้องของเขา
ในตอนเช้า ใต้แสงดวงอาทิตย์ที่สดใน สามารถเห็นคนพลุกพล่าน และใบหน้าที่ยิ้มแย้มสะอาดตาได้ทุกที่ในฐานชังหยา
ที่นี่แตกต่างจากฐานหลงเสียงมากๆ
มองดูผู้คนที่เดินผ่านไปมาบนถนนอย่างเงียบๆ ดูเหมือนว่าพวกเขากำลังใช้ชีวิตเหมือนก่อนวันโลกาวินาศ ทุกคนต่างพอใจและสงบนิ่ง ไม่มีการกดขี่และการต่อสู้ในฐาน ไม่มีการวางอุบายระหว่างกลุ่มต่างๆ
ถ้าเป็นที่อื่น ทุกคนจะต่อสู้เพื่อแย่งแกนผลึกอย่างเอาเป็นเอาตาย แต่ที่นี่มีแกนผลึกมากราวกับเป็นของเล่นเด็กๆ ที่โยนไปมาทั่วทั้งถนน
นี่ไม่ได้หมายความว่าฐานชังหยามีแกนผลึกมั่งคั่ง แต่นี่เป็นการแสดงให้เห็นว่า สถานที่แห่งนี้ทุกคนไม่ได้ให้ความสำคัญแกนผลึกและพลังมากเกินไป
คนธรรมดาและผู้มีพลังพิเศษเข้ากันได้อย่างกลมกลืน แม้กระทั่งบนถนนสายนี้ คุณจะเห็นซอมบี้ที่ติดเชื้อจำนวนมากบนถนนแห่งนี้ พวกมันก็ใช้ชีวิตเหมือนคนทั่วไป และไม่ได้ถูกปฏิเสธและถูกดูหมิ่นใดๆ…
นี่ไม่ใช่สถานที่ที่ตนเองอยากอยู่มาตลอดเหรอ
สายตาของหยางอู่พร่ามัวไปเล็กน้อย เมื่อเขาได้สติกลับมา เขาถึงสังเกตเห็นว่าทั้งถนนก็เต็มไปด้วยผู้คนพลุกพล่านและครึกครื้นขึ้น เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ และซอมบี้สองตัวถูกผู้คนกลุ่มใหญ่ยืนรายล้อมอยู่ตรงกลาง ชายหนึ่งหญิงหนึ่ง
นี่น่าจะเป็นพี่สาวและพี่เขยของเยี่ยนอวี่ตามตำนานที่เล่าขาน…
คุณหนูเยี่ยน คุณชายซู
ซอมบี้สองตัวนี้มีชื่อเสียงมากในยุคโลกาวินาศ และหยางอู่ก็ยังสามารถเห็นได้ว่าผู้คนในฐานนี้ชอบและรักพวกเขาจริงๆ
คนและซอมบี้สามารถอยู่ร่วมกันอย่างกลมกลืนขนาดนี้เชียวเหรอ
เรื่องนี้ทำให้หยางอู่รู้สึกคิดไม่ถึงเล็กน้อย
และในขณะนี้ สายตาที่เย็นชาก็ได้มองทะลุมา
หยางอู่รู้สึกว่าขนทั่วร่างกายของเขาลุกตั้งชัน และความรู้สึกที่ถูกมองทะลุแบบนั้น ทำให้ใบหน้าของเขาซีดลงในทันที
ใครกัน
ตามความรู้สึกในเวลานั้น และเมื่อหยางอู่มองกลับไปอีกครั้ง ก็เห็นเพียงด้านหลังของซอมบี้ทั้งสองที่กำลังจากไป
ใช่พวกเขาไหม
หยางอู่ขมวดคิ้วอย่างช่วยไม่ได้
และในตอนนี้ คู่ที่กำลังแสดงความรักอยู่บนถนน ก็คือซูรุ่ยที่กำลังควงแขนอยู่กับซูหว่าน กำลังกระซิบที่หูของเธออย่างสนิทสนมพูดว่า “ห้วงสำนึกของหยางอู่มีข้อบกพร่องแล้ว กลลวงตาของคุณเมื่อวานนี้เห็นผลแล้ว”
ความตกใจของจิตเมื่อกี้นี้ เป็นการทดสอบของซูรุ่ยต่อหยางอู่ และผลของการทดสอบทำให้ซูรุ่ยพอใจเป็นอย่างมาก
เมื่อวานนี้ เขาได้ใช้พลังวิญญาณอันผิดมนุษย์มนาของตนในการแอบฟัง ‘บทสนทนา’ ระหว่างหยางจื่อซีและระบบ หลังจากที่รู้จุดประสงค์ของระบบและเป้าหมายของภารกิจแล้ว ซูรุ่ยและซูหว่านจึงตัดสินใจใช้แผนซ้อนแผน เพื่อกำจัดระบบที่มาจากภายนอกนี้ให้ KO ไปในครั้งเดียว!
“ในเมื่อหยางอู่ทางนี้เตรียมไว้แล้วพอประมาณ แผนอื่นๆ ก็สามารถดำเนินการได้แล้ว”
พูดพลางซูหว่านอดไม่ได้ที่จะหยุดไปชั่วขณะ สีหน้าของเธอดูแปลกออกไปเล็กน้อยและพูดว่า “คุณแน่ใจเหรอว่าเรื่องที่จัดการกับหยางจื่อซี จะให้ฉืออี้เป็นคนลงมือทำ ไม่ใช่มั่วอิ่น”
“ผมบอกให้มั่วอิ่นกลับไปที่ศูนย์วิจัยลี่ว์เยี่ยแล้ว”
ในมุมมองของซูรุ่ย ศูนย์วิจัยลี่ว์เยี่ยไม่มีความจำเป็นจะต้องมีอยู่ต่อไปอีกแล้ว และตอนนี้ก็ยืม ‘ห้องทดลองเฟิงเยี่ย’ ที่มีอยู่ ชะล้างความบริสุทธิ์ให้กับทุกคน
และ…
ทันใดนั้นซูรุ่ยก็ส่งยิ้มอ่อนๆ ให้กับซูหว่านและพูดว่า “คุณไม่คิดเหรอว่าฉืออี้ เป็นคนที่ดีที่สุดในการแอบอ้างเป็นดอกเตอร์แอล”
สัญชาตญาณของตัวเขานั้นดีมาก คิดว่าตนเองเป็นคนยอดเยี่ยมในหมู่คนยอดเยี่ยมอะไรนั่น แม้ว่าเขาจะถูกสะกดจิต แต่เขาก็คงคิดว่าตัวเขาเองเป็นคนที่เก่งที่สุดมาตลอด
…
ในวันที่สอง หลังจากที่หยางจื่อซีมาถึงฐานชังหยา เธอก็ประกาศเป็นพันธมิตรกับชังหยาในฐานะผู้นำของหลงเสียง
ในช่วงเวลาที่ค่อนข้างอ่อนไหวในตอนนี้ หยางจื่อซีจึงตัดสินใจผลักตัวเองให้อยู่ฝั่งตรงข้ามกับพันธมิตรอื่นๆ อย่างไม่ต้องสงสัย และยิ่งทำให้ผู้คนในฐานหลงเหยียนต่างรู้สึกเสียหน้ามาก
เดิมทีฐานหลงเสียงแข็งแกร่งกว่าหลงเหยียนเป็นอย่างมาก แต่นั่นก็หมายถึงความแข็งแกร่งโดยรวมของหลงเสียง และคราวนี้ หยางจื่อซีก็พากลุ่มผู้มีพลังพิเศษเพียงกลุ่มเดียวมากล้าที่จะสนับสนุนชังหยาด้วยความสูงส่ง นี่คือการตบหน้าหลงเหยียนอย่างไม่ต้องสงสัย ฉินเฟยผู้นำของหลงเหยียนก็เป็นคนที่โหดเ**้ยมเช่นกัน เขารู้ดีว่าหลงเสียงอยู่ห่างไกลจากที่นี่ และภายใต้สถานการณ์อย่างนี้ ก็ไม่มีเวลาส่งคนมาเป็นกำลังเสริม ฉินเฟยก็ตัดสินใจ และระดมพลังทั้งหมดของเขาโจมตีฐานชังหยาในทันที
เขาอยากจะชนะด้วยวิธีที่คาดไม่ถึงแบบนี้แหละ!
ใช้โอกาสที่ชังหยายังไม่พร้อม โจมตีฐานชังหยาด้วยความรวดเร็วที่สุด และสูญเสียน้อยที่สุด จากนั้นก็ทำให้หยางจื่อซีเป็นลูกไก่ในกำมือของเขา แบบนี้ก็จะกดคนของหลงเสียงได้ และคนในฐานอื่นๆ ก็จะมีความกังวลไม่กล้าลงมือทำอย่างผลีผลาม!
ต้องบอกว่า ฉินเฟยถือได้ว่าเป็นคนที่ทะเยอะทะยาน และชอบกดขี่ข่มเหง เขาเป็นคนที่ทำมักจะทำการใหญ่ และการลงมือของเขาก็รวดเร็วและเอาจริงเอาจัง
น่าเสียดาย ที่ครั้งนี้เขาต้องเผชิญหน้ากับชังหยา…
ดูผิวเผินหากจะเปรียบเทียบฐานชังหยากับฐานใหญ่ๆ แล้ว ก็อยู่แค่ระดับกลางเท่านั้น แต่พลังต่อสู้ที่แท้จริงนั้นดุเดือดและน่ากลัวเป็นอย่างมาก!
ในตอนที่กองทัพคนฐานหลงเหยียนบุกโจมตี ก็ถูกกองทหารซอมบี้ฝูงเล็กเล็งไว้แล้ว ดังนั้นไม่แปลกใจเลยว่า ตอนผ่านพื้นที่ที่ถูกยึดครองของฐานชังหยาซึ่งอยู่ห่างออกไปร้อยลี้ ผู้คนในฐานหลงเหยียนจะถูกกองทัพซอมบี้ใหญ่รุมจนเละไม่เป็นท่าแล้ว!
ฝูงซอมบี้ไร้ขอบเขต ใช้ทักษะที่หลากหลายโจมตีเข้าอย่างต่อเนื่อง คนของหลงเหยียนยังไม่ทันได้รู้สึกตัว ก็มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บเป็นจำนวนมากแล้ว
ในท้ายที่สุด หลงเหยียนสูญเสียกำลังรบไปกว่าครึ่ง ภายใต้คำสั่งของฉินเฟย ก็เหลือเพียงกองกำลังชั้นยอดจำนวนน้อยที่หลุดออกจากฝูงซอมบี้ได้
คราวนี้ พวกคนฐานหลงเหยียนเสียชีวิตก่อนที่เขาจะออกจากกองทัพ และข่าวที่ว่าฐานชังหยาร่วมมือกับราชาซอมบี้ก็แพร่กระจายอย่างรวดเร็ว…
เมื่อเผชิญกับข้อสงสัยจากทุกฝ่าย เยี่ยนอวี่แสดงท่าทีของฐานชังหยาในนามของหลูฉิน…
พวกเราจะสร้างยุคที่มนุษย์และซอมบี้อยู่ร่วมกันอย่างสันติขึ้นมาใหม่!
ไม่ว่าจะเป็นซอมบี้หรือผู้ติดเชื้อ เมื่อก่อนพวกเขาต่างเคยเป็นมนุษย์มาก่อน และต่างก็เคยเป็นญาติของเราเช่นกัน! ไม่มีใครจะแย่งโอกาสและสิทธิ์การใช้ชีวิตพวกเขาไปได้…
หลังจากอภิปรายคำพูดอย่างชอบธรรมแล้ว ฐานชังหยาก็ได้ประกาศไปทั่วโลกว่า พวกเขายินดีที่จะรับผู้ติดเชื้อจากทั่วประเทศและซอมบี้กลายพันธุ์ที่ฟื้นคืนสติ!
ทันทีที่คำพูดนี้หลุดออกมา โลกก็อยู่ในความโกลาหล!
เกือบชั่วข้ามคืน ฐานอื่นๆ หลายแห่งได้รวมกันเป็นหนึ่งเดียวเป็นฐานเหยียนจื้อ เพื่อทำสงครามล้างแค้นกองทัพใหญ่!
และเนื่องจากความสัมพันธ์ฉัน ‘พันธมิตร’ ระหว่างหลงเสียงและชังหยา ในเวลานี้ฐานหลงเสียงที่ไร้ผู้นำ ก็ถูกควบคุมอย่างลับๆ โดยคนของเหยียนจื้อ ที่อยากครอบครองฐานของพวกเขามานาน
การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน จนหยางจื่อซีไม่สามารถกลับไปได้ทันเวลา และเพื่อที่จะทำให้ภารกิจของระบบสำเร็จ เธอจึงไม่สามารถละทิ้งเยี่ยนอวี่ที่เป็นพันธมิตร หรือออกจากฐานชังหยาได้
โชคดีที่หยางจื่อซีซึ่งมีระบบมาโดยตลอด จึงไม่ได้เห็นความสำคัญของฐานหลงเสียงมากนัก ในความคิดของตัวเธอเองก็มีระบบที่ทรงพลัง และข้างๆ เธอก็มีบอสตัวน้อยอย่างเยี่ยนอวี่ รวมถึงบอสตัวใหญ่ที่ซ่อนตัวและสามารถทำลายโลกนี้ได้อย่างดอกเตอร์แอล หากโลกทั้งใบเป็นศัตรูกับเธอ เธอก็ยังสามารถพลิกกลับมาได้!
ด้วยวิธีนี้ สายตาของโลกภายนอกที่มองหยางจื่อซีก็เหมือนกับสายตาของเยี่ยนอวี่ที่มองว่าเธอ ‘******’
เมื่อผู้มีพลังต่างมารวมตัวกัน และวางแผนที่จะโจมตีฐานชังหยา ผู้คนที่ฐานชังหยาก็ยังคงใช้ชีวิตเหมือนเดิม สำหรับคำพูด ‘สะท้านโลก’ ของเยี่ยนอวี่ พวกเขาคิดว่าเป็นเรื่องปกติ และไม่มีอะไรที่ผิดปกติ
และตอนนี้ เหล่าเด็กๆ ของคนหนุ่มสาวบางคนในฐานชังหยาก็เคยเห็นฝีมือของเสี่ยวหลี่เสี่ยงแล้ว และยังมีภาพลักษณ์ของซอมบี้ที่ถูกซูรุ่ย ‘เปลี่ยนทุกปี’ ก็ยิ่งดึงดูดเข้าไปใหญ่ คิดไม่ถึงว่าจะมีวัยรุ่นหลายคนวิ่งไปหาห้องทำงานของหลูฉิน และแย่งกันใช้ห้องทดลองเฟิงเยี่ยเพื่อทดลองคนขึ้นมาจริง
ในความคิดของพวกเขา การที่สามารถสลับไปมาระหว่างคนกับซอมบี้ได้มันเท่มาก!
และตอนนี้พวกป้าๆ ในฐานมักจะพูดถึงคุณชายซูทุกครั้งที่มองหาลูกเขย เช่นลูกเขยของฉันถ้ามีความสามารถซักครึ่งของคุณชายซูก็คงดี! ส่วนลูกสาวของฉันต้องแต่งงานกับคนที่เหมือนกับคุณชายซูผู้หลงรักภรรยาของเขามากถึงจะได้…
ดังนั้น ซูรุ่ยจึงกลายเป็นข้อกำหนดเกณฑ์มาตรฐานสำหรับวัยรุ่นในฐานชังหยาขึ้นมา…
อยากได้แต่งภรรยางั้นเหรอ
อยากแข็งแกร่งขึ้นงั้นเหรอ
ทุกอย่างมองไปที่คุณชายซูสิ!
นับตั้งแต่นั้น วัยรุ่นผู้บริสุทธิ์ต่างรู้สึกว่าพวกเขาพบทางลัดสู่ความสำเร็จ…
กลายเป็นว่าการเป็นคุณชายซูในก้าวแรกของคือการกลายเป็นซอมบี้…