ภารกิจขโมยใจ ผจญภัยต่างโลก – ตอนที่ 6 คุณหนูใหญ่หวนคืน

ตอนที่ 6 คุณหนูใหญ่หวนคืน

ความเย็นชาของซูรุ่ยหายไปอย่างรวดเร็ว เฉินชิงจิ่นถึงแม้จะรู้สึกถึงได้ แต่นางก็คิดว่าตัวเองน่าจะรู้สึกผิดไป เพราะนางเข้าใจว่าอ๋องจิ้นชินในชาติที่แล้วนั้นเป็นคนดี ท่านอ๋องเป็นคนที่คิดจริงใจต่อบัลลังก์ราชวงศ์อย่างแท้จริง ทำงานถวายชีวิตจนตาย ความคิดปราชญ์เปรื่องคาดการณ์แม่นยำและเข้ากับคนง่าย

แต่ในเวลานี้ เมื่อเผชิญหน้ากับความสงสัยของเฉินชิงจิ่นและท่าทางรอฟังอย่างตั้งใจต่อหน้าสาธารณชน สีหน้าของซูรุ่ยไม่ต่างจากปกติ เสียงก็ไม่ตื่นตระหนกเหมือนกับฮ่องเต้ในวันวาน “ช่วงนี้ข้าอยู่ในวังค่อนข้างอึดอัด วันนี้อากาศดีอยากจะออกมาเดินนอกเมืองหลวง พอนั่งรถออกมานอกเมืองก็พลันคิดถึงวันก่อนที่ฉินเย่ว์เอ่ยว่าวันนี้จะมาที่ลานล่าสัตว์ ข้าจึงมาร่วมสนุกด้วย…แค่กๆ”

เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ ซูรุ่ยก็ไอขึ้นมา ใบหน้าซีดเผือดของเขาก็ปรากฏสีแดงของอาการป่วยออกมาวูบหนึ่ง

คนอื่นที่อยู่ข้างๆ ก็หยุดหายใจไปพร้อมกับเสียงไอของเขา

ร่างกายของอ๋องจิ้นชินอ่อนแอเป็นอย่างมากจริงๆ…

ในตอนที่สายตาที่สงสารปนนับถือของทุกคนมองไปทางซูรุ่ย ซูหว่านทำได้เพียงกรอกตาขาวขึ้นอย่เงียบๆ

ฝีมือการแสดงไม่เลวนี่ หึๆ ทำไมไม่ใช้พลังภายในทำให้กระอักเลือดออกมาเสียเลยเล่า

สุดท้ายตอนที่ซูหว่านกำลังเยาะเย้ยอยู่นั้น ซูรุ่ยก็ไอออกมาเป็นเลือด…

โอ้โห ใจตรงกันเสียจริง!

สายตาเห็นรอยเลือดตรงมุมปากของซูรุ่ย ประกอบกับผ้าเช็ดหน้าที่มีวงเลือดอยู่ในมือนั่น สีหน้าของเฉินอวี้ซูก็ยิ่งขึงขังมากขึ้น “ท่านอ๋องโปรดรักษาสุขภาพ! บ้านเมืองต้องการท่าน”

ซูรุ่ย โอ้โห พูดอย่างกับข้าจะตายอย่างนั้นแหละ เจ้าตายข้าก็ไม่ต้องตายแล้ว ข้าจะอดทนต่อไป…

แต่ดีที่ในเวลานี้องค์ชายห้าและองค์ชายสองก็ตามมาถึงพอดิบพอดี ความสนใจของทุกคนจึงย้ายจากตัวซูรุ่ยไป

ในฐานะที่เป็นพระเอกในโลกนี้ องค์ชายสองเฉินเย่ว์มีอากัปกิริยาไม่ธรรมดา ท่าทางเด็ดขาด

แต่องค์ชายห้าในฐานะชายโฉดก็มีคุณลักษณะอันพิเศษของชายโฉดอย่างครบถ้วน อาทิเช่นใบหน้าอันหล่อเหลา ริมฝีปากบางที่ทั้งเซ็กซี่และเจ้าชู้…

เป็นเพราะมีรถม้าของซูรุ่ย ทั้งสองคนจึงได้ขอลาท่านลุงมาก่อน

จะว่าไปตอนนี้อายุของซูรุ่ยอายุเพียงแค่ยี่สิบเจ็ดปี อายุมากกว่าฉินเย่ว์เพียงแค่เจ็ดปี เพียงแต่ว่าลำดับศักดิ์ที่มีอยู่ ทั่วทั้งเมืองหลวง นอกจากฮ่องเต้และไทเฮา ก็ไม่มีใครที่เห็นเขาแล้วจะไม่ทำความเคารพ

รอกระทั่งซูรุ่ยรับหน้าองค์ชายทั้งสองเรียบร้อยแล้ว ก็มีวงศาคณาญาติอีกมากมายทยอยกันมา จากนั้นซูรุ่ยก็เข้าสู่โหมดญาติผู้ใหญ่ ถูกคนมากมายแสดงความเคารพไปมา กระทั่งคนซาแล้วถึงได้พบปัญหาใหญ่อย่างยิ่งยวด

ซูหว่านหายไปแล้ว!

“ซูหว่านหายไปไหนแล้ว”

ซูรุ่ยอดไม่ได้ที่จะพึมพำกับตัวเอง องค์รักษ์ที่ตามขนาบอยู่สองข้างรถม้ารีบกราบบังคมทูล “ทูลองค์ชาย คุณหนูซูกับคุณชายเฉินเข้าไปในลานล่าสัตว์ด้วยกันแล้วขอรับ!”

หญิงชายโสดไร้พันธะ อยู่กลางป่าเขาลำเนาไพร…

ซูรุ่ย ข้าจะอดทน…ไม่ทนแล้วโว้ย!

ไม่เคยได้ยินคำว่าอดทนจนไม่ทนแล้วหรือไi

“หันหัว ลงเขา!”

สั่งการเสียกเย็น ซูรุ่ยรีบปล่อยผ้าม่านลง

ในยามนี้ที่เขาผู่ ณ ลานล่าสัตว์ เนื่องจากผู้คนที่จะเข้าร่วมการล่าสัตว์มากันครบแล้ว ดังนั้นทุกคนจึงขี่ม้ากระจายกันเข้าสู่ลานล่าสัตว์รกทึบ

เพื่อเป็นการรักษาความเท่าเทียมกันในการล่าสัตว์ครั้งนี้ ธนูล่าสัตว์ของแต่ละคนจึงแจกจ่ายที่ด้านนอกเขตล่าสัตว์ ซูหว่านและเฉินชิงจิ่นในฐานะทีเป็นสตรีสองคนในการล่าครั้งนี้ไม่แสดงท่าทีอ่อนแอให้เห็น แต่ละคนรับลูกธนูไปคนละสามสิบดอก

ถึงแม้ทั้งสองคนจะมีสีหน้ายิ้มแย้ม แต่คนที่ช่างสังเกตก็มองได้ทะลุปรุโปร่งว่าระหว่างสองสาวมีบรรยากาศครุกรุ่น

เฉินชิงจิ่น หึๆ ผู้หญิงสมองกลวงอย่างเจ้าเหรอคิดจะมาแต่งงานกับพี่ชายข้า เป็นสตรีที่ฝันเฟื่องโดยแท้! นางลอบคิดแผนร้าย ข้าจะไม่มีวันให้เจ้าได้สมใจ!

ซูหว่าน หึๆ ในเมื่อกล้าวางยาข้า ครั้งนี้ต้องถือว่านางโชคร้ายเองนะ ข้าจะให้นางในชาตินี้ได้กลับไปเกิดใหม่อีกรอบ ให้นางได้รับรู้รสชาติที่แท้จริงของการอยู่ไม่สู้ตาย!

“พี่ซูเชิญ!”

“เชิญน้องชิงจิ่นก่อนเถิด”

บนหลังม้า ทั้งสองคนแย้มยิ้มอย่างอ่อนโยน เฉินอวี้ซูที่อยู่ด้านข้างราวกับไม่รับรู้ความดุเดือนเลือดพล่านที่เกิดขึ้นระหว่างทั้งสองคน กลับเป็นฉินเย่ว์ที่ขี่ม้าอยู่ไกลๆ มองเงาด้านหลังของทั้งสาม เขาขบคิดพลางลูบคางแล้วยิ้มออกมา “น่าสนใจ น่าสนใจจริงๆ!”

กล่าวพึมพำกับตัวเอง ฉินเย่ว์เสม้าไปทางอื่น หันตรงไปทางอีกด้านของป่าแล้วออกตัวไป…

พระอาทิตย์ลอยขึ้นสูง ลมภูเขาพัดผ่านใบหน้า

ซูหว่านและพี่น้องตระกูลเฉินเข้าสู่ลานล่าสัตว์พร้อมกัน แต่เนื่องจากในระหว่างการล่าจะต้องบังคับม้าและง้างธนู เฉินชิงจิ่นจงใจเลือกทิศทางการล่าคนละทางกับซูหว่าน และร้องเรียกให้เฉินอวี้ซูช่วยไม่หยุด ผลสุดท้าย เดินไปเดินไป ซูหว่านก็พลัดหลงกับทั้งสองคนไป

สำหรับเรื่องนี้ซูหว่านไม่ได้เก็บมาใส่ใจ ที่จริงแล้ววันนี้นางก็แค่มาร่วมสนุกเท่านั้น เพราะตามที่ซูหว่านรู้มาภารกิจความรักในการล่าครั้งนี้ก็เพื่อพิชิตใจสาวงาม ฉินเย่ว์ได้เตรียมการไว้เพียบพร้อมหมดแล้ว เขาส่งคนไปทำให้เฉินอวี้ซูและเฉินชิงจิ่นคลาดออกจากกัน จากนั้นก็เตรียมสัตว์ร้ายไว้ในบริเวณที่เฉินชิงจิ่นจะไป จากนั้นก็ออกมาเป็นวีรบุรษช่วยสาวงาม

แน่นอนว่า นี่เป็นเพียงความคิดอันสวยงามของฉินเย่ว์เพียงคนเดียว ในความเป็นจริงกลับกลายเป็นเฉินชิงจิ่นในตอนที่กำลังเกิดอันตรายบังเอิญมาเจอคนที่เหมือนกันองค์ชายสองฉินเย่ว์ สุดท้ายทั้งสองคนก็กลายเป็นเพื่อนร่วมทางกัน แต่สัตว์ร้ายที่จงใจปล่อยเข้าป่าตัวนั้น สุดท้ายก็ตายด้วยดาบของฉินเย่ว์

ท้ายที่สุด คิดแล้วก็น่าตื่นตาตื่นใจดี เพียงแต่ซูหว่านคิดว่าแค่จัดฉากแค่นี้ยังไม่น่าเร้าใจเท่าไหร่นัก จะดีมากถ้านางได้มีส่วนร่วมเพิ่มอะไรอีกนิดหน่อย!

ดังนั้นในตอนที่ทุกคนกำลังตั้งใจล่าสัตว์อยู่นั้น ซูหว่านก็เริ่มป้วนเปี้ยนรอบลานล่าสัตว์ นางกำลังตามหาสัตว์ร้ายตามบท ตามที่ได้ยินมาเป็นถึงราชาเสือขาว

สีขาว มีสีขาว…

ซูหว่านวนไปวนมาในป่ารกทึบ วนไปวนมา ท้ายที่สุดก็สำเร็จ หลงทางแล้ว…

เอาเถอะ แค่หลงทางเรื่องเล็ก เพิ่งพบว่าตัวเองหลงทาง พุ่มไม้ด้านหลังของซูหว่านก็ส่งเสียงซ่าๆ ตามมาด้วยเสียงคำรามโฮกใหญ่ของเสือร้าย ม้าของซูหว่านก็ตัวสั่นเทาคุกเข่าลงกับพื้น

ซูหว่านที่ไม่ทันได้ตั้งตัวก็ตกลงมาจากหลังม้าอย่างน่าอนาถ และร่างกายของนางก็หล่นลงในอ้อมกอดเย็นชาของใครคนหนึ่ง

“ไม่เป็นไรใช่หรือไม่”

เสียงทุ้มต่ำอันคุ้นเคย ทำให้ซูหว่านหน้าตึง

“ปล่อยมือ อย่ามาแตะต้องตัวข้า”

น้ำเสียงของซูหว่านเย็นชาจนทำให้บางคนกลัว

ร่างกายของซูหว่านแข็งทื่อ แต่ก็ยังอยู่ในอ้อมกอดของคนนั้นแน่น “ข้าไม่ปล่อย อย่างไรก็ไม่ปล่อย ตีให้ตายก็ไม่ปล่อย”

ซูหว่าน …

เด็กน้อย~

เห็นซูหว่านทำหน้างอแต่กลับไม่ได้ดิ้นขลุกขลักในอ้อมกอด ซูรุ่ยถึงได้ถอนหายใจออกมาอย่างห้ามไม่ได้ กล่าวกระซิบเสียงอ่อนโยนใกล้ข้างหูซูหว่าน “เสี่ยวหว่าน”

“เสี่ยวหว่าน”

“เสี่ยวหว่าน”

เห็นซูหว่านไม่แม้แต่จะมองหน้าตัวเอง ซูรุ่ยรีบแสดงอาการหน้าไม่อายออกมาอีกชุดใหญ่ ขานชื่อของนางไม่หยุด

“พอแล้ว”

ซูหว่านที่สติใกล้ขาดผึงในที่สุดก็อดรนทนไม่ไหวร้องขัดซูรุ่ยออกมา

ทั้งสองคนสุดท้ายก็เงียบงันไป จนกระทั่งลมภูเขาระลอกหนึ่งพัดมา พัดสายคาดสีขาวบนศรีษะของซูหว่าน สายคาดอ่อนนุ่นพัดผ่านใบหน้าของซูรุ่ยไปอย่างแผ่วเบา ซูรุ่ยกรอกตาลงต่ำ สายตาลึกซึ้งและอ่อนโยนมองไปยังซูหว่าน

“เจ้าอย่าเกลียดข้าเลยได้หรือไม่”

“ทำไมถึงเพิ่งมา”

ทั้งสองคนเอ่ยขึ้นมาพร้อมกันอย่างไม่ได้นัดหมาย ตามมาด้วยอาการตกตะลึงมองไปยังอีกฝ่าย

“เจ้าไม่เกลียดข้า”

ประกายตาของซูรุ่ยเบิกกว้าง จ้องมองใบหน้าซูหว่านอย่างไม่ละสายตา

ซูหว่านถูกเขาต้องจนรู้สึกกระดากอายขึ้นมา รีบหันหน้าหนีทันที “ข้ามีเวลาว่างไปเกลียดเจ้าที่ไหนกัน”

ไม่ได้ถูกเกลียด…

แม่ทัพซูรู้สึกว่าตัวเองที่พักนี้อารมณ์มักจะหงุดหงิดโมโหเป็นฟืนเป็นไฟ พลันรู้สึกว่ามีผีเสื้อลอยบินว่อน

ที่แท้ซูหว่านไม่ได้โกรธหรอกเหรอ!

ที่แท้ในซีรีส์ล้วนเป็นเรื่องหลอกลวงนี่เอง!

แม่ทัพซูตัดสินใจว่าอีกหน่อยจะไม่ดูละครรักน้ำเน่าพวกนั้นแล้ว…

เดี๋ยวก่อน!

สายตาซูรุ่ยสว่างวาบ พลันนึกถึงคำพูดที่ซูหว่านเพิ่งถามเขาไปเมื่อสักครู่ นางถามเขาว่า “ทำไมถึงเพิ่งโผล่หน้ามา”

นี่แปลว่า ในช่วงที่ผ่านมานี่ เสี่ยวหว่านของเขากำลังรอเขาอยู่ตลอดกัน

“เสี่ยวหว่าน เจ้ารอข้ามาตลอดเลยหรอ”

ซูรุ่ยรู้สึกว่าหัวใจของเขาเต้นเร็วเป็นพิเศษ น้ำเสียงสั่นเครือโดยไม่รู้ตัว

“ไม่ ไม่ใช่”

ซูหว่านส่ายหน้าอย่างแรง

จะยอมรับได้อย่างไร

ตีให้ตายก็ไม่ยอมรับหรอก!

ไหนว่าจะไม่ทำนิสัยเด็กๆ ไง

หือ~

ราชาเสือขาว พวกเจ้าลืมอะไรไปหรือเปล่านะ มาพลอดรักกันราวกับด้านข้างไม่มีเสืออย่างนี้จะดีเรอะ

ภารกิจขโมยใจ ผจญภัยต่างโลก

ภารกิจขโมยใจ ผจญภัยต่างโลก

Status: Ongoing

ซูหว่าน คือเจ้าหน้าที่ทำลายเขตแดนประจำองค์กรแห่งหนึ่งในห้วงกาลอวกาศที่สาบสูญ ในโลกที่ผู้คนทะลุมิติข้ามภพกันไม่เว้นวัน จิตล่องลอยไปเกิดใหม่ในร่างอื่นอยู่ทุกค่ำคืน ก็ได้เธอนี่แหละที่คอยสะสางดูแลความวุ่นวายและจัดการข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นกับเหตุการณ์เหล่านั้น

แต่แล้ววันหนึ่งก็เกิดปัญหาใหญ่เข้าจนได้ เมื่อองค์กรพบว่านางรองที่เกิดใหม่ดันไปสอยพระเอกกับนางเอกของภพนั้นร่วงจนทำให้เนื้อเรื่องเปลี่ยนแปลงไป หัวหน้าแผนกทำลายเขตแดนจึงได้มอบภารกิจให้ซูหว่านไปเก็บกวาดสถานการณ์นี้ให้เรียบร้อย โดยตัวเธอต้องเข้าไปสวมบทบาทเป็นตัวละครในโลกแห่งนั้น

กระนั้นหลังจากที่เธอจัดการทุกอย่างให้เข้าที่เข้าทางเหมือนเดิมแล้ว ภารกิจของเธอกลับยังไม่จบสิ้น ซูหว่านยังคงลืมตาตื่นขึ้นมาในโลกอื่นอีกหลายโลก ไม่ว่าจะเป็นโลกเกมออนไลน์ โลกซอมบี้ หรือโลกเวทมนตร์ แต่ทุกครั้งที่เธอย้ายไปโลกใหม่ บทบาทที่เธอได้รับกลับหยุดอยู่แค่ ‘แฟนเก่า’ ของตัวเอกในเรื่อง

และที่น่าแปลกใจยิ่งกว่าคือทุกโลกที่เธอเดินทางไปนั้น เธอต้องได้พบเจอกับ ‘เขา’ อยู่ร่ำไป แม้ยุคสมัยและสภาพแวดล้อมของโลกจะเปลี่ยนแปลง แต่รูปร่างหน้าตาของเขาคนนั้นยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนไป เขาเป็นใครกันแน่ หรือจะเป็นคนที่ได้รับภารกิจพิสดารนี้เหมือนเธอกันนะ!?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท