โรงเรียนเฟิงเหิงมีโรงอาหารเป็นของตัวเองแล้ว แต่นักเรียนในโรงเรียนยังคงชินกับการไปทานอาหารที่ร้านอาหารส่วนตัวด้านนอกโรงเรียน และร้านอาหารที่อยู่รอบๆ โรงเรียนล้วนเป็นร้านอาหารชั้นนำระดับห้าดาวทั้งสิ้น
ช่วงพักกลางวัน ที่ประตูโรงเรียนคนเยอะมาก บางครั้งก็จะมีคนขับรถสปอร์ตเหมือนหลิงฉิงผิวปากจีบสาว ตามเรียกร้องความสนใจจากผู้คนและผ่านหน้าประตูโรงเรียนไป
ซูหว่านออกมาค่อนข้างช้า ช่วงนี้วันธรรมดาไม่มีคนอยู่หน้าประตูโรงเรียน แต่วันนี้มีคนมากมายอยู่รอบๆ ประตู หลายคนเหมือนกับกำลังมุงดูเรื่องสนุกๆ อยู่
เรื่องซุบซิบนินทาพวกนี้ไม่ว่าจะเป็นเจ้าของร่างเดิมหรือซูหว่าน ก็ไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่นัก เมื่อซูหว่านกำลังเดินอ้อมผ่านไป ทันใดนั้นร่างของเจี่ยงโยวก็พุ่งพรวดมาจากด้านหลังซูหว่านราวกับกำลังบินอยู่
จากนั้นร่างสูงของหลัวอวี่ก็ตามหลังมาติดๆ ตอนที่ผ่านซูหว่านไป หลัวอวี่อดไม่ได้ที่จะหันมาจ้องซูหว่าน
ซูหว่าน……
ฉันไปสะกิดอะไรใครเข้า?
ซูหว่านแอบบุ้ยปาก เธอเงยหน้าขึ้น อดไม่ได้ที่จะมองไปทางที่เจี่ยงโยวจากไป และการหันไปมองนี้ ทำให้ซูหว่านนิ่งอึ้งอยู่กับที่
แสงแดดยามบ่ายสว่างจ้า ในตอนนี้มีร่างสูงสองคนยืนเคียงข้างกันอยู่ที่ประตูโรงเรียนเฟิงเหิง ทั้งสองคนดูเหมือนจะอายุยี่สิบต้นๆ ทั้งคู่สวมเสื้อเชิ้ตและกางเกงยีนราคาถูก อีกทั้งบนรองเท้าฟุตบอลยังมีฝุ่นเต็มไปหมด การแต่งตัวแบบนี้ ดูเหมือนจะเป็น “คนงาน” ที่เพิ่งเข้ามาในเมือง ยังมีลมหายใจที่เหน็ดเหนื่อยจากการเดินทางอยู่เลย แต่ว่าหนุ่มทั้งสองคนนี้หล่อเหลามากๆ ชายหนุ่มที่สูงกว่าอีกคนยังคงทำหน้าเย็นชาอยู่อย่างนั้น แววตาสงบนิ่ง แม้ว่าเขาจะสวมเสื้อผ้าราคาไม่แพง ก็ไม่สามารถปกปิดชาติกำเนิดของเขาได้เลยแม้แต่น้อย
ส่วนชายหนุ่มอีกคนมีหน้าตาที่น่ารักและหล่อเหลาเหมือนตุ๊กตา ดวงตาที่ชัดเจนบนใบหน้าของเขากะพริบอย่างอยากรู้อยากเห็น ท่าทีที่บ้องแบ๊วใสซื่อนั้น ทำให้ทุกคนต้องลุ่มหลงในชั่วพริบตา
ไม่รู้ว่าทั้งสองคนมาตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่ชัดเจนมากว่าพวกเขาถูกคนอื่นล้อมไว้นานแล้ว และ……ดูเหมือนจะยังไม่รู้ตัวอีกงั้นเหรอ?
คนที่รายล้อมพวกเขาส่วนใหญ่เป็นหญิงสาวของเฟิงเหิง ถึงแม้หนุ่มหล่อทั้งสองคนแต่งตัวแย่หน่อย เชยหน่อย แต่สิ่งนี้ไม่ได้ผลกระทบต่ออาหารตาของพวกเขา และยิ่งสายตาที่สามารถ“สแกน” เอกซเรย์เข้าไปถึงข้างใน การสังเกตอย่างเฉียบแหลมจนเห็นรูปร่างกำยำที่อยู่ภายในเสื้อเชิ้ตตัวบาง
ซิกแพคแปดลูก เห็นรอยกล้ามเนื้อชัดเจน
โถ่เอ๊ย เซ็กซี่และดึงดูดผู้คนเสียจริง!
“เซียวฉี่! เซียวหยุนอี้!”
เจี่ยงโยวที่เดินอย่างเร่งรีบมาถึงหน้าประตูก็ตะโกนด้วยเสียงตื่นเต้น จากนั้นเธอก็ก้มตัวลง สูดลมหายใจเหนื่อยหอบ มองดูคนทั้งสองที่ถูกยืนล้อมอยู่ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
เจี่ยงโยว
พี่น้องตระกูลเซียวที่ยืนอยู่หน้าประตูหันมองไปตามทิศทางของเสียงเรียกทันที สีหน้าของทั้งสองคนแสดงความแปลกใจและประหลาดใจออกมาพร้อมกัน เซียวฉี่ถึงขั้นรีบวิ่งไปหาเจี่ยงโยวอย่างอดทนรอไม่ไหว
เซียวหยุนอี้ที่อยู่ด้านหลังนิ่งอึ้งไป และก้าวเท้ายาวเดินตามพี่ชายไปอย่างรวดเร็ว
เจี่ยงโยวยืนมองชายหนุ่มที่เล่นด้วยกันมาตั้งแต่เด็ก เธอรู้จักพวกเขาเกือบสิบปีแล้ว ความสัมพันธ์ของทั้งสามคนลึกซึ้งแค่ไหนไม่ต้องพูดก็รู้ แต่ว่านี่เป็นครั้งแรกที่เจี่ยงโยวเห็นใบหน้าที่สงบนิ่งของเซียวฉี่ แสดงความรีบร้อนเช่นนี้
พี่ใหญ่เซียวนี่จริงๆ เลย
เจี่ยงโยวยิ้มอย่างจนจำ เมื่อมองเห็นร่างผอมบางของเซียวฉี่ใกล้เข้าต่อหน้าต่อตา เธออ้าปากกำลังจะพูดอะไรออกไป ชายผู้นั้นเดินผ่านเธอและเดินตรงไปข้างหลังเธอโดยไม่หยุดฝีเท้าลงเลย
เจี่ยงโยวยืนอึ้งอยู่ที่เดิม และเซียวหยุนอี้ที่เดินตามพี่ชายของเขามาก็ตกตะลึงเช่นเดียวกัน
พี่ใหญ่เขาไม่เป็นไรใช่ไหม?
ถึงแม้ช่วงนี้เขาจะดูแปลกๆ ไป แต่ว่าเขาคงไม่ถึงขั้นที่ว่าแม้แต่เจี่ยงโยวก็ยังจำไม่ได้หรอกมั้ง
ในตอนที่เซียวหยุนอี้ลังเลว่าควรจะเรียกพี่ชายตัวเองกลับมาหรือไม่ เขาได้ยินเสียงร้องตกใจจากคนที่ยืนมุงอยู่รอบๆ
ในตอนนี้เซียวฉี่ได้หยุดอยู่ตรงหน้าซูหว่าน เขาไม่ให้โอกาสเธอเปิดปากพูดเลยสักคำ ก็โน้มตัวและจูบลงอย่างแรงที่ริมฝีปากของซูหว่านทันที
แขนทั้งสองข้างของเขาแข็งแรงมาก เหมือนกับจะเคล้นซูหว่านเข้าไปในร่างกายของตัวเอง
ในตอนนี้ซูหว่านถูกกอดอยู่ในอ้อมอก เหมือนกับฟ้าผ่าแผ่นดินไหว คนที่ถูกจูบหายใจแทบไม่ออก
คนที่มามุงดูยิ่งเยอะขึ้นเรื่อยๆ และเริ่มมีคนหยิบโทรศัพท์ออกมาถ่ายวิดีโอ เซียวหยุนอี้รู้สึกงงงวยไปหมด เบิกตาโตมองไปทั้งสองคนที่กอดจูบกันโดยไม่มีใครอยู่ด้านข้างอย่างไม่คาดคิด ในตอนนี้ในใจของเขามีเพียงแค่ความคิดเดียว
แย่แล้วๆ พี่ใหญ่เป็นบ้าไปแล้วจริงๆ ใช่ไหม?
ทำไมเขาถึงจูบคนในอ้อมแขนของเขา?
ทำแบบนี้ จะถูกตำรวจจับไหม?
ตอนที่เซียวหยุนอี้กำลังกังวลอยู่ ผู้คนที่มุงดูอยู่รอบข้างที่จำขึ้นมาได้ว่าเป็นซูหว่านก็ร้องเสียงดังออกมา
ชายหนุ่มประกบริมฝีปากกับดาวโรงเรียนอย่างแรง แบบนี้มันได้ใช่ไหมเนี่ย?
แม่ทัพซู “…….”
คุณสิห่วย พวกคุณนั่นแหละห่วยหมดเลย
“ฮือๆ ”
ในเวลานี้ซูหว่านที่ถูกจูบหน้าแดงก่ำ เธอหายใจไม่ออก เมื่อเห็นเธอดิ้นในที่สุดคนตรงหน้าก็ยอมปล่อยเธอถึงแม้จะไม่เต็มใจก็ตาม
“ซูหว่าน! ”
วินาทีที่เซียวฉี่ปล่อยซูหว่านออกมา เจี่ยงโยวก็รีบเดินไปด้านหน้าซูหว่านทันที ยกมือจับข้อมือของซูหว่านเอาไว้ “เสี่ยวหว่าน เขาเป็นเพื่อนของฉัน เขา……เขา เขาไม่ได้ตั้งใจ คุณอย่า…….คุณอย่าตบเขาเลย! ”
ซูหว่าน “……”
ซูหว่านตกใจไปสักพัก มองเจี่ยงโยวที่เร่งรีบอยู่ตรงหน้าด้วยสายตาแปลกประหลาด “ฉันบอกว่าจะตบเขาเหรอ? อีกอย่าง อะไรที่เรียกว่าไม่ตั้งใจ เขาจูบฉันต่อหน้าผู้คนเยอะแยะขนาดนี้ นี่เป็นจูบแรกของฉันนะ! ”
เมื่อได้ยินคำพูดของซูหว่าน รอบด้านก็มีเสียงดังฮือฮาขึ้นมา ถึงขั้นที่มีคนแอบหันหน้าไปมองหลัวอวี่ที่ยืนอยู่ท่ามกลางผู้คนด้วยสีหน้าเย็นชา โอ๊ยๆ เหมือนข้าพเจ้าจะรู้อะไรบางอย่างแล้ว
เช่น จูบแรกอะไรทำนองนั้น
เจี่ยงโยวลังเลเมื่อได้ยินคำพูดของซูหว่าน เธอก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะจัดการกับสถานการณ์ตรงหน้ายังไง พระเจ้ารู้ว่าเซียวฉี่กำลังทำบ้าอะไรอยู่ แต่ทำไมจู่ๆ ถึงได้……
หรือว่าเขารู้เรื่องของตระกูลซูแล้ว ถึงได้ตั้งใจทำให้ซูหว่านขายหน้าเพื่อช่วยเธอ?
“ฉันรับผิดชอบเอง”
ตอนนี้ ในที่สุดคนที่เงียบมาตลอดก็พูดออกมาอย่างเย็นชา เขาไม่ได้สนใจสีหน้าอันยุ่งเหยิงของเจี่ยงโยวที่ยืนอยู่ด้านข้าง แต่กลับมองซูหว่านด้วยสายตาที่อ่อนโยน “ฉันจะรับผิดชอบคุณเอง”
ให้ตายเถอะ ฉากนี้นี่มันสุดยอดเสียจริง!
เดิมที หนุ่มหล่อจูบดาวโรงเรียนก็เกินพอแล้ว! สุดท้ายหนุ่มหล่อคนนี้เป็นเพื่อนสนิทกับคู่ปรับของดาวโรงเรียนอีกงั้นเหรอ?
แน่นอนว่ามันยังไม่จบ ตอนนี้หนุ่มหล่อคนนี้ยังพูดจาโอหังว่าจะรับผิดชอบดาวโรงเรียน
พี่ชาย ฉันยอมรับว่าพี่หล่อ แต่ว่าหล่อมันกินไม่ได้นะ! คุณเคยเห็นแฟนคนเก่าของดาวโรงเรียนซูไหม? ใช่ คือคนที่ทั้งสูงทั้งรวยทั้งหล่อที่อยู่ในกลุ่มคนนั้น อย่างน้อยพี่ต้องมีเงินมีอำนาจมากกว่าเด็กเทพหลัวครึ่งหนึ่ง ถึงได้กล้าพูดจาโอหังแบบนี้สินะ?
เมื่อผู้ชมนับไม่ถ้วนรอคอยหนุ่มหล่อโดนดาวโรงเรียนตบหน้าอย่างเ**้ยมโหด ซูหว่านกลับหรี่ตาลง ยิ้มเบาๆ ให้ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้า “ได้สิ ในเมื่อคุณอยากรับผิดชอบฉัน ตั้งแต่นี้ต่อไป คุณเป็นผู้ชายของฉันแล้วนะ! ”
ผู้ชมรอบข้าง ดาวโรงเรียนดาวโรงเรียน เนื้อเรื่องมันไม่ถูกนะ!
ที่แท้นี่คือวิธีจีบดาวโรงเรียนที่ถูกต้องใช่ไหม? วันนี้ได้เปิดโลกใหม่ให้กับทุกคนแล้ว!
แม่ทัพซู “……”
“ดอกไม้สดใหม่ติดอยู่ในกองขี้วัว” สีหน้าของทุกคนสงสัยว่านี่มันคือเรื่องอะไรกันแน่?
ไม่ผิดเลย เซียวฉี่ก็คือซูรุ่ย เมื่อเขาเข้าสู่ภารกิจก็พบว่าตัวเองเป็น “คนรัก” ที่เติบโตมาด้วยกันกับนายท่านหญิง และข้างกายยังมีตัวภาระที่ชอบทำหน้าตาบ้องแบ๊วใสซื่ออีก เซียวหยุนอี้ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ก็ซวยซะงั้น
ในฐานะ “ตัวแสดงแทนที่ทำงานเบ็ดเสร็จ” แม่ทัพซูยังไม่รู้สึกตัวเลยแม้แต่น้อย หลังจากที่เขาได้สติก็รีบออกจากกองถ่ายทันที เก็บเอกสารทั้งหมดของตัวเองและของเซียวหยุนอี้ใส่ถุงส่งขึ้นเครื่องบินไปเมือง D