ภารกิจขโมยใจ ผจญภัยต่างโลก – ตอนที่ 4 ตำนานแม่พระแห่งวังหลัง

ตอนที่ 4 ตำนานแม่พระแห่งวังหลัง

ซูหว่านและเหยียนอวี่นั่วเดินตามเฉินจี๋จนเกือบจะวิ่งออกไปจากโรงพยาบาลอวี้และตรงไปยังสำนักพระภูษา ยังไม่ถึงหน้าประตูดีพวกเขาก็เห็นกลุ่มขันทีกำลังแบกเสื่อเปื้อนเลือดจากสำนักพระภูษาออกมาข้างนอกประตูวัง

 อ้า!  

เหยียนอวี่นั่วปิดปากของเธอแน่น หันหน้าหนีด้วยความหวาดกลัว ทั้งตัวพิงไปที่ร่างของซูหว่าน มืออีกข้างของเธอสั่นเทาและปิดกั้นดวงตาของซูหว่าน

เข้าวังมาปีกว่าแล้ว ถึงแม้จะเคยได้ยินมาว่าคนในวังอายุยืนยาวเหมือนใบหญ้า แต่นี่กลับเป็นครั้งแรกที่เหยียนอวี่นั่วได้พบเห็นภาพเช่นนี้

ในขณะที่ขันทีกำลังหามเสื่อเปื้อนเลือดเดินผ่านมาทางพวกเขาทั้งสามคน ทันใดนั้นไม่รู้เป็นเพราะเหตุอันใดเสื่อฟางเปื้อนเลือดก็ขาดออกจากกัน ทำให้แขนข้างหนึ่งที่เปื้อนเลือดร่วงหล่นลงอย่างอ่อนแรง

 อ้า!  

เหยียนอวี่นั่วกรีดร้องออกมาอีกครั้งหนึ่ง ใบหน้าอันซีดเซียวของเธอในตอนนี้ดูราวกับว่าไม่มีเลือด

 ใครมาทำเสียงดังที่นี่?  

ในขณะนั้นเอง วังอี้ซึ่งสวมเครื่องแบบทางการของหัวหน้าขันทีเดินออกมาจากประตูวังด้วยใบหน้าที่เย็นชา ในมือของเขาถือแส้ และดวงตาที่เฉยเมยนั้นจ้องมองไปที่ร่างของซูหว่านและเหยียนอวี่นั่ว

 ข้าน้อยสมควรตาย ข้าน้อยสมควรตาย!  

เหยียนอวี่นั่วดึงซูหว่านให้คุกเข่าลงกับพื้นทันทีด้วยความตื่นตระหนกและกัดฟันอย่างสั่นเทา

 ขันทีวัง 

ทันใดนั้นเฉินจี๋ก็รีบวิ่งอย่างปวกเปียกเข้าไปหาวังอี้ ทำความเคารพและพูดด้วยเสียงต่ำ  ขันทีวัง สองนางนี้คือเหยียนอวี่นั่วและซูหว่านจากสำนักพระภูษา เด็กพวกนี้ขี้กลัวยิ่งนัก อย่าถือโทษโกรธนางเลย 

 โอ้?  

วังอี้เมื่อได้ยินคำรายงานจากเฉินจี๋ ดูแววตาของทั้งสองนางดูใสซื่อ นางกำนัลสองคนนี้ดูก็รู้ว่าเพิ่งเข้าวังมาได้ไม่นานนัก เหมือนจะอายุเพียงแค่สิบสี่สิบห้าปีเท่านั้น พวกเธอดูดีสวยงาม แต่ทว่า……

 ในเมื่อกลับมากันแล้ว ก็รีบไปรายงานตัวกับฝ่าบาทเถอะ เจ้าทั้งสองไม่ต้องคุกเข่า ยังไม่รีบตามเฉินจี๋ไปอีก!  

พูดแล้ววังอี้ก็อดไม่ได้ที่จะยกแส้ของตัวเองโบกเบาๆไปที่เฉินจี๋

การที่จะเป็นขันทีได้ต้องเป็นคนละเอียดรอบคอบ ถึงแม้ฝ่าบาทจะไม่ได้เอ่ยอะไรเกี่ยวกับสำนักพระภูษามากนัก แต่ทว่าวังอี้กลับดูออกว่าฝ่าบาทกำลังมองหานางกำนัลสองคนนี้โดยเฉพาะ เมื่อเห็นเฉินจี๋ออกไปยังไม่กลับมา ฝ่าบาทก็ยิ่งหงุดหงิดมากขึ้นเรื่อย ๆ และเมื่อเห็นสถานการณ์ไม่ค่อยสู้ดีนัก วังอี้จึงอาสาออกไปตามหาเอง แต่เขาไม่คาดคิดเลยว่าเมื่อออกมาถึงแค่หน้าประตูวังก็บังเอิญได้พบกับเจ้าตัวแล้ว

เฉินจี๋เมื่อโดนวังอี้โบกแส้ไปหนึ่งที ท่าทีของเขาก็เปลี่ยนไป เขาไม่ลังเลที่จะเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้น เขารู้ว่าหัวหน้าขันทีทำแบบนี้เพื่อที่จะเตือนเขาว่าฝ่าบาทรออยู่จนใกล้จะหมดความอดทนแล้ว ขืนเดินช้ากว่านี้อีกไม่กี่ก้าว ศีรษะของเขาคงได้หลุดออกจากบ่าเป็นแน่!

ไอ้หม่า เพื่อที่จะให้คอยังอยู่ติดกับศีรษะตนเองแล้วนั้น เขาต้องลากเด็กพวกนี้วิ่งไปด้วย

 พวกเจ้าสองคน ถ้าไม่อยากตายก็รีบวิ่งให้มันเร็ว ๆ หน่อย 

ขณะที่เฉินจี๋วิ่งอยู่ก็ไม่ลืมที่จะหันหลังกลับมาเรียกซูหว่านและเหยียนอวี่นั่วไม่กี่ประโยค

เจอเรื่องใหญ่ขนาดนี้ ขาอ่อนแรงไปหมด แต่ทำไมยังวิ่งไหวอยู่นะ?

เหยียนอวี่นั่วใช้แรงบีบมือซูหว่านที่อยู่ข้างกาย ริมฝีปากของเธอสั่นเล็กน้อย  เสียวหว่าน อย่ากลัวไปนะ ไม่มีอะไรหรอก! ฝ่าบาทสติปัญญาปราดเปรื่อง ไม่มีทางทำร้ายผู้บริสุทธิ์หรอก!  

ตนเองกลัวจนแทบเดินไม่ได้ แต่ทว่าเหยียนอวี่นั่วยังไม่ลืมที่จะพูดปลอบซูหว่านที่อยู่ข้างกาย เพียงแต่ถึงแม้ว่าใบหน้าซูหว่านจะซีดเซียว แต่แท้จริงแล้วกลับไม่มีร่องรอยของความกลัวใด ๆ ในดวงตาของเธอ อีกทั้งยังสัมผัสได้ถึงความเจ้าเล่ห์อีกด้วย

 ฝ่าบาท! ฝ่าบาท!  

ยังไม่ถึงประตูดี เฉินจี๋ก็โค้งตัวพร้อมกับตะโกนและวิ่งคลานเข้าไปยังตรงกลางของท้องพระโรง

ทักษะและกิริยาท่าทางอันสมบูรณ์แบบนี้ ไม่เสียแรงที่วังอี้สอนเองมากับมือ~

 ฝ่าบาท ข้าน้อยพาพวกนางกลับมาแล้ว!  

หลังจากที่เฉินจี๋เข้ามาในวังแล้ว เขาก็ยังคงโค้งตัวก้มศีรษะลง และแอบใช้มือซ้ายทำสัญญาณข้างหลังกับซูหว่านและเหยียนอวี่นั่ว  พวกเธอสองคน ยังไม่รีบทำความเคารพฝ่าบาทอีก!  

 ถวายพระพรฝ่าบาท ขอจงทรงพระเจริญ หมื่นปี หมื่นหมื่นปี!  

ซูหว่านและเหยียนอวี่นั่วคุกเข่าลงกับพื้น ก้มศีรษะถวายพระพรฝ่าบาท

ในเวลานี้ ซูรุ่ยสวมเสื้อคลุมดำปักดิ้นมังกรสีทอง นั่งอยู่บนม้านั่งยาวอันงามสง่ากลางวัง ดวงตาอันแสนลึกจ้องมองไปที่ร่างของซูหว่านโดยสัญชาตญาณ

ให้ตายสิ

แม่ทัพซูอยากร้องไห้แต่ก็ร้องไม่ออก ในโลกที่แล้วภรรยาของเขาอย่างน้อยก็เป็นเพียงแค่เด็กสาวมัธยมปลายอายุ 17 ปี! แต่ทว่าในครั้งนี้กลับกลายเป็นน้องโลลิต้าในวัยเพียงแค่ 14 ปีได้อย่างไรกัน?

เอาเถอะ ถึงโลกที่แม่ทัพซูอาศัยอยู่ก่อนหน้านี้เขาแต่งงานไวและมีลูกเร็ว แต่หลังจากนั้นเขาได้ผ่านโลกมามากมาย ความคิดของเขาก็เปลี่ยนไปไม่น้อยตามกาลเวลา ตอนนี้ที่พวกเรากำลังทำตามกฎหมาย รักสัตว์ ข้ามถนนดูไฟจราจร ไม่ใช่เป็นคำสัญญาของวัยรุ่นหรอกหรือ?

น้องโลลิต้า อืม~ จริง ๆ แล้วซูเสียวหว่านแบบนี้ก็น่ารักดีเหมือนกันนะ

การที่ซูรุ่ยจดจ้องไปที่ซูหว่านอย่างไม่ละสายตา ส่งผลทำให้ทั้งวังเต็มไปด้วยความอึดอัด ไม่มีใครกล้าเอ่ยปาก ทุกคนได้แต่ก้มศีรษะและไม่กล้าที่จะเคลื่อนไหวใด ๆ ด้วยความเกรงกลัวว่าจะทำให้ฝ่าบาทโกรธ แล้วอาจจะทำให้ตนเองตายอย่างอนาถ วันนี้ฝ่าบาทน่ากลัวเกินไป ทุกคนล้วนแต่คิดว่าทำเป็นแกล้งตายเสียจะดีกว่า

เวลาผ่านไปเดินผ่านไปเรื่อย ๆ ในขณะที่ซูหว่านคุกเข่าจนขาทั้งสองได้ชาไปหมดแล้วนั้น ซูรุ่ยที่นั่งอยู่บนม้านั่งยาวอันงามสง่าก็เอ่ยปากออกมาในที่สุด ใบหน้าอันหล่อเหลานั้นจ้องมองไปที่ซูหว่านและเหยียนอวี่นั่ว  ตนเองเป็นนางกำนัลของสำนักพระภูษา แต่ออกไปโดยไม่ได้รับอนุญาต พวกเจ้าทั้งสองคิดว่าตนเองมีความผิดหรือไม่?  

ถึงแม้ว่าน้ำเสียงจะดูเย็นชา แต่วิธีการพูดของซู่รุ่ยก็ดูอ่อนโยนลงมาก

 ฝ่าบาท!  

เมื่อเห็นว่าฮ่องเต้กำลังจะตัดสินโทษ เหยียนอวี่นั่วก็เงยหน้าขึ้นด้วยความตกใจในทันที เธอไม่อาจปล่อยให้ตนเองและซูหว่านถูกลงโทษได้ ทั้งนี้ทั้งนั้นที่ซูหว่านต้องออกไปโดยไม่ได้รับอนุญาตก็เป็นต้นเหตุมาจากการป่วยของเธอนั่นเอง

ถึงแม้ว่าจะต้องถูกตัดหัว เหยียนอวี่นั่วก็ไม่ต้องการให้ผู้บริสุทธิ์คนอื่นต้องมามีส่วนร่วมด้วย

พอนึกถึงเรื่องนี้ สายตาของเธอก็แน่วแน่ขึ้น ภายในจิตใจดูเหมือนว่าจะไม่มีความตกใจกลัวอีกต่อไป  ฝ่าบาท ทั้งหมดเป็น…… 

 ข้าน้อยผิดเองเพคะ 

ทันใดนั้นซูหว่านกลับชิงตัดหน้าคำพูดของเหยียนอวี่นั่ว  ฝ่าบาท ทั้งหมดเป็นความคิดของข้าน้อยเอง ได้โปรดลงโทษข้าน้อยเถอะเพคะ 

 เป็นเจ้าหรือ?  

ซูรุ่ยจ้องมองซูหว่านอย่างมีความหมายและไม่กระพริบตา

 ไม่ ไม่จริง! ฝ่าบาท ความจริงคือ…… 

 เงียบนะ!  

เมื่อเห็นเหยียนอวี่นั่วจะรับผิดชอบเอง ซูรุ่ยจึงขัดจังหวะเธออย่างอดทนไม่ได้ เขามีปัญหามากมายขนาดนี้ แค่ต้องการหาโอกาสอยู่ตามลำพังกับภรรยาของตนเองไม่ได้เลยหรืออย่างไร?

คุณนางเอก คุณจะทำให้เรื่องวุ่นวายทำไมเนี่ย? ให้คนอื่นเขามีความสุขกับความรักบ้างได้ไหม?

เมื่อรู้สึกถึงความโกรธของซู่รุ่ย ทุกคนในห้องกลัวจนคุกเข่าลงกับพื้น  ฝ่าบาทอย่าทรงกริ้วเลย!  

ฝ่าบาทโกรธครั้งเดียว มีศพหลายล้าน นี่มันไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ เลยนะ!

 ทุกคนออกไปให้หมด ซูหว่าน เว้นแต่เธอคนเดียว!  

ซูรุ่ยที่อยู่บนม้านั่งยาวถือโอกาสโบกแขนเสื้อ เมื่อได้ยินฝ่าบาทออกปาก คนอื่นในสำนักพระภูษาก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก ทุกคนรอไม่ไหวที่จะรีบวิ่งออกไปในทันที

คนอื่น ๆ วิ่งออกไปกันหมดแล้ว เหลือเพียงแต่เหยียนอวี่นั่วเท่านั้นที่ยังคงคุกเข่าอยู่ที่เดิม สีหน้าไม่กลัวความตาย และดูเหมือนกับเธออยากจะตายไปพร้อมกันกับซูหว่าน ไม่สิ เรียกว่าเกิดพร้อมกันก็ต้องตายพร้อมกัน

เมื่อเห็นความสัมพันธ์ที่ตัดกันไม่ขาด สายตาของแม่ทัพซูก็ยิ่งมืดมนมากขึ้น

 ออกไป!  

สิ้นสุดคำว่า  ไป  เหยียนอวี่นั่วก็รู้สึกถึงลมแรงวิ่งมาที่หน้าอกของเธอ จากนั้นร่างบาง ๆ ของเธอก็เหมือนกับว่าวที่ถูกตัดขาดล่องลอยออกไปนอกวัง และทันใดนั้นประตูวังก็ปิดลง

สวัสดีแม่พระ ลาก่อนแม่พระ!

ในที่สุดโลกทั้งใบก็เงียบลง

ซู่รุ่ยยิ้มอย่างพอใจ แต่ไม่กี่วินาทีถัดมารอยยิ้มบนริมฝีปากของเขาก็หยุดนิ่งลง

ในที่สุดซูหว่านที่คุกเข่าลงกับพื้นก็ลุกขึ้นยืน ถูหัวเข่าที่ชาของตนเอง ซูหว่านยิ้มและเดินทีละก้าวไปที่ข้างหน้าม้านั่งยาว  ฮ่องเต้ ฝ่าบาท? เธอดูยิ่งใหญ่มากเลยนะ~  

ซูรุ่ย: ……

 เสื้อคลุมมังกรของฝ่าบาทก็ดูงดงามยิ่งนัก 

เมื่อเห็นซูรุ่ยไม่พูดอะไร ซูหว่านก็ยังคงหัวเราะต่อไป นิ้วเล็กสีขาวเรียวของเธอกวาดไปทั่วเสื้อคลุมมังกรของซูรุ่ยอย่างเบามือ จากนั้นสายตาของเธอก็จับจ้องไปที่เข็มขัดหยกเก้ามังกรของซูรุ่ย  ช่างกลึงเข็มขัดก็เป็นมือหนึ่ง ไอหยา ได้ยินมาว่าพระสนมอวิ๋นที่เชี่ยวชาญทางด้านนี้ปักด้ายสีทองเองกับมือเลยนะ 

พระสนมอวิ๋นมาจากไหนอีกเนี่ย?

ใบหน้าของซูรุ่ยแข็งทื่อ เขาใช้แขนยาวที่ทรงพลังดึงร่างเล็กอันบอบบางของซูเสียวหว่านมาไว้ในอ้อมแขนของตนเอง  ที่รัก เลิกหัวเราะผมได้แล้ว ผมเครียดไปหมดแล้ว ฟังผมอธิบายก่อน 

 อืม?  

ซูหว่านซึ่งนั่งอยู่ในอ้อมแขนของซูรุ่ย จู่ ๆ ก็ย่นจมูกและสูดหายใจเข้าอย่างแรง  หอมมาก กลิ่นนี่เหมือนกับ…… 

 ที่รัก ผมผิดไปแล้ว 

ซูรุ่ยอยากจะร้องไห้ ก่อนจะมาขึ้นท้องพระโรงฮ่องเต้ต้องอาบน้ำไปกี่รอบรู้บ้างไหม?

ยิ่งไปกว่านั้นก่อนจะมาที่นี่ฮ่องเต้ผู้ซึ่งรักภรรยายิ่งกว่าชีวิตอย่างเขาต้องไปฆ่าคนที่ตำหนักจิ้งอวิ๋น แล้วไปจัดการต่อที่สำนักพระภูษา ฆ่าทุกคนที่ทำร้ายภรรยาของเขา ตอนนี้เขาจะมีกลิ่นอะไรได้ล่ะ เห็นได้ชัดว่ามีแค่กลิ่นเลือดเพียงอย่างเดียว!

เมื่อได้ยินคำพูดที่จริงจังของซูรุ่ย รอยยิ้มที่สดใสจึงออกมาจากดวงตาของซูหว่าน แต่ทว่าสีหน้าของเธอยังคงเรียบเฉย  ฝ่าบาทเป็นผู้กุมชะตาชีวิตของทุกคน เอาแต่ใจตัวเองยิ่งกว่าอะไรดี จะทำอะไรผิดได้ยังไงกัน?  

ซูรุ่ย: ……

ในขณะที่ซูรุ่ยรู้สึกผิดขนาดที่ว่าถ้ากระโดดลงไปในแม่น้ำหวงเหอก็ยังไม่สามารถชำระความผิดของตนเองให้สะอาดได้แล้วนั้น ทันใดนั้นซูหว่านในอ้อมแขนของเขาก็หันหลังกลับมา โอบสองแขนไว้ที่รอบร่างของซูรุ่ย ริมฝีปากชมพูวาววับของเธอ  จุ๊บ  ไปที่ริมฝีปากของเขา

ความสุขเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน เมื่อซูรุ่ยรู้สึกตัว ซูหว่านในอ้อมแขนของเขาก็ยิ้มจนแก้มแทบแตก

 ตกลงคุณล้อผมเล่นหรือ?  

ภายหลังจากฮ่องเต้องค์นี้เข้าใจสถานการณ์ดีแล้ว เขาก็รู้สึกเหมือนกับได้ยกภูเขาออกจากอก รอยยิ้มที่ผ่อนคลายปรากฏขึ้นบนใบหน้าของชายหนุ่ม  ที่รัก คุณไม่โกรธผมใช่ไหม? ผมตกใจหมดเลย 

ดังนั้นที่เขาพูดกันว่า ภรรยาเป็นผู้ควบคุม เมียเป็นคนใช้ ล้วนเป็นแค่สิ่งมีชีวิตที่เรียบง่าย

เธอคิดว่าเธอจะผ่านไปได้ง่าย ๆ หรือ?

แม่ทัพซู เธอช่างไร้เดียงสาเสียจริง! อนาคตที่แสนโหดร้ายกำลังรอเธออยู่ สู้ ๆ นะ~ อย่าไม่ระวังตัวจนเผลอโดนภรรยาตนเองหลอกล่ะ

 

ภารกิจขโมยใจ ผจญภัยต่างโลก

ภารกิจขโมยใจ ผจญภัยต่างโลก

Status: Ongoing

ซูหว่าน คือเจ้าหน้าที่ทำลายเขตแดนประจำองค์กรแห่งหนึ่งในห้วงกาลอวกาศที่สาบสูญ ในโลกที่ผู้คนทะลุมิติข้ามภพกันไม่เว้นวัน จิตล่องลอยไปเกิดใหม่ในร่างอื่นอยู่ทุกค่ำคืน ก็ได้เธอนี่แหละที่คอยสะสางดูแลความวุ่นวายและจัดการข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นกับเหตุการณ์เหล่านั้น

แต่แล้ววันหนึ่งก็เกิดปัญหาใหญ่เข้าจนได้ เมื่อองค์กรพบว่านางรองที่เกิดใหม่ดันไปสอยพระเอกกับนางเอกของภพนั้นร่วงจนทำให้เนื้อเรื่องเปลี่ยนแปลงไป หัวหน้าแผนกทำลายเขตแดนจึงได้มอบภารกิจให้ซูหว่านไปเก็บกวาดสถานการณ์นี้ให้เรียบร้อย โดยตัวเธอต้องเข้าไปสวมบทบาทเป็นตัวละครในโลกแห่งนั้น

กระนั้นหลังจากที่เธอจัดการทุกอย่างให้เข้าที่เข้าทางเหมือนเดิมแล้ว ภารกิจของเธอกลับยังไม่จบสิ้น ซูหว่านยังคงลืมตาตื่นขึ้นมาในโลกอื่นอีกหลายโลก ไม่ว่าจะเป็นโลกเกมออนไลน์ โลกซอมบี้ หรือโลกเวทมนตร์ แต่ทุกครั้งที่เธอย้ายไปโลกใหม่ บทบาทที่เธอได้รับกลับหยุดอยู่แค่ ‘แฟนเก่า’ ของตัวเอกในเรื่อง

และที่น่าแปลกใจยิ่งกว่าคือทุกโลกที่เธอเดินทางไปนั้น เธอต้องได้พบเจอกับ ‘เขา’ อยู่ร่ำไป แม้ยุคสมัยและสภาพแวดล้อมของโลกจะเปลี่ยนแปลง แต่รูปร่างหน้าตาของเขาคนนั้นยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนไป เขาเป็นใครกันแน่ หรือจะเป็นคนที่ได้รับภารกิจพิสดารนี้เหมือนเธอกันนะ!?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท