บทที่ 116 ตั้งชื่อบริษัท
ในระหว่างทางกลับบ้าน ระหว่างที่เฉินห้าวขับรถก็ได้ถามความคิดเห็นของผู้ช่วยสาวสวย
“เฉารุ่ย คุณว่าเราจะจัดตั้งบริษัทอะไรดี?”
“ฉันคิดว่า ท่านประธานมีของมีค่าที่หาได้ยากมากมาย งั้นก็จัดตั้งบริษัทการค้าละกัน แบบนี้เขตในการจัดการค้าก็จะใหญ่ขึ้นหน่อย” เฉารุ่ยคิดแล้วตอบ
“ได้ งั้นก็เรียกบริษัทการค้าห้าวหราน” เฉินห้าวได้ตัดสินชื่อบริษัทอย่างมีความสุข
“หา ฉันก็พูดไปอย่างนั้น จะพิจารณาใหม่ไหม ท่านประธานคิดลองคิดใหม่อีกครั้งไหม?” เฉารุ่ยตอบอย่างกังวล
“ไม่เป็นไร ฉันก็คิดไว้แต่เนิ่นๆแล้ว พวกเราคือฮีโร่ที่มีความเห็นเหมือนกัน” เฉินตอบไปยิ้มไป
ได้ยินเฉินห้าวพูดอย่างนี้แล้ว เฉารุ่ยถึงวางใจ เธอกลัวมีผลกระทบต่อความก้าวหน้าในอนาคตของเฉินห้าว ที่ต้องระมัดระวัง เป็นเพราะมีความรู้สึกแคร์ใส่ใจมากเกินไป
ตกดึกทุกคนกินข้าวด้วยกันนั้น เฉินห้าวก็ได้แจ้งเรื่องที่จะจัดตั้งบริษัทการค้านั้นให้อีกสองคนได้รับรู้ สำหรับ “ห้าวหราน” ชื่อบริษัทนี้ เป็นชื่อมาจากชื่อของเขาเอง
“ฉันเห็นด้วยทุกประการ!” ฉิงจื๋อเทายกมือขึ้นทั้งคู่ เหมือนยอมจำนนอย่างนั้น
“ฉันรู้สึกว่ายังมีจุดบกพร่องอีกนิดนึง” เซี่ยจิ้งให้ความเห็นที่ต่าง
“อ่อ?งั้นคุณมีข้อเสนออะไรไหม” เฉินห้าวกล่าวถาม
“เรียกบริษัทการค้าห้าวจิ้งดีกว่าไหม” จู่ๆเซี่ยจิ้งก็ได้คิดชื่อแปลกๆนี้ขึ้นมา
เฉารุ่ยเข้าใจทันทีกับชื่อบริษัทนี้ รีบค้านทันที
“ความหมายนี้ดีมากเลยแหละ คุณดู JD เว็บไซต์ใหญ่ ก็เป็นการรวมชื่อผู้ก่อตั้งของพี่ตงและภรรยาของเขา บริษัทการค้าห้าวจิ้งนี้ ก็เป็นการรวมชื่อของฉันและประธานไง จะได้นำโชค”
เซี่ยจิ้งกล่าวอย่างแน่นอน
“แฮะแฮะ”ประธานเฉินห้าว ก็ไม่รู้ว่าจะพูดยังไงแล้ว
“ฉันคัดค้าน คุณมันเอาเรื่องส่วนตัวมาเข้าเกี่ยวด้วย ไม่เห็นด้วยเด็ดขาด” เฉารุ่ยโกรธมาก ชื่อบริษัทจะเรียกอะไรก็ได้แต่จะเรียกห้าวจิ้งไม่ได้หากตั้งชื่อว่าบริษัทการค้าห้าวรุ่ยยังดีกว่านั้นอีก
“ฉันรู้สึกว่าบริษัทการค้าห้าวจิ้งน่าฟังที่สุด ฉิงจื๋อเทา คุณคิดว่ายังไง?” เซี่ยจิ้งบีบบังคับถามเหล่าฉิง
“ฉันขอสละสิทธิ์!”
ฉิงจื๋อเทาตอนนี้รู้จักฉลาดแล้ว สงครามระหว่างผู้หญิงเขาจะไม่ยุ่งเด็ดขาด
“เอาล่ะ ตอนนี้ 2ต่อ1 ก็ยังเรียกบริษัทการค้าห้าวหรานแหละ” เฉินห้าวตัดสินใจ ยุติเรื่องตลกนี้
จากนั้นเฉินห้าวพูดต่อว่า:“เฉารุ่ย พรุ่งนี้คุณไปสำนักอุตสาหกรรมและการพาณิชย์หน่อย ไปยื่นขอใบอนุญาตและขั้นตอนการที่เกี่ยวข้องหน้าที่นี้มอบให้คุณไปจัดการละกัน”
“ได้ค่ะ ฉันจะจัดการให้เร็วที่สุด” เฉารุ่ยพยักหน้า
“แล้วฉันทำอะไร?” เซี่ยจิ้งถามขึ้นเอง
“คุณก็เป็นเชฟที่ดีอยู่ในร้านอาหารไง ตอนนี้คุณก็มีฉายาแม่เชฟสุดสวยแห่งถนนซีเจียแล้วไม่ใช่เหรอ” เฉินห้าวกล่าวล้อเลียนถึง
เป็นเพราะมีหลายเมนูที่เซี่ยจิ้งทำได้อร่อย หน้าตาก็สวย จากที่ลูกค้าถ่ายเธอแล้วโพสต์ลงในอินเตอร์เน็ต ใน Tik Tok และMicroBlog มีแนวโน้มที่ร้อนแรงมาก ตอนนี้ก็มีฉายาแล้ว และยังพลอยทำให้ร้านอาหารฝรั่งเศสดังไปด้วย
ดังนั้นตอนนั้นเฉินห้าวมีความชาญฉลาดมากที่รับเซี่ยจิ้งมาเป็นแม่ครัว ไม่อย่างนั้นลำพังแค่ร้านอาหารหนึ่งมันไม่ดังในช่วงเวลาสั้นๆหรอก
“มันก็ใช่ ฉันเคยบอกแล้วฉันน่ะเป็นแม่ครัวสาวสวยที่ดีที่สุดแล้ว” เซี่ยจิ้งกลับฟังไม่ออกว่าถูกเฉินห้าวล้อเลียน ยังรู้สึกพอใจมาก
“อืม มีความมั่นใจคือเรื่องที่ดี” เฉินห้าวกล่าวร่วมด้วย
“ฮ่าฮ่าฮ่า!” ไม่กี่คนถูกล้อจนหัวเราะ หัวเราะไม่หยุด
จากนั้น ผ่านมาสองสามวัน ทุกคนต่างคนต่างยุ่ง
เฉารุ่ยไปสำนักอุตสาหกรรมและการพาณิชย์อย่างต่อเนื่อง สำนักภาษีและหน่วยงานอื่น ๆ ดำเนินตามขั้นตอน เซี่ยจิ้งก็ฝึกทำอาหารไป พัฒนาโภชนาการพะโล้กับช่วนช่วนเซียงให้ยิ่งใหญ่ขึ้น ภายใต้การบอกต่อของลูกค้า ชาวเมืองเกือบครึ่งก็รู้กันหมดแล้ว ว่ามีร้านอาหารฝรั่งเศสทำพะโล้และช่วนช่วนเซียงได้รสชาติดั้งเดิมอย่างแท้จริง เคยสงสัยกันว่าเถ้าแก่เป็นลูกครึ่งที่อาศัยอยู่ในฝรั่งเศส
แน่นอน มีชื่อเสียงก็ต้องมีเรื่องฉาว ในวันนี้ ร้านพะโล้ฝรั่งเศสได้มีแขกไม่ได้รับเชิญมากลุ่มหนึ่ง ห้าหนุ่มไอ้นักเลงหัวไม้ได้ผลักประตูเดินเข้ามา
พนักงานที่ร้านเข้ามาบริการอย่างเป็นมิตร ทักถามพวกเขาว่าต้องการสั่งอะไรไหม ไอ้หนุ่มน้อยที่ย้อมผมสีเหลืองก็ได้เลิกแขนเสื้อขึ้นโชว์รอยสักแม่งป่องที่แขน กล่าวอย่างหาเรื่องว่า:“รู้แล้วใช่ไหมว่าพวกเราเป็นใคร ไปเรียกเถ้าแก่พวกเธอออกมา”
พนักงานตกตะลึงในใจ คิดในใจว่ามาหาเรื่องแล้ว รีบบอกว่า:“เถ้าแก่ของเราไม่ได้อยู่ที่ร้าน ร้านนี้ฟังคำสั่งของเชฟเซี่ย”
“ฉันไม่สนว่าจะเป็นเชฟเซี่ย หรือเชฟตงอะไรของนาย รีบไปเรียกออกมา พวกพี่ๆมีเรื่องหาเขา”
ชายหนุ่มผมเหลืองนั้นเย่อหยิ่งมาก เขาได้วางเท้าบนเก้าอี้ที่ลูกค้านั่นกินข้าวกัน ไม่มีศีลธรรมหรือมารยาทเลย
พนักงานคนนี้ก็ไม่รู้จะต้องทำยังไง ก็รีบไปแจ้งให้เซี่ยจิ้งที่กำลังฝึกทักษะมีดอยู่หลังครัวนั้น เธอได้หยิบเอามีดหั่นผักมายืนตรงหน้า
หนุ่มเหล่านี้ตกใจมากจนขากรรไกรของพวกเขากำลังจะหลุด แต่แล้ว ใบหน้าที่เย่อหยิ่งเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มทีเจ้าเล่ห์
ไอ้หวงเหมาใช้สายตาเจ้าเล่ห์มองไปที่เซี่ยจิ้ง จู่ๆก็พูดขึ้นว่า:“สาวสวย คุณกำลังไลฟ์สดใช่ไหม?”
ความจริงตามความเข้าใจของคนทั่วไป สวยขนาดนี้ใครเขายังทนอยู่กับกลิ่นควัน เป็นเน็ตไอดอล เป็นนักไลฟ์สดหรือเมียน้อยมันไม่ดีหรือยังไง?
จากนั้น มันก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะคิดแบบนี้ เซี่ยจิ้งไม่ได้หากินด้วยหน้าตา แต่กลับพึ่งกำลังตัวเองเพื่ออยู่รอด
เธอเข้าใจดีกับสายตาที่ดุดันของผู้ชายแบบนี้ กล่าวอย่างเย็นชาว่า: “พวกนายเรียกหาฉันมีอะไร?เฮ้ นายเอาขาลงเดี๋ยวนี้ มีมารยาทหรือเปล่าเนี่ย”
“สาวสวยโกรธแล้ว ทุกคนรีบยืนตัวตรงเร็ว”
หวงเหมาแค่วิจารณ์ไปคำหนึ่ง จากนั้นพวกหนุ่มน้อยก็มารยาทดีขึ้นแล้วบางเรื่อง
“ที่พวกเรามาแค่มีธุระนิดหน่อย สาวสวยเราหาที่เงียบๆคุยกันไหม” หวงเหมารับเชิญเอง
“ไม่ว่าง มีอะไรก็รีบพูดออกมา ฉันยังมีงานต้องทำ” เซี่ยจิ้งยังคงเท่เหมือนเดิม เวลาเธออยู่ต่อหน้าเฉินห้าวถึงจะเป็นอีกบุคลิกหนึ่ง ส่วนกับไอ้คนทีไร้ความปรานีเหล่านี้ ก็กลายเป็นพริกเล็กพริกขี้หนูไปแล้ว