บทที่135 ความคิดที่ใจกล้า
ในตอนที่กินข้าวเช้า เฉารุ่ยเห็นเฉินห้าวหลบสายตา ยังไงซะเมื่อคืนทั้งสองก็เกือบมีอะไรเกิดขึ้น
แต่ทั้งสองก็เข้าใจดีที่ไม่ได้ใครพูดถึงเรื่องเมื่อคืนอีก กินมื้อนี้ให้เสร็จอย่างเรียบง่าย
หลังอาหาร เฉารุ่ยก็ติดต่อรถ ส่งเฉินห้าวไปยังสถานีรถไฟในเมือง
ระหว่างทาง ทั้งสองนั่งในรถ อยู่ๆเฉารุ่ยก็พูดขึ้นอย่างกังวลว่า “คุณกลับไป จะต้องระวังเซี่ยจิ้งให้ดี ตอนกลางคืนเวลานอนต้องล็อกห้องให้ดี ถ้าเธอบังคับขืนใจ ก็ใช้สเปรย์ที่ฉันให้ฉีดใส่เธอ!”
เฉินห้าวหัวเราะ การทำงานของเฉารุ่ยดี แต่ว่าความสัมพันธ์ชายหญิงนั้นใสซื่อ ผู้ชายเจอเรื่องแบบนี้ คงไม่มีใครคัดค้าน กลับกันคงจะสนองให้
แต่ว่า เฉินห้าวก็ปลอบเธอ จะดูแลตัวเองให้ดี….
สุดท้าย ที่สถานีรถไฟ เฉารุ่ยมองตามจนเฉินห้าวเดินเข้าไปในสถานี หางตาก็เธอมีน้ำตา โบกมือลากับเฉินห้าว นี่เป็นครั้งแรกที่แยกตัวกับเฉินห้าวหลังจากที่รู้จักกัน ในใจรู้สึกไม่เต็มใจ
“รีบทำงานที่นี่ให้เสร็จ ฉันรอเธอกลับมา”เฉินห้าวโบกมือให้หลังรั้วกั้น
“ค่ะ ฉันจะตั้งใจทำงาน!”เสียงของเฉารุ่ยสะอื้นนิดหน่อย ในตอนที่น้ำตากำลังจะไหล ก็รีบหันหลังจากไป
เห็นแผ่นหลังเดียวดายของเฉารุ่ย ในใจเฉินห้าวมีความรู้สึกบางอย่างที่พูดไม่ออก
ก่อนหน้านั้นเขามีความรู้สึกกับเฉารุ่ยแบบเจ้านายและลูกน้อง แต่เมื่อผ่านเรื่องเมื่อคืน กลับรู้สึกว่าใจเต้นแรงกับเธอนิดหน่อย แต่ว่าตอนนี้ก็พัฒนาความสัมพันธ์กับโจวซีถงอย่างรวดเร็ว วางมือไม่ได้ นี่จึงเป็นปัญหาหนึ่ง สุดท้ายแล้วจะเลือกใคร ก็รู้สึกเสียดายทั้งนั้น
อยู่ๆเฉินห้าวก็มีความคิดที่ใจกล้าอย่างหนึ่ง เหมือนกับสติ๊กเกอร์กำปั้นของสวีจิ่นเจียง เด็กเท่านั้นแหละที่ต้องเลือก ผู้ใหญ่นั้นเอาทั้งหมด!
แต่ว่าความคิดนี้ ประเทศมีศาลครอบครัวรอเขาอยู่ อยากได้ครบทักคนอย่างมีความสุข จะต้องมีแผนการที่จัดการได้
“ฉันต้องพยายามแล้ว”อยู่ในใจเฉินห้าวก็มีแรงผลักดัน ถึงแม้ว่าตอนนี้จะไม่ต้องเครียดเรื่องเงินทอง แต่ว่าความสัมพันธ์ยัง “แห้งแล้ง” จะต้องรีบเดินหน้า……
รอเฉินห้าวนั่งรถไฟถึงเมืองไป่เหอ ก็มีโทรศัพท์มาเร่งหลายสายแล้ว เฉินห้าวไปหาหลิวหมิงของบริษัทอาหารสดโจวซื่อ ไปส่งออกสินค้าที่ลูกค้าสั่งเข้ามา จากนั้นก็มาที่ร้านอาหารพะโล้ฝรั่งเศส จัดการปัญหาเล็กน้อย
ร้านอาหารพะโล้ฝรั่งเศสตอนนี้ ขึ้นชื่อในพื้นที่แล้ว รสชาติพิเศษ ยิ่งไปกว่านั้นก็คือเชฟที่หุ่นแซ่บมาก เอาเรื่องพวกนี้มารวมกัน ไม่อยากดังยังยาก ดังนั้นจึงมีลูกค้าเต็มร้านทุกวัน นี่เป็นภาพที่ร้านอาหารฝรั่งเศสก่อนหน้านี้ไม่เคยมีมาก่อน
ตอนนี้ร้านอาหารไม่เพียงแต่ขายพะโล้ ปิ้งย่าง และข้าวปั้น แต่รวมไปถึงชานมด้วย เป็นของกินและเครื่องดื่มที่ผู้คนชอบทั้งนั้น ยังไงซะก็มีคนดูแลที่เพี้ยนๆอย่างเซี่ยจิ้งอยู่ คิดอะไรได้ก็เริ่มลงมือทำ
แต่อย่างว่า ฝีมือการทำอาหารของตระกูลเซี่ยบวกกับความคิดเพี้ยนๆของเธอ รวมกันแล้วผลลัพธ์ดีเกินคาด วิดีโอถูกใจ เชฟสวยงาม นี่ก็ทำให้ร้านอาหารมีกำไรมากมายแล้ว
ไม่ได้ชิมฝีมือเซี่ยจิ้งมานานแล้ว เฉินห้าวจึงอยู่ในร้าน แล้วสั่งอาหารบางอย่างมากิน
ระหว่างที่เขาไม่อยู่ช่วงนี้ เซี่ยจิ้งก็ฝึกได้เยอะมาก ฝึกอาหารพื้นบ้านเป็นหนึ่งอย่าง มันฝรั่งผัดเผ็ดเปรี้ยว ตอนนี้ก็ถูกยกมาตรงหน้าของเฉินห้าว
เซี่ยจิ้งนั่งลงตรงหน้าเฉินห้าวอย่างภาคภูมิใจ ท่าทางนั้นเหมือนกับพูดว่า “ชมฉันๆ รีบชมฉัน”
เฉินห้าวมองดูผัดมันฝรั่งจานนี้ เส้นมันฝรั่งสีเหลือง พริกสีแดง ผักขึ้นฉ่ายสีเขียว สีเข้ากันได้ดีมาก อีกอย่างเส้นมันฝรั่งก็หั่นเท่ากัน และยังวางใส่จานอย่างใส่ใจ ดูแล้วมีระดับของโรงแรมแล้ว
เฉินห้าวคีบขึ้นมาชิม รสชาติเปรี้ยวกรอบ รสชาติดีมากจริงๆ ถือเป็นผัดมันฝรั่งที่อร่อยที่สุดที่เคยกินเลย
“ไม่เลวนี่?ฝีมือการใช้มีดก็ใช้ได้แล้ว มีการพัฒนา”เฉินห้าวพูดชม
“อิอิ ไม่หรอกหน่า ฝีมือการใช้มีดยังไม่ดีเท่าไหร่ ฉันใช้เครื่องหั่นผักทำมันฝรั่ง แต่ว่าอย่างอื่นฉันทำเองกับมือเลยนะ”เซี่ยจิ้งยังถือว่าซื่อสัตย์ บอกถึงเรื่องที่แอบโกง
“อย่างนั้นก็ไม่เลว ความอร่อยของอาหารจานนี้ บางคนทั้งชีวิตนี้ก็ทำไม่ได้”
เฉินห้าวพูดชม แล้วก็ก้มหน้ากิน อาหารหลักของมื้อนี้คือข้าวนึ่งใบบัว เนื้อสัตว์มีพะโล้ อาหารรองมีปิ้งย่าง บวกกับมันฝรั่งผัดจานนี้ จัดได้ดีเยี่ยม
เฉินห้าวดูแขกที่เข้ามาไม่หยุดหย่อน พูดอย่างพอใจว่า “ไม่เลว จ้างเธอมาเป็นเชฟเป็นการตัดสินใจที่ดีจริงๆ”
ก็จริง ในสังคมตอนนี้ หาคนใหม่ดีกว่าคนเก่าที่ไม่มีแรงกระตุ้น ร้านอาหารของเขาแค่เพียงอาหารพะโล้ปิ้งย่าง ก็สามารถทำได้ขนาดนี้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเซี่ยจิ้งที่มีอาหารอร่อยๆมานำเสนออยู่ตลอด ลูกค้าพอใจเป็นอย่างมาก เวลาไม่นานก็มีลูกค้าประจำ มาอุดหนุนเกือบทุกวัน ก็สามารถเห็นความดังของร้านอาหารได้แล้ว หม้อที่ต้มเนื้อก็ไม่ได้พักเลยถึงจะพอสำหรับลูกค้า
ถึงร้านอาหารนี้จะเทียบไม่ได้กับของในแอพเงินอุดหนุนหมื่นล้านที่มีกำไรหลักหมื่นหลักล้าน แต่เมื่อมาเทียบกับการเป็นโรงอาหารก็ดีมากแล้ว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงกำไรของตอนนี้ เฉินห้าวรู้สึกภาคภูมิใจกับการซื้อกิจการนี้มาก
ไม่นานเฉินห้าวก็กินอาหารตรงหน้าหมด เซี่ยจิ้งจะไปตักข้าวให้เขาเพิ่มอีกถ้วย เฉินห้าวรีบปฏิเสธ เขากินอิ่มแล้ว ถ้ากินเข้าไปอีกคงตัวแตกในร้านอาหารของตัวเองแล้ว