บทที่ 214 ผู้หญิงเมื่อถึงวัยอันควรต้องแต่งงาน
“ซี๊ด”
หลังจากที่เฉินห้าวทนกับความร้อน เขาก็รู้สึกได้ถึงกลิ่นหอมของเต้าหู้ที่กระจายอยู่ในปาก และความมหัศจรรย์ของอาหารก็ถูกเปิดเผยออกมาอย่างเต็มที่ เต้าหู้ชิ้นนี้ทานเข้าไปแล้วให้ความสดชื่นจริงๆ
เฉินห้าวไม่เคยทานเต้าหู้ที่อร่อยขนาดนี้มาก่อน ถึงจะร้อนแต่ก็อยากทานอีกสักคำ นี่แสดงให้เห็นเลยว่าอาหารที่ท่านเซี่ยทำอร่อยแค่ไหน
เมื่อท่านเซี่ยเห็นว่าเฉินห้าวเสียสติไปแล้ว เขาจึงยิ้มออกมาอย่างพอใจ ในที่สุดก็เอาชนะเด็กหนุ่มคนนี้ได้ด้วยทักษะการทำอาหารและสร้างรายได้ ถือว่ากู้หน้ากลับมาได้
แต่ทว่าท่านเซี่ยเห็นว่าสายตาของหลานสาวตัวเอง จ้องไปที่เฉินห้าวตลอดเวลา แถมยังยิ้มอย่างมีความสุข เขารู้สึกสังหรณ์ใจขึ้นมา หลานสาวของตัวเองกำลังมีความรัก
ท่านเซี่ยมีหลานสาวเพียงคนเดียว เขาต้องเข้มงวดกับเธอ และเป็นห่วงไปถึงเรื่องที่ว่าเมื่อไรตัวเองจะได้อุ้มหลาน
ดังนั้นท่านเซี่ยจึงเอ่ยถามว่า “นายเป็นคนที่ไหน ครอบครัวมีกี่คน”
เฉินห้าวไม่ได้คิดอะไรมาก จึงตอบออกไปว่า “อยู่ในหมู่บ้านเล็กๆ ของมณฑลเหอครับ พ่อแม่เสียชีวิตแล้ว มีแต่ญาติห่างๆ อยู่ที่บ้านเก่าครับ”
“อ๋อ งั้นนายเรียนจบระดับไหน มีแฟนมาแล้วกี่คน” ท่านเซี่ยถามต่อ
“ผมจบปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยเหอเป่ยครับ ส่วนแฟน เอ่อ ท่านเซี่ยถามเรื่องนี้ทำไมเหรอครับ” เฉินห้าวเริ่มหวาดระแวง
ท่านเซี่ยไม่ได้ตอบอะไร และถามต่อว่า “นายมีบ้านที่เป็นชื่อของตัวเองกี่หลัง มีรถกี่คัน มีเงินฝากเท่าไร รับเรื่องที่หลังแต่งงานแล้วผู้ชายไปอยู่บ้านภรรยาได้ไหม”
เฉินห้าวอึ้งไป นี่มันอะไรกัน เฉินห้าวเชิญท่านเซี่ยมาทำอาหารเจ แต่ทำไมเหมือนกำลังทำความรู้จักหลานเขย
เซี่ยจิ้งก็รู้วัตถุประสงค์ของปู่ เธอจึงพูดอย่างอ้อนๆ ว่า “ปู่ทำอะไรน่ะ ถ้าถามไร้สาระอีก ฉันจะโกรธแล้วนะ”
หลานสาวเป็นคนที่ภูมิใจในตัวเองมาตั้งแต่ไหนแต่ไร ท่านเซี่ยโอ๋เธอมาก เขารีบพูดว่าไม่ถามแล้ว และนั่งทานข้าวกันอย่างสงบ
แต่ทว่าบรรยากาศเริ่มแปลกไป เฉินห้าวเริ่มครุ่นคิดในใจ นี่ท่านเซี่ยอยากให้ตัวเองเป็นหลานเขยอย่างนั้นเหรอ
เขาชำเลืองมองเซี่ยจิ้งที่กำลังก้มหน้าก้มตาทานข้าว เขาคิดในใจว่าไม่ต้องพูดถึงเรื่องความสวยของเชฟสาวคนนี้ หุ่นของเธอร้อนแรง ถ้าได้เป็นภรรยา ไม่ต้องกังวลเรื่องกินเรื่องตกแต่งบ้านเลย ต้องระวังเรื่องบำรุงไตมากกว่าแต่เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเขาสักเท่าไร ตอนนี้เฉินห้าวมีโจวซีถงแล้ว อีกทั้งยังมีสวัสดิการมากขนาดนี้ กลัวร่างกายจะรับไม่ไหวน่ะสิ
หลังจากทานอาหารเสร็จ เฉินห้าวบอกให้เซี่ยจิ้งพาท่านเซี่ยไปเที่ยวในเมือง และอย่าลืมไปทำอาหารที่หมู่คฤหาสน์จงหัวให้เสร็จก่อนห้าโมงครึ่ง
“ไปกันเถอะค่ะคุณปู่ ฉันจะพาปู่ไปเที่ยวที่เมืองไป๋เหอ คืนนี้ปู่จะได้นอนในบ้านที่ฉันออกแบบ มันมีสไตล์มากเลยนะ แถมยังเป็นคฤหาสน์ที่บอสให้ฉันอยู่ฟรีอีกด้วย!”
เซี่ยจิ้งพูดโม้กับปู่อย่างมีความสุข
“อย่าถูกซื้อด้วยเงินทองและสิ่งของ” ท่านเซี่ยพูดสอนด้วยเจตนาดี
“อะไรคือถูกซื้อ ฉันทำงานอย่างหนัก บอสก็เลยจ่ายหนักให้ไง มันเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลแล้ว ปู่ไม่ต้องสนใจฉันหรอก” เซี่ยจิ้งพูด
“ผู้หญิงเมื่อถึงวัยอันควรก็ต้องแต่งงานนะ!”
ท่านเซี่ยหดหู่ใจ ปู่อย่างเขาโดนเปรียบกับเฉินห้าว และหลานสาวพูดเสมอว่าอีกฝ่ายเก่ง
เรื่องมาถึงตอนนี้ ท่านเซี่ยดูออก เฉินห้าวทั้งหล่อทั้งรวย ด้านพฤติกรรมก็ไม่มีข้อบกพร่องใดๆ คนแก่อย่างเขาก็ไม่ก้าวก่ายเรื่องของหนุ่มสาว ให้พวกเขาจัดการกันเอง
บ่ายวันเดียวกัน เซี่ยจิ้งขับรถที่เธอใช้ขับเป็นประจำนั่นก็คือรถลัมโบร์กีนี พาคุณปู่ไปเที่ยวเล่นในเมืองไป๋เหอ เธอซื้อของให้คุณปู่มากมาย ใช้เงินจากเงินเดือนของเธอ ซื้อไปป์หยกราคาหมื่นแปดให้คุณปู่หนึ่งอัน เซี่ยจิ้งไม่เสียดายเงินเลยแม้แต่น้อย
ถึงเธอจะหยิ่งผยอง และชอบหงุดหงิดใส่คุณปู่ แต่เธอมีความกตัญญูและเป็นเด็กดี
เมื่อถึงบ่ายสี่โมงกว่า ปู่และหลานขับรถมาที่หมู่คฤหาสน์จงหัว
เมื่อมาถึงสถานที่สำหรับพักผ่อนหย่อนใจ ยังเหลืออีกประมาณครึ่งชั่วโมงกว่าจะถึงเวลาทำอาหาร เซี่ยจิ้งพาปู่ไปชมห้องที่ตัวเองเป็นคนออกแบบ
เมื่อเห็นห้องที่เต็มไปด้วยตัวการ์ตูนและอนิเมะ ท่านเซี่ยเบะปาก คิดในใจว่าหลานสาวของตัวเองยังไม่โต คิดไม่ถึงว่าจะยังชอบดูการ์ตูน
คนแก่อย่างเขาไม่สามารถแยกความแตกต่างระหว่างการ์ตูนกับเรื่องสำหรับเด็ก จึงไม่สามารถแก้ตัวอะไรได้
ชายชราอดทนดูห้องของเซี่ยจิ้งจนเสร็จเรียบร้อย เขามองเฉินห้าวเปลี่ยนไปเป็นอย่างมาก ให้หลานสาวของตัวเองอยู่ห้องดีขนาดนี้ เป็นเรื่องน่ายกย่องจริงๆที่สามารถเลี้ยงตัวเองได้อย่างดี
ชายชราอายุมากแล้วจึงรู้ทุกอย่าง หลานสาวของเขาจะเคยมีความสุขแบบสามีภรรยาหรือไม่ มองแวบแรกเขาก็รู้ จนถึงตอนนี้เซี่ยจิ้งยังเป็นสาวบริสุทธิ์ ชายชราจึงเริ่มวางใจ อย่างน้อยเฉินห้าวก็ไม่ใช่พวกอันธพาลที่ชอบหลอกผู้หญิงเหมือนในละครทีวี
เมื่อถึงห้าโมงเย็น เฉินห้าวก็มาถึงหมู่คฤหาสน์จงหัว เพื่อที่จะมาเตรียมงานเลี้ยงอาหารเย็นต้อนรับแม่ของโจวซีถง เขาตั้งใจไปดูเชฟใหญ่ที่หลังครัว
ท่านเซี่ยอยู่ในชุดสีขาว จากนั้นเขาก็ล้างมือจนสะอาด และสวมหมวกทรงสูงแบบเชฟ จากนั้นจึงเดินเข้าไปในครัว
ที่ทำอาหารคือห้องครัวที่เซี่ยจิ้งตกแต่งเอาไว้ ถึงแม้พื้นที่จะไม่ใหญ่ เป็นเตาครัว แต่มันก็เพียงพอที่จะทำอาหารเจสำหรับคนไม่กี่คน
ท่านเซี่ยจัดการวัตถุดิบตามขั้นตอน จากนั้นจึงติดไฟ เขานำผักที่สุกยากลงไปผัดก่อน ในฐานะที่เป็นเชฟผู้มีฝีมือ จำเป็นต้องวางแผนเรื่องเวลาได้
เซี่ยจิ้งคอยเป็นลูกมืออยู่ข้างๆ และถือโอกาสเรียนรู้จากคุณปู่ด้วย ตอนเด็กท่านเซี่ยต้องการให้เซี่ยจิ้งเรียนทำอาหาร แต่เซี่ยจิ้งเอาแต่เล่นและทำแบบขอไปที ตอนนี้เธอมีคนที่ชอบแล้ว ตอนนี้เธอพร้อมที่จะเรียนการทำอาหารอย่างเต็มอกเต็มใจ เพราะอยากทำอาหารอร่อยๆ ให้คนที่ชอบทาน
ท่านเซี่ยสอนทุกสิ่งทุกอย่างให้หลานสาวของตัวเอง สอนเคล็ดลับการทำอาหารที่ไม่มีสอนในโรงเรียนสอนทำอาหาร ทำให้เซี่ยจิ้งได้รับความรู้ไม่น้อยเลยทีเดียว