“ถงถง พวกเราเร่งความเร็วกันหน่อยไหม” เฉินห้าวถามเธอ
“ถ้าคุณชอบก็ได้ แต่ไม่ต้องขับเร็วเกินไป มันอันตราย” โจวซีถงเอ่ยเตือน
“รับทราบ ขอเร่งในระยะสั้นๆ” เฉินห้าวยิ้ม หลังจากแซงรถบรรทุกคันใหญ่ วิสัยทัศน์ด้านหน้าจึงโล่งปลอดโปร่ง เขาจึงเหยียบคันเร่งมิด เคอนิกเส็กก์พุ่งทะยานดั่งลูกธนู ระเบิดพุ่งออกไปอย่างกะทันหัน
โจวซีถงจู่ๆ รับรู้ถึงแรงปะทะตีกลับ ภายใต้ความเร็วอันมหาศาล แผ่นหลังเธอราวกับจะจมลงไปในเบาะนุ่ม เธออดไม่ได้ที่จะยึดจับที่วางมือแน่นด้วยความประหม่า
พูดตามจริง โจวซีถงไม่เคยแข่งรถ เธอเป็นผู้หญิง ไม่ค่อยชอบความเสี่ยงใดๆ แต่หลังจากที่เธอกลายเป็นนักธุรกิจหญิง เมื่อนั่งบนรถคนอื่นๆ ต่างใส่ใจเธอ ไม่ขับรถเร็ว ดังนั้นนี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้ลองแข่งรถ
ทิวทัศน์เบื้องหน้าผ่านไปอย่างรวดเร็ว เมื่อเคอนิกเส็กก์แซงผ่านรถขับอื่น แรงเสียดทานอากาศดั่งเสียงนกหวีดแหลมๆ ไม่ต่างกับการนั่งรถไฟความเร็วสูง หลังจากประสบความประหม่าชั่วเวลาหนึ่ง อะดรีนาลีนหลั่งออกมาด้วยความตื่นเต้น ทำให้โจวซีถงอดไม่ได้ที่จะเวียนหัว
ไม่แปลกที่มักจะเห็นข่าวทายาทเศรษฐีรุ่นที่สองแข่งรถหรูกัน ปรากฏว่านี่เป็นอะไรที่เยี่ยมมาก
เฉินห้าวในฐานะคนขับ ความเร็วรถจู่ๆ พุ่งสูงถึง 200 หลา สีหน้าจริงจังเป็นอย่างมาก เขามองรอบด้านอย่างมีสมาธิ มาตรความเร็วรถเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ด้วยความเร็วที่สูงขึ้นนี้พาให้ความรู้สึกสดชื่นปะทุออกมาด้วย
หลังจากขับมาได้ประมาณห้าถึงหกกิโล พบว่าทางข้างหน้าปรากฏรถจำนวนมาก เฉินห้าวจึงหยุดการแข่งรถ เขาปล่อยคันเร่งและเหยียบเบรกเบาๆ ความเร็วของรถค่อยๆ ลดลง กระทั่งถึงความเร็วปกติที่ 120 หลา
แม้ว่าการแข่งรถจะรู้สึกสนุกมาก แต่ต้องอยู่ในความเหมาะสม แม้ในภาพยนตร์ยังมีข้อเตือนใจว่า หากขับรับไม่เคารพกฎ น้ำตาคนที่เรารักจะไหลเป็นสาย
“ฟู่!”
ในตอนนี้ โจวซีถงถอนหายใจยาวๆ ออกมาด้วยความโล่งอก รู้สึกปลอดโปร่งโล่งใจ ตอนนี้เธอเวียนหัวนิดหน่อย
ตอนนี้ความเร็วลดช้าลง เมื่อเทียบความเร็วรถเมื่อครู่นี้ เหมือนรถกับหอยทาก เทียบกันไม่ได้เลย นี่เป็นความเร็วสูงสุดที่กฎหมายจราจรอนุญาตแล้ว
“เป็นยังไงบ้าง” เฉินห้าวถามโจวซีถง
“เยี่ยมมาก แต่ว่าเมื่อกี้คุณพึ่งผ่านจุดตรวจจับความเร็ว คุณอาจโดนลงโทษ” โจวซีถงเม้มปากสีแดงและยิ้ม
“ไม่ต้องกลัว โดนลงโทษก็จ่ายค่าปรับ”
เฉินห้าวไม่มีความเกรงกลัวใดๆ ระดับพวกเขาแล้ว ไม่จำเป็นต้องสนในคะแนนในใบขับขี่อีกต่อไป แค่อาศัยเส้นสายและเงินสินบนเล็กน้อย ก็สามารถพ้นจากโทษทางจราจรได้แล้ว
ขณะที่พวกเขากำลังคุยกัน ทันใดนั้นก็มีรถสปอร์ตเฟอร์รารีสีน้ำเงินขับตีคู่ขึ้นมาจากทางด้านขวาของเฉินห้าว อีกทั้งยังบีบแตร เรียกร้องความสนใจจากเขา
เฉินห้าวมองไปทางด้านขวา พบเด็กหนุ่มสวมแว่นกันแดดคนหนึ่งกำลังขับรถอยู่ ดูแล้วน่าอายุประมาณยี่สิบปี เขายังคงเหยียบคันเร่ง และยังโบกมือไปมาราวกับต้องการท้าทาย
หลังจากไตร่ตรองท่าทางนั้นอยู่สักพัก เฉินห้าวจึงเข้าใจ ชายหนุ่มคนนี้เห็นที่เขาขับรถแข่งเล่นเมื่อครู่ จึงต้องการแข่งกับเขา
คนหนุ่มสาวในช่วงวัยนี้ต่างชอบการท้าทายและเอาชนะ บางทีชายหนุ่มคนนี้มั่นใจในประสิทธิภาพรถและทักษะความสามารถของตนเองมาก ดังนั้นจึงมาท้าทายเฉินห้าว
อย่างไรก็ตามเฉินห้าวไม่ใช่เด็กๆ แล้ว แม้จะสนุกกับการแข่งรถ แต่มันก็ยังมีความเสี่ยงสูง เรื่องความปลอดภัยต้องมาก่อน จึงจะลงแข่งได้ การแข่งรถเพราะการท้าทายและเอาชนะไม่ใช่ความคิดที่ดี อีกทั้งในรถยังมีโจวซีถงอยู่อีก ดังนั้นจึงจะมีอันตรายไม่ได้
เฉินห้าวจึงโบกมือ บอกปฏิเสธไป
ด้วยเหตุนี้ เฉินห้าวยังหย่อนอารมณ์ให้เด็กหนุ่มคนนี้ ด้วยการลดความเร็วลงเหลือ 100 หลา ให้เขาไปก่อน นี่ถือเป็นการให้มารยาท หมายถึง” พี่ชายไม่เก่งกาจเท่าคุณ”
แต่ใครจะรู้ว่าเด็กหนุ่มไม่คิดเช่นนั้น เห็นว่าเฉินห้าวไม่ยอมแข่งด้วย ก็แสดงท่าทางประชดประชัน โดยการยื่นมือซ้ายออกมา และยกนิ้วโป้งคว่ำลง แสดงท่าทางหยามเหยียด
เฉินห้าวขมวดคิ้ว เจ้าเด็กนี้มันเตะจมูกเขา เขามองโจวซีถงที่อยู่ข้างๆ มีสาวสวยนั่งบนรถ อดทนไว้ก่อน ความปลอดภัยต้องมาเป็นอันดับแรก
เดิมทีคิดว่าเรื่องจบแล้ว แต่รถของเด็กหนุ่มขับรถนำไปก่อน กลับตบสัญญาณไฟเลี้ยวซ้าย แต่ไม่เลี้ยว นี้เป็นการยั่วยุที่รุนแรง และอันตรายมาก
เฉินห้าวทำได้เพียงลดความเร็วลงอีก และบีบแตรอย่างไม่พอใจ อีกฝ่ายกลับเหยียบคันเร่งพร้อมปล่อยกลุ่มควันดำออกมาจากท่อไอเสีย เพื่อเยาะเย้ย และทำให้มองไม่เห็นทางด้านหน้า
เฉินห้าวสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ความโกรธของเขาเริ่มเพิ่มระดับสูงขึ้น
ในเวลาเดียวกันโจวซีถงพูดขึ้นมา“ทำตามที่คุณอยากทำ ฉันสนับสนุนคุณ!”
เธอเห็นท่าทางเคืองๆ ของเฉินห้าว หากไม่ได้ระบายมันออกไป ต้องกระทบกับอารมณ์ของชายหนุ่มแน่ ในฐานะผู้หญิงที่มีเหตุผล แน่นอนว่าต้องสนับสนุนชายของตนเองให้ตอกกลับไป
เมื่อได้รับคำอนุญาต เฉินห้าวจึงวางใจ เขาเหยียบคันเร่ง ความเร็วรถพุ่งไปถึง 160 หลา ต้องการแข่งกับเฟอร์รารีของเด็กหนุ่ม
เฉินห้าวเร่งความเร็วรถ เด็กหนุ่มจึงเข้าใจ เร่งความเร็วรถตามไปติดๆ จากนั้นรถสปอร์ตหรูสองคันก็ขับแซงเบียดเสียดกันไปบนถนนทางด่วน ทิ้งห่างไม่เห็นฝุ่น
รถธรรมดาทั่วไปรอบๆ กลายเป็นฉากหลังของรถทั้งสองคันดูเหมือนกับรถที่หยุดนิ่ง เสียง” ฟิว” ดังออกมา รถสปอร์ตก็ทิ้งห่างพวกเขาออกไปไกลลิบๆ
