วันจันทร์
เฉินห้าวตื่นตั้งแต่เช้าตรู่ เขาที่อยู่ในหมู่คฤหาสน์จงหัวตัดสินใจขับรถโรลส์-รอยซ์ รถคันนี้เป็นทางการมากพอ เหมาะกับพิธีในครั้งนี้
การเดินทางด้วยกันครั้งนี้มีนักข่าวจูหมิ่นและช่างกล้องผู้ชายคนหนึ่ง พวกเขาขับรถสัมภาษณ์ข่าวตามหลังรถของเฉินห้าว ยังสามารถถ่ายสถานการณ์จริงตามท้องถนนได้อีกด้วย และบุคคลที่เฉินห้าวพามาด้วยมีสองคน คือหวังเฉียงและเซี่ยจิ้ง
หวังเฉียงนั้นเฉินห้าวพาไปรับรู้บรรยากาศของงานใหญ่ ให้เขาทำความคุ้นเคยกับสถานที่แถลงข่าวไว้ล่วงหน้า ยังไงซะก็เป็นถึงCEOของบริษัทห้าวหราน กรุ๊ป จํากัดจะตื่นตระหนกไปไม่ได้
ส่วนเซี่ยจิ้งนั้นเกาะแกะจะตามมาด้วย เรียกอย่างน่าฟังหน่อยก็คือมาเป็นผู้ช่วยของเฉินห้าว แต่จริงๆแล้วก็แค่อยากมาเที่ยวเล่น บวกกับมาจับตามองเฉินห้าว เขาจะได้ไม่โปรยเสน่ห์ข้างนอก
ครั้งนี้เป็นโปรเจ็คใหญ่ เฉินห้าวเองก็ต้องการผู้ช่วยสักคน ดังนั้นจึงได้พาเซี่ยจิ้งมาด้วย เธอรับผิดชอบถือกระเป๋าและเอกสาร จะได้ไม่เดินเตร่อู้งาน
เฉินห้าวนั้นรู้จักเธอดีแล้ว ถ้าให้เวลาว่างกับเธอก็จะก่อเรื่อง มีเพียงใช้งานมามัดตัวเธอไว้ ถึงจะคุมความใจกล้าบ้าบิ่นของเธอได้
แต่ครั้งนี้ยังไม่ใช่ทั้งหมดของขบวนรถ ในฐานะหุ้นส่วนเชิงกลยุทธ์ของเฉินห้าว แน่นอนว่าบริษัทโจวซื่อจะต้องมีคนมาร่วมงาน
แต่ว่าโจวซีถงนั้นไม่คิดจะปรากฏตัวอีกแล้ว ครั้งนี้จะมีการทำข่าว ถ้าทั้งสองคนนั่งด้วยกันจะสามารถทำให้เกิดความคิดอย่างอื่นได้มาก และมีข่าวซุบซิบ จะทำให้มีผลเสียกับแผนการของพวกเขา ดังนั้นโจวซีถงจึงได้ให้ชุยหมิงเต๋อรองประธานของบริษัทโจวซื่อไปเป็นตัวแทนเซ็นชื่อให้
ดังนั้น ขบวนรถทั้งหมดจึงออกเดินทาง รถโรลส์-รอยซ์ของเฉินห้าวนำขบวน ด้านหลังเป็นรถเบนซ์ของชุยหมิงเต๋อรองประธานบริษัทโจวซื่อ ด้านหลังสุดคือรถสัมภาษณ์ของทางโทรทัศน์
นักข่าวจูหมิ่นนั่งอยู่ที่นั่งข้างคนขับในรถสัมภาษณ์ และได้เริ่มบันทึกรายการแล้ว
“คนดูทุกคนคะ ตอนนี้พวกเรากำลังอยู่ระหว่างทางไปอำเภอลี่ทงค่ะ สามารถเห็นได้ว่า ด้านในของรถคันด้านหน้าก็คือนักลงทุนในครั้งนี้ คุณห้าวผู้จัดการใหญ่ของบริษัทการค้าห้าวหราน และคุณชุยหมิงเต๋อรองประธานบริษัทโจวซื่อค่ะ…..”
เมื่อแนะนำสั้นๆง่ายๆเสร็จ ช่างกล้องก็ปิดอุปกรณ์ลง พูดอย่างตื่นเต้นว่า “สุดท้ายก็คนมีเงิน ถึงได้ขับรถโรลส์-รอยซ์เวอร์ชันยาว นี่คงจะสิบกว่าล้านเลยมั้ง?”
จูหมิ่นพูด “ตามที่ฉันรู้มา ราคาสี่สิบกว่าล้าน นี่คือตัวแทนจำหน่ายของประเทศที่ทำการปรับแต่งเวอร์ชั่นยาว มีเพียงคันเดียว”
“โอ้แม่เจ้า” ช่างกล้องพูดอย่างตกใจ “ทำไมคนพวกนี้ถึงได้มีเงินขนาดนี้ ฉันทำงานอย่างยากลำบากได้เดือนละ 8000-10000 เทียบไม่ได้แม้แต่ล้อรถของคนอื่นด้วยซ้ำ”
“ความสามารถบวกกับโชคชะตา ขาดไม่ได้สักอย่าง”
จูหมิ่นเองก็พูดว่า “เฉินห้าวฐานะบ้านยากจนแต่เด็ก ตอนที่เรียนมหาลัยยังทำงานพิเศษไปด้วย นายดูสิ ตอนนี้คนเขายังรวยได้มากขนาดนี้ ประวัติของเขาต้องน่าทึ่งมากแน่ๆ อยากทำการสัมภาษณ์จัง”
ช่างกล้องมีความสนใจ “เอ๊ะ เสี่ยวจู ก่อนหน้านี้เธอเคยทำการสัมภาษณ์ของเขาไม่ใช่หรอ ความสัมพันธ์น่าจะไม่เลว ถ้าหากว่าเธอสัมภาษณ์เขาแป๊บเดียว ทำอัลบั้ม คาดว่าคงจะเป็นนวนิยายชีวประวัติตำนานแรงบันดาลใจของเมืองเลยละ ถึงตอนนั้นเขาจะต้องสนับสนุนการออกผลงานอย่างแน่นอน น่าจะทำเงินได้สักก้อนนะ”
แต่จูหมิ่นกลับส่ายหัวด้วยรอยยิ้ม จากการที่เธอรู้จักในช่วงระยะเวลาสั้นๆ ทำความเข้าใจกับนิสัยของเฉินห้าว ก็ได้รู้ว่าบนตัวเขามีความลับมากมาย และอาจจะไม่ชอบให้ใครรับรู้สักเท่าไหร่ ดังนั้นเรื่องการสืบอดีตและความเป็นส่วนตัว มีเพียงแค่เฉินห้าวมาหาเธอเอง แต่ไม่ใช่เธอที่ไปสอบถามด้วยตัวเอง
ไม่พูดไม่ได้ว่าจูหมิ่นมีความพอประมาณและสมอง นี่เองก็เป็นเหตุผลที่เฉิยห้าวยินยอมที่จะทำความรู้จักกับเธอ
ครั้งนี้มีภารกิจสำคัญ ดังนั้นขบวนรถจึงไม่มีใครขับซิ่ง และขับถึงอำเภอลี่ทงอย่างปลอดภัย
เมื่อลงมาจากช่องเก็บเงินทางด่วน ก็เห็นว่ามีรถของทางอำเภอจอดรอไว้แล้ว เมื่อเห็นว่าขบวนรถของเฉินห้าวมา ก็มีรถตำรวจเปิดทางให้ จากนั้นก็มีรถอาวดี้A6 สองคันเปิดไฟฉุกเฉินอยู่ข้างหน้า เมื่อขบวนรถสามคันของเฉินห้าวขับผ่านแล้วก็มีอีกสองคันตามหลัง และเปิดไฟฉุกเฉินเช่นกัน รับประกันได้ว่าเฉินห้าวและคนอื่นๆนั้นปลอดภัยแน่นอน
ถนนบางเส้นทางยังทำการปิดกั้นไว้ด้วย ทำให้เห็นถึงการให้ความสำคัญของอำเภอลี่ทงมากพอ ขบวนรถมาถึงที่หมายอย่างไม่มีอะไรขวางกั้นตลอดทาง
ที่นี่คือหอประชุมแห่งหนึ่ง สถานที่ทำพิธีการลงนาม
ด้านนอกหอประชุมในตอนนี้เต็มไปด้วยผู้คนและแบนเนอร์ต่างๆ แต่ว่าถูกรั้วกั้นไว้ที่ด้านนอก เมื่อขบวนรถมาถึง ก็ได้ทำการเปิดรั้ว
รถจอดลงภายใต้การนำทางของพนักงาน หลังจากที่เฉินห้าวลงจากรถ ผู้นำกลุ่มหนึ่งของอำเภอลี่ทงก็เข้ามาต้อนรับ นำโดยหัวหน้าสวีซื่อเสียน
“ลำบากประธานเฉินเดินทางมาไกลเลยนะครับ!” สวีซื่อเสียนเข้ามาจับมือด้วยรอยยิ้ม
“หัวหน้าสวีเกรงใจเกินไปแล้วครับ” เฉินห้าวพูดสุภาพ จากนั้นก็จับมือกับผู้นำเล็กๆคนอื่น
ผู้คนจากทั้งสองฝ่ายทำความรู้จักกันง่ายๆรอบหนึ่ง จากนั้นก็มีสวีซื่อเสียนนำเข้าในหอประชุม
นักข่าวจูหมิ่นนั้นวิ่งยองๆตามหลัง ทำการถ่ายทำ
เฉินห้าวเป็นผู้ลงทุน นั่งอยู่ที่ตรงกลางของหอประชุม รองประธานของบริษัทโจวซื่อ หวังเฉียงและคนอื่นๆนั่งถัดไป นอกนั้นก็มีพวกบุคคลมีตำแหน่งของอำเภอลี่ทง อยู่รวมกันในหอประชุม
รอจนถึงสิบโมงเช้า เริ่มงานแถลงข่าวอย่างเป็นทางการ มีสวีซื่อเสียนเป็นคนพูดก่อน พูดถึงจำนวนเงินของโครงการ การร่วมมือของบริษัทห้าวหรานและบริษัทโจวซื่อ ลงทุนอำเภอลี่ทงเกือบหกร้อยล้าน ทำการการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานของอำเภอ รวมทั้งการพัฒนาเชิงลึกของถนนเมี่ยวเจียเป็นต้น
นี่เป็นถึงโครงการใหญ่ แสงแฟลชของนักข่าวภายใต้เวทีนั้นสว่างขึ้นไม่หยุด ต่างก็กำลังจับภาพอยู่ โดยเฉพาะเฉินห้าวที่นั่งอยู่ตรงกลาง เสื้อสูทแบรนด์เนมด์ทั้งตัวนั้นหล่อเหลาเป็นอย่างมาก เหมาะที่จะนำมาเป็นปกข่าวอย่างที่สุด
“ประธานสู้ๆ! ประธานหล่อที่สุด!”
เซี่ยจิ้งที่อยู่ใต้เวทีก็กลายเป็นแฟนคลับของเฉินห้าว เกินหน้าเกินตาถึงกับเอาแท่งไฟและป้ายชื่อออกมาโบกไม้โบกมือ ตะโกนเสียงดัง ทำซะเหมือนกับงานพบปะดาราอย่างนั้นแหละ
คนรอบตัวต่างก็ขยับออกด้านข้าง ไม่มีอยากนั่งใกล้กับผู้หญิงสติไม่ดีคนนี้
ผู้นำที่กำลังพูดอยู่บนเวทีถึงกับอึดอัด และใช้นิ้วชี้ไป แล้วก็มีพนักงานรักษาความปลอดภัยเข้ามา เซี่ยจิ้งถึงได้หยุดลง
เฉินห้าวมือจับหน้าผาก รู้สึกทนไม่ไหวกับยัยคนนี้นิดหน่อย