เฉินห้าวกลับถึงห้องนอนของตัวเอง จัดการข้าวของเครื่องใช้ของตัวเอง จู่ๆก็อยากดูเอกสารฉบับหนึ่งในตู้เซฟสามชั้น ดังนั้นเขาจึงมาที่ตรงหน้าตู้เซฟโลหะเพื่อใส่รหัส เสียงดัง “แกร็ก” ปลดล็อกแล้ว เฉินห้าวใช้แรงดึงประตูออก
เฉินห้าวหาเอกสารฉบับนั้นเจอในชั้นวาง แล้วก็เปิดดูตรงหน้าตู้เซฟ เสร็จแล้วก็เก็บคืน ในตอนที่กำลังจะปิดประตู จู่ๆสายตาเหลือบไปก็เห็นว่ากล่องที่เขาวางไว้ตรงกลางตู้หายไปแล้ว
สิ่งนั้นซื้อมาจากแอพเงินอุดหนุนหมื่นล้าน เป็นกล่องสำหรับใส่นกหวีดที่ไม่รู้จุดประสงค์ กลับอยู่ดีก็หายไป และก็มีกระดาษข้อความหนึ่งวางไว้แทนที่ “นกหวีดฉันช่วยดูแลแทน ถ้าอยากได้คืน ให้โทรหาฉัน”
ตัวหนังสือใช้เครื่องปริ้นพิมพ์ออกมา ด้านล่างยังทิ้งเบอร์ไว้ให้ด้วย เขียนชื่อไว้ว่า “วีรสตรี”
“วีรสตรี?”
เฉินห้าวงุนงงมาก เขาไม่รู้วีรสตรีอะไรนี่ แล้วยังเป็นวีรสตรีที่ขโมยของงั้นหรอ?
ถึงแม้ไม่ได้เขียนชื่อจริง แต่เฉินห้าวก็เดาได้แล้วว่าเป็นใคร นั่นก็คือขโมยสาวที่เคยติดต่อกันสองครั้งเมื่อก่อนหน้านี้ ครั้งหนึ่งคือขโมยเหล้าของเขา อีกครั้งหนึ่งคือช่วยเขาและโจวซีถงออกจากโรงแรมข่ายหัว ถือได้ว่าเป็นทั้งเพื่อนและศัตรู
และตอนนี้ ขโมยสาวที่เรียกตัวเองว่าวีรสตรีมาขโมยของๆเขาอีกแล้ว แล้วยังเป็นนกหวีดที่มูลค่าสูงที่สุดด้วย
เฉินห้าวพลิกหาต่อไป ในตู้เซฟยังมีทองละเครื่องประดับอยู่ส่วนหนึ่ง แต่กลับไม่หายไปเลยสักนิด ขโมยสาวนี่ก็มีหลักการดี เอาไปแค่นกหวีดตัวนั้นเท่านั้น
ไม่พูดไม่ได้ว่า สายตาเธอแม่นมาก ทั้งตู้เซฟนี้ สิ่งนั้นเป็นเพียงสิ่งเดียวที่เฉินห้าวให้ความสำคัญ สามารถเรียกได้ว่าไม่มีราคาเทียบได้
พวกเงินสดหรือทอง เฉินห้าวไม่ขาดแคลนเงิน หายไปก็แค่เล็กน้อย ส่วนพวกโฉนดบ้านหรือเอกสารต่างๆ หายไปก็สามารถไปแจ้งทำใหม่ได้ มีเพียงนกหวีดนี้เท่านั้นที่บังเอิญซื้อมาจากในแอพเงินอุดหนุนหมื่นล้าน จะต้องเป็นสิ่งที่น่ามหัศจรรย์แน่ เฉินห้าวไม่อยากเสียมันไป
เฉินห้าวมองดูตู้เซฟใหม่เอี่ยมนี่แล้วก็โมโห ไหนว่าเซฟสามชั้นไง? ถูกคนอื่นขโมยของไปแล้วยังไม่แจ้งความ เป็นของมีตำหนิจริงๆเลย
เฉินห้าวค้นรอบด้านในตู้เซฟอย่างตั้งใจ พบว่าไม่มีร่องรอยการถูกงัดแงะ หรือก็คือ ขโมยสาวเปิดตู้เซฟนี้ได้โดยใช้เทคโนโลยี คิดไม่ออกเลยจริงๆ ตู้เซฟนี้ไม่ป้องกันการขโมยจากโจร
เฉินห้าวอยากจะร้องเรียนโรงงาน แต่ว่าแอพเงินอุดหนุนหมื่นล้านไม่เคยมีบริการหลังการขาย แล้วตัวโรงงานก็ยังอยู่ต่างประเทศ จึงทำได้แค่ช่างมันซะ
เฉินห้าวหยิบเอากระดาษข้อความที่เขียนเบอร์ไว้มาดูใกล้ๆ เหมือนว่าจะสามารถตรวจสอบดูข้อมูลของเจ้าของบัตรประชาชนนี้ได้ ตอนนี้ฉิงจื๋อเทาอยู่ในรูปแบบการเลิกใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อความปลอดภัย เฉินห้าวไม่อยากให้เขาเสี่ยง จึงตัดสินใจหาคนอื่นตรวจสอบ
เรื่องการตรวจสอบความเป็นส่วนตัวแบบนี้ ไล่อู๋ลูกน้องของตัวเองน่าจะมีวิธี ฉะนั้นเฉินห้าวจึงโทรไปหาเขา บอกให้เขาตรวจสอบเบอร์นี้ และให้จัดการให้เรียบร้อยก่อนเที่ยงของวันพรุ่งนี้ แต่ว่าห้ามทำให้เจ้าของเบอร์โทรรู้ตัว
ไล่อู๋ตอบรับ แล้วก็รีบไปติดต่อ
เฉินห้าวไม่พอใจนิดหน่อย ตู้เซฟนี่มันขยะจริงๆ เขาไม่อยากใช้แล้ว แต่ว่าขนย้ายเองก็กินแรงมากเกินไป ขี้เกียจจะเอาไปทิ้งแล้ว ยังไงซะตอนนี้ด้านในก็ไม่มีของอะไรที่ให้ความสำคัญ จึงไม่กลัวหายอีก
ขณะเดียวกันเฉินห้าวก็รู้สึกว่าขโมยสาวคนนี้น่ากลัวนิดหน่อย สามารถเปิดตู้เซฟได้โดยไม่มีใครรับรู้ ไม่รู้ว่าเธอยังมีความสามารถอื่นๆอะไรอีก
จู่ๆเฉินห้าวก็นึกขึ้นได้เรื่องหนึ่ง ในห้อง 101 ของคอนโดเฟ่ยชุ่ยเขาใส่เหล้าดีๆไว้ส่วนหนึ่ง นั่นถือเป็นการให้ของขวัญกับขโมยสาว เฉินห้าวอยากรู้ว่าเธอเอาไปรึยัง
ดังนั้นเฉินห้าวจึงโทรหาฉิงจื๋อเทา ให้เขาลงไปดูว่าเหล้าในห้องยังอยู่มั้ย
ฉิงจื๋อเทาแค่ไม่สามารถเข้าใช้อินเทอร์เน็ต แต่ว่าก็ยังสามารถโทรศัพท์ได้ เมื่อเขาได้รับสายก็รีบลงไปดูที่ห้อง 101 แล้วก็ทำการถ่ายรูปภาพส่งมาให้
หลังจากเฉินห้าวตรวจสอบดู พบว่าเหล้าในห้องไม่หายไปเลยสักขวด ขโมยสาวคนนี้ไม่เคยเข้าไปเอา เธอขโมยนกหวีดของตัวเขาไปเพื่ออยากจะเจอหน้ากัน มีเป้าหมายอะไรกันแน่?
เฉินห้าวคิดไม่ออก ยังไงซะขโมยสาวก็คงไม่ทำร้ายตัวเขาเอง ไม่อย่างนั้นเธอคงไม่ช่วยตัวเขาที่โรงแรมข่ายหัว เฉินห้าวตัดสินใจว่าไปเจอกับเธอ
แต่ว่าวันนี้ดึกเกินไปแล้ว พรุ่งนี้ค่อยว่ากัน
ส่วนนกหวีดตัวนั้น เฉินห้าวไม่เป็นห่วง เพราะว่าสินค้าลึกลับแบบนี้ สุดท้ายก็มีใบจำกัดความการรับผิดชอบ เฉพาะลูกค้าวีไอพีของแอพเงินอุดหนุนหมื่นล้านเท่านั้น นั่นก็หมายความว่าคนอื่นไม่สามารถใช้งานได้ และขโมยสาวคนนี้ก็เห็นได้ชัดว่าไม่ได้ขโมยของเพื่อแลกเปลี่ยนเงิน ไม่อย่างนั้นก็คงขโมยทรัพย์สินในตู้เซฟไปหมดแล้ว
เพราะอย่างนั้นเฉินห้าวมั่นใจว่าขโมยสาวคนนี้มีเป้าหมายอื่น อาจจะอยากได้ศักดิ์ศรีคืน เพราะยังไงซะตอนแรกก็ไม่ให้เกียรติเธออย่างไม่ได้ตั้งใจก่อน
เมื่อนึกถึงนี่ เฉินห้าวก็ไม่ห่วงอะไรอีก แล้วก็หลับไป
วันต่อมา หลังจากที่เฉินห้าวกินข้าวเช้าแล้ว ไล่อู๋ก็ส่งข่าวมาว่า ตรวจสอบเจอเจ้าของเบอร์โทรแล้ว เป็นตาแก่บ้านนอกที่อยู่นอกเมืองคนหนึ่ง อายุหกสิบกว่าปีแล้ว นอกเหนือจากนี้ก็มีข้อมูลน้อยมาก
“โอเค ฉันรู้แล้ว”
เฉินห้าวเข้าใจแล้ว ขโมยสาวจะต้องไปขโมยบัตรประชาชนเขามาเพื่อเปิดซิมแน่นอน ดูแล้วคงยังไม่สามารถตรวจสอบตัวตนที่แท้จริงของขโมยสาวได้ชั่วคราว
เมื่อเป็นอย่างนี้ มีเพียงแค่ไปเผชิญหน้ากับเธอด้วยตัวเอง ถึงจะพอรู้ความจริงของเธอได้บ้าง เฉินห้าวจึงโทรออกหาเบอร์ที่เธอทิ้งไว้
เสียงรอสายดังอยู่ 7-8 ครั้งถึงจะโทรติด จากนั้นเสียงของอีกฝ่ายก็เป็นเสียงที่ดูขี้เกียจมากของผู้หญิง “ฮัลโหล……”
อีกฝ่ายเหมือนว่าจะยังไม่ตื่นนอน น้ำเสียงสะลึมสะลือ
เฉินห้าวตะลึงมาก แล้วก็ดูโทรศัพท์ให้มั่นใจว่าตัวเองไม่ได้โทรเบอร์ผิด เป็นผู้หญิง เป็นขโมยสาวคนนั้นงั้นหรอ?
นี่มันแตกต่างกันกับรูปลักษณ์การติดต่อเมื่อก่อนหน้านี้มากเกินไปแล้ว ทำให้เขาเชื่อได้ยากว่าเป็นคนๆเดียวกัน!