ข้าคือเทพเจ้าแห่งเกม I Am the God of Games – ตอนที่ 18

ตอนที่ 18

[ระบบ Overlord: QQFarm เวอร์ชันทดสอบ V0.1]

[ฟาร์ม: 0/1]

[เมล็ดพันธุ์: ไม่มี]

[ปศุสัตว์: ล็อก (ต้องสร้างคอกสัตว์)]

[เหรียญเกม: 0]

[คำแนะนำ: ยินดีต้อนรับสู่ QQFarm ชุดของขวัญสำหรับผู้เล่นใหม่ได้ถูกส่งไปยังคลังส่วนตัวของคุณแล้ว โปรดรับมันจากหน้าหลัก]

แม้แองโกร่าจะไม่เข้าใจว่า ‘QQ’ หมายถึงอะไร แต่จากการสำรวจเมื่อคืนนี้ เขาก็เข้าใจวิธีการทำงานพื้นฐานของหมวดย่อย QQFarm แล้ว

พูดย่อ ๆ คือมันเป็นหมวดย่อยของระบบโอเวอร์ลอร์ดที่มีหน้าที่ในด้านเกษตรกรรม

นอกจากนั้นที่ด้านล่างสุดของหน้าอินเตอร์เฟซยังมีตัวเลือก ‘ร้านค้า’ ซึ่งแสดงรายการเมล็ดพันธุ์ต่าง ๆ มีเพียงรูปภาพเมล็ดพันธุ์ไม่กี่รูปเท่านั้นที่มองเห็นได้ นอกเหนือจากนั้นเป็นเพียงภาพเงาดำที่เขาต้องทำการปลดล็อกในภายหลัง

และในหมวด QQFarm ยังมีตัวเลือก ‘ขาย’ อยู่ด้วย แต่จากการทดสอบเมื่อคืน เขาล้มเหลวในการใช้งานมัน เขาไม่สามารถขายอะไรได้เลย (ไม่งั้นเขาคงจะขายทิ้งแม้แต่กำแพงบ้านของวีลาไปแล้ว) เมื่อมาลองคิดดูแล้ว ตัวเลือกการขายถูกวางไว้ในหมวด QQFarm มันคงจะขายได้เฉพาะพืชผลหรือปศุสัตว์ที่เขาเก็บเกี่ยวได้เท่านั้น

[กรุณาระบุพื้นที่เพาะปลูก 1 หน่วยเป็นพื้นที่เริ่มต้นของ QQFarm]

สิ่งแรกที่แองโกร่าต้องทำ ก่อนอื่นเลยคือการเลือกที่ตั้งของฟาร์ม ไม่งั้นเขาจะเริ่มระบบ QQFarm ไม่ได้

ระบบบอกเขาว่า ‘พื้นที่ในอาคารไม่สามารถใช้เป็นพื้นที่เพาะปลูกได้’ เมื่อเขาพยายามจะใช้งานมันในห้องพักของเขา นั่นจึงเป็นสาเหตุที่แองโกร่าต้องออกมาเดินเล่นรอบเมือง เพื่อมองหาสถานที่ที่เหมาะสำหรับการทำฟาร์มและปศุสัตว์แห่งแรกของเขา

แต่หลังจากที่วีลาออกมาตามหาเขา เขาก็คิดว่ามันน่าจะง่ายกว่าที่จะยืมฟาร์มของครอบครัวเธอ แทนที่เขาจะพัฒนาพื้นที่เพาะปลูกใหม่ในสถานที่แปลก ๆ

ยังไงซะ หากเขาต้องการที่จะตั้งหลักในเมืองนี้ เขาก็ต้องได้รับความเห็นชอบจากปู่ของวีลาที่เป็นเจ้าเมืองก่อน

ดังนั้นตามคำแนะนำของระบบ แองโกร่าจึงได้เลือกพื้นที่เพาะปลูกที่แห้งแล้งของครอบครัววีลาเป็นฟาร์มแห่งแรกของเขา

เมื่อคำว่า ‘ล็อค’ ปรากฏขึ้น แองโกร่าก็พบพื้นที่ขนาดสี่เหลี่ยมจัตุรัสเพียงแห่งเดียวในพื้นที่เพาะปลูกของเมืองนี้ที่กำลังส่องแสง นั่นคือสิ่งที่บ่งบอกเขาว่าพื้นที่ 1 หน่วย (เท่ากับ 1 ตารางเมตร) นั้นใหญ่มากแค่ไหน

น่าเสียดาย มันเป็นเช่นเดียวกับระบบ แสงนี้มีเพียงแองโกร่าเท่านั้นที่สามารถมองเห็นได้

จากนั้นแองโกร่าก็รับชุดของขวัญผู้เล่นใหม่จากคลังของเขา ภายในมีไอเทม 2 อย่าง ได้แก่ เมล็ดข้าวโอ๊ตวิญญาณ x1 และบัวรดน้ำของผู้ศรัทธา x1

เมล็ดข้าวโอ๊ตวิญญาณนั้นก็เหมือนกับเมล็ดพืชทั่วไป แต่บัวรดน้ำของผู้ศรัทธากลับทำให้แองโกร่าต้องประหลาดใจ

ถึงมันจะเป็นแค่บัวรดน้ำ แต่มันก็ถูกสร้างขึ้นมาอย่างประณีตมาก ผิวสัมผัสของมันดูเหมือนจะทำจากวัสดุคุณภาพสูง เป็นโลหะสีเงินแวววาวมีความสง่างามเป็นเอกลักษณ์ ความคิดที่ว่ามันจะไม่มีวันเป็นสนิมเกิดขึ้นในขณะที่เขามองมัน ตัวถังมีการแกะสลักลวดลายที่งดงามและเรียบง่ายซึ่งทำให้มันดูน่าหลงใหล ส่วนด้ามจับของมันแม้ว่าจะทำจากโลหะเหมือนกัน แต่ก็ใกล้เคียงกับทองเหลืองมากกว่า และมันถูกแกะสลักด้วยลวดลายเถาวัลย์พืชที่เขาไม่รู้จัก แต่ก็รู้สึกไม่แกะกะ มันกลับถือได้สะดวกและพอดีมือมาก

นั่นเพราะเด็ก ๆ จากต่างโลก ไม่เคยได้ยินเรื่องการยศาสตร์*

(การยศาสตร์(ergonomics) เป็นคำที่มาจากภาษากรีก คือ “ergon” ที่หมายถึงงาน(work) และอีกคำหนึ่ง “nomos” ที่แปลว่า กฎตามธรรมชาติ(Natural Laws) เมื่อนำมารวมกันจำกลายเป็นคำว่า “ergonomics” หรือ “laws of work” ที่อาจแปลได้ว่ากฎของงาน ซึ่งเป็นศาสตร์ หรือวิชาการที่เป็นการปรับเปลี่ยนสภาพงานให้เหมาะสมกับผู้ปฏิบัติงาน)

“เฮ้ ท่านเอาบัวรดน้ำมาจากไหน” วีลาเห็นมือของแองโกร่าที่เอื้อมไปข้างหลังเขา จากนั้นเธอก็ต้องประหลาดใจเมื่อเขาหยิบบัวรดน้ำที่สวยงามนั้นออกมาจากอากาศ

“เราขุนนางเรียนรู้เวทมนตร์กับผู้วิเศษก่อนที่เราจะสืบทอดศักดินา…แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น”

แองโกร่าคิดว่าการเอาบัวรดน้ำออกมาจากอากาศต่อหน้าวีลาถือเป็นความผิดพลาด แต่โชคดีที่พยานเป็นเพียงวีลา เด็กสาวชาวบ้านเช่นเธอมักจะหลอกง่ายอยู่แล้ว

และเธอก็ถูกหลอกจริง ๆ เธอทำหน้าตาชื่นชมที่เขาอ่านได้ว่า ‘ขุนนางชั้นสูงในเมืองใช้มายากลได้จริง ๆ เหรอ!’

เขาภาวนาไม่ให้จินตนาการของเธอแตกเร็วเกินไป…

จากนั้น แองโกร่าก็ฝังเมล็ดข้าวโอ๊ตวิญญาณลงในดินภายใต้การจ้องมองของวีลา

“ท่านพยายามจะปลูกพืชรึ? นี่มันไม่ได้ผลหรอก สายเกินไปแล้ว ฤดูหนาวกำลังจะมาถึงในอีกครึ่งเดือน ถึงท่านจะปลูกมันตอนนี้ ไวสุดมันก็ทำได้แค่แตกหน่อก่อนที่พืชของท่านจะแข็งตาย!” วีลาขมวดคิ้ว เธอพยายามเกลี้ยกล่อมแองโกร่าต่อ “ฤดูหนาวที่นี่หนาวเป็นพิเศษ แม้แต่สัตว์ต่าง ๆ ก็พากันจำศีล ใบไม้ของต้นไม้จะร่วงและทั้งป่าก็จะโกร๋น จากนั้นท่านก็จะไม่มีจะกินแม้แต่ขนมปังน้ำตาลที่ท่านไม่อยากจะกินนี่ด้วยซ้ำ…ท่านควรรีบออกไปจากที่นี่”

“ถ้ามันไม่ได้ผล ข้าจะไปเอง” แองโกร่ายักไหล่ “แต่นี่ยังไม่ใช่เวลาที่จะสิ้นหวัง”

หลังจากที่เขาฝังเมล็ดลงดินแล้ว ตัวจับเวลานับถ้อยหลัง 3:59:59 น. ก็ปรากฏขึ้นเหนือฟาร์มในสายตาของแองโกร่า

‘ใช้เวลาเพียงแค่ 4 ชั่วโมงเพื่อให้พืชโต…’

แองโกร่ารู้สึกโล่งใจ คำถามเดียวในตอนนี้คือปริมาณผลผลิต

“เจ้าก็รู้แล้วนี่ว่าฤดูหนาวและหมอกของที่นี่ลำบากมากแค่ไหน ทำไมเจ้ายังไม่ย้ายออกไปอีกล่ะ” แองโกร่าถามวีลาด้วยความอยากรู้ขณะที่เขาเติมน้ำลงถัง “แม้มันจะค่อนข้างไกล แต่ถ้าเจ้าย้ายไปอยู่ในเขตอาณาจักร เจ้าก็จะไม่ต้องเผชิญกับเรื่องแบบนี้ใช่ไหมล่ะ”

“ปู่บอกว่าเขาเป็นเจ้าเมือง ถ้าแม้แต่เขายังกลัวและหนีไป เมือง ๆ นี้ที่เขาได้รับสืบทอดมาจากบรรพบุรุษก็จะจบสิ้นลง” วีลายิ้มอย่างขมขื่น “แม้ว่าเขาจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน เขาก็ยังอยากจะอยู่ที่เมืองนี้ เขาจะเป็นเจ้าเมืองของเมืองนี้จนถึงวาระสุดท้าย…

“แล้วศาสนจักรที่อยู่ใกล้ ๆ ล่ะ? พวกเขาไม่ช่วยอะไรเลยเหรอ” แองโกร่าถาม เนื่องจากศาสนจักรต่าง ๆ มักรับผิดชอบในการบรรเทาทุกข์บำรุงสุขของชาวเมืองอยู่แล้ว พวกเขาจะไม่ช่วยเมืองเช่นนี้ได้ยังไง

“ไม่มีศาสนจักรใดอยู่ในระยะสิบไมล์จากเมือง” เด็กสาวตอบ สีหน้าของเธอขมขื่นยิ่งขึ้น “ข้าว่า บางทีเทพเจ้าอาจทอดทิ้งพวกเราที่อาศัยอยู่ในดินแดนอันหนาวเหน็บนี้”

แองโกร่าเติมน้ำลงในถังอย่างเงียบ ๆ

เขารู้ดีว่าหากเขาไม่ทำอะไรเลย ที่แห่งนี้ที่มีชื่อเป็นเมืองแต่มีขนาดเพียงหมู่บ้านเล็ก ๆ จะไม่มีวันอยู่รอดได้ตลอดทั้งฤดูหนาว ชาวเมืองที่เหลืออยู่จะต้องทนทุกข์ทรมานจากความหิวโหยและหนาวเหน็บ ถ้าพวกเขาจะไม่หนาวตาย พวกเขาก็อาจจะอดตาย

ด้วยเหตุผลบางอย่าง เขารู้สึกว่าบัวรดน้ำในมือของเขาหนักอึ้ง ราวกับว่ามันมีอย่างอื่นนอกจากน้ำอยู่ในนั้นด้วย

[บัวรดน้ำของผู้ศรัทธา(ระดับตำนาน) : โปรดอธิษฐานอย่างจริงใจต่อเทพเจ้าแห่งเกมเมื่อท่านใช้บัวรดน้ำนี้ พลังศรัทธาของท่านจะแปรผันกับการลดระยะเวลาที่พืชจะต้องใช้ในการเจริญเติบโต อัตราการลดสูงสุดคือ 50%]

“ไม่ นั่นไม่จริง แม้ว่าเทพเจ้าองค์อื่นจะลืมพวกเจ้า แต่ยังมีเทพเจ้าองค์หนึ่งเฝ้าดูพวกเจ้าอยู่ที่นี่!”

แองโกร่าที่มีภาพลักษณ์ของขุนนางที่ไม่เคยแยแสอะไร ในที่สุดเขาก็กลายเป็นคนจริงจังขึ้นมา

“นั่นเป็นการปลอบใจที่เกินจริงไปหน่อยล่ะมั้ง…” เด็กสาวยิ้มเยาะ

“ข้าพูดไม่ค่อยเก่ง และข้าก็เข้าใจว่าแค่คำพูดธรรมดาคงใช้ไม่ได้กับพวกเจ้า ดังนั้นเจ้าควรตั้งใจดู!”

แองโกร่าถือบัวรดน้ำด้วยหัวใจที่เต็มไปด้วยความศรัทธาอย่างที่เขาไม่เคยมีมาก่อนในชีวิต เขาค่อย ๆ รดน้ำลงบนเมล็ดพืชที่เขาเพิ่งฝังลงในดิน

“นี่คือสิ่งที่ข้าต้องการแสดงให้พวกเจ้าทุกคนเห็น ปาฏิหาริย์จากเทพเจ้าของข้า!”

ในเวลาต่อมา ต้นกล้าสีเขียวที่อ่อนนุ่มก็โผล่ขึ้นมาจากผืนดินที่ปกคลุมไปด้วยขี้เถ้าสีดำ

ดังเช่นหยกล้ำค่า

—————————————

ข้าคือเทพเจ้าแห่งเกม I Am the God of Games

ข้าคือเทพเจ้าแห่งเกม I Am the God of Games

Status: Ongoing

นี่คือเรื่องราวของมนุษย์ธรรรมดาผู้ซึ่งได้ข้ามโลกมาเป็นเทพเจ้าชั้นสามที่กำลังจะตาย เขาได้ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งรวบรวมเหล่าผู้ศรัทธา และก่อให้เกิดมหาสงครามเทพเจ้าครั้งที่สี่ในที่สุด

“เจ้าเคยได้ยินเรื่องเทพเจ้าแห่งเกมไหม?” “เทพเจ้าแห่งเกม…?” เอลีน่าส่ายหัวด้วยความสงสัย “ข้าไม่เคยได้ยินเรื่องเกี่ยวกับพระองค์…” “จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเทพเจ้าแห่งเกม สามารถมอบพลังให้เจ้าเอาชนะศัตรูตรงหน้าเจ้าได้” ซีเว่ยเกลี้ยกล่อมเธออย่างอดทน เอลีน่านิ่งเงียบไปชั่วขณะก่อนที่เธอจะเงยหน้าขึ้นมาอย่างแน่วแน่ และจ้องมองไปที่ซีเว่ย “ถ้าอย่างนั้น ข้าเต็มใจที่จะเป็นผู้ศรัทธาในเทพเจ้าแห่งเกม!” “ความศรัทธาไม่ใช่สิ่งที่เจ้าสามารถมีได้ด้วยปากเจ้า จงหลับตาและจินตนาการถึงพระนามของพระองค์ในใจเจ้า และสัมผัสถึงพลังของพระองค์ด้วยหัวใจของเจ้า” เขากล่าวอย่างเคร่งขรึม

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท