ข้าคือเทพเจ้าแห่งเกม I Am the God of Games – ตอนที่ 13

ตอนที่ 13

มาร์นี่•วิลฟ์รู้สึกเสียใจกับทุกสิ่งอย่างมาก

ในฐานะที่เขาเป็นพ่อค้า ซึ่งเป็นสมาชิกของหอการค้ากระดิ่งลมสีเงิน เขาได้เลือกเส้นทางที่อันตรายโดยการข้ามป่าเดรย์เพื่อลดระยะเวลาในการเดินทาง

ก่อนหน้านี้ที่นี่ไม่เคยมีสัตว์ประหลาดอันตรายอะไรอาศัยอยู่ และแม้จะมีผู้พบเห็นก็อบลินเมื่อเร็ว ๆ นี้ พวกเขาก็ไม่ได้ถูกพวกมันคุกคาม นอกจากนี้ป่าเดรย์ยังมีขนาดกว้างใหญ่มาก เขาไม่เชื่อว่าตัวเองจะโชคร้ายถึงขนาดต้องเจอก็อบลินทั้งเผ่า…แต่เขาก็เจอ

ความจริงคือขบวนของเขาวิ่งตรงเข้าหากลุ่มก็อบลินที่กำลังอพยพเนื่องจากขาดอาหาร

ด้วยความหิวโหย ก็อบลินเหล่านี้จึงร้ายกาจขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า นอกจากพวกฮัมส์บีสที่ตายแล้ว ทหารรับจ้างชั้นยอดหลายนายก็ยังได้รับบาดเจ็บ

ขอบคุณเทพีแห่งความมั่งคั่งที่สงสารพวกเขา ในตอนที่พวกเขากำลังจะตาย เด็ก ๆ จากหมู่บ้านชนบท 5 คน ก็ได้โผล่ออกมาจากที่ไหนก็ไม่รู้ พวกเขาสามารถหยุดการบุกของก็อบลินทั้งเผ่าได้ชั่วขณะ ด้วยความสามารถลึกลับของพวกเขาที่อาจเป็นพรจากเทพเจ้าหรือพลังเวทย์มนตร์บางอย่าง

แต่ถึงอย่างนั้น เมื่อความได้เปรียบที่เกิดจากความสับสนในพลังแปลก ๆ ของเด็กทั้ง 5 หมดไป พวกเขาก็เริ่มติดอยู่ท่ามกลางฝูงก็อบลินที่มีจำนวนมากกว่าหลายเท่าตัว

นักรบร่างกำยำที่มาร์นี่คิดว่าโตที่สุดในกลุ่ม ตอนนี้ได้ถูกก็อบลินปราบลงไปแล้ว เขาถูกก็อบลินจำนวนมากกระโดดทับกองสูงเป็นภูเขาขนาดย่อม

นักธนูเด็กถูกบังคับให้วิ่งไปรอบ ๆ ขณะที่มีฝูงก๊อบลินไล่ตามมาในระยะประชิด และนาน ๆ ทีเขาจะหันกลับมาส่งธนูปักหัวก็อบลินจนหน้าทิ่มพื้น ก่อนจะวิ่งหนีต่อไป…

เด็กผู้หญิงคนโตไม่ได้ร่ายเวทเสริมพลังให้คนอื่นอีกต่อไป เธอกำลังปกป้องเด็กผู้หญิงตัวเล็กผมสีเงิน และทุบก็อบลินที่เข้ามาใกล้หน้าหงายด้วยไม้กางเขนขนาดใหญ่ของเธอ ที่ใหญ่กว่าตัวเธอเองอีก

ส่วนเด็กผู้หญิงตัวเล็ก เธอกำลังร่ายเวทย์รักษา แม้ว่ามาร์นี่จะไม่สามารถบอกได้ว่าเธอเป็นนักบวชของวิหารแห่งชีวิต หรือศาสนจักรสีขาวอันสว่างไสว แต่ความช่วยเหลือของเธอคือเหตุผลที่เด็ก ๆ เหล่านั้นยังสามารอยู่รอดได้จนถึงตอนนี้

หัวหน้ากลุ่มของพวกเขา (เอ็ดเวิร์ด) ก็ไม่สามารถร่ายเวทได้อีกต่อไป เขากำลังตะเกียกตะกายวิ่งหนีไปรอบ ๆ และร่ายเวทโจมตีอีกครั้งหลังจากทิ้งระยะห่างไปยาวนาน ในขณะที่เขาตะโกนไปรอบ ๆ ว่า ‘แถบฟ้าของข้าว่างเปล่าแล้ว’ ‘ขยับหนีสิโจ ทำไมเจ้าไม่ขยับ?’ หรือ ‘รักษาโกวต้าน เอลีน่า เขาเกือบตายแล้ว‘

สุดท้ายเขาก็ถูกก๊อบลิน 4 ตัวต้อนเข้ามุม และโดนแทงเข้าที่ท้องด้วยดาบเหล็กขึ้นสนิม แม้ว่านักเวทน้อยจะทุบก็อบลินที่อยู่ตรงหน้าเขาลงไปนอนวัดพื้น และดึงดาบออกมาจากท้องตัวเองแทงก็อบลินตัวนั้นจนตาย แต่ก็ดูเหมือนเขาจะไม่รอดแล้ว

ทุกอย่างใกล้จบลงแล้ว

แม้ว่าข้าจะเสียใจ แต่ดูเหมือนว่าเด็กคนอื่น ๆ เองก็ไม่อาจรอดพ้นชะตากรรมที่ต้องถูกฆ่าโดยเหล่าก็อบลิน

มาร์นี่เริ่มคิดว่าเขาควรจะทำยังไงต่อดี จะอยู่สนับสนุนทหารรับจ้างและสู้จนตัวตาย หรือหาโอกาสวิ่งหนี?

แต่ในขณะนั้น จู่ ๆ เขาก็สังเกตเห็นรอยยิ้มแปลก ๆ บนใบหน้าของเจ้าเด็กเปรตที่เป็นนักเวท

“โว้ววว! ก็อบลินให้ EXP สูงมาก ข้าเลเวลอัพแล้ว!”

หลังจากที่เขาพ่นคำพูดที่มาร์นี่ไม่อาจเข้าใจได้ เด็กผู้ชายที่พึ่งถูกดาบจ้วงไส้และถูกไล่ล่ามานาน เขาก็เริ่มปลดปล่อยพลังเวทของเขาอีกครั้ง ก็อบลินที่ประมาทด้วยความได้เปรียบมานาน ได้ถูกเขาเป่าลงไปจมดิน

เขาดูมีชีวิตชีวาและเต็มไปด้วยพลัง มันดูไม่เหมือนว่าเขาพึ่งถูกแทงโดยก็อบลินไปเมื่อกี้

จากนั้นมาร์นี่ก็สังเกตเห็นว่า แม้เสื้อผ้าบนหน้าท้องของนักเวทน้อยจะขาด แต่ใต้รอยขาดนั้นกลับไม่มีบาดแผลใด ๆ บนร่างกายของเขาเลย!

นี่ไม่ถูกสิ เขาเห็นชัด ๆ ว่าเด็กนั่นถูกดาบเหล็กขึ้นสนิมแทงทะลุท้อง แถมยังเห็นตอนที่ผิวหนังของเขาฉีกขาดและเลือดไหลทะลักออกมาจากบาดแผล จริง ๆ เขายังเห็นคราบเลือดติดอยู่บนเสื้อของเด็กอยู่เลย แล้วแผลหายไปไหนล่ะ? แผลเหวอะหายไปไหน?

จากนั้นสามัญสำนึกของมาร์นี่ก็ถูกทำลายมากขึ้นไปอีก

นักรบหนุ่มที่เกือบถูกทับกลายเป็นเนื้อบดใต้ภูเขาก็อบลิน ถอนหายใจอย่างโล่งอก เมื่อเวทรักษาของเด็กหญิงผมทวินเทลสีเงินถูกส่งมาที่เขา

ก็อบลินทุกตัวที่กองซ้อนกันบนตัวเขา ถูกระเบิดกระจายออกไปอย่างลึกลับ เช่นเดียวกับรอยฟกช้ำบนร่างกายของเขาที่หายไป แม้กระทั่งอาการหอบเนื่องจากการต่อสู้ที่ดุเดือดเมื่อกี้ก็ไม่มีเหลือ เขาดูมีชีวิตชีวาราวกับว่าการต่อสู้ก่อนหน้านี้เป็นของปลอม

“ใช่! ข้าก็เลเวลอัพแล้วด้วย!”

เขาจ้องมองไปยังอากาศบาง ๆ ตรงหน้าตัวเองด้วยความดีใจ ก่อนจะหยิบอาวุธของก็อบลินขึ้นมาและตะโกนว่า “บ้าไปแล้ว แม้แต่ดาบขึ้นสนิมจากเผ่าก็อบลิน ก็ยังมีค่าพลังโจมตีสูงกว่าดาบที่ดีที่สุดของหมู่บ้านเรา!”

จากนั้นเขาก็พุ่งเข้าหาก็อบลินที่ยังตั้งสติไม่ได้

แม้แต่ทักษะการใช้ดาบของเขาก็ดูดีขึ้น เมื่อเทียบกับความสามารถในการโยนก็อบลินขึ้นฟ้าก่อนหน้านี้ ตอนนี้ดูเหมือนว่าเขาจะได้เรียนรู้ทักษะการแทงสองครั้งซ้อน ซึ่งไม่เพียงแต่จะสร้างความเสียหายให้กับก็อบลินเป็นสองเท่า แต่ยังทำให้ก็อบลินที่ไม่ได้ตายทันทีกระเด็นออกไปอีกด้วย

แต่ดูเหมือนเขาจะยังไม่เชี่ยวชาญวิชานี้ เขาต้องวิ่งหนีสักพักก่อนจะใช้มันได้อีกครั้ง และเมื่อเขาสามารถใช้มันได้ เขาก็จะวิ่งย้อนกลับไปแทงก็อบลินที่วิ่งตามหลังมา…

ไม่ใช่แค่สองคนนี้เท่านั้น เด็กที่ใช้ธนูก็ดูเหมือนจะแข็งแกร่งขึ้นเช่นกัน หลังจากวิ่งหนีไปทั่ว ตอนนี้เขา…ก็ยังคงวิ่งหนีไปรอบ ๆ แต่เมื่อเทียบกับการหนีอย่างหัวซุกหัวซุนก่อนหน้านี้ ตอนนี้เขาสามารถหันกลับมายิงธนูด้วยความเร็วสูงทีเดียวได้หลายนัด ก็อบลินที่ตามหลังมาต่างถูกเขาจัดการไปทีละตัวสองตัวทุกครั้ง

สรุป เด็กนี่มีลูกธนูกี่ดอกกันแน่?

ในขณะที่มาร์นี่กำลังแอบนับจำนวนลูกธนูของเด็กชายอย่างเงียบ ๆ เขาก็อดสงสัยไม่ได้ว่าลูกธนูพวกนี้มาจากไหน

“ข้าก็เลเวลอัพแล้ว” เด็กผู้หญิงที่โตกว่าหยุดโบกไม้กางเขนด้วยความประหลาดใจ เธอบ่นพึมพำว่า “การสู้กับก็อบลินนี่มีประโยชน์จริงเหรอเนี่ย…”

“เยี่ยมมาก! พี่เจสสิก้าพี่รีบเรียนรู้ทักษะ ‘รักษา’ เลย ข้าจะเป็นอิสระซะที!” เด็กหญิงที่ถูกปกป้องอยู่ตะโกนอย่างมีความสุข จากนั้นก็วิ่งเข้าหาก็อบลินโดยไม่สนใจว่าใครจะพยายามหยุดเธอ

มันเป็นการเคลื่อนไหวที่บ้าบิ่นมาก มาร์นี่ขมวดคิ้ว สัญญาณเตือนภัยของเขาดังขึ้นมาทันที

เหตุผลที่พวกเด็ก ๆ สามารถอยู่รอดได้ท่ามกลางฝูงก็อบลิน ต้องขอบคุณการใช้เวทย์รักษาอย่างต่อเนื่องของเด็กผู้หญิงคนนี้ และไม่ใช่แค่พวกเด็ก ๆ เท่านั้น แม้แต่ทหารรับจ้างของเขาเองก็ได้รับความช่วยเหลือจากเธอเช่นกัน ทหารรับจ้างกว่าครึ่งอาจจะตายไปแล้วถ้าไม่ได้รับการรักษาจากเธอ!

แต่ตอนนี้เธอกำลังวิ่งเข้าไปให้พวกก็อบลินฆ่าตาย!

มาร์นี่ไม่สามารถทนดูได้อีกต่อไป เขาพยายามสั่งให้ทหารรับจ้างปกป้องเธอ หรืออย่างน้อยก็หยุดเธอไม่ให้ถูกฆ่า

นั่นเป็นช่วงเวลาที่เขาได้เห็นฉากที่น่าตกใจที่สุด

อากาศดูเหมือนจะหยุดนิ่งลง และปรากฏรัศมีสีทองเจิดจ้ารวมอยู่บนฝ่ามือของเด็กผู้หญิง ตอนนั้นเองโลกทั้งใบก็ดูเหมือนจะสูญเสียสีสันทั้งหมดไป แม้แต่การเคลื่อนไหวของก็อบลินก็ดูเชื่องช้าลง

ต่อมา รัศมีสีทองเจิดจ้าซึ่งรวมกันอยู่ในมือของเด็กหญิง ทำให้แม้กระทั่งเขาที่มองจากข้างสนาม ก็สามารถสัมผัสได้ถึงพลังศักดิ์สิทธิ์ที่รวมตัวกันกลายเป็นหอกสีทองขนาดยักษ์

แม้ว่ามันจะเป็นเพียงการควบแน่นจากแสงที่เปล่งประกาย แต่หอกก็ดูสูงส่งและงดงาม เป็นความงามที่ไม่มีใครสามารถละสายตาจากมันได้

ทันใดนั้นหอกก็ถูกปลดปล่อยออกมา มันพุ่งออกไปด้วยพลังที่ราวกับจะแทงทะลุสวรรค์และโลก มันทะลุก็อบลินทุกตัวที่อยู่ด้านหน้าเด็กสาวและตรึงพวกมันไว้กับพื้น!

————————————-

ข้าคือเทพเจ้าแห่งเกม I Am the God of Games

ข้าคือเทพเจ้าแห่งเกม I Am the God of Games

Status: Ongoing

นี่คือเรื่องราวของมนุษย์ธรรรมดาผู้ซึ่งได้ข้ามโลกมาเป็นเทพเจ้าชั้นสามที่กำลังจะตาย เขาได้ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งรวบรวมเหล่าผู้ศรัทธา และก่อให้เกิดมหาสงครามเทพเจ้าครั้งที่สี่ในที่สุด

“เจ้าเคยได้ยินเรื่องเทพเจ้าแห่งเกมไหม?” “เทพเจ้าแห่งเกม…?” เอลีน่าส่ายหัวด้วยความสงสัย “ข้าไม่เคยได้ยินเรื่องเกี่ยวกับพระองค์…” “จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเทพเจ้าแห่งเกม สามารถมอบพลังให้เจ้าเอาชนะศัตรูตรงหน้าเจ้าได้” ซีเว่ยเกลี้ยกล่อมเธออย่างอดทน เอลีน่านิ่งเงียบไปชั่วขณะก่อนที่เธอจะเงยหน้าขึ้นมาอย่างแน่วแน่ และจ้องมองไปที่ซีเว่ย “ถ้าอย่างนั้น ข้าเต็มใจที่จะเป็นผู้ศรัทธาในเทพเจ้าแห่งเกม!” “ความศรัทธาไม่ใช่สิ่งที่เจ้าสามารถมีได้ด้วยปากเจ้า จงหลับตาและจินตนาการถึงพระนามของพระองค์ในใจเจ้า และสัมผัสถึงพลังของพระองค์ด้วยหัวใจของเจ้า” เขากล่าวอย่างเคร่งขรึม

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท